วายุใช้เวลาอยู่กับพลอยนารามากขึ้น เขาชวนเธอออกไปช่วยเลือกซื้อของโดยอ้างพิมพ์พิชาบ้าง อ้างมารดาของตัวเองบ้าง ทุกวันเขาแทบไม่ได้ไปทำงาน เพราะชายหนุ่มได้รับแรงกดดันจากคนในครอบครัว ถ้าเขาไม่สามารถทำให้พลอยนารากลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนวันที่หญิงสาวต้องไปเริ่มงานได้ เขาก็จะหมดสิทธิ์ในตัวเธอทันที
เพราะวันแรกที่พลอยนาราไปทำงาน ทุกคนต้องถามถึงสถานะของหญิงสาวอย่างแน่นอน
ถ้าเธอไปในฐานะน้องสาวคนเล็กของบ้านโอกาสของวายุก็จะหมดไปทันที ชายหนุ่มต้องทำทุกอย่างให้พลอยนารากลับมาเป็นคนเดิมในเวลาเพียง 5 วัน
“นารากลางวันนี้ไปช่วยผมเลือกชุดทำงานหน่อยได้ไหม”
“คุณวินคะ เมื่อวานคุณก็ให้ไปช่วยเลือกของขวัญให้เพื่อน แล้วทำไมถึงไม่ซื้อมาทีเดียว”
“ก็เมื่อวานผมยังไม่อยากได้นี่ครับ”
“คุณจะซื้อชุดทำงานไปทำไมคะ ในเมื่อนาราไม่เห็นว่าคุณจะไปทำงานเลย”
เพราะตั้งแต่เธอกลับมาวายุก็เอาแต่ขลุกอยู่บ้านตลอดวัน พอตอนเย็นก็อาสาพาเธอไปรับพิมพ์พิชาที่โรงเรียน
พลอยนารานั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยระหว่างที่นั่งรถ เพราะไม่อยากจะคุยกับเขา ยิ่งได้อยู่ใกล้ใจเธอก็อ่อนลงเรื่อยๆ หญิงสาวไม่รู้ว่าวายุจะมาไม้ไหนกับเธออีก แต่ตอนนี้เธอไม่กลัวเข้าเลยสักนิด เพราะยังไงเสียเธอก็ยังมีคนในครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้าง
“นาราถึงแล้ว”
“คุณวิน” เพราะสถานที่ซึ่งวายุพาเธอมาในวันนี้ไม่ใช่ศูนย์การค้าอย่างที่คุยกันไว้แต่แรก
หญิงสาวเปิดประตูรั้วเข้าไปอย่างคุ้นเคย
“ยายทิพย์คะ” พลอยนาราเรียกหญิงสูงวัยที่กำลังกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน
“นารา” ยายสายทิพย์อ้าแขนกว้างให้หญิงสาวเขามาสวมกอด
วายุไม่ได้เดินเข้ามาในบ้าน เขาไปนั่งรอที่บ้านหลังเล็กที่ชายซื้อให้พลอยนารากับลูกได้อาศัย
เขารออยู่เกือบชั่วโมงหญิงสาวก็เดินตามเข้ามาในบ้าน ทุกอย่างยังคงเหมือนก่อนที่เธอจากไป ไม่มีฝุ่นเลยสักนิด
“บ้านยังสะอาดอยู่เลยนะคะ”
“ครับ ผมจ้างคนมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์”
“คุณมาที่นี่บ่อยเหรอคะ”
“ครับ ผมกับน้องพราวเราจะมาหายายทิพย์กันทุกอาทิตย์”
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยดูแลลูกและยายทิพย์”
“อะไรที่ผมช่วยคุณได้ ผมก็อยากทำ”
“เรารีบไปกันเถอะคะ คุณยังต้องไปซื้อของอีกไม่ใช่เหรอคะ”
“นารา ผมขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหม”
วายุทนไม่ได้ที่จะเสียเธอไปอีกครั้ง
“เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“ถ้าคุยกันรู้เรื่องแล้ว คุณจะเฉยเมยกับผมแบบนี้เหรอ”
“นาราก็ทำตัวปกตินะคะ” เธอแย้ง
“ผมรู้คุณเสียใจที่ผมพูดจาทำร้ายคุณไปแบบนั้น แต่ผมพูดเพราะผมรักคุณมากก็เลยขาดสติ”
“แต่ทำไมพอรู้ความจริงแล้วคุณไม่ติดต่อนารา คุณรู้ไหมว่านารารอให้คุณติดต่อไปทุกวัน รอจนท้อ” น้ำตาแห่งความเสียใจที่ถูกเก็บมานานไหลอาบทั้งสองแก้ม
“นาราผมขอโทษ ผมอยากติดต่อคุณใจแทบขาด แต่ก็รู้ว่าที่คุณไปเรียนก็เพราะอนาคต ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วงอนาคตของคุณ” วายุพูดในสิ่งที่อยากบอกกับเธอออกไปจนหมด
เขารั้งร่างที่กำลังสะอื้นไห้เขามาแนบกับอกแกร่ง กอดปลอบประโลม
พลอยนารานิ่งในอ้อมกอดที่เธอถวิลหา เสียงหัวใจเขาเต้นแรงจนหญิงสาวรู้สึกได้ ไม่ต่างกับเสียงหัวใจของเธอที่ตอนนี้เต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก
“คุณไม่ได้หลอกนานาใช่ไหม”
“นารา ผมจะหลอกคุณทำไม รู้ไหม ผมรอวันนี้มานานมาก รอวันที่เราเข้าใจกัน”
พลอยนาราดีใจที่เขาบอกว่ารอเธอ
“ขอบคุณนะคะที่รอ”
“ผมรักคุณ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ต้องรออยู่แล้ว”
“คุณวินไม่คิดบ้างเหรอคะว่านาราอาจเจอคนอื่น”
“คิด แต่ผมเชื่อใจคุณ ยังไงคุณก็ต้องกลับมา เพราะน้องพราวยังอยู่กับผม”
“นี่คุณคิดจะเอาลูกสาวนาราเป็นตัวประกันเหรอคะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมรู้ว่าคุณรักน้องพราวมาก และคงไม่ยอมให้ใครมาเป็นพ่อของน้องพราวง่ายๆ”
“แต่ก็ไม่แน่นะคะ เพราะที่นั่นมีคนมาสนใจนาราเยอะเหมือน”
“แต่คุณก็ปฏิเสธใช่ไหมล่ะ”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณนั่นแหละ”
“แล้วคุณล่ะคะ นาราว่าเวลาเกือบห้าปีคุณก็คงมีผู้หญิงเข้ามาไม่ขาดสายแน่ๆ”
“ผมไม่คิดจริงจังกับใคร”
“จะให้เชื่อเหรอคะ เสือผู้หญิงอย่างคุณจะอดทนได้นานขนาดนั้นเชียวหรือ”
“ถ้าผมบอกความจริงคุณจะโกรธไหมล่ะ”
“ลองบอกมาก่อนสิคะ แล้วนาราจะตัดสินใจเอง”
แล้ววายุก็เล่าเรื่องราวของเขาให้เธอฟังอย่างไม่ปิดบัง เขาเป็นผู้ชายย่อมมีความต้องการเรื่องอย่างว่า แต่ทุกครั้งเขาก็ทำตามกฎที่ตั้งไว้ ในห้าปีนี้ เขานอนกับผู้หญิงสองคน แต่มันก็เป็นแค่ความสุขทางกาย เพราะหลังจากได้ปลดปล่อยแล้วหัวใจของเขาก็ยังคงคิดถึงแต่พลอยนารา
ครั้งสุดท้ายที่เขานอนกับผู้หญิงก็สองปีมาแล้ว
“คุณทนได้ยังไงคะ” พลอยนาราไม่โกรธเขาเพราะเธอเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายดี
“ผมรักคุณไงนารา”
“ดูเหมือนคุณจะมั่นใจเหลือเกินนะคะ ว่านาราจะกลับมาหาคุณ”
“ผมมั่นใจ และเชื่อใจคุณ รู้ไหม พอผมรู้ว่าคุณจะเลื่อนกำหนดกลับช้าไปอีก 6 เดือนผมแทบเป็นบ้าเลย”
“นาราไม่รู้นี่คะ ว่าคุณรอ ถ้ารู้คงรีบกลับมาแล้ว”
“แค่ได้ยินอย่างนี้ผมก็ชื่นใจแล้ว” วายุกดจมูกไปบนเรือนผมของหญิงสาว สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอด
ไม่คิดเลยว่าการรอคอยใครสักคนมันทั้งทรมานและหอมหวานเช่นนี้
“เย็นนี้ผมจะบอกทุกคนว่าเราตกลงกันได้แล้ว”
“เย็นนี้เลยเหรอคะ มันเร็วเกินไปหรือเปล่า”
“เร็วที่ไหน ช้าไปด้วยซ้ำนะนารา”
“แต่นารา..”
“ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย ทุกคนอยากให้เรากลับมาคืนดีกันโดยเฉพาะแม่ ท่านอยากเตรียมงงานแต่งานให้เรา”
“อะไรนะคะ คุณแม่น่ะเหรอคะ”
“ใช่สิ” พลอยนาราไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ไม่คิดว่านอกจากครอบครัวของวายุจะไม่รังเกียจอดีตของเธอแล้ว ยังให้เกียรติเธอมากถึงเพียงนี้
“คุณวินคะ นาราว่ามันเร็วไป ขอนาราทำงานสักปีก่อนได้ไหม” อันที่จริงเธออยากให้แน่ใจก่อนว่าถ้าเปลี่ยนสถานะมาคบกับวายุแล้วความรู้สึกของเธอและเขาจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า
“ได้สิ ผมตามใจนาราเลย เรื่องแต่งงานก็เอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้คุณคงไม่ใจร้ายให้ผมนอนคนเดียวหรอกนะ”
“คุณวิน” พลอยนาราไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ได้อย่างหน้าตาเฉย
วายุไม่เพียงแต่พูด เขากระชับอ้อมอกอดให้แน่นมากขึ้น ก่อนจะฉกจูบไปที่เรียวปากอิ่มอย่างโหยหา
พลอยนาราเปิดรับลิ้นร้อนเขาอย่างเต็มใจ เธอเองก็คิดถึงเขาคิดถึงสัมผัสของเขา ความเร้าร้อนในรสจูบทวีเพิ่มากขึ้นจนพลอยนาราแทบขาดอากาสหายใจอยู่ในอ้อมกอด
“นารา คุณหวานกว่าเดิมมาก”
“คุณวินคะ นาราว่า ที่นี่ไม่เหมาะนะคะ”
วายุถอนจูบออกย่างเสียดาย เขายังมีเวลาอีกมากจึงไม่อยากให้ครั้งแรกหลังจากที่ห่างกันเกินขึ้นที่นี่
“สัญญานะ นารา ว่าคุณจะชดเชยเวลาทั้งหมดให้ผม”
วายุมองหน้าสบตาเธอด้วยสายตาพราวระยับ พลอยนาราหน้าแดงซ่าน คำพูดของเขาทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว
“ค่ะคุณวิน”
วายุกุมมือเธอ ก่อนจะใช้อีกมือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงจากนั้นหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขึ้นมา
“นารา ผมมัดจำคุณไว้ก่อนนะ” เขาไม่รอคำตอบแต่สวมแหวนไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของเธอทันที
“เตรียมมาด้วยเหรอคะ ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่วันที่รู้ความจริง” วายุเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้เธอฟังอย่างละเอียด พลอยนาราฟังแล้วยิ้มทั้งน้ำตา หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความรักและความจริงใจของวายุที่มีให้เธอ
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว