“หยาบคายมาก” ชายหนุ่มทำเป็นบ่น “ที่ถามนี่เป็นห่วงหรอกนะ เห็นยืนงงเหมือนเพิ่งหลุดมาจากโลกเมื่อพันปีที่แล้ว” แม้ว่าครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการทักทายกันอย่างสุภาพ แต่คำพูดคำจาของเขายังคงยียวนกวนอารมณ์เหมือนเดิม
“ผมก็แค่…” ปรัชญ์ภูมิไม่มีคำจะพูด อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเหมือนกัน
“ทำไมครับ เจอเรื่องอะไรมาหรือไง ถึงต้องออกมาซดเหล้า” ชายหนุ่มคาดการณ์อย่างแม่นยำ
“ผมไม่ได้จะซดเสียหน่อย” เขารีบปฏิเสธ
“อ้อลืมไป คุณเป็นพวกคออ่อน ถึงยังไงก็เถอะ อุตส่าห์ออกมาทั้งที ถ้าไม่รู้จะไปไหนก็มากับผมได้นะ” ณภัทรเอ่ยชวน เขาไม่ยอมพลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้หรอก เพราะการได้เย้าแหย่หนุ่มมาดขรึมตรงหน้าทำให้เขาสนุกและรื่นเริงทุกครั้ง หากจะเปรียบว่าปรัชญ์ภูมิเป็นเครื่องแก้เบื่อที่ดีและถูกใจเขาที่สุดเห็นทีจะไม่ผิดนัก
“ไม่ละ” เสียงทุ้มเข้มตอบกลับมาโดยไม่ต้องหยุดคิด แต่ณภัทรไม่รู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ แถมยังคะยั้นคะยอเขาอีก
“มาเถอะน่า”
ชายหนุ่มลากเขาไปตามทางเดิน แต่ไปได้ไม่กี่ก้าวก็ผลักประตูเข้าไปในร้านที่มีเสียงดังอึกทึกครึกโครม บนฟลอร์เต้นก็มีคนยืนเบียดเสียดกันอยู่เต็มไปหมด โต๊ะเก้าอี้โดยรอบก็มีคนจับจองนั่งอยู่ก่อนแล้ว บ้างที่ไม่นั่งก็ยืนถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ใกล้ ๆ
ปรัชญ์ภูมินิ่วหน้าโดยอัตโนมัติ พลันนึกว่าก็ถ้าเขาเอาแต่บ่นน้องไม่ให้น้องมาสถานที่แบบนี้ แต่ตัวเองมาเองมันก็คงไม่ดีเท่าไหร่
“มาเถอะคุณ แค่คืนเดียว ไม่บาปหรอก” ณภัทรไม่ยอมปล่อยแขนเขา แถมยังเพิ่มแรงดึงอีก เมื่อเขาพยายามฝืนตัวเอาไว้
“แต่โต๊ะมันเต็มหมดแล้วนี่” เขาพยายามหาเหตุผลที่จะออกไป
“ไม่เป็นไร ผมมีวิธี” ชายหนุ่มบอก แล้วยักคิ้วให้อย่างเจ้าเล่ห์
ขณะที่เขาได้แต่งุนงงกับวิธีที่ณภัทรว่า คนเจ้าแผนการก็เดินไปที่โต๊ะหนึ่งตรงมุมซ้ายของคลับซึ่งจะมองเห็นทั่วทั้งร้าน เขาโน้มตัวไปคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ โดยมีเพื่อน ๆ ของพวกเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทำตาโต เมื่อเขาหยิบกระเป๋าเงินออกมา แล้วยื่นธนบัตรหลายใบให้ผู้หญิงคนนั้น จากนั้นพวกเธอก็เก็บของแล้วลุกออกมาภายในเวลาไม่ถึงห้านาที
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว