ฝากลูกสาวผมด้วยนะ
“ดาโซ! ผมไม่รู้จักคนที่ชื่อนี้ ลุงมาทักคนผิดแล้วแหละ”
ผู้ชายแปลกหน้ายิ้มให้ผม เขาดูเป็นคนสุขุมมาดดี
“ถ้าคุณชื่อแจสเปอร์ ผมก็มาหาไม่ผิดคนแน่”
การพูดคุยของเราถูกขัดจังหวะจากพนักงานที่เดินเอากาแฟมาเสิร์ฟ เขาสอดมือประสานกันแล้ววางไว้บนโต๊ะ ชายคนนั้นพยักหน้าให้ผมเล็กน้อยเป็นเชิงให้ผมดื่มกาแฟที่เพิ่งวางลง
“ใช่ ผมชื่อแจสเปอร์ แต่ผมไม่รู้จักดาโซอะไรที่ลุงพูดถึงหรอกนะ”
เขากระตุกยิ้มมุมปาก
“ผมนี่ก็เสียมารยาทจังเลยนะครับต้องขอโทษจริงๆ ก่อนอื่นผมควรแนะนำตัวกับคุณก่อนถึงจะถูกชื่อของผมคือ แทฮัน” เขาดูสุภาพอ่อนน้อมมากจนเกินงามในความรู้สึกของผม แต่มีบางอย่างของผู้ชายคนนี้ซึ่งดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
“ครับ”
ผมตอบสั้นๆ หลังจากวางแก้วกาแฟ และให้ความสนใจกับชายที่แนะนำตัวว่าเขาชื่อแทฮัน ชื่อนี้มันน่าจะเป็นชื่อของคนเกาหลีหรือไม่ก็คนญี่ปุ่นสินะ
“ดาโซคือชื่อที่ผมเรียกลูกสาวของผมในเกาหลีเราเรียกเธอว่าดาโซ แต่ตอนอยู่ในเมืองไทยเธอใช้ชื่อว่ามินนี่” ลูกผู้ชายต่างวัยสองคนมองสบตากัน ผมอึ้งกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
อะไรวะ! ทำไมพอได้ยินชื่อมินนี่ขึ้นมาผมรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาทันทีเหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่หน้าอก
เฮ้ย! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ตาลุงคนนี้เพิ่งบอกกับผมว่าเขาเป็นพ่อของยัยมินนี่งั้นเหรอ…
“เดี๋ยวนะลุง คือถ้าลุงจะมาตามลูกสาวก็เอาไปได้เลย ผมไม่ได้ลักพาตัวเธอมากักขังหน่วงเหนี่ยวหรือทำอะไรไม่ดีเลยนะ เธอมาขออาศัยอยู่กับผม ผมก็แค่ช่วยเธอ”
คิดจะพูดอีกอย่างแต่ด้วยความตื่นเต้นมันเสือกพูดออกไปอีกอย่าง ให้ตายเหอะ ใจเย็นหน่อยแจสเปอร์ ผู้ชายตรงหน้าของแกเค้าก็แค่เป็นพ่อของยัยมินนี่
“เอ่อ ลุงเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”
ตาลุงหน้าตาโคตรจะนิ่งจนผมไม่รู้ความรู้สึกนึกคิดว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ และนั่นยิ่งทำให้ผมหวาดระแวง ผมมองไปยังส่วนต่างๆ ตามร่างกายของแกเพื่อดูว่าแกจะพกปืนหรือว่ามีดติดตัวมาด้วยเหรอเปล่า ลำพังชกต่อยกับผู้ชายอายุขนาดนี้ผมคิดว่าคงล้มลุงได้ไม่ยากแต่หากแกพกอาวุธเป็นเครื่องทุนแรงมาด้วยความเสี่ยงของผมก็จะมากหน่อย
เฮ้ย แกเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อสูทตัวนอก ขณะที่จ้องหน้าผมตาไม่กะพริบ นี่มันแววตาของเพชฌฆาตชัดๆ อย่าบอกนะว่าจะฆ่าผมทิ้งในร้านกาแฟกลางวันแสกๆ แบบนี้ นักฆ่าในหนังเกาหลีที่ผมเคยดูส่วนมากก็จะมาดเข็มและดูสุภาพแบบตาลุงนี่แหละ
“ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณ”
เขาควักกระดาษซึ่งน่าจะเป็นซองจดหมายออกมา ผมพ่นลมออกจากปาก
“คุณช่วยนำจดหมายฉบับนี้มอบให้กับดาโซหน่อยได้ไหมครับ ได้โปรด”
ลุงแทฮันก้มหัวลงให้ผม
“แล้วทำไมลุงไม่เอาไปให้ลูกสาวเองล่ะ มินนี่น่าจะดีใจที่ได้เจอลุงนะ”
“ผมทำเรื่องผิดกับเธอครับ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะไปพบหน้าเธอ ผมเป็นพ่อที่แย่มาก”
ผมเผลอถอนหายใจออกมาแรงๆ ไอ้ความรู้สึกระหว่างพ่อกับลูกนี้มันเสมือนหนามแหลมที่ตำเนื้อผมอยู่ตลอดเวลา เพราะผมกับพ่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เราก็ไม่เคยลงรอยกันเลยในทุกๆ เรื่อง
“ผมขอร้องเถอะนะครับ กรุณามอบจดหมายฉบับนี้ให้กับดาโซแทนผมด้วย”
ตาลุงแทฮันวางจดหมายลงบนโต๊ะ ผมเอื้อมมือไปวางบนซองจดหมายแล้วลากมันเข้ามาตรงหน้า
“แล้วลุงไม่คิดจะไปพบหน้าเธอเหรอ พูดกับเธอเหมือนที่ลุงบอกกับผม”
“ผมยังทำไม่ได้ในตอนนี้ครับ ดาโซเธอเป็นเด็กดี ผมเชื่อว่าเธอคงเลือกคนไม่ผิดหากเธอเลือกที่จะอยู่กับคุณก็แสดงว่าเธอเห็นว่าคุณเป็นคนดี ที่เธอสามารถจะฝากชีวิตเอาไว้ได้ ผมฝากดูแลเธอแทนผมด้วยนะครับคุณแจสเปอร์ถือซะว่าเป็นคำขอจากพ่อแย่ๆ คนหนึ่ง”
ไปกันใหญ่แล้ว… ผมไม่ใช่คนดีนะลุง ผมคุมผับคุมบาร์ ดูแลโต๊ะพนัน ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซ้อมคนเบี้ยวหนี้ และลูกสาวลุงก็ไม่เลือกอะไรผมเลยด้วยตอนนั้นเธอแค่ต้องการที่ซุกหัวนอนแค่นั้นเอง แล้วผมก็ดันอยู่ตรงนั้นพอดี
“อะไรลุง จู่ๆ จะมาฝากลูกสาวกับผมเนี่ยนะ ที่พูดถึงเนี่ยลูกสาวของลุงนะทำไมไม่ดูแลเธอเอง”
ตาลุงแทฮันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เขาขมวดคิ้วมุ่น
“คุณแจสเปอร์ครับเวลาของผมหมดแล้ว ผมเชื่อว่าคุณเป็นลูกผู้ชายที่ดีและจะดูแลดาโซได้ดีกว่าใคร ลาก่อนครับ”
“อ้าวเดี๋ยวสิครับจะไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอลุง เฮ้ย”
ตาลุงแทฮันลุกขึ้นโค้งตัวให้ผมแล้วรีบเดินออกไปจากร้านกาแฟทันที ผมมองตามเขาไปพอพ้นจากประตูร้านผมเห็นชายสองคนแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเข้มเข้ามาประกบลุงแทฮัน ขนาบซ้ายขวาพาเขาเดินไปขึ้นรถยนต์คันหนึ่งที่จอดรออยู่ แล้วรถยนต์คันนั้นก็แล่นออกไป
ผมยกมือสองข้างขึ้นกุมหัวตัวเองมองไปยังจดหมายฉบับนั้น หน้าซองมันเขียนด้วยภาษาที่ผมอ่านไม่ออก แทบไม่ต้องเดาเลยว่าถ้าผมแกะซองจดหมายออกแล้วเอามาดูข้อความด้านในก็คงเปล่าประโยชน์เช่นกัน
“มินนี่ ดาโซ”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว