ดาวหางหายนะ-ตอนที่ 17 ฮาเร็ม

โดย  TeeSoyMun

ดาวหางหายนะ

ตอนที่ 17 ฮาเร็ม

ศราวณะงัวเงียรู้สึกตัวตอนเกือบเจ็ดโมงเช้า ใจหายวาบเมื่ออ้าปากหาวเสร็จแล้วลืมตาขึ้นมาเห็นว่าใครบางคนนอนเท้าคางมองเธออย่างขำๆ

“อรุณสวัสดิ์ก๊อดเดส” เมื่อคืนเขาได้นอนแค่หกชั่วโมง แต่กลับตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากว่าทุกเช้าในรอบหนึ่งเดือน ต้องยกความดีความชอบให้เธอที่ให้นอนกอดชาร์จพลังงานด้านบวก

“น… นี่คุณยังไม่ไปทำงานอีกเหรอคะ”

“วันนี้ผมจะใช้เฮลิคอปเตอร์ ออกจากบ้านแปดโมงกว่าก็ยังได้” พอลยื่นหน้าเข้ามาหมายจะจูบปากอิ่ม แต่คนฟังเบี่ยงหน้าหลบ จึงฝังปากลงบนแก้มเนียนนุ่มแทน “หลับสบายหรือเปล่า”

“ค่ะ” หญิงสาวยอมรับอย่างอายๆ

“ขอนอนด้วยทุกคืนได้ไหม”

ศราวณะสั่นหน้าจนผมกระจาย “ไม่ได้ค่ะ คุณขอมากไป” และก็อันตรายต่อตัวกับหัวใจของเธอขึ้นทุกวันด้วย

“งั้นอาทิตย์ละครั้ง ทุกคืนวันเสาร์ คุณเลือกเองว่าจะให้ผมมานอนที่นี่ หรืออยากย้ายไปนอนเตียงแคลิฟอร์เนียคิงที่ห้องของผม” นักการเงินหนุ่มรวบรัดตัดบทเพราะกลัวจะถูกปฏิเสธอีก

หญิงสาวทำหน้าปั้นยาก ชอบสรุปเองเออเองแบบนี้ตลอดสิน่า “ตกลงคุณกับฉันอยู่ในระหว่างการดูใจ หรือเราเป็นแฟนกันแล้วคะ”

“เราเป็นสามีภรรยาที่กำลังดูใจกัน และปฏิบัติต่อกันเหมือนแฟนที่เพิ่งเริ่มคบ เก็ตไหมคัปเค้ก”

ช่างเป็นสถานะที่ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าเหลือเกิน “เก็ตค่ะ เพียงแต่ที่ผ่านมา ฉันไม่เคยอนุญาตให้แฟนนอนร่วมเตียงด้วยเลย”

นัยน์ตาสีน้ำทะเลหรี่แคบลงทันที ความดีใจระคนภาคภูมิใจท่วมท้นเมื่อคิดว่าได้ร่วมเตียงกับเธอเป็นคนแรก “หมายความว่าไง คุณยังไม่เคยนอนเตียงเดียวกับผู้ชายอื่นอย่างนั้นเหรอ”

ศราวณะส่ายหน้า “จะหาว่าเป็นมนุษย์หินก็ได้ แต่ฉันไม่ใช่สาวหัวสมัยใหม่ในเรื่องทำนองนั้นค่ะ”

ความดีใจผุดวาบขึ้นในดวงตาของคนเป็นสามี “คุณไม่เคยมีเซ็กซ์กับหมอนั่น” เขาคาดเดาจากสิ่งที่ได้ยิน

หน้าของคนถูกถามแดงแปร๊ด ไม่ยอมตอบแต่พลิกตัวเตรียมจะลงจากเตียง แต่เอวถูกคว้าและลากเข้าไปหาเสียก่อน

“คุณยังไม่ตอบคำถามของผมเลยนะ”

“กลับห้องไปอาบน้ำเตรียมตัวออกไปทำงานได้แล้วค่ะ ฉันจะลงไปทำอาหารเช้า” ความใกล้ชิดที่มีเพียงชุดนอนกางกั้นพาให้ปั่นป่วนในช่องท้องอย่างประหลาด เพราะอย่างนี้ไง เธอถึงปล่อยให้เขาดอดมานอนด้วยทุกคืนไม่ได้ กลัวอารมณ์ของตัวเองจะกระเจิดกระเจิงและปล่อยให้เขาตักตวงความสุขจากเรือนร่างมากกว่าที่เคยทำ

“ตอบมาก่อน ไม่งั้นผมจะโดดงานและขังคุณไว้บนเตียงทั้งวัน” คนคาดคั้นกระชับมือพร้อมกับฝังปากรุ่มร้อนลงบนต้นคอด้านหลัง

“ไม่รู้สักเรื่องจะตายไหมเนี่ย” ศราวณะประชดประชันเสียงขุ่น

“ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร ผมหาคำตอบเองก็ได้” ไวเท่าคำพูดที่มือหนาเกี่ยวเอวกางเกงนอนแบบเอวยืด ทำท่าจะดึงลงจากสะโพกผาย แต่มือของคนถูกรุกตะปบไว้เสียก่อน

“ฉันยังไม่เคยมีอะไรกับใคร พอใจรึยังคะ!” ปากอิ่มแว้ดบอก ทั้งโกรธทั้งอายที่ต้องพูดเรื่องนี้กับเขา เธอรู้ว่าพอลคงเหมือนฝรั่งทั่วไปที่ไม่ยึดติดกับเยื่อบางๆ เพราะสังคมของที่นี่เปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์ หากแต่ก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเขาจะผิดหวังกับสิ่งที่ได้ยินหรือเปล่า เพราะเท่าที่รู้มา ฝรั่งบางคนไม่อยากยุ่งกับสาวบริสุทธิ์เพราะเห็นว่าพวกหล่อนอ่อนประสบการณ์และเงอะงะเรื่องเซ็กซ์

“ขอบคุณนะที่ถนอมตัวรอผม”พอลกระซิบแล้วฝังจูบบนพวงแก้มร้อนจี๋

ในชีวิต เขาเคยนอนกับสาวบริสุทธิ์มาเพียงคนเดียว นั่นก็คือแฟนคนแรกตอนอายุสิบหก ต่างฝ่ายต่างก็อยากลองเรื่องอย่างว่าตามประสาวัยรุ่นที่ฮอร์โมนเพศกำลังพลุ่งพล่าน ไม่ได้รู้สึกว่าเยื่อบางๆ มันพิเศษมากมาย ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่ภรรยาบอกว่ายังบริสุทธิ์ดุจน้ำค้างกลางหาว ความรู้สึกที่มีต่อศราวณะคือภาคภูมิใจและบูชาเธอยิ่งขึ้น

“ใครบอกกันว่าฉันเก็บเนื้อเก็บตัวรอคุณ ฉันเก็บไว้ให้คนที่ใช่จริงๆ ต่างหาก ปล่อยได้แล้วค่ะ” เธอลอบพ่นลมหายใจอุ่นจัดออกยาวเมื่อเขายอมปล่อยออกจากอ้อมแขนอย่างที่ขอ แต่สายตาลึกซึ้งกึ่งเร่าร้อนที่มองตามมาก็พาให้อยากวิ่งเข้าไปอาบน้ำเย็นดับความร้อนวูบวาบที่ลามเลียไปทั่วผิวกาย

“เตรียมตัวเตรียมใจรอครั้งแรกที่แสนดื่มด่ำของเราได้เลยคัปเค้กผมรับรองว่ามันจะเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่คุณประทับใจและจะจดจำไปตลอดชีวิต” ใช่… เขาจะเขย่าโลกใบใหม่ของเธอให้สะท้านสะเทือนจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว

“I’m so not looking forward to it” ศราวณะทำปากยื่นย่นจมูกใส่คนหลงตัวเอง สาวบริสุทธิ์ทั้งหลายอาจกระเหี้ยนกระหือรือรอประสบการณ์ครั้งแรก แต่ไม่ใช่สาวที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบยี่สิบสี่ฝนแบบเธอ

เพื่อนสนิทที่แต่งงานแล้วอย่างนิตยา และเปรมกมลที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทว่าหลับนอนกับแฟนหนุ่มมาเกือบเดือนแล้ว แสดงความเห็นเรื่องเซ็กซ์ไปคนละทาง ว่าที่คุณแม่อย่างนิตยาบอกว่าประสบการณ์ครั้งแรกนั้นราวกับความฝัน วาบหวิวยิ่งกว่านิยายโรมานซ์ที่เคยอ่าน ในขณะที่เปรมกมลบอกว่าครั้งแรกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสและน่ากลัวกว่าที่คาดไว้มาก เพราะว่าที่เจ้าบ่าวดันเป็นหนุ่มไทยไซส์ฝรั่ง

“แต่ผมคงจะคิดถึงมันทุกวัน วันละหลายๆ รอบ และฝันถึงบ่อยๆ เลยล่ะก๊อดเดส” เจ้าของร่างสูงที่ขยับลงจากเตียงส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ค่ะ แต่ตอนนี้เชิญคุณกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้แล้ว” หญิงสาวเดินไปกระชากประตูห้องนอน ผายมือเชื้อเชิญให้เขาอัปเปหิตัวเองออกจากอาณาเขตส่วนตัวของเธอ

“ผมรักคุณ” พอลพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาจูบปากอิ่มเสียงดังจ๊วบ ก่อนจะเดินผิวปากกลับห้องตัวเอง

คนมองตามค้อนตาคว่ำ แต่รอยยิ้มที่อยู่เหนือดวงหน้าสวยผุดผาด ก็หุบลงแทบไม่ทันเมื่อหันไปเห็นนีรนารถยืนมองจากประตูห้องนอนของตัวเอง

“นะ… นารถอยู่ตรงนั้นนานแล้วเหรอ” เธอรู้สึกไม่ต่างจากขโมยที่โดนจับได้แบบที่ของกลางยังอยู่ในมือ

นีรนารถทำหน้าเรียบเฉย “หลายนาทีแล้ว”

ศราวณะหน้าซีดลงอีกหลายเฉด “คือ…” เธอยังสรรหาคำแก้ตัวไม่ได้ เพื่อนสนิทก็เปลี่ยนมาหัวร่องอหงาย

“ยายดาวเอ๊ย! ดูทำหน้าเข้าสิ นารถเป็นเพื่อนนะ ไม่ใช่แม่ ไม่ต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นก็ได้ เราโตๆ กันแล้ว นารถเข้าใจน่า”

“มันไม่ใช่อย่างที่นารถเข้าใจนะ ดาวกับเขายังไม่มีอะไรกัน เราเพิ่งตกลงคบกันเมื่อคืนเอง”

“จ้ะ ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงจริ๊ง แต่คิสมาร์กบนคอเนี่ยอย่างกับโดนแวมไพร์สูบเลือดมาทั้งคืนเชียว หรือว่าความจริงแล้วมิสเตอร์ไวส์แมนเป็นแวมไพร์” นีรนารถแซวกลั้วหัวเราะ

คนโดนแซวค้อนแก้เขิน “บ้า! ไม่อยากคุยกับนารถแล้ว อาบน้ำแล้วลงไปทำกับข้าวดีกว่า”

“นารถควรจะอิจฉาดาวหรืออิจฉามิสเตอร์ไวส์แมนดีเนี่ย” พี่เลี้ยงคนใหม่สัพยอกไล่หลัง กระทั่งเมื่อประตูห้องของศราวณะปิดลง ดวงตารื่นรมย์ขี้เล่นจึงแปรเปลี่ยนเป็นริษยา

นีรนารถกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง หยิบโทรศัพท์มือถือมากดโทรออก พอคนปลายทางรับสายก็เอ่ยเสียงหยันว่า “ยายดาวคนดีของพี่อาร์ตไ่ม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องอีกแล้วนะคะ ถ้าพี่อาร์ตยังอยากนอนด้วย ก็คงต้องกินน้ำใต้ศอกของมิสเตอร์ไวส์แมนแล้วล่ะ”

“อย่าพูดมั่วๆ ได้ไหม ดาวไม่มีวันทำตัวเหมือนนารถหรอก”

ต้นสายหัวเราะ ไม่ทุกข์ร้อนกับคำประณามหยามหมิ่น “ถ้านารถเลว พี่อาร์ตก็เลวไม่แพ้กันหรอกค่ะ เท่าที่นารถจำได้ พี่อาร์ตเป็นคนเริ่มก่อนด้วยซ้ำ”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว