ท่านอ๋องผู้นี้ข้าชิงชัง-บทที่ 6. ลอบโจมตี 100%

โดย  pusshunkayan

ท่านอ๋องผู้นี้ข้าชิงชัง

บทที่ 6. ลอบโจมตี 100%

ฟานหลิงซีได้พบหน้าของหานฉีหลินอีกครั้งก็ตอนที่เขายื่นนิ้วที่เย็นเฉียบมาแตะผิวแก้มของนางเบาๆ ทำให้นางรู้สึกตัวตื่น ผวาขึ้นนั่งมองเขาด้วยสายตาโล่งอกและดีใจ

“ท่านกลับมาแล้ว”

“อืม” เขาพยักหน้า สีหน้าของเขาฉายชัดถึงความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าสุดขีดจนใบหน้าขาวเผือด ฟานหลิงซีบังเกิดความห่วงใยจึงถามขึ้นว่า

“ท่านหิวหรือไม่?”

“ไม่มีอะไรเหลือให้เจ้าทำเป็นอาหารให้ข้ากินได้หรอก” เขาตอบตามตรง ทำให้ฟานหลิงซีใจหายวูบ

นี่หมายความว่า...นับจากนี้ไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับความอดอยากหิวโหยไปตลอดทางจนกว่าจะถึงซีโจวกระนั้นหรือ?

“เช่นนั้นท่านกินน้ำสักหน่อยนะ...” ฟานหลิงซีตั้งท่าจะลุกขึ้นไปกอบน้ำในสระน้ำมาให้เขาดื่ม แต่หานฉีหลินกดบ่าของนางให้นั่งลงตามเดิม

“ข้าไม่หิวและไม่กระหาย แค่ห่วงว่าเจ้าจะสามารถทนความยากลำบากนับจากนี้ต่อไปได้หรือไม่?”

“ข้าทนความยากลำบากได้ทุกรูปแบบ” นางบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง สบตาเขาอย่างมุ่งมั่น

หานฉีหลินยิ้มบางๆ “เช่นนั้นเจ้าก็พักผ่อนเถอะ ข้ายังต้องไปดูแลพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บว่าได้รับการทำแผลครบทุกคนหรือไม่?”

“มีคนได้รับบาดเจ็บมากหรือ?” ฟานหลิงซีถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“ราวๆห้าสิบคน”

“เช่นนั้นข้าจะไปช่วยท่านทำแผลพวกเขาด้วย”

“ขอบใจเจ้ามาก”

“ข้าเป็นภรรยาของท่านนะ ย่อมต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านสิ”

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะพูดประโยคนี้ออกมา”

ฟานหลิงซีหน้าแดงระเรื่อเมื่อตระหนักได้ว่าตนพูดอะไรออกไป นางไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาสามีแม้แต่น้อย แต่ผุดลุกเดินนำหน้าเขาไปหาเหล่าองครักษ์และบ่าวไพร่ที่นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่หน้าปากถ้ำทันที

ฟานหลิงซีกับหานฉีหลินต้องช่วยหมอทหารทำแผลให้กับผู้บาดเจ็บตลอดทั้งคืน นางมีหน้าที่คอยต้มน้ำร้อนกับต้มยาแก้อักเสบและบรรเทาอาการปวด ขณะที่หานฉีหลินก็ช่วยนางจุดไฟและไปช่วยหมอทหารพันแผลคนของตนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

คนของหานฉีหลินสามารถปราบปรามโจรร้ายจนพวกมันหลบหนีหายไปแต่ก็สามารถสังหารพวกมันไม่ต่ำกว่าร้อยนาย เพราะมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัสสี่ห้าคน หานฉีหลินจึงสั่งให้พักรักษาตัวในถ้ำแห่งนี้สักหนึ่งอาทิตย์ รอจนคนเจ็บหายดีขึ้นมากค่อยออกเดินทาง

วันที่ออกเดินทางนอกจากรถม้าคันใหญ่สองคันก็เหลือเพียงรถบรรทุกเสบียงสองคันที่รอดพ้นจากการเผาทำลาย แต่เมื่อคำนวณเสบียงบนรถทั้งสองแล้วพบว่าสามารถใช้เลี้ยงปากท้องคนทั้งหมดได้เพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น

กว่าจะเดินทางไปถึงเมืองซีโจวที่อยู่ห่างไปนับพันลี้ต้องใช้เวลาเกือบเดือน ดังนั้น...เท่ากับว่าคนจวนอ๋องทั้งหมดล้วนเดินทางไปตายเอาดาบหน้าทั้งสิ้น!

ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ หานฉีหลินอนุญาตให้พวกเขานั่งรถม้าของฉินกงกงเดินทางไปซีโจวจนกว่าบาดแผลจะหายดีมากถึงมากที่สุด ค่อยลงมาเดินร่วมกับเหล่าบ่าวรับใช้และกองกำลัง

ออกเดินทางได้เพียงห้าวัน คณะเดินทางก็พบอุปสรรคชิ้นใหญ่นั่นคือหิมะที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน ทำให้เสบียงกรังโดยเฉพาะข้าวสารที่ไม่มีผ้าผืนหนาปกคลุมเหมือนในคราแรกเพราะถูกโจรร้ายฟันทิ้งถูกหิมะตกใส่จนข้าวชื้น

หานฉีหลินเห็นว่ายิ่งเดินยิ่งบั่นทอนกำลังวังชาเพราะอากาศเย็นจัดจึ งสั่งให้ตั้งกระโจม ฟานหลิงซีเองก็รีบสั่งให้พ่อครัวต้มข้าวต้มให้ทุกคนได้กินอิ่มท้องให้มากที่สุดและให้ต้มเผื่อเหลือสำหรับเดินทางอีกหนึ่งวัน เพราะข้าวสารที่เหลือจำต้องทิ้งไปเพราะวันรุ่งขึ้นมันจะต้องขึ้นรา ส่วนเนื้อแห้งนางก็สั่งให้นำมาย่างกินให้หมด ส่วนที่เหลือให้ห่อเก็บไว้ให้บ่าวไพร่องครักษ์และพลเดินเท้าแต่ละคนพกเนื้อแห้งย่างติดตัว ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนตัว หากใครกินหมดก่อนย่อมไม่มีเนื้อแห้งให้กินอีก ถึงตอนนั้นหากอากาศเอื้ออำนวยอีกครั้ง ค่อยเข้าป่าล่าสัตว์

ใครจะไปคาดคิดหิมะที่ตกในวันนี้จะตกติดต่อกันถึงสามวัน พื้นดินที่ใช้สัญจรไปมาเริ่มมีหิมะจับกลุ่มกันเป็นก้อนหนาหลายชั้น ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบากทุลักทุเล อีกทั้งอาหารของม้าสี่ตัวที่ใช้ลากรถม้าก็ขาดแคลนลงในที่สุด

หานฉีหลินกับกู้ซิ่นและหัวหน้าองครักษ์อีกสองสามคนร่วมกันปรึกษาหารือถึงวิธีหาอาหารมาให้คณะเดินทางทั้งหมดได้กินอิ่มท้องไปอีกหลายวัน

หานฉีหลินกลับเข้ามาในรถม้า ฟานหลิงซีรีบยัดเตาอุ่นมือใส่มือที่เย็นเฉียบจนแทบแข็งของเขาทันที

“อีกไม่นานก็คงจะถึงแม่น้ำเหอเหอ เราคงจะหาปลากันได้บ้าง” ฟานหลิงซีพูดขึ้นมา นางเคยออกเดินทางท่องเที่ยวกับบิดาสองคนสมัยที่นางยังเล็ก เส้นทางที่ไปยังเมืองซีโจวนางเคยผ่านมาสองสามครั้งแม้ว่านางจะไม่เคยไปถึงเมืองซีโจว ไปเพียงแค่เมืองเล็กๆอย่างเมืองอันโจวซึ่งเป็นเมืองที่ชาวบ้านมีอาชีพทำการประมงน้ำจืด นางคำนวณจากระยะทางและวันเวลาที่พวกตนออกเดินทางจึงมั่นใจว่าอีกไม่กี่วันคงถึงเมืองอันโจว ถึงตอนนั้นย่อมพบแม่น้ำเหอเหอที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด

“ใช่ แม่น้ำเหอเหออยู่เบื้องหน้า แต่เป็นปลายน้ำ มิได้มีปลามากนัก แต่มีอย่างอื่นมากกว่า!”

“อย่างอื่น?” ฟานหลิงซีขมวดคิ้วด้วยความฉงน

หานฉีหลินยิ้มปลุกปลอบใจ “เจ้าอย่าห่วงเลย ทนนอนหิวสักคืน พรุ่งนี้จะมีเนื้อสดใหม่ให้กินอิ่มท้องไปถึงครึ่งเดือนอย่างแน่นอน โดยไม่จำเป็นต้องหยุดพักที่เมืองอันโจวให้เสียเวลา”

“เอ๋!”


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว