25. เมียเสน่หาอาญาอสูร

24

สอดแทรกมือเข้าสู่ผิวผ่องภายในลูบไล้เบาๆ แสดงความเป็นเจ้าของ

หญิงสาวหัวหมุนเมื่อมือร้อนหนาเข้ามาลูบโลมเนินอกอวบอิ่มแล้วฟอนเฟ้นหนักหน่วง ริมฝีปากสวยไม่ว่างเว้นจากริมฝีปากสีเข้มที่จุมพิตจนแทบขาดอากาศหายใจ

“เฮ้ย / ว้าย”

หนุ่มสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่ในห้วงอารมณ์หวามร้องพร้อมกัน เมื่อจู่ๆ สายน้ำเย็นฉ่ำจากสายยางราดรดมาบนร่างจนเปียกปอน

“อ้าว คุณติ คุณวดีไปนอนทำอะไรอยู่ตรงนั้นครับ” นายสนถามอย่างตกใจ รีบหันสายยางหนีทันที

รติภัทรมองคนสวนด้วยดวงตาดุวาบ นายสนถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ส่วนพิรวดีจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยมืออันสั่นเทา ร่างสูงของรติภัทรเข้าบดบังร่างหญิงสาวเอาไว้ด้วยความหวง ไม่อยากให้ใครมอง นายสนหลบตาทันทีที่เผลอมองร่างเปียกปอนของพิรวดีด้วยความไม่ตั้งใจ

“ผะ... ผมรดน้ำต้นไม้ครับคุณติ” สนตอบอย่างเกรงๆ เมื่อเห็นใบหน้าถมึงทึงของเจ้านายหนุ่ม

“แดดเปรี้ยงๆ”

แม้ถ้อยคำจะสั้นแสนสั้น แต่นายสนรู้ดีกว่ารติภัทรหมายความว่าอย่างไร จึงรีบแก้ตัวทันควัน

“ผมมีงานอื่นต้องทำอีกครับ ล้างรถอีกหลายคันเลยมารดก่อน แหะๆ” คราวนี้สนเกาะหัวไปมาเก้อๆ

“ต้นไม้ได้ตายหมด”

รติภัทรตำหนิเสียงเย็นเยียบ นายสนขนลุกเกรียวถอยหนีก้มหน้าไม่กล้าสบตากับผู้เป็นนาย แต่อดจะล้ออีกฝ่ายเสียไม่ได้เมื่อคิดว่าเจ้านายทั้งสองมาทำอะไรกันในสวนแบบนี้

“ขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าคุณติกับคุณวดีจะมานอนเล่นในสวนดอกไม้แบบนี้ แหม... ท่าทางจะโรแมนติกนะครับ”

“น้าสน”

รติภัทรเสียงเข้มไปด้วยเพลิงโทสะ สนหน้าตาเหลอหลา ลอบกลืนน้ำลายลงคอ คิดในใจว่าไม่น่าไปล้อเล่นกับคุณติเลยเรา

พิรวดีหลบหน้าหลบตาด้วยความอาย ก่อนจะเอ่ยขอตัวเบาๆ และเดินตัวปลิวออกไปทันที

รติภัทรหันมาคาดโทษนายสนด้วยดวงตาคมดุ นายสนก้มหน้าก้มตา แต่เหลือบมองร่างสูงที่เดินตามพิรวดีเข้าไปติดๆ ก่อนจะส่ายหน้าหัวเราะหึหึ ในลำคอ

สำเร็จแล้วคุณท่าน

นายสนนึกถึงภคินด้วยใบหน้าที่เผยยิ้มจนเห็นฟันขาวๆ นั้นเกือบทุกซี่ แล้วเดินไปล้างรถต่อ วันนี้เขาไม่ต้องทำหน้าที่ขับรถให้อนงค์และอารียาเพราะทั้งสองอยากขับรถออกไปกันเอง เขาจึงมีเวลาทำงานอีกหลายอย่างให้เสร็จสิ้น

แผนร้าย

“คิดถึงจัง”

“ปากหวาน” อนงค์แกล้งตีอีกฝ่ายเบาๆ

“นานๆ จะมาหาพี่ฉันสักที พี่ก็คิดถึงสิ” ภูมิศักดิ์นวดคลึงไปตามเรือนร่างของอนงค์อย่างหื่นกระหาย

“นงมีเวลาให้พี่นานเลยละ ยัยอ้อกำลังซื้อของเพลินอยู่ในห้างฯ”

อนงค์ลูบไล้แผงอกกว้าง การที่จะทำให้ผู้ชายสยบแทบเท้า ยอมช่วยเหลือเธอต้องทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจเสียก่อน

ภูมิศักดิ์ขยำทรวงอกอวบอัดภายใต้เสื้อผ้าทันสมัย อนงค์หัวเราะอย่างมีจริต ยกนิ้วหยาบหนาขึ้นมาดูดเบาๆ

“พี่ศักดิ์นี่ นงกำลังเครียดนะนี่” อนงค์ถอนใจ แสร้งเดินหนีไปอีกด้าน

“เมียเป็นอะไรบอกผัวมาสิ ผัวคนนี้ทำเพื่อเมียได้ทุกอย่างนะ หรือว่าไอ้สุรเดชมันทำให้เมียไม่มีความสุข ขัดใจเมีย”

“ไม่ใช่หรอกค่ะพี่ศักดิ์” อนงค์หันมาพูดอย่างออดอ้อน แกล้งถอนใจหนักๆ อีกเช่นเคย

“รีบๆ พูดมาสิ”

ภูมิศักดิ์เริ่มใจร้อน กลัวเมียรักมีปัญหาหนักอกหนักใจจนแก้ไม่ตก ร่างหนา ผิวสีแทน หัวหยิก ใบหน้าเหลี่ยมดุดันมองหญิงสาวที่รักอย่างต้องการคำตอบ

“ไอ้รติภัทรมันกลับมาแล้ว มันจะมาแย่งทรัพย์สมบัติของตาวินไปสิคะ ลูกของเรากำลังจะโดนแย่งสมบัติไปจ้ะพี่ศักดิ์” อนงค์ซบที่อกกว้างของภูมิศักดิ์ด้วยรอยยิ้มที่เหนือกว่า

“นงจะให้พี่ทำอะไร พี่ยอมทำทุกอย่าง”

ภูมิศักดิ์รีบบอกเอาใจ เขารักอนงค์มากจนยอมทำทุกอย่าง ยิ่งมีลูกด้วยกันถึงสองคนก็ยิ่งรักอนงค์มากขึ้น แม้เขาจะเป็นเพียงมือปืนรับจ้างที่ทางการต้องการตัว แต่มีผู้ทรงอิทธิพลหนุนหลังทำให้ไม่มีใครสามารถจัดการเขาได้ แรกเริ่มเดิมทีเมื่อวัยหนุ่ม เขาก็รักใคร่ชอบพอกับอนงค์ ทางพ่อแม่ของอนงค์กลับสนับสนุนให้หญิงสาวแต่งงานกับคนอื่น เขาโมโหยิงสามีของอนงค์คนแรกตาย อนงค์ช่วยเหลือโดยการบอกให้เขาหนี หนีตำรวจมาได้ก็มาอยู่กับผู้มีอิทธิพลทางใต้ จนวันหนึ่งได้เจอกับอนงค์อีกครั้ง อีกฝ่ายได้ดีมีสุข เขาไม่อยากดึงเธอลงมาตกต่ำกับมือปืนเช่นเขา จึงคอยลักลอบเจอกัน และได้เสียจนมีลูกด้วยกันอีกสองคน

“ถ้าอยากให้ลูกชายของเราได้ทรัพย์สมบัติของสุรสิทธิ์ทั้งหมด พี่ต้องฆ่ามันให้นงนะ”

“ได้เสมอเพื่อนง เพื่อลูก” ภูมิศักดิ์ไม่ต้องเสียเวลาคิดสักนิด เมื่อรับปากหญิงสาวตรงหน้า

“ถ้าทุกอย่างเป็นของเรา พี่เลิกอาชีพนี้ได้ไหมจ๊ะ แล้วเราไปอยู่ด้วยกัน”

“จะให้พี่อยู่ในฐานะอะไร อีกอย่าง อาชีพที่พี่ทำเลิกไม่ได้”

ภูมิศักดิ์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ อัดควันเข้าปอดอย่างเคร่งเครียด

“ถึงไม่อยากอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมียเปิดเผยเหมือนคนอื่นๆ พี่ก็เข้าไปอยู่ในบ้านสุรสิทธิ์ในฐานะคนสวนหรืออะไรก็ได้ แค่นงได้อยู่ใกล้ๆ พี่”

อนงค์ซบอกผัวรักอย่างอ้อนๆ เหมือนลูกแมว ภูมิศักดิ์ก้มมองเมียรัก เชยคางอีกฝ่ายให้เงยขึ้นสบตา แม้อนงค์จะอายุย่างเข้าวัยสี่สิบแล้วแต่ยังรักษาทรวงทรงได้ดี ลีลาบนเตียงไม่ต้องพูดถึง เขาบดจูบหนักหน่วง อนงค์จูบตอบอย่างเร่าร้อน รับควันบุหรี่เข้าปอดด้วยสมองที่มึนงงเล็กน้อย ก่อนที่ภูมิศักดิ์จะถอนใจเบาๆ เมื่อละริมฝีปากออกห่าง

“ไม่ได้หรอกนง พี่ไม่อยากให้นงลำบาก พี่อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว ให้นงกับลูกมีความสุขก็พอ ใครมันทำให้นงกับลูกพี่มีความทุกข์ รับรองว่ามันไปลงนรกแน่”

อนงค์ยิ้มอย่างพึงพอใจ ออดอ้อนภูมิศักดิ์อีกครู่ก่อนจะขอตัวกลับ เพราะอารียาโทร.มาตาม ก่อนจากลาก็นัดแนะกันเอาไว้อย่างดิบดี


อาหารเย็นเวียนเข้ามาบรรจบอีกครั้ง ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาบนโต๊ะอาหาร ยกเว้นกวินที่ไม่กลับบ้านเช่นเคย อารียาคอยตักอาหารให้รติภัทรอย่างเอาใจ แต่ชายหนุ่มยังไม่ยอมทาน ส่วนพิรวดีก้มหน้าก้มตาทานของตัวเองไป ไม่ปริปากพูดกับใคร ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี

รติภัทรผลักจานอาหารของตัวเองออกห่าง อารียาชะงักมือที่จะตักอาหารให้รติภัทร หดมือกลับมาอย่างเสียหน้า แต่ยังไม่ยอมแพ้

“พี่ติต้องกินเยอะๆ สิคะ อาหารอร่อยๆ ทั้งนั้น”

“สมจิตรเอาจานใหม่มาเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”

คำพูดของรติภัทรทำให้ทุกคนเหลือบมอง อนงค์กัดฟันกรอด มองจานที่รติภัทรปัดออกห่างด้วยความเจ็บใจ

รอดไปได้อีกแล้ว

อนงค์คิดอย่างแค้นใจ สมจิตรเองรีบกุลีกุจอเดินเข้าครัวแทบไม่ทัน

“แกเป็นอะไรนังจิตร หน้าหงิกมาเชียว” สมรที่จัดข้าวของอยู่ในครัวถามด้วยความสงสัย

“คุณติน่ะสิ แปลกคน จู่ๆ ก็ให้เปลี่ยนจานข้าว เปลี่ยนช้อนไรหมด” สมจิตรเดินไปหยิบจานทำท่าจะเดินออกจากห้องครัวไป

“แปลกเหมือนคุณวดีเลย” สมรขมวดคิ้วยุ่ง

“แปลกยังไง” สมจิตรชะงักหันมาถามสมร

“ก็ตอนที่ฉันจัดโต๊ะอาหารเสร็จตามคำสั่งคุณนง จู่ๆ คุณวดีก็เอาจานกับช้อนกับแก้วบนโต๊ะที่คุณนงสั่งให้นำไปวางมาเปลี่ยนตอนคุณนงเลี่ยงขึ้นบ้านน่ะสิ”

“จานไม่สะอาดหรือเปล่า แต่ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวคุณติจะยิ่งโมโห”

“อืมๆ” สมรพยักหน้าเออออ หันไปทำงานของตัวเองต่อ

อารียาหน้าจ๋อยเมื่อโดนรติภัทรหักหน้า เธอหันมองมารดาอย่างหงุดหงิด อนงค์สบตากับสุรเดชเล็กน้อย ก่อนจะทานอาหารต่อ

ทุกคนแยกย้ายกันหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พิรวดีเพียงคนเดียวที่อยู่ช่วยสาวใช้เก็บโต๊ะ

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว