เร้นรักใต้เงาจันทร์ - อาโกว ชะตารักนิรันดร์

19

บทที่ 19


ผืนป่าขนาดใหญ่ ห่างจากนครฉางหลินราวหนึ่งร้อยลี้ กระโจมสีขาวผุดขึ้นราวดอกเห็ด ทหารหาญเดินกันขวักไขว่

กระโจมหลังใหญ่ที่สุด โฮ่วอี้สดชื่นกระชุ่มกระชวย หลังถูกขังในวังหลวงนานนับหลายเดือน บัดนี้ได้ออกมาท่องเที่ยวผ่อนคลายเสียที ทว่ามิอาจท่องเที่ยวประการเดียวได้ สายตาต้องสอดส่ายหาสตรีมาเติมในวังหลังด้วย

เฟิงเมิ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามพี่ชาย นำสมุดภาพมาเปิดดู ผงกศีรษะพึงพอใจ “คุณหนูเหล่านี้งดงามยิ่งนัก ฝ่าบาท ผิวพรรณของพวกนางผุดผาดยิ่ง เนียนละเอียด หากได้สัมผัส…” หลับตาพริ้มจินตนาการ สูดลมหายใจเข้าลึกประหนึ่งดอมดมกลิ่นกายสาว

โฮ่วอี้ส่ายหน้าขำ ๆ “เจ้าถูกใจคุณหนูบ้านใด เรายินดีเชื่อมวาสนาให้”

เฟิงเมิ่งกระแอมกระไอ เพิ่งรู้ว่าตนไม่สำรวมกายใจ “ฝ่าบาทต้องเลือกก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

โฮ่วอี้โบกมืออย่างใจกว้าง “เจ้าคือน้องของเรา คือชินอ๋องผู้สูงส่ง เราให้เจ้าเลือกก่อนจึงจะถูก”

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” เฟิงเมิ่งปฏิเสธจริงจัง “หากบัลลังก์ไม่มั่นคง เกรงว่าจะไม่ดี”

โฮ่วอี้เบือนหน้าหนีน้องชาย “พอเถิด ทุกวันต้องฟังขุนนางพวกนั้นหว่านล้อม หูของเราจะพังอยู่แล้ว”

“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นวันนี้ควรพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มล่าสัตว์ดีหรือไม่”

โฮ่วอี้พยักหน้าคล้อยตาม “เจ้ารู้ใจเราที่สุด”


ก่อนแสงอรุโณทัยสาดส่องลงโลกหล้า โฮ่วอี้กับเฟิงเมิ่งเตรียมตัวพร้อมสำหรับเข้าป่าล่าสัตว์ ทว่ามิอาจออกเดินทางในทันที เนื่องจากขุนนางต่างห้อมล้อมหน้าหลัง กล่าววาจาวกวนไปมา

โฮ่วอี้จับใจความได้ว่า เขาต้องรอพบคุณหนูเหล่านั้นเสียก่อน ขุนนางเหล่านี้จึงจะหลีกทางให้

หนึ่งชั่วยามผ่านไป โฮ่วอี้ออกจากกระโจมอีกครั้ง ตามรายทางเต็มไปด้วยดรุณีน้อยงามสะพรั่งดั่งบุปผา แต่ละนางสวมอาภรณ์เนื้อดีสีสันสดใส เครื่องประดับเต็มร่างกาย ชายหนุ่มมิรู้ควรมองที่ใดดี เนื่องจากทุกนางเหมือนกันไปหมด แม้งาม ทว่าความงามกลับถูกซุกซ่อน

เฟิงเมิ่งประชิดตัวพี่ชาย เอ่ยเสียงเบา “ฝ่าบาทเพียงแย้มรอยยิ้มเล็กน้อยก็พอ”

โฮ่วอี้ปฏิบัติตามทันที ริมฝีปากบางคลี่เล็กน้อย เพียงเท่านี้ ดรุณีน้อยต่างพากันขวยเขินเอียงอาย

“ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ” โฮ่วอี้กดเสียงต่ำถามน้องชาย

“เพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับพวกนางพ่ะย่ะค่ะ” เฟิงเมิ่งตอบอย่างมิใคร่ใส่ใจ สตรีจำต้องแต่งงานตามคำสั่งบิดามารดา ส่วนพี่ชายต้องแต่งงานเพื่อให้บัลลังก์มั่นคง ต่างฝ่ายต่างเอื้อประโยชน์แก่กัน มีใจหรือไม่ หาใช่สิ่งสำคัญ

โฮ่วอี้พลันรู้สึกขมฝาดในลำคอ นี่คืออีกเรื่องที่เขาอึดอัดเสมอมา นั่นคือการสวมหน้ากากหากัน สตรีเหล่านี้มองเขาด้วยแววตาชื่นชมนับถือ ทว่าแท้จริง… ภายใต้ใบหน้าสวยงามคิดสิ่งใด มิอาจรู้ได้ ขณะเดียวกัน ภายใต้ใบหน้าของเขา อันใดซ่อนอยู่หลังแววตา พวกนางมิอาจรู้ได้เช่นกัน ทว่าสิ่งหนึ่งกระจ่างชัดคือ ผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน

โฮ่วอี้หยัดกายขึ้นนั่งบนหลังม้า ยิงธนูขึ้นฟ้า เทศกาลล่าสัตว์เริ่มขึ้นแล้ว

โฮ่วอี้มิรอช้า ควบม้าเข้าป่าทันที ด้วยไม่ต้องการให้องครักษ์ตามติด จึงพาเฟิงเมิ่งไปด้วยกัน จากนั้นค่อยแยกทางกัน

เฟิงเมิ่งจำใจปล่อยพี่ชายไปเพียงลำพัง เข้าใจดี พี่ชายต้องการระลึกความหลัง ส่วนตัวเขา ปรารถนามิต่างกัน


ควบม้าเกือบครึ่งชั่วยาม โฮ่วอี้ชะลอฝีเท้าม้า พลิ้วกายลงยืนบนผืนดิน ตบก้นม้าเบา ๆ ให้มันกลับไปยังค่ายพัก ส่วนเขา ขอเดินป่าเพียงลำพัง

โฮ่วอี้ก้าวเท้าแผ่วเบาดุจเหยียบบนปุยเมฆ หูสดับเสียงต่าง ๆ รอบกาย หมายมุ่งจับกวางตัวอ้วนพีได้สักตัว ทว่าในป่ารกครึ้มเช่นนี้ แม้แต่กระต่ายน้อยแสนน่ารักก็หาปรากฏตัวไม่

กระทั่งชายหนุ่มแว่วเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงนั้นของสตรีมิผิดแน่ คล้ายห่างไกล ทว่าชัดเจนราวเสียงกระซิบข้างใบหู เสียงหวานเช่นนี้คุ้นเคยเหลือเกิน คล้ายได้ยินจากที่ใดมาก่อน

โฮ่วอี้ชาวาบไปทั้งร่าง ดวงหน้าสวยหวานของอิสตรีที่ปรากฏในห้วงความฝัน นางเอ่ยเรียกชื่อเขามาเนิ่นนาน ทว่าในป่าลึกเช่นนี้ เขามิได้หลับอยู่ เหตุใดจึงได้ยิน

โฮ่วอี้เก็บความตื่นเต้นมิอยู่ เร่งฝีเท้าตามเสียงนั้นไป ในใจภาวนาให้พบสตรีในฝันจริง


ภายหลังเง็กเซียนฮ่องเต้สะบัดฝ่ามือ ฉางเอ๋อลืมตาอีกครั้ง รอบกายแปรเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ไม่รู้จัก ดีที่เสี่ยวไป๋ตามมาด้วย มิเช่นนั้นนางคงมิรู้ควรทำเช่นไรต่อ

ฉางเอ๋อรู้ดีว่าตนยืนอยู่บนโลกมนุษย์แล้ว อากาศค่อนข้างร้อน บนสรวงสวรรค์อากาศเย็นสบายกว่ามาก

รอบกายมีเพียงต้นไม้สูงใหญ่ รวมถึงเสียงนกร้อง ทว่าที่น่าตกใจที่สุดคือ ตัวอันใดมิรู้ ลำตัวยาวน่าแขยง ลิ้นสองแฉก ดวงตาก็น่ากลัว นางจึงวิ่งหนีมิคิดชีวิต

ฉางเอ๋อหอบหายใจ ความจริงนางคิดใช้พลังเทพธิดาที่ไหลเวียนอยู่ในกาย ทว่า… มิอาจใช้ได้ ทั้งอาการเหนื่อยหอบที่เป็นอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึก ซ้ำเหงื่อกาฬยังชโลมกาย ไม่สบายเนื้อตัวเป็นที่สุด

ฉางเอ๋อรู้สึกว่าตนอยู่ในสภาพไม่น่ามอง ซ้ำพลังที่หายไปอาจทำให้ภารกิจล้มเหลวได้ โฮ่วอี้เป็นถึงผู้พิฆาตดวงอาทิตย์ ฝีมือย่อมมิอ่อนด้อย นางจะเข้าใกล้เขาได้อย่างไร ทั้งนางมิเคยใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ นางจะทำอย่างไรต่อไปดี

ฉางเอ๋อเกือบหลั่งน้ำตา ที่สำคัญที่สุดคือ นางจะออกจากป่านี้ได้อย่างไร

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว