“อลิซเป็นไง” ชายหนุ่มเอียงหน้าเข้ามาใกล้คนข้างกายเพื่อให้อีกฝั่งเห็นทั้งเธอและเขา
“ร้องไห้ตอนตื่นมาแล้วไม่เห็นมิส และก็ร้องหามิสอีกช่วงตอนก่อนนอนกลางวันค่ะ” สิ่งที่ได้ยินจากปากของไปเปอร์ทำเอาศราวณะน้ำตารื้น
“แต่ไม่ต้องห่วงนะคะมิส โซอี้เทกแคร์คุณหนูดีมากๆ และคุณหนูก็ชอบโซอี้มากๆ ด้วยค่ะ”
“โซอี้?” ว่าที่มาดามไวส์แมนหน้านิ่วคิ้วขมวดกับชื่อใหม่ที่เพิ่งได้ยิน
“อ๋อ พี่เลี้ยงคนใหม่ที่แด๊ดรับเข้าทำงานวันนี้ค่ะ เดี๋ยวนะคะ ฉันกำลังจะเดินไปห้องอาหาร คุณหนูกับโซอี้น่าจะกำลังทานข้าว” คนพูดเร่งฝีเท้าออกจากห้องนอนของตัวเองที่อยู่ปีกขวาของคฤหาสน์ ใช้เวลาร่วมหนึ่งนาทีก็มาถึงห้องอาหาร ไปเปอร์คุยกับพี่เลี้ยงคนใหม่เพียงไม่กี่ประโยค ก็หันหน้าจอโทรศัพท์ให้นายจ้างได้เห็นหน้าของอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะมิส มิสเตอร์ไวส์แมน” โซอี้ทักทายด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน ผิดกับหน้าตาซึ่งบ่งบอกว่ามีเชื้อสายเมกซิกันเข้มข้น และเป็นสาวเมกซิกันที่สวยเซ็กซี่เสียจนศราวณะเห็นแล้วนึกถึงดาราเมกซิกันคนดังที่ชื่อ ซัลม่า ฮาเย็ค ในวัยยี่สิบห้า
“ขอโทษนะโซอี้ที่พวกเราไม่ได้อยู่ต้อนรับคุณที่บ้าน ผมหวังว่าทุกคนจะอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้คุณ” พอลยิ้มกว้างเสียจนคนข้างกายแอบจิกด่าในใจว่าเจอสาวสวยหน่อยไม่ได้ ลายออกข้ามรัฐเลยทีเดียว
“อย่าคิดมากเลยค่ะ คุณพ่อบ้านและทุกคนดีกับฉันมาก ส่วนคุณหนูก็น่ารักมากเหลือเกิน”
“ฉันดีใจที่คุณเอ็นดูอลิซค่ะ” นั่นคือประโยคที่ฟังดูดีที่สุดซึ่งศราวณะคิดออก
“ฉันรักเด็กเป็นทุนอยู่แล้วค่ะ พอมาเจอเด็กที่น่ารักมากๆ อย่างคุณหนู ก็เลยยิ่งตกหลุมรัก”
“อลิซชอบผู้หญิงค่ะ ยิ่งเห็นผู้หญิงสวยๆ ยิ่งชอบมากเป็นพิเศษ คุณสวยอย่างกับดารา ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงชื่นชอบคุณ”
โซอี้ยิ้มเขินกับคำชม “มิสพูดเสียฉันเขินเลยค่ะ”
“ธรรมชาติของฉันไม่ใช่คนปากหวานหรอกค่ะโซอี้ คุณสวยมากๆ จริง ฉันก็เลยชม และก็มั่นใจว่าทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่ฉันพูด จริงไหมคะมิสเตอร์ไวส์แมน” หญิงสาวโยนกลองให้คนข้างกาย
“จริง คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก โซอี้” ชายหนุ่มยิ้มรับมุก “แต่ก็ยังน้อยกว่าผู้หญิงที่ขโมยหัวใจของผมไปเมื่อสี่ปีก่อน”
“เดี๋ยวมิสคุยกับคุณหนูนะคะ” ไปเปอร์เอ่ยแทรกพร้อมหันหน้าจอโทรศัพท์ไปทางเด็กหญิงอลิซที่กำลังนั่งกินสปาเก็ตตีมีตบอลอยู่อีกด้าน
“อลิซ!” เห็นดวงหน้ารูปหัวใจของหลานสาว ศราวณะก็โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“หม่าม้า ปะป๊า” แม่หนูน้อยปรบมือรัวหลายครั้ง ยิ้มจนตาหยี อวดฟันซี่เล็กๆ อย่างน่ามอง แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้คนฟังหัวใจพองโตคับอกเท่ากับสรรพนามเรียกขานล่าสุด
“ปะป๊ากับหม่าม้าคิดถึงอลิซที่สุดในโลกเลย” พอลยิ้มเผล่รับสมอ้างสรรพนามใหม่ และเอียงหน้าเข้าใกล้ ‘หม่าม้า’ จนแก้มเสียดสีแก้มร้อนผ่าว
“ไอ เลิฟ ยู ปะป๊า ไอ เลิฟ ยู หม่าม้า” แม่หนูน้อยตอบกลับพร้อมทำภาษามือ
“บอกลูกไปสิว่าหม่าม้าก็รักเขา” ชายหนุ่มกระซิบชิดใบหูแดงจัด
“เอ่อ… หม่าม้าก็รักอลิซเหมือนกันค่ะ รักมาก หม่าม้าขอโทษที่ไม่พาอลิซมาด้วยนะคะ” น่าแปลกเหลือเกินที่คำว่าแม่กระตุ้นน้ำตาของเธอให้ไหลลงมาเป็นทาง
“หม่าม้า ร้องไห้” เด็กหญิงอลิซหน้าเบ้ ทำท่าว่าจะร้องตาม จนคนกลางต้องรีบเข้ามาคุมสถานการณ์
“ไม่ร้องนะอลิซ เดี๋ยวปะป๊าจะกอดและจุ๊บให้หม่าม้าหยุดร้องเอง” พอลวาดมือโอบไหล่คนข้างกาย กดปากร้อนจัดเข้าที่แก้มร้อนจี๋ทว่าเนียนนุ่มเนิ่นนาน
“นี่คุณ!” ศราวณะโวยวายกับคนหัวงูตาขวาง
“จุ๊ๆ ลูกกำลังดูอยู่นะ เราต้องทำให้ลูกเห็นว่าหม่าม้ากับปะป๊ารักกันปานจะกลืน ลูกจะได้รู้สึกว่าครอบครัวอบอุ่นไง” ชายหนุ่มดักคอเพราะรู้ว่าความสุขของอลิซสำคัญต่อเธอเหนือสิ่งอื่นใด
“ฉวยโอกาส” หญิงสาวเค้นเสียงลอดไรฟัน ผิดกับปากที่ยิ้มอ่อนโยนให้หลาน พอคนหน้าด้านยังเอาแก้มแนบแก้มแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก็บิดมือเข้าที่แขนแกร่ง
“ทำไงได้ล่ะ คุณเล่นไม่ยอมเปิดช่องให้ผมได้เข้าใกล้เลย ผมก็ต้องอาศัยจังหวะตอดนิดแตะหน่อยแบบนี้แหละ” เขาออกจะเสมอต้นเสมอปลายว่ามองเธอแบบไหน มีแต่เธอนั่นแหละที่เอาแต่กระแทกประตูหัวใจใส่ตลอดศก
“ปะป๊า ไอกรีม พลีส!” แม่หนูน้อยส่งสายตาออดอ้อนขอกินของชอบซึ่งที่ผ่านมาอ้อนคุณป๋าได้ประจำ
“เอาสองหรือว่าสามสกูปดี” พอลถามกลับอย่างรู้ใจ แล้วก็หน้านิ่วเพราะศอกของว่าที่ภรรยากระทุ้งเข้าบริเวณสีข้าง
“คุณถามแบบนั้นได้ไงคะ” ที่ผ่านมาเธอให้หลานกินมากสุดแค่สองก้อนเท่านั้น แต่นี่เขากำลังสปอยล์จนทำให้หลานเสียคน
“สามค่ะ” อลิซตอบกลับมาชัดถ้อยชัดคำ
“เอาน่าคัปเค้ก คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าลูกคิดถึงเรามาก แถมยังร้องไห้หาคุณอีก หยวนสักวันสองวันหน่อยเถอะน่า” นักการเงินหนุ่มต่อรองพลางพยักพเยิดให้ไปเปอร์ทำตามคำสั่ง เมื่อถ้วยใส่ไอศกรีมสามสกูปวางลงตรงหน้า แม่หนูน้อยก็ยิ้มแฉ่ง แก้มสองข้างเต่งเป็นซาลาเปา
“อ๊ะๆ ขอบคุณปะป๊าหรือยังคะ” ศราวณะดักทางเมื่อคุณหลานคว้าช้อนขึ้นมาทำท่าว่าจะตักของโปรดใส่ปาก โดยไม่กล่าวขอบคุณคนอนุญาตเสียก่อน
“แธงค์ยู ปะป๊า ไอ เลิฟ ยู” คำพูดใสซื่อไม่ต่างจากดวงตาทำเอาคุณป๋ายิ้มแก้มแทบปริ
“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง คนเก่ง ปะป๊าก็รักอลิซเหมือนกัน” นักการเงินหนุ่มพูดช้าชัดกลับไปด้วยแววตารักใคร่เต็มเปี่ยม ทั้งสองคุยกับหนูน้อยอลิซอีกหลายนาทีจึงปิดวิดีโอคอลล์
“ไปอาบน้ำกันเถอะ จะได้ออกไปดินเนอร์ คืนนี้ผมจะพาคุณย่ำราตรีที่ลาสเวกัส” ชายหนุ่มขยิบตาข้างหนึ่งด้วยลีลาขี้เล่น ทว่าคนฟังกลับย่นจมูกใส่แทนการยิ้มรับ
“เชิญคุณอาบก่อนเลยค่ะ อาบเสร็จแล้วค่อยออกมาเรียกฉัน”
“งั้นเชิญสุภาพสตรีอาบก่อนเลย” พอลผายมือเชื้อเชิญไปในทางล้อเลียนมากกว่าจริงจัง
“คุณนั่นแหละค่ะอาบก่อน ฉันอาบน้ำแต่งตัวไม่นาน แล้วก็อยากจะคุยกับเพื่อนๆ ด้วย เมื่อกี้ยังตอบข้อความไม่หมดเลย” หญิงสาวดึงดันจนเขาเป็นฝ่ายล่าถอยและเข้าไปอาบน้ำก่อน เธอใช้โอกาสนั้นเข้าไปอ่านข้อความของนีรนารถ แต่พอส่งข้อความไปคุยด้วย เพื่อนสนิทกลับชวนคุยผ่านวิดีโอ
“คิดถึงดาวจังเลย ทางโน้นเป็นไงบ้าง”
“คิดถึงนารถเหมือนกันจ้า สบายดีแต่เบื่อนิดหน่อย ดีใจจังที่นารถกำลังจะมาอเมริกา แถมได้อยู่รัฐเดียวกันด้วย” ศราวณะกระดี๊กระด๊าไม่แพ้เพื่อนสนิท
“ความจริงมีโฮสต์สองโฮสต์อยากได้นารถไปทำงานด้วยนะ แต่นารถเลือกโฮสต์จากนิวยอร์กเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ ดาว ปลายเดือนนี้ก็จะเดินทางแล้ว” นีรนารถเล่าไปยิ้มไป ถึงจะไม่ได้มาจากครอบครัวมีฐานะ แต่เธอก็ถีบตัวเองทะยานขึ้นมาอยู่ในจุดที่สามารถเดินตามความฝันได้โดยไม่ยากเย็นนัก เธอคิดว่าการไปเลี้ยงเด็กที่อเมริกา เป็นการหาประสบการณ์ชีวิตที่ดีให้ชีวิต แม้จะไม่ใช่งานที่ได้เงินมากมาย แต่ก็เป็นงานที่เปิดโลกทัศน์ เปิดโอกาสหลายๆ อย่างให้ และหากงานไม่ยุ่งนัก เธอก็น่าจะยังรับงานกับทางสำนักพิมพ์ได้
“ดีแล้วล่ะ เราจะได้นัดเจอกันช่วงวันหยุดของนารถ แล้วต้องเลี้ยงเด็กกี่คนจ๊ะ โฮสต์เป็นไง เล่าให้ดาวฟังบ้างสิ”
“เลี้ยงเด็กผู้หญิงสองคนจ้า สี่กับหกขวบ โฮสต์ของเราอายุเกือบสี่สิบกันแล้วแหละ โฮสต์แด๊ดหล่อมาก ส่วนโฮสต์มัมหน้าตาก็งั้นๆ”
“สรุปที่เลือกโฮสต์นี้เพราะโฮสต์แด๊ดหล่อล่ะสิ ระวังเหอะ โฮสต์มัมจะเขม่นที่พี่เลี้ยงเด็กสวยเซ็กซี่เกิินไป” แซวเพื่อนเสร็จศราวณะก็หัวเราะคิกคัก
“โอ๊ย… ใครจะกล้า” นีรนารถทำหน้าสยอง “เกือบลืมไปแน่ะ วันก่อนนารถได้คุยกับพี่อาร์ตด้วยแหละ เขาถามนารถว่าดาวทำอะไร อยู่ที่ไหน พอรู้ว่าอยู่อเมริกา ก็ทำท่าตื่นเต้นดีใจใหญ่”
“นารถยังติดต่อกับพี่อาร์ตอีกเหรอ” หญิงสาวทำหน้าเหยเก ไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะยังติดต่อกับอดีตคนรักของเธออยู่
“ก็ไม่อยากคุยด้วยนักหรอก แต่พี่อาร์ตแอดเพื่อนในเฟซมา แล้วก็ถามนั่นถามนี่ เซ้าซี้ตลอด นารถก็เลยต้องคุย แต่ถ้าดาวไม่พอใจที่นารถคุยกับเขา นารถบล็อกเฟซเขาเลยก็ได้นะ” คนพูดรีบเอ่ยเอาใจเพราะกลัวจะโดนงอน
“ไม่ใช่ไม่พอใจ ดาวแค่แปลกใจที่นารถคุยกับพี่เขาเท่านั้นเอง ถ้าเขาถามขอเบอร์โทรของดาวที่นี่ล่ะก็ ห้ามให้เป็นอันขาดเข้าใจไหม ไม่งั้นมีงอนของจริง” ศราวณะดักทางเพราะกลัวเพื่อนจะใจอ่อนให้ลูกตื๊อของอธิป เธอโชคดีที่เขาย้ายมาเรียนอเมริกา ไม่งั้นคงทนลูกตื๊อไม่ได้เวลาถูกตามง้อและยอมใจอ่อนกลับไปคบอีกแน่
“จ้า นารถจะจำใส่กะโหลกไว้ตลอดเวลา แล้วดาวอยู่ไหนเนี่ย หรือว่าบ้านของพ่อบุญธรรมอลิซที่ดาวเคยเล่าให้ฟัง” ปกติเวลาวิดีโอคอลล์คุยกัน ศราวณะมักจะอยู่ในห้องนอน ไม่ใช่ระเบียงติดสวนหย่อมและสระว่ายน้ำแบบนี้
“อ๋อ โรงแรมจ้า เรามาเที่ยวลาสเวกัสน่ะ” คนพูดยิ้มน้อยๆ ไม่คิดจะขยายความให้ฟังกว่านั้นว่ามากับใคร เพราะแม้จะเล่าเรื่องราวคร่าวๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของทางนี้ให้เพื่อนในกลุ่มฟัง แต่ก็เว้นเรื่องที่จะจดทะเบียนกับพอล ปล่อยให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าพอลเป็นหนุ่มใหญ่ใจดี ที่รับอลิซเป็นบุตรบุญธรรมตามที่ระบุในพินัยกรรม และเขาขอร้องให้เธออยู่เลี้ยงหลานต่อไปอีกสักพัก โชคดีที่ไม่มีเพื่อนคนไหนเอะใจจนสามารถผูกเรืื่องที่อธิปเคยเล่าให้ฟัง ว่ามีฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาพยายามแย่งเธอไปจากเขาในช่วงที่ศศินาราแต่งงาน จึงไม่มีคำถามชวนให้ปวดหัวมาทำให้ทรมานใจ
“โรงแรมท่าจะสวยเนอะ อิจฉาดาวชะมัด”
“ก็งั้นๆ แล้วนารถตอบอะไรพี่อาร์ตไปบ้าง ที่เขาถามถึงดาวน่ะ” หญิงสาวถือโอกาสเปลี่ยนประเด็นการสนทนา พร้อมกับเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งหันหลังให้ประตูเลื่อน ยกเท้าขึ้นวางบนเก้าอี้ที่พอลเคยนั่งแ ละเอนท้ายทอยพิงพนักด้านหลังอย่างสบายอารมณ์
“ก็บอกว่าดาวมาเลี้ยงหลานที่นี่ และยังไม่มีกำหนดกลับนั่นแหละ เขาขอเบอร์ของดาวเหมือนกัน แต่นารถโกหกไปว่าไม่มี ขอไลน์ก็บอกว่าดาวไม่เล่น ขอที่อยู่นารถก็บอกว่าไม่รู้ เขาก็เลยบอกว่าจะหาทางติดต่อดาวเอง คงรู้แหละว่านารถพยายามกีดกัน” นีรนารถหัวเราะ
“ดีมาก เดี๋ยวเขาก็คงจะล้มเลิกความตั้งใจไปเอง”
ศราวณะเปลี่ยนประเด็นการสนทนาเป็นเรื่องของเปรมกมล เหมือนฝัน และณัฐวุฒิ คุยกันอย่างออกรสออกชาติจนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะกระจกจากด้านหลัง พอหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณก็ถึงกับอ้าปากค้าง รีบปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กลงแบบไม่มีการร่ำลานีรนารถ เนื่องจากทั้งเนื้อทั้งตัวของคนเคาะมีเพียงผ้าขนหนูสีสั้นเต่อผืนเดียวปิดสะโพกแคบกับช่วงล่างของเขาไว้อย่างหมิ่นเหม่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว