[จบ] หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์-บทที่ 36 ขอโทษนะ แต่ข้าคือยอดผู้ฝึกกระบี่ ! (ต้น)

โดย  Enjoybook

[จบ] หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

บทที่ 36 ขอโทษนะ แต่ข้าคือยอดผู้ฝึกกระบี่ ! (ต้น)

บทที่ 58 ถ้าครั้งหน้าทำผิดอีก โทษจะเพิ่มเป็นสองเท่า


หัวใจของฉือฮวนเต้นราวกับกลอง และท่ามกลางเสียง 'ตึกตัก' เลือดยิ่งสูบฉีด ทำให้แก้มของเธอร้อนระอุ


ใต้เปลือกตาราวกับมีแมลงตัวเล็ก ๆ วนเวียนอยู่ จนจักจี้ผิวหนังทุกตารางนิ้ว ลมหายใจของฉือฮวนติดขัดในลำคอ ขนตายาวสั่นไหวอย่างแรง


เมื่อสืออวี่ไป๋ถอนจูบ ริมฝีปากสีแดงของเธอก็บวมเล็กน้อย ผิวหนังรอบดวงตาของเธอพลันถูกเคลือบด้วยสีชมพูอ่อน


เธอเขินอายเกินกว่าจะมองเขาตรง ๆ ผ่านแพขนตางอน


เสียงของสืออวี่ไป๋แหบพร่า ปลายนิ้วที่ด้านเล็กน้อยของเขาลูบริมฝีปากสีแดงของเธอ


“นี่คือราคาที่ต้องจ่าย” เขากล่าว


พูดจบเขาก็ยืนขึ้น ชายหนุ่มผู้ทุ่มเทและน่าหลงใหลเมื่อครู่หายไป กลายเป็นเทพเจ้าผู้ละกิเลสและเที่ยงตรงภายใต้ดวงไฟอีกครา


เมื่อเห็นท่าทางสับสนของเธอ เขาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมชู ‘เรียงความสำนึกผิด’ ที่ยับยู่ยี่ในมือขึ้น


“เก็บไปซะ คราวหน้าถ้าทำผิดอีก โทษจะเพิ่มเป็นสองเท่า”


ขณะที่พูด ดวงตาที่เย็นชาของชายหนุ่มก็มองริมฝีปากสีแดงเข้มที่บวมเล็กน้อยของเธอ


ฉือฮวน…


หัวใจในอกราวกับถูกสะกดด้วยบางสิ่ง กระทั่งเต้นเร็วขึ้นมาอย่างฉับพลัน


เสียง 'ตึกตึกตึก' 'ตึกตึกตึก' ดังมากจนเธอสงสัยว่าสืออวี่ไป๋จะได้ยินหรือไม่


เธอกุมเสื้อตรงหน้าอก เสียงเต้นของหัวใจนั้นดูจะประกาศลั่นให้สืออวี่ไป๋รู้ว่า ‘ฉันชอบคุณ! ฉันชอบคุณ! ฉันชอบคุณ!’


เสียงเหล่านี้ทำให้ศักดิ์ศรีของเธอถูกบดขยี้อยู่ใต้ฝ่าเท้า ไม่อาจรักษาหน้าไว้ได้


ฉือฮวนเลียริมฝีปากให้สีแดงสดหายไปจากมุมปากอย่างรวดเร็ว ราวกับปลาซุกซนตัวหนึ่ง


เธอรวบรวมความกล้า เลิกขนตาขึ้นมองสืออวี่ไป๋อย่างอาจหาญ


“ฉันต้องกลัวคุณไหม?”


เธอกำหมัด เชิดคางขึ้นด้วยท่าทางน่ารักและเย้าแหย่


เขาจะลงโทษอะไรได้?


ถ้าเขาชอบฉันมากขนาดนั้น อาจจะจูบนานกว่านี้เหรอ?


แล้วจะได้อะไร? เธอ... ก็... ชอบการจูบพวกนี้ด้วยนี่?


ตายแล้ว! ทันใดนั้น บรรยากาศก็เปลี่ยนไปตามความเขินอายกับความคิดนี้


"ได้"


สืออวี่ไป๋จ้องเธอ เหยียดยิ้มมุมปากน้อย ๆ สื่อความหมายว่า "งั้นคุณจะลองเหรอ?"


เปลือกตาของฉือฮวนกระตุก


รัศมีแห่งการละกิเลสและมนต์เสน่ห์รอบตัวเขาหายไป มีความรู้สึกอันตรายรุนแรงเข้ามาครอบงำ


เธอขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็นึกเสียใจที่ยั่วยุเขา


สืออวี่ไป๋มองความคิดเธอออก เขาจึงลองใจโดยก้าวเข้ามาหาเธอ


ฉือฮวนยกเท้าขึ้นจากพื้น ขดตัวบนโซฟา และยกมือยอมจำนนต่อสืออวี่ไป๋


“ฉันผิดไปแล้ว ฉันล้อคุณเล่น กล้ายุ่งกับคุณอีกที่ไหน!”


เธอจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ


สืออวี่ไป๋มองเธอและหัวเราะออกมาดัง ๆ


แววตาเขามองมาอย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ โอบกอดเธอเงียบ ๆ ท่ามกลางแสงไฟ



หลังจากนั้นฉือฮวนก็เริ่มยุ่งมาก ธุรกิจของโรงงานทอผ้าฟื้นตัวขึ้นแล้ว เมื่อไม่มีเฉิงจื่อเฉียนและเย่หมิงจู สถานการณ์ของเฉินจิ้งและแม่ของเธอในโรงงานทอผ้าขนสัตว์ก็ค่อย ๆ มั่นคงขึ้น


ฉือฮวนยังใช้เวลากลางวันเพื่อพิจารณาอำเภอและโรงงานอื่น ๆ โดยรอบ ถือโอกาสคัดเลือกผู้ช่วยไว้สองสามคน


ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในทุกวันคือการคำนวณเครื่องคิดเลขตอนกลางคืน จากนั้นก็นำธนบัตรจำนวนมากออกมานับ


วันคืนเช่นนี้มีความสุขไม่น้อย


ความสัมพันธ์ของเธอกับสืออวี่ไป๋นั้นอบอุ่นและอ่อนโยนเสมอมา นับตั้งแต่สืออวี่ไป๋จับเธอกดลงบนโซฟาในวันนั้นและลงโทษ เธอก็ไม่เคยฝ่าฝืนกฎอีก


เธอเกือบจะสงสัยว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์เชิงกายภาพแบบผู้หญิงอีกต่อไป


อย่างไรก็ตาม วันธรรมดา ๆ เช่นนี้ก็พังทลายลง


วันนั้นสืออวี่ไป๋ไปทำงาน และเธอเตรียมตัวจะขยายธุรกิจไปยังโรงงานโดยรอบ พอส่งสือเยี่ยนให้กับอาสะใภ้เฉินแล้วเพิ่งจะเดินมาที่ถนน เธอก็ถูกร่างหนึ่งหยุดไว้


“ฉือฮวน! ในที่สุดฉันก็เจอแกแล้ว!”


แม่ของเฉิงจื่อเฉียนคว้าจักรยานของฉือฮวนไว้ เธอชี้ไปที่ฉือฮวนและก่นด่าด้วยสีหน้าซึ่งเต็มไปด้วยโทสะ


“นังสารเลวไร้ยางอาย แกแต่งงานแล้ว แต่ยังไปได้เสียกับลูกชายฉัน ลูกชายฉันไม่อยากแต่งงานกับแก แกเลยใส่ร้ายเขาเพื่อจับเขาเข้าคุก!”


"ฉันตามหาแกมานานแล้ว ในที่สุดก็จับแกได้!"


ถัดจากแม่เฉิงคือเฉิงชิงชิงผู้ขุ่นเคือง


เฉิงชิงชิงสงบกว่าแม่เฉิง แต่ถ้อยคำที่หลุดมากจากปากก็ไม่ใช่คำที่ดี


“แกส่งจื่อเฉียนเข้าคุก แกมันสารเลว นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!”


ฉือฮวนกระโดดลงจากจักรยาน แล้วดึงมือแม่เฉิงออกจากแฮนด์


เนื่องจากเสียงแม่เฉิงดังเอะอะ ถนนจึงรายล้อมด้วยผู้คนที่มาเฝ้าดูความวุ่นวายก่อเป็นจีนมุงหลายวง*[1]


ในชีวิตก่อน ฉือฮวนไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ แต่เธอก็สงบกว่าใคร ๆ เมื่อเผชิญกับการใส่ร้ายจากคนทั้งสอง


“ฉันส่งเฉิงจื่อเฉียนเข้าคุกเหรอคะ? คุณป้าช่วยคิดดูดี ๆ หน่อย เฉิงจื่อเฉียนถูกสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จับและถูกจำคุกเพราะขายเสื้อผ้าทั้งที่ไม่มีใบประกอบอาชีพ มีส่วนร่วมในระบบทุนนิยม ทำธุรกิจอย่างผิดกฎหมาย”


“หากคุณยังพูดจาใส่ร้ายคนอื่น ฉันจะพาคุณขึ้นศาลและฟ้องคุณในข้อหาหมิ่นประมาท!”


แม่เฉิงมาจากชนบทจึงไม่มีอะไรจะเสีย เธอไม่กลัวภัยคุกคามประเภทนี้และจะด่าให้ด้วย


แต่เฉิงชิงชิงมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่าแม่เฉิง เธอคว้าตัวแม่เฉิง "หยุดด่าได้แล้ว จะให้ตระกูลเฉิงขึ้นศาลอีกมันไม่คุ้มหรอก"


“เธอมีจิตใจเหี้ยมโหด กล้าพูดออกมาก็แปลว่ากล้าทำจริง ๆ”


เสียงของเธอต่ำลงเรื่อย ๆ จนเกือบจะเข้าใกล้หูแม่เฉิง “ฉันได้ยินมาว่าคนในครอบครัวเขามีความเชื่อมโยงกับสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์”


“เราต้องใช้ไม้อ่อนกับเธอ”


แม่เฉิงจะอดกลั้นได้อย่างไร เธอจิกตามองไปที่ฉือฮวน ริมฝีปากยื่นออกมาจนน่าจะใช้แขวนเนื้อหมูได้


เฉิงชิงชิงพยายามอดกลั้นเต็มที่ กำหมัดแน่นแล้วพูดว่า "ฮวนฮวน เธอกับจื่อเฉียนต่างก็เคยรู้จักกัน คุณอยากให้เขาใช้ชีวิตที่เหลือในคุก เสียเวลาอันดีไปโดยเปล่าประโยชน์จริง ๆ เหรอ ?”


หลักการของฉือฮวนนั้นชัดเจนมาก เธอแก้ไขทีละคำ “เขารับผลกรรมของตัวเอง ถ้าไม่อยากเข้าคุกก็ไม่ควรดำเนินกิจการโดยไม่มีใบอนุญาตตั้งแต่แรก การขายเสื้อผ้าที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจย่อมถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย”


“เขาแจ้งความฉันกับสืออวี่ไป๋สองครั้งก่อนหน้านี้ ใครจะเข้าใจเรื่องนี้ดีไปกว่าเขา?”


“เขาต้องตายแน่ ฉันจะทำยังไงดี?”


“คุณเคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหม คำพูดดีแค่ไหนก็เปลี่ยนผีตายซากไม่ได้*[2] พวกคุณเป็นญาติเขา ยังไม่สามารถชี้แนะเขาได้ แล้วฉันคนนอกจะแนะนำอะไรเขาได้?”


ฉือฮวนพูดอย่างชัดเจนและมีเหตุผล ด้วยคำอธิบายดังกล่าว ฝูงชนก็เริ่มซุบซิบทันที


“นี่มันกรรมชั่วคืนสนองไม่ใช่เหรอ?”


“เขาแจ้งความถึงสองครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ กลับยังยอมเสี่ยงทำมันด้วยตัวเอง สมควรโดนแล้ว!”


“ตระกูลนี้มาจากไหน ทำไมถึงหาเรื่องกลบข่าวล่ะ ใส่ร้ายผู้หญิงที่ดีขนาดนี้!”


แม่เฉิงไม่คาดคิดมาก่อนว่าความคิดเห็นของสาธารณชนจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดนี้ เธอกลายเป็นคนทำร้ายฉือฮวนอย่างโหดเหี้ยม


ในใจแม่เฉิง ทุกอย่างที่ลูกชายของเธอทำล้วนถูกต้อง ฉือฮวนไม่เพียงทำลายการแต่งงานเท่านั้น แต่ยังส่งลูกชายของเธอเข้าคุกด้วย สมควรตายเสีย!


เธอแทบรอไม่ไหวที่จะได้ข่วนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนงดงามของฉือฮวน!


สร้างความเสียหายมากมายให้กับตระกูลเฉิง แล้วจะยังใช้ชีวิตราบรื่นได้อย่างไร?


สามีของฉือฮวนก็โง่เหมือนกัน ภรรยาคิดไม่ซื่อกับเขา หวุดหวิดจะสวมเขา*[3] ให้แล้ว แต่เขากลับให้อภัยเธออย่างง่ายดาย!


“ป้าเฉิง ถ้าคุณกล้าทำร้ายฉัน ฉันจะแจ้งตำรวจทันที!”


ฉือฮวนเตือนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม


[1] 里三层外三层 หมายถึง กลุ่มคนมุงจำนวนมากจนเกิดเป็นวงล้อมหลายชั้น

[2] 好言难劝该死的鬼 หมายถึง ไม่มีคำพูดดี ๆ คำใดจะช่วยคนที่ปฏิเสธจะกลับใจได้

[3] มาจากสำนวน 戴绿帽子 หมายถึงการคบชู้ ; สวมเขา


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว