รักทรหด- 13…ปั่นป่วน 50%

โดย  Nuptong พญายอ

รักทรหด

13…ปั่นป่วน 50%

9…สวยเวลาแก้ผ้า


เช้าวันที่สองของการแต่งงาน ฟองจันทร์ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบและอ่อนเพลีย หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก่อนที่พวงแก้มจะร้อนผ่าว

“อาขา จี๊ดเสียว”

“แรงอีกค่ะอา”

เสียงกรีดร้องครวญครางและวอนขอแจ่มชัดในความทรงจำ ใช่เธอหรือฟองจันทร์ น่าละอายอะไรอย่างนั้น หญิงสาวพ่นลมหายใจแรงกลอกตาขึ้นมองเพดานห้อง แล้วจะมองหน้าเขาได้ยังไงกัน หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วสำนึกได้ว่าตัวเองนอนแก้ผ้า

ให้มันได้อย่างนี้สิ อย่างนี้สิฟองจันทร์ หมดกัน นอนผ้าผ่อนไม่ใส่

หญิงสาวเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำ แทบคลานก็ว่าได้ เพราะปวดแปลบกลางกายเมื่อยขบไปทั่วทั้งตัว ก็น่าอยู่หรอก รอดมาได้ยังไงจนถึงเช้า

เดี๋ยวนะ หญิงสาวหันขวับไปดูนาฬิกาที่ฝาผนังเมื่อรู้สึกถึงอากาศที่ร้อนอบอ้าว นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงวัน โอ...ฟองจันทร์ งามหน้ามาก

คราวนี้หญิงสาวรีบเดินเข้าห้องน้ำชำระล้างกายชนิดที่ลืมเจ็บ หายปวดเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็แทบเป็นวิ่งออกจากห้องเพื่อที่จะเข้าครัวรีบไปเตรียมอาหาร ไม่รู้ว่าอาชญากรอยู่ส่วนไหนของบ้าน

“อุ๊ย!” ฟองจันทร์อุทานยืนงงอยู่ที่ห้องนั่งเล่นซึ่งมีโซฟาและทีวีจอแบนเครื่องใหญ่วางอยู่ ห้องถูกตกแต่งประดับประดาสวยงาม แถมที่พื้นยังปูพรมอีกต่างหาก ที่ผนังห้องด้านหนึ่งมีเขาวัวติดไว้ตรงกลาง โดดเด่นสวยงาม

หญิงสาวขยี้ตามองอีกครั้งแต่แล้วเสียงหัวเราะที่ดังลั่นมาจากด้านนอกทำให้เธอเกิดความสงสัยเปิดประตูเดินออกไป แล้วชะงักเมื่อพบว่าที่ลานหน้าบ้านมีหนุ่มๆ นับสิบคนนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ อาชญากรที่อายุมากที่สุดในกลุ่มแต่ใบหน้ากลับอ่อนเยาว์ดูโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล

“น้อง ขอน้ำแข็งเพิ่มหน่อย” ใครคนหนึ่งในกลุ่มหันมาเห็นหญิงสาวเข้าพอดีจึงกระดิกนิ้วตะโกนสั่ง

“เร็วหน่อยนะ”

ฟองจันทร์หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความเคยชินกับคำสั่ง

“เมียลูกพี่คงขี้หึงหน้าดู ถึงได้เลือกสาวใช้หน้าจืดมาทำงานบ้าน”

“แต่กูแทบจะถอนสายตาไม่ได้ว่ะ มึงไม่เห็นเหรอวะ ผิวงี้นมสดชัดๆ ร่างก็อวบน่าฟัด สงสัยต้องตีสนิทลูกพี่เสียแล้ว” หนึ่งในบรรดาหนุ่มๆ จ้องมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับวิจารณ์

“ใช่ว่ะ กูเห็นด้วย อย่ามองหน้าอย่างเดียว มองนม มองก้นด้วย”

มีคนพูดก็ต้องมีคนเสริม จากหนึ่งคนก็เป็นสองคน มีทีท่าว่าจะลามเป็นสามสี่ห้า กระทั่งผู้หญิงที่ถูกกล่าวถึงเดินมาใกล้จะถึง อาชญากรจึงพูดกึ่งตวาดขึ้น

“พอรึยัง”

ทุกคนเงียบกริบหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่ก บางคนถือแก้วเหล้าค้าง บางคนแทบสำลัก

“ที่พวกมึงพูดน่ะเมียกู ไม่ต้องกินแล้วเหล้า ลุกไปทำงานให้เสร็จๆ จะได้รีบกลับ”

“ดะ...เดี๋ยวๆ ลูกพี่” วงเหล้าแตกฮือ คนที่นินทาเมียชาวบ้านโดนถีบกันถ้วนหน้า

ฟองจันทร์วางกระติกน้ำแข็งมองหนุ่มๆ ที่บ้างเดินบ้างวิ่งจากไปแทบไม่กล้าแม้แต่จะหันมามองหน้าเธอ บางคนค้อมกายให้แล้วยิ้มแหย เดินเข้าบ้านกันเป็นแถว หญิงสาวมองหน้าอาชญากรงงๆ

“พวกเขาจะเข้าไปทำอะไรคะ ขอน้ำแข็งจี๊ดแล้วทำไมไม่รอ”

“พวกมันต้องรีบทำงานให้เสร็จก่อนเย็น”

“ทำงาน ทำอะไรคะ”

“ติดแอร์ ตกแต่งบ้าน” หนุ่มใหญ่ตอบน้ำเสียงหงุดหงิด

“อ๋อค่ะ”

หนุ่มใหญ่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างพินิจ สิ่งโดดเด่นเห็นจะเป็นผิวที่ขาวราวนมสด ร่างอวบนั้นไม่ได้กลมกลึงแต่ผู้ชายที่ชำนาญเรื่องผู้หญิงมองออกว่าข้างในซ่อนความเย้ายวนเอาไว้ เธอไม่ได้อ้วนแต่มีเนื้อมีหนัง เต็มไม้เต็มมือ มีกล้ามเนื้อตึงแน่นไม่เผละ และมีเอวที่เข้ามือเขาพอดี อาชญากรเหลือบมองมือตัวเองสลับกับมองเอวที่เขาจับเขย่ามาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบเมื่อคืนนี้ พลันให้รู้สึกซู่ซ่า

ที่เด็ดกว่านั้นมากคือ น้องโม๊ะ เขาแทบฉีกยิ้มกว้าง อารมณ์หงุดหงิดพลันหายไป

“เอ่อ...อากินข้าวรึยังคะ” หญิงสาวทำหน้าไม่ถูกเมื่อโดนจ้องเอาๆ

“กินแล้ว ข้าวเหลือเมื่อคืน กินซะเกลี้ยงหม้อ กับข้าวก็ไม่เหลือ”

ฟองจันทร์เลียริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อโดนจ้องไม่เลิก แล้วจู่ๆ เขาก็ลุกพรวดพราดเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์

“ออกไปข้างนอกกับอา” เขากระดิกนิ้วเรียกให้เธอไปขึ้นรถ

“ไปไหนคะอา”

“พาจี๊ดไปกินข้าว กว่าในบ้านจะเสร็จคงเย็น ยังเข้าครัวไม่ได้”

“ค่ะ”

อาชญากรพาเมียไปกินข้าวที่บ้านวัวยิ้ม ที่นั้นเป็นบ้านเขา ส่วนบ้านที่กำลังตกแต่งเป็นบ้านใหม่ เพราะในอดีตเขาแทบไม่ได้ใช้มันเลย ถ้าไม่แต่งงานในอนาคตมันจะกลายเป็นบ้านร้าง

หญิงสาวเดินไปยกมือไหว้อดีตเจ้านายที่นั่งอยู่ที่ศาลาหลังใหญ่หน้าบ้าน อาชญากรที่จอดรถเสร็จก็เดินตามมาไล่ๆ กัน

“นี่กูเตะมึงไม่พ้นตีนเหรอวะ อุตส่าห์หาเมียให้ ห่า!” เสี่ยย้งสบถลั่นเมื่อเห็นหน้าอาชญากร

“ป๊า! จี๊ดก็มาด้วย เบาๆ หน่อย สอนไม่รู้จักจำ”

“เมียจ๋า บอกเฉยๆ สิ อย่าหยิก ไข่ช้ำกันพอดี”

“เดี๋ยวเตะไข่แตกเลย”

“เก็บไข่ไว้กินดีกว่ามั้ย” เสี่ยย้งยิ้มกว้างแล้วก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน

“เบื่อ ไข่ ป๊า” คุณแม่ลูกสามพูดช้าๆ ทีละคำ

“ไม่นะ อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ” เสี่ยย้งทำหน้าเหย และส่งค้อนให้อาชญากรที่หัวเราะราวกับสมน้ำหน้าเขา

มีฟองจันทร์คนเดียวที่วางตัวสงบเสงี่ยม เก็บปากเก็บคำเพราะไม่เคยชินกับความสนิทสนมเช่นเพื่อนกึ่งเจ้านาย แม้อิสราวดีให้ความเอ็นดูและเป็นกันเองมาตลอด แต่ฟองจันทร์ไม่เคยลืมคำสอนของผู้เป็นอา กระทั่งแต่งงานออกไปแล้วหญิงสาวก็ไม่เคยลืม

อย่าหลงตัวเอง อย่าลามเดี๋ยวขี้กลากจะขึ้นหัว เรากับเขาคนละชั้นกัน

“เด็กๆ ไปไหนกันหมดล่ะคะนายหญิง เงียบเชียว”

“อาเขามารับไปค้างที่ไร่เทียมฟ้าจ้ะ”

“ลูกไม่อยู่กูร่าเริง” เสี่ยย้งยักคิ้วให้อาชญากรที่ยืนกอดอกพิงต้นไม้

“ป๊า เดี๋ยวหนูก็ตามลูกไปอีกคนหรอก”

“ไปสิ เปลี่ยนบรรยากาศอึ๊บบ้างก็ดีเหมือนกัน”

“โอ๊ย! อูยๆ อย่าหยิกสิผัวเจ็บนะเมียจ๋า”

“ถองไม่ใช่หยิก และเดี๋ยวจะมีเตะไข่จริงๆ ด้วย ถ้าขืนยังไม่หยุด” แล้วเสี่ยย้งกับเมียก็วิ่งไล่ตีกันเหมือนเด็กๆ

ภาพผัวเมียทุบตีหยอกล้อกัน ฟองจันทร์เห็นจนชินตาและไม่เบื่อที่จะมอง แต่หญิงสาวไม่เคยสังเกตว่าผู้ชายอีกคนจะมองด้วยสายตาเช่นไร วันนี้เพิ่งจะเห็นเป็นครั้งแรก สายตาที่อาชญากรมองอิสราวดีนั้นเปี่ยมไปด้วยรักและเทิดทูนบูชา

หนุ่มใหญ่หัวเราะน้อยๆ พร้อมกับส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูเมื่อ
อิสราวดีแยกเขี้ยวใส่ผัว

“กินกลางวันมารึยัง กินด้วยกันมั้ยจี๊ด” อิสราวดีที่แก้มแดงปลั่งเพราะออกกำลังกับผัวเดินกลับมาถามอย่างไม่ถือตัว

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว