“พี่เทพจะไปไหน” รินลดาเกาะแขนชายหนุ่มแน่น ไม่สนใจสาวๆ ทุกคนที่เกาะติดเทพประทานแจ
“ไปห้องน้ำ จะไปด้วยไหม” เทพประทานตอบเสียงขรึม รินลดาหน้าตาเหลอหลา อายแสนอาย แต่ก็เชิดเอาไว้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะสะบัดแขนออกและเดินจากไป
“จะไปไหนยะ เขาบอกจะไปห้องน้ำ จะตามไปทำไม ดูสิ เดี๋ยวคุณเทพก็หนีไปหรอก” สาวๆ ฉุดมือของรินลดาเอาไว้
“เป็นดาราซะเปล่า บ้าผู้ชาย เขาไม่เห็นสนใจก็มาเกาะติดเขาอย่างน่ารำคาญ”
กรี๊ดดดดดด!!! รินลดาสุดจะทน หญิงสาวกรีดร้องอย่างโมโหจัด
“ปล่อยนะ อย่ามาสาระแน” รินลดาสะบัดมือออก ทำให้มีเรื่องกันในที่สุด เหตุการณ์ชุลมุนนั้นอยู่ในสายตาของเทพประทานที่หาวิธีเลี่ยงหลบหนีออกมา เขาส่ายหน้าไปมา ก่อนจะพาตัวเองออกจากผับหรูดังกล่าว
“พอแล้วกลับกันเถอะ” ฟ้าใสสะกิดปาริชาติที่บันทึกวิดีโอตอนที่กลุ่มของรินลดามีเรื่องกับสาวๆ ที่เป็นแฟนคลับของเทพประทาน
“แป๊บนึง ขอถ่ายก่อน พรุ่งนี้ฮาแน่ ดารานางเอกคนดังมีเรื่องกับแฟนคลับของคุณเทพประทาน ฮ่าๆ ฉันรักแกสุดๆ ไปเลยยัยฟ้า ยอดเยี่ยมมาก มันต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็ต้องเอาด้วยคาถา” ปาริชาติกดปุ่มบันทึกแล้วนำโทรศัพท์ราคาแพงหย่อนใส่กระเป๋า ปิดปากหัวเราะสะใจ ก่อนค่อยๆ เลี่ยงออกมาเพราะไม่อยากเป็นข่าวเสียหายเช่นกัน
“ฟ้าขอเข้าห้องน้ำอีกรอบนะ เดี๋ยวมา” ฟ้าใสบอกเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี การได้เอาคืนนายเทพประทานเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหมฟ้า” อีกครั้งที่ราศีถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฟ้าตามไป” ฟ้าใสรีบบอกก่อนเดินเร็วไปยังห้องน้ำ เธอคงดื่มเครื่องดื่มเยอะไปเลยทำให้เข้าห้องน้ำบ่อย
“อุ๊ย!” ฟ้าใสชนกับร่างสูงของเทพประทานอีกครั้ง หลังจากเข้าห้องน้ำและกำลังจะเดินไปยังลานจอดรถ เขารีบรั้งเธอเอาไว้ เมื่อตนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำเหมือนกัน
“ชนกันอีกแล้ว หรืออยากอ่อย” เขาทำน้ำเสียงเยาะๆ ดวงตาคมเข้มมีสีเข้มขึ้น แต่คาดเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“คุณอีกแล้วเหรอ หลงตัวเองไปหรือเปล่า ฉันนี่นะจะอ่อยคุณ... ชิ!” ฟ้าใสทำท่าจะด่า แต่หยุดกึก นึกอะไรขึ้นมาได้
ท่องเอาไว้ฟ้าใส เงินสามพันบาทและอาหารฟรี พร้อมกับของขวัญอะไรก็ได้ที่ปาริชาติเพื่อนรักทุ่มทุนสร้าง... หึหึ
“ทำไม” เขาหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า
“คุณติดหนี้ฉันอยู่ ดังนั้นก็ต้องใช้หนี้” ฟ้าใสรีบทวงทันควัน เธอไม่ยอมเสียเปรียบใครง่ายๆ หรอก
“ไม่ยักรู้ว่าตัวเองไปติดหนี้คุณตอนไหน” เขายักไหล่กวนโมโหใส่เธอ
“เรื่องชุดชั้นใน”
“อ๋อออ...” เทพประทานลากเสียงยาวเหยียด ก่อนจะกระชับร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมอก ฟ้าใสมัวแต่คิดคำพูดเอาเป็นเอาตายจึงยังไม่รู้ตัวว่าเธอได้ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาแนบแน่นแค่ไหน
“แล้วจะเอายังไงดีล่ะ ในฐานะที่ผมติดหนี้คุณไปถึงภายในแบบนี้” ชายหนุ่มถามขึ้น หรี่ตามองแม่สาวร่างบางแต่อวบอิ่มในอ้อมแขน สายตาคมกริบที่ก้มมองอกอวบของเธอทำให้หญิงสาวหน้าแดงจัด
“คุณก็ต้องเลี้ยงข้าวฉันเพื่อใช้หนี้” เธอรีบเข้าประเด็นทันที ใครบอกว่าเธออยากไปกินข้าวกับเขา ไม่เลยสักนิด แม้จะกินฟรีหรืออะไรก็ตาม แต่เพราะอยากทำตามสิ่งที่รับปากปาริชาติเอาไว้ให้สำเร็จ ไม่อยากให้เพื่อนผิดหวัง เมื่อเธอคิดจะทำอะไรแล้ว เธอต้องทำให้สำเร็จไม่ว่าจะยากมากแค่ไหนก็ตาม
“หึหึ” เทพประทานหัวเราะในลำคอ สายตาดูเยียบเย็น แถมยังกวนโมโหที่สุด
“หัวเราะอะไรไม่ทราบ” เธอตาขุ่นใส่เขาทันที
“นึกว่าอะไร ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด อยากจะกินข้าวกับผมก็บอกมาตรงๆ เถอะ ไม่ต้องอ้อมค้อมชักแม่น้ำทั้งห้าให้มากความ มันวกวนน่ารำคาญ ถ้าอยากกินข้าวก็บอก อยากขึ้น... เตียงก็บอก ฉันจะสนองให้” เทพประทานหัวเราะเยาะริมซอกหูหญิงสาว ฟ้าใสหน้าแดงจัดด้วยความโมโห อีตานี่หลงตัวเองชะมัด
“นี่นามบัตรของฉัน เอาไป อยากกินข้าวตอนไหนก็โทรมาได้เลย หนี้สินระหว่างเราจะได้... จบๆ กันไป” เทพประทานหยิบนามบัตรยัดใส่มือฟ้าใส ก่อนไปเขาก้มลงหอมแก้มสวยฟอดใหญ่ ฟ้าใสได้แต่อึ้ง ตาโตแทบขยับไปไหนไม่ได้
“ไอ้ๆๆ ไอ้บ้า ลามกที่สุด” ฟ้าใสลูบแก้มตัวเองไปมาด้วยความหงุดหงิดที่แก้มสาวโดนหอมอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะเข่นเขี้ยวตามแผ่นหลังแกร่งไปเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“เรียบร้อยแล้วเหรอฟ้า” ปาริชาติเอ่ยถาม ฟ้าใสหันไปสบกับสายตาเจ้าเล่ห์ของปาริชาติที่ยืนรอเธออยู่ก่อนแล้ว
“จ้ะ” ฟ้าใสตอบยิ้มๆ แต่สังเกตแววตาของเพื่อน เธอคิดว่าต้องมีอะไรเป็นแน่ เพราะไม่มีอะไรจะเล็ดลอดสายตาของเธอไปได้
“มีอะไรจ๊ะ อมยิ้มแบบนี้” ฟ้าใสแอบใจเต้นแรง หรือเพื่อนจะเห็นว่าเมื่อครู่เขาหอมแก้มเธอ
“รู้ดีจริงแม่คนช่างสังเกต” ปาริชาติหัวเราะคิกคัก ขณะเดินนำพาเพื่อนไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของผับดัง
“หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่มีฟ้าเข้าไปเกี่ยวด้วยนะ” ฟ้าใสดักคอเพื่อน
ไม่มีเสียงตอบรับจากเพื่อน ฟ้าใสหันไปถามราศีที่นั่งเงียบมาตลอดทาง “หยก ยัยเปรี้ยวมีแผนอะไรหรือเปล่า”
“ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ” ราศีส่ายหน้าไปมา ฟ้าใสขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย ราศีไม่รู้จริงๆ เพราะคนที่อาสาไปตามฟ้าใสเป็นปาริชาติ ส่วนเธอกับเกศรารออยู่ที่รถ พอเพื่อนกลับมาก็เห็นปาริชาติได้แต่อมยิ้มเท่านั้น ซึ่งทั้งสองมายังลานจอดรถไล่เลี่ยกันไม่กี่นาที
กลับถึงที่พักสี่สาวก็อาบน้ำอาบท่าอีกครั้งและเตรียมตัวเข้านอน
ฟ้าใสเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนจะเข้าเฟซบุ๊กด้วยความเคยชิน เธอเห็น ‘คุณความสุขบนโลกเกิดจากความดี’ ออฟไลน์ จึงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แต่ส่งข้อความกลับไป เผื่อเขามาเปิดอ่าน
‘สวัสดีค่ะคุณความสุข วันนี้ไม่ออนเหรอคะ เห็นคุณหายไปหลายวันก็เลยแวะเข้ามาทักทายค่ะ ได้ไปอ่านบทความดีๆ ของคุณแล้วรู้สึกดีจังเลยค่ะ แถมมีภาพสวยๆ หลายภาพเชียวค่ะ คืนนี้ฝันดีนะคะ’
ฟ้าใสโพสต์ข้อความกลับไป ทำท่าจะปิดคอมนอนเมื่อเข้าไปกด like ที่เฟซบุ๊กของตัวเองเรียบร้อย แต่มีข้อความจากอีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้เธอชะงักมือที่จะปิดคอม
‘สวัสดีครับเด็กน้อย ผมเพิ่งกลับมาจากข้างนอกครับ ความจริงก็ออนนะครับ แต่ปิดเป็นออฟไลน์เอาไว้’
‘อ้าว... เหรอคะ นึกว่าคุณความสุขไม่ออนเสียอีก สงสัยหนีสาวๆ แน่เลย ถึงได้ไม่เปิดออนไลน์เอาไว้ แล้วทำไมเรียกฉันว่าเด็กน้อยล่ะคะ ฉันอายุยี่สิบสองแล้วนะคะ’
ฟ้าใสพิมพ์ข้อความตอบกลับไป ยิ้มคนเดียวแล้วเท้าคางนั่งอ่านข้อความที่เขาตอบกลับมา
‘ผมคิดว่าคุณยังเด็กมั้งครับ’
‘แล้วคุณอายุเท่าไหร่แล้วล่ะคะ’
‘ยี่สิบเจ็ดครับ’
‘ห่างจากฉันแค่ห้าปีเอง คุณก็ยังไม่แก่นะคะ’
‘อายุก็เป็นเพียงตัวเลขที่บ่งบอกถึงประสบการณ์ที่ได้รับน่ะครับ ปกตินอนดึกแบบนี้เหรอครับ’
‘ไม่ดึกค่ะ แต่วันนี้ออกไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ มาค่ะ’
‘ครับ’
‘คุณล่ะคะ ปกตินอนดึกหรือเปล่า’
‘บอกไม่ได้เหมือนกันครับ อยู่ที่ว่าง่วงตอนไหน’
‘คุณชอบถ่ายรูปเหรอคะ เห็นมีรูปเต็มไปหมดในบ้านของคุณ’ บ้านในที่นี่หมายถึงหน้าเฟซบุ๊กของเขา
‘ชอบครับ ส่วนใหญ่เป็นรูปที่ผมทยอยลงตอนอยู่เมืองนอกมากกว่า ถ่ายเก็บเอาไว้ กลับมาเมืองไทยผมค่อนข้างงานยุ่ง’
‘คุณทำงานอะไรคะ’
‘ผมทำธุรกิจส่วนตัว แล้วคุณล่ะ’
‘ธุรกิจส่วนตัวเหมือนกันค่ะ’
‘คุณทำเกี่ยวกับอะไรครับ’
‘ฉันเปิดร้านกาแฟกับเพื่อนค่ะ’
‘ว่างๆ ผมคงต้องแวะไปอุดหนุนนะครับ’
‘ขอบคุณค่ะ แล้วคุณล่ะคะ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร’
‘ผมสืบทอดกิจการของครอบครัวครับ’
ทั้งสองคุยกันอีกครู่ ก่อนจะราตรีสวัสดิ์กันและกัน...
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว