คลั่งรัก สวาทมาเฟีย | NC25+-บทที่ 29 ขอบคุณนะ

โดย  BunMeeBooks

คลั่งรัก สวาทมาเฟีย | NC25+

บทที่ 29 ขอบคุณนะ

คมกริบรีบเดินเข้าไปในห้องสืบสวน ชายหนุ่มกล่าวเรียบเรียงทุกอย่างเหมือนที่ร้อยชั่งอธิบายให้เขาฟัง ธงทวนได้แต่นิ่งเงียบฟัง เมื่อเจ้าตัวรู้ว่าต้องจำนนต่อหลักฐานแล้ว ชายหนุ่มก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่า ๆ ๆ แล้วจะเป็นอย่างไร หากผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลกเงินทองพวกนั้นจะตายไปเสียให้หมด ถ้าจะต้องเอาเนื้อหนังของตัวเองไปแลกเงินทองพวกนั้น สู้ยอมกินเนื้อหนังของตนเองไม่ดีกว่าหรือ ?” ธงทวนถามพลางยิ้มเหมือนเยาะหยัน

“สรุปคือผู้หญิงสองคนที่หายไปก่อนหน้านี้นายก็ฆ่าพวกเธอด้วยวิธีเดียวกัน ? คือตัดอวัยวะออกมาแล้วบังคับให้พวกเธอกินจนกว่าจะเสียเลือดมาก หรือติดเชื้อตายไปเองหรือ ?” อิงฟ้าพยายามตะล่อมถามเพื่อจะใช้คำให้การเป็นส่วนประกอบของคดี

“ผมไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้น ! ติดต่อทนายให้ผมด้วย” ธงทวนพูดแล้วเรียกร้องหาทนาย อิงฟ้ากับคมกริบหันหน้ามามองกัน คมกริบเดินออกจากห้องสืบสวน กลับไปหาร้อยชั่งที่ห้องหลังกระจก

“คุณมีวิธีทำให้คนร้ายรับสารภาพไหม ?”คมกริบถาม

“เราตกลงกันแค่เรื่องจับคนร้าย หน้าที่ที่ต้องทำให้เขารับสารภาพเป็นหน้าที่ของพวกคุณ ตอนนี้เราจะทำตามสัญญากันได้หรือยัง ?” ร้อยชั่งถามกลับ

คมกริบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะผายมือเชิญร้อยชั่ง “เชิญ !” ชายหนุ่มพูด

ร้อยชั่งแสยะยิ้มแล้วเดินไปยังห้องสืบสวนทันที หญิงสาวเปิดประตูห้องสืบสวนช้า ๆ ก้าวเท้าเข้าไปทีละก้าว เธอบุ้ยใบ้ให้อิงฟ้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ อิงฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินไปยืนอยู่ตรงมุมห้อง ส่วนตัวร้อยชั่งเองเข้านั่งแทนที่เดิมของอิงฟ้า

ตลอด 3 ปีมานี้ อิงฟ้าเห็นร้อยชั่งแสดงจดหมายฉบับเดิม ๆ ให้คนร้ายที่หญิงสาวช่วยในการจับกุมไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ไม่เห็นมีคนร้ายคนไหนที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองกับจดหมายของร้อยชั่งเลยสักคน แต่สีหน้าของร้อยชั่งวันนี้ดูมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม

ร้อยชั่งล้วงมือเล็กลงไปในกระเป๋ากางเกงวอร์ม หญิงสาวหยิบซองจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่ง ด้านในมีกระดาษจดหมายเก่า ๆ แผ่นหนึ่ง หญิงสาววางกระดาษจดหมายไว้บนโต๊ะแล้วยื่นให้ธงทวนอ่าน

“นายเคยได้รับจดหมายแบบนี้ไหม ?” หญิงสาวถามเสียงเคร่งขรึม รอยยิ้มบนใบหน้าเลือนหายไปโดยพลัน

ธงทวนไม่แม้แต่จะปรายตาดูจดหมาย หนุ่มร่างใหญ่หันหน้าไปมองประตูห้องสืบสวน

“ถ้านายไม่หันมาอ่านฉันจะบอกตำรวจให้หมดเรื่องปมที่อาจเป็นแรงจูงใจให้นายทำร้ายเหยื่อ หรือนายคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่แม่นายทำไว้กับนาย ?” ร้อยชั่งงัดไม้เด็ดขึ้นมา คมกริบที่อยู่อีกฟากของกระจกเมื่อได้ยินก็รู้แน่ว่าหญิงสาวมีวิธีบีบคั้นให้คนร้ายรับสารภาพเพียงแต่ร้อยชั่งเก็บไว้เป็นไม้ตายเพื่อใช้เอง ไม่ยอมให้ตำรวจได้ใช้ก่อน

ธงทวนรีบหันกลับมาจ้องหน้าหญิงสาวในชุดวอร์ม นัยน์ตาของชายหนุ่มมีแววโทสะปะทุขึ้นเมื่อคำว่า ‘แม่’ ออกมาจากปากของหญิงสาว หนุ่มร่างใหญ่ทำหน้าบูดบึ้งราวโกรธเคืองร้อยชั่งเสียมากมาย จากนั้นจึงก้มหน้าลงอ่านจดหมายอย่างเสียมิได้ เมื่ออ่านเสร็จธงชัยก็เริ่มหัวเราะคิก ๆ อยู่ในลำคอชวนให้คนฟังเกิดอาการขนลุกซู่

“คิก ๆ ๆ ๆ ถ้าคุณได้จดหมายฉบับนี้ คุณก็ไม่ต่างอะไรจากผม...” ธงทวนพูดด้วยน้ำเสียงราวคนวิกลจริต เขามองหญิงสาวด้วยสายตาเหมือนสับสนระคนระทึกใจ

“จดหมายฉบับนี้ของนายอยู่ที่ไหน ? นายได้มันมาจากใคร ?” ร้อยชั่งถามเน้นย้ำทีละประโยคไม่ได้กริ่งเกรงไปกับเสียงหัวเราะที่น่าขนลุกของธงทวน

“คิก ๆ ๆ ... จดหมายถูกเผาทิ้งไปแล้ว... แต่พอฉันอ่าน... ฉันก็รู้สึกปลดปล่อย... ต้องขอบคุณคนส่งจดหมายที่ทำให้ฉันกล้าทำในสิ่งที่ฉันคิดมาตลอด ผู้หญิงพวกนั้นมันสมควรตาย ! ผู้หญิงที่ใช้ร่างกายสกปรกแลกเงินทองสมควรตาย ! ตาย ! ตาย ! ตาย ! ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” ธงทวนเริ่มหัวเราะเสียงดังขึ้น อากัปกิริยาเปลี่ยนแปลงไปทันที ชายหนุ่มร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนทั้ง ๆ ที่ข้อมือถูกใส่กุญแจล็อกไว้กับขาโต๊ะ เขากระชากโต๊ะสแตนเลสตัวใหญ่จนสุดแรง จนมันถูกลากไปพร้อมแรงมหาศาลของเขา

ร้อยชั่งมือไวรีบคว้าจดหมายมาพับเก็บ หญิงสาวหันไปมองหน้าอิงฟ้าที่ยืนตกตะลึงอยู่ตรงมุมห้อง อิงฟ้าเคยเห็นร้อยชั่งแสดงจดหมายฉบับเดียวกันให้กับคนร้ายมาไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย จนหญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ว่าจดหมายฉบับนั้นมีความลับอะไร นี่เป็นครั้งแรกในช่วง 3 ปีที่มีคนร้ายแสดงกิริยาคลุ้มคลั่งหลังจากได้อ่านจดหมาย

“สารวัตร ! เข้ามาช่วยจัดการหมอนี่เร็ว สติหลุดไปแล้ว ! หมวดอิงโทรตามหมอเนยด่วน !” ร้อยชั่งตะโกนเรียกคมกริบและสั่งการอิงฟ้าไปในคราวเดียวกัน

คมกริบกระโจนเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว กระโดดเข้าล็อกคอชายร่างใหญ่จากทางด้านหลัง ถึงธงทวนจะมีขนาดตัวหนากว่าคมกริบมากนัก แต่คมกริบนับว่าเป็นนักสู้ฝีมือฉกาจที่ว่องไว เขาหลบเลี่ยงหมัดเท้าที่บ้าคลั่งของธงทวนแล้วเข้ารัดคอชายร่างใหญ่กว่าได้อย่างง่ายดาย คมกริบกระชับวงแขนที่ล็อกคอหนาให้แน่นขึ้น พอผ่านไปราว 5 วินาทีธงทวนก็สลบไป เมื่อเห็นคนร่างใหญ่สลบไปแล้ว คมกริบจึงคลายล็อกออก

อิงฟ้ารีบกดโทรศัพท์หาแพทย์หญิงนีรา จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาล SS ที่รู้จักกันดีในหมู่ตำรวจเมื่อพวกเขาต้องการคำปรึกษากรณีเร่งด่วน

“ฮัลโหล ! หมอเนยคะ ! นี่หมวดอิงฟ้านะคะ ! รบกวนเชิญหมอมาที่สถานีของเราตอนนี้ด่วนเลยได้ไหมคะ ? ... มีคนร้ายคลุ้มคลั่งน่ะค่ะ คุณร้อยชั่งก็อยู่ที่นี่ด้วย... ค่ะ... คุณชั่งเป็นคนบอกให้โทรหาหมอเองค่ะ... ค่ะ... ขอบคุณค่ะหมอ”

“คุณเอาจดหมายอะไรให้นายธงทวนอ่านกันแน่ ? ทำไมจู่ ๆ ถึงคลั่งขึ้นมาได้” คมกริบถามด้วยความสงสัย

ร้อยชั่งยิ้มเย็นยะเยียบ นัยน์ตาฉายประกายความพึงพอใจ ในที่สุดสิ่งที่เธอเพียรทำมาตลอด 3 ปีก็เป็นผล เธอเจอคนที่เธอต้องการแล้ว... ธงทวนจะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่หายไปของเธอ

ร้อยชั่งไม่ตอบคำถามคมกริบ หญิงสาวกลับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความส่งไปในแชทกลุ่มของ Finding M

‘ธงทวนคือคนที่จะทำให้เราตามหา M พบ’ หญิงสาวพิมพ์แล้วกดส่งทันที เธอมั่นใจว่าตอนนี้ทั้งกายและเช่นชนกที่ได้รับข้อความของเธอต้องดีใจจนเนื้อเต้นไม่ต่างไปจากเธอมากนัก




นริศและนีรารีบวิ่งเข้ามาในสถานีตำรวจแล้วตรงเข้าไปในห้องสืบสวน นีราวางกระเป๋ายาสีดำลงบนโต๊ะใหญ่กลางห้องที่ธงทวนยังถูกล็อกด้วยกุญแจข้อมือติดอยู่ หมอสาวเปิดกระเป๋า หยิบไดอาซีแพมออกมาจากกระเป๋าพร้อมเข็มฉีดยา นีราจัดการฉีดยาลงไปในตัวชายร่างยักษ์

“หมอเนยฉีดอะไรให้คนร้ายคะ ?” อิงฟ้าเอ่ยถาม

“ไดอาซีแพมน่ะค่ะ... อืม... ที่คนเรียกกันว่าแวเลียมน่ะค่ะ จะช่วยระงับความผิดปรกติทางอารมณ์ได้ เดี๋ยวถ้าผู้ป่วยฟื้นขึ้นมาจะสงบลงเอง แล้วที่เหลือหมอจะจัดการให้เองนะคะ อาจต้องพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลนิติจิตเวชก่อน” นีราแนะนำ

“แต่นายธงทวนเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าหญิงสาวสองศพ กักขังหน่วงเหนี่ยวและมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสนะครับ” คมกริบกล่าวขัดขึ้นมา

“งั้นขังเขาไว้ที่นี่ก่อน แล้วเดี๋ยวให้นิติจิตแพทย์เข้ามาตรวจดูสภาพจิตใจเบื้องต้นก่อนก็ได้ค่ะ เนยไม่ได้เป็นหมอประจำโรงพยาบาลนิติจิตเวช เนยไม่มีอำนาจ ว่าแต่คุณเป็นใครคะ ?” นีราถามเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงาม หน้าแปลกไม่คุ้นตาเธอเลย

“อ้อ ! นี่สารวัตรสืบสวนคนใหม่ของสถานีเราค่ะ พันตำรวจตรีคมกริบ เลิศอิทธิพล... สารวัตรคะ นี่หมอนีรา หรือหมอเนย เป็นเพื่อนคุณร้อยชั่งค่ะ บางทีเวลานิติจิตเวชไม่ส่งหมอมาเสียทีเราก็ขอหมอเนยมาช่วยค่ะ” อิงฟ้าแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน

ชายหญิงต่างส่งยิ้มทักทายกัน ในขณะที่นริศที่เดินตามนีราเข้ามาให้ห้องติด ๆ ดูเป็นห่วงเป็นใยร้อยชั่งจนออกนอกหน้า

“ชั่งเป็นอะไรไหม ? พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ระวังตัว... เรานี่ชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ อยู่เรื่อยเลย นี่ดีนะที่เนยไปรับพี่ที่ทำงาน ตอนนั่งรถมา หมวดอิงโทรหาพอดีพี่เลยได้ติดรถมาด้วย ไม่งั้นชั่งเกิดเรื่องพี่ก็ไม่รู้อีก” หน้าตาที่เดิมดูซีดเซียวเป็นปลาต้มอยู่แล้วของนริศกลับดูซีดกว่าเดิมอีกหลายเท่า เขาจับตัวร้อยชั่งหมุนซ้ายหมุนขวา ดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่บุบสลายที่ตรงไหนจึงค่อยปล่อยมือ

“พี่นมเป็นห่วงชั่งเกินจริงไปหน่อยแล้ว ชั่งจะเป็นอะไรไปได้ มีสารวัตรตัวใหญ่ยังกะยักษ์อยู่ทั้งคน ยิงปืนก็แม่น เล่นยิวยิตสูจนได้เหรียญทองอีกต่างหาก ชั่งจะต้องกลัวอะไรอีกละ ?” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับหัวเราะน้อย ๆ

คมกริบเองก็อดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้

“ผู้ชายอะไรชื่อเล่นชื่อนม...” ชายหนุ่มพึมพำออกมา แต่กระนั้นนีราที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังแอบได้ยิน

“ไม่แปลกหรอกค่ะ เราสองคนเป็นฝาแฝดกัน คนพี่ชื่อนมเย็น คนน้องชื่อเนยจืดค่ะ” หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ เมื่อคมกริบรู้ตัวว่ากำลังว่าพี่ชายให้น้องสาวได้ยินจึงยิ้มเจื่อน หากไม่บอกก็คงเดาได้ยากว่าทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน อาจมีความละม้ายคล้ายกันอยู่บ้างเพราะทั้งคู่หน้าตาจัดว่าดีจนโดดเด่น เพียงแต่ด้วยหน้าอมโรคของนริศทำให้เขาดูต่างไปมากจากน้องสาวที่ใบหน้าดูสดใส แต่งแต้มสีสันจนสวยงาม

“ผมไม่สะดวกเรียกน่ะครับ ผมเรียกหมอนริศดีกว่า” คมกริบกล่าวแก้เก้อ

“เรียกอะไรก็ได้ครับ ตามสะดวก เพื่อน ๆ บางคนสมัยเรียนยังเรียกผมว่าเย็น หรือริศก็มีครับ เอาตามใจคนเรียกเลยครับ ผมไม่ถือ” นริศหันมาบอก น้ำเสียงไม่ได้มีความโกรธเคืองหรือแง่งอนเจือปนแม้แต่น้อย

“ชั่งคงต้องรบกวนพี่เนยให้ช่วยชั่งอีกนิดหน่อย ชั่งคิดว่านายธงทวนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่ชั่งกำลังตามหาอยู่...” ร้อยชั่งพูดแหวกบทสนทนาเรื่องชื่อขึ้นมา หญิงสาวมองร่างใหญ่ที่ฟุบสลบอยู่บนโต๊ะแล้วยกมือขึ้นลูบคางเล็กน้อย

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว