แรกรักพันใจ-บทที่ 3 ถ่ายโฆษณา

โดย  มาสฬฎา

แรกรักพันใจ

บทที่ 3 ถ่ายโฆษณา


หลังจากทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันสองวัน จนแบกสังขารซอมบี้กลับบ้านในตีสามวันศุกร์ โปรโมชั่นที่หญิงสาวโม้ไว้ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ตอนเปิดรายงานยอดขายประจำเดือนของเดือนนี้ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าเธอลุ้นยิ่งกว่าสตรีตั้งครรภ์ลุ้นเพศบุตรธิดาซะอีก!

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่องานประสบความสำเร็จอย่างน่าตกใจ เธอก็นับวันรอที่จะได้ประชุมฝ่ายกับภควัตน์แทบไม่ไหว นี่ตั้งแต่ร่วมงานกันมาหนึ่งเดือน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันประชุมแผนกขนาดนี้ ซึ่งโอกาสนี้ก็มาถึงในอีกสามวันถัดมาเมื่อท่านรองประธานเรียกประชุมแผนกการตลาดประจำสัปดาห์


ภควัตน์ติชม Brand Manager รายตัวด้วยการจ้องหน้านิ่งเงียบ ใช้จิตวิทยาจนผู้บริหารคายความผิดพลาดมาทีละคน ๆ แต่สำหรับเธอวิธีเงียบ ๆ จ้อง กดดัน จนทนไม่ได้ ค่อย ๆ สารภาพทีละเรื่องนั้นไม่ได้ผลกับเธอแม้แต่นิดเดียว จะกดดันเธอด้วยวิธีนี้น่ะเหรอ โทษที เธอหน้าด้าน เขาเงียบ เธอเงียบ ไม่มีใครพูด ก็จบไง ความผิดพลาดที่เธอทำไว้ก็ไม่ถูกเปิดเผยด้วย


เธอเกือบจะชื่นชมเขาอยู่แล้วที่หลังจากทุกคนบอกสิ่งที่ทำพลาด ภควัตน์ถามถึงวิธีแก้ไขที่ทุกคนคิดไว้ ก่อนจะเสริมไอเดียแก้ปัญหาของเขาเข้าไป ซึ่งแต่ละอย่างก็เจ๋งจนแบบที่เธอคาดไม่ถึง

แต่เมื่อการจ้องตาในวันนี้มาถึงคิวเธอ จากที่จะชมหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะสายตาจับผิดที่เขามองมา เถอะ! รอบนี้เธอไม่มีอะไรให้เขาต้องจับผิดสักหน่อย จากที่แต่ก่อนเธอมักจะก้มหน้าหลบสายตา ประสานมือแน่นเพราะมือสั่น วันนี้เธอเชิดหน้ามองเขาอย่างเต็มภาคภูมิ และยิ้มแบบมีปริศนาเลศนัยประหนึ่งภาพวาดโมนาลิซ่าในพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ก็ไม่ปาน และพอภควัตน์อ้าปากจะพูดนั้น หูเธอก็กางแบบอัตโนมัติเพื่อรับคำชมทันที

แต่ทว่านอกจากจะไม่ชมที่เธอทำยอดขายในเดือนนี้ได้มากกว่าที่พี่จุ๋มทำไว้ปีที่แล้วนั้น ไอ้เจ้านายที่ไม่รู้จักชื่นชมผลงานลูกน้องยังมีหน้ามาพูดจาข่มขู่เธออีกว่า

“คุณทำโปรโมชั่นหนักขนาดนี้ คิดถึงผลกระทบยอดขายในเดือนถัดไปบ้างไหม คนซื้อตุนสินค้าเพราะโปรโมชั่น แล้วเดือนหน้าคุณจะขายยังไง?”

ภควัตน์จ้องตรงมาที่เธออย่างจะเอาคำตอบ แต่เสียใจด้วย เรื่องนี้เธอเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดีแล้ว

“โปรโมชั่นรอบนี้เป็นการเพิ่มปริมาณแต่ขายราคาเดิมค่ะ สาเหตุที่ทำโปรนี้เพราะเราต้องรีบเคลียร์ของก่อนออกรุ่นใหม่ ดิฉันไม่อยากเล่นโปรราคาให้คนติดการลดราคา เลยใช้เป็นวิธีเพิ่มปริมาณแทน”

ถึงแม้เธอจะคิดว่าคำตอบที่เตรียมมานั้นดีมากแล้ว แต่ภควัตน์ก็ยังกดดันเธอด้วยคำถามเดิม

“แล้วถ้าเดือนหน้ายอดตกลง รู้ไหมว่าควรทำยังไง?”

เดี๋ยวนะ? นี่สรุปที่เธอทำยอดขึ้นนี่ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทเขาเลยใช่ไหม ยังมีหน้าจะมาขู่ให้เธอพิจารณาตัวเองลาออกอีก! ฝันไปเถอะย่ะ! เรื่องอะไรเธอจะลาออก ขืนลาออกก็ได้ถูกเมียใหม่ของพ่อเอาไปพูดได้น่ะสิว่าไม่อดทน เช้าชามเย็นชาม ว่าแล้วว่าคนอย่างเธอจะทำได้ซักกี่น้ำ!

ฮึ! ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า ถึงตอนนี้เธอจะเกลียดเจ้านายตัวเองมากแค่ไหน แต่เกลียดการเสียศักดิ์ศรีมากกว่า! ถ้าไม่โดนไล่ออก ยังไงเธอก็ไม่ลาออกไปให้คนบางคนนินทาหรอกน่า!

และการที่จะแช่งให้ยอดเดือนหน้าเธอตก มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะเดือนหน้าผลิตภัณฑ์ที่เธอดูแลอยู่กำลังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มในไลน์สินค้าแทนที่ตัวเดิมที่เพิ่งจัดโปรโมชั่นออกไป พอบอกท่านรองประธานที่จ้องจับผิดไปแบบนั้น เขาก็แค่พยักหน้า แล้วหันไปไล่เบี้ยคนอื่นต่อ นี่เป็นสัญญาณว่าเธอรอดแล้วในที่สุด

โปรเจ็คที่เธอพูดถึงในที่ประชุมคือไลน์สินค้าตัวใหม่ซึ่งเธอและพี่จุ๋มซุ่มทำโปรเจ็คอยู่นาน โดยโปรเจ็คนี้มีชื่อเก๋ ๆ ที่พี่จุ๋มตั้งไว้ว่า ซินเดอเรลล่า! และเธอก็ภาคภูมิใจกับโปรเจ็คนี้มากด้วย เพราะเธอเป็นคนเลือกพรีเซ็นเตอร์ด้วยตัวเอง หลังจากเปลี่ยนสตอรี่ บอร์ด ไปสามรอบ ในที่สุดพรุ่งนี้ก็จะถึงวันถ่ายทำโฆษณา

ถ้าจะถามว่าอะไรที่ทำให้เธอรักในอาชีพที่ทำอยู่ที่สุดล่ะก็ บอกได้เลยว่ามันคือตอนเลือกดารามาประชาสัมพันธ์สินค้านี่แหละ! หลังจากที่เอเจนซี่คัดดาราที่เหมาะสมมาให้ 3 คนนั้น เธอก็ใช้อำนาจด้วยความลำเอียงเลือกดาราที่เธอผูกใจสมัครรักใคร่อยากได้มาเป็นพ่อของลูกมากที่สุด หาได้ดูว่าดาราที่เลือกตรงกับภาพลักษณ์สินค้าหรือไม่แม้แต่น้อย

จะทำไมล่ะ นี่มันเป็นความสุขเพียงหนึ่งเดียวของเธอนะ จะตามใจหน่อยไม่ได้รึไง ถ้ามันไม่ดีขึ้นมาก็โทษเอเจนซี่ที่เป็นคนคัดเลือกมาให้แต่แรกซะก็สิ้นเรื่อง อย่าได้มาโทษเธอเชียว เพราะแค่ที่มีราหูอย่างท่านรองประธานอมแผนกทั้งแผนกอยู่นี่ เธอก็ซวยจะแย่อยู่แล้ว!

และแน่นอนบริษัทอุตส่าห์เสียตังทั้งที ก็ต้องใช้ให้คุ้ม พอวันที่มีกองถ่ายโฆษณา หญิงสาวเลยถือโอกาสไปคุมการถ่ายทำด้วยตัวเอง ถึงแม้พี่ ๆ ในบริษัทจะบอกว่าไปดูแป๊บ ๆ ก็พอ ไม่ต้องอยู่นาน แต่เธออยากอยู่นานใจจะขาด

เพราะพรีเซนเตอร์โฆษณาตัวนี้คือคุณเควิน คุณเควิน และคุณเควิน ดาราชายสุดฮอต สุดหล่อ สุดเซ็กซี่ ที่แค่มองก็น้ำลายจะไหล แต่เพื่อไม่ให้ผู้กำกับกดดัน พอไปถึงกองถ่ายเธอเลยรีบแจ้นไปหาผู้กำกับเพื่อบอกจุดประสงค์ทันทีว่าเธอไม่ได้มาคุม หรือมาเจ้ากี้เจ้าการว่าต้องโชว์สินค้าเธอให้เห็นชัด ๆ หรือเยอะ ๆ หรืออะไรทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องการก็แค่การได้มานั่งเฝ้า นอนเฝ้า ยืนเฝ้าคุณเควินเพียงอย่างเดียว ผู้กำกับอยากถ่ายอะไรก็ถ่ายไปเธอไม่แคร์ ขอแค่ฉากให้คุณเควินได้เปียกน้ำ ได้ถอดเสื้อโชว์ซิคแพ็คบ้างก็เท่านั้น และมันจะดีมากถ้าต้องถ่ายทำฉากนั้นหลาย ๆ ครั้ง เธออยากให้ผู้กำกับสั่งคัท สั่งคัท อย่างไม่ต้องเกรงใจเพราะเธอจะปลื้มใจมากถ้าได้เห็นลอนกล้ามอันงดงามของคุณเควินนาน ๆ

หลังจากบอกผู้กำกับเสร็จ แล้วถูกผู้กำกับมองเธออย่างตกตะลึงกับความไม่เอาใจใส่ เอ้ย! อย่างทึ่งกับความไม่เรื่องมากของเธอนั้น วรีวาฏิกาก็เดินจากไปทันทีที่หมดธุระ ก่อนจะตรงดิ่งไปหาคุณเควินเพื่อไปหาเรื่องแนะนำตัวและตีสนิท ถึงแม้จะไม่ได้อะไร ขอแค่ได้มีอาหารตาให้ชื่นใจก็โอเค

คุณเควินนั้นน่ารักจนใจหาย เพราะนอกจากจะทักทายเธอเป็นอย่างดีแล้ว ดาราหนุ่มที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงยังยิ้มให้เธออีกต่างหาก

อยากจะเอากล้องมาถ่ายภาพรอยยิ้มนี้ไว้จัง นี่เป็นรอยยิ้มของคุณเควินที่ให้เธอเพียงคนเดียว โถ สตรีในโลกหล้า จะมีใครโชคดีเท่าวรีวาฏิกาอีกเป็นไม่มี!

พอเธอแทะโลมคุณเควินได้พอหอมปากหอมคอ ได้ถ่ายรูปคู่เขาสองสามแชะ ผู้กำกับก็สั่งเริ่มกองทันที และในขณะที่เธอฝันหวานอยู่นั้น ในที่สุดก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีสาวนางหนึ่งเข้ามาในเฟรมอย่างที่ไม่ควรจะมี นางมาได้อย่างไร? จะเสล่อเข้ามาทำไมไม่ทราบ!

เอ๊ะ หน้าคุ้น ๆ

นั่นมันยัยดาราที่มีข่าวรักนอกจอกับคุณเควินนี่! เธอพลาดอะไรไป ไหนเปิดบทดูซิว่าไปมีนางตั้งแต่เมื่อไหร่?

อุ๊ยตายยย! ยกมือขึ้นแนบอก ลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าโฆษณาชุดนี้เป็นเลิฟซีรีย์ ที่อาศัยกระแสจากดาราที่มีข่าวตอนเล่นละครคู่กัน พอดีตอนเอเจนซี่ส่งบทมาให้ก็มัวแต่ดูชื่อคุณเควิน ไม่ได้เลื่อนสายตาไปดูชื่อคนที่จะมาเล่นคู่ด้วยเลยแม้แต่น้อย นี่เธอทำพลาดมหันต์ใช่หรือไม่ ทำไมเธอไม่ใส่ชื่อตัวเองเป็นนางเอกแบบหน้าด้าน ๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป! พลาดได้ยังไง โง่จริง ๆ เลยวรีวาฏิกา!

แล้วระหว่างที่กำลังก่นด่าตัวเองอยู่นั้น เสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้นมาข้าง ๆ จนเธอกระโดดหนีแทบไม่ทัน เป็นเสียงภควัตน์ที่กำลังหันไปทักทายผู้กำกับ และพอมองเห็นเธอ เจ้านายชั่ว ๆ นั่นก็บอกผู้กำกับทันทีว่า

“ถ้ามีบทคนใช้เหลือ ให้ Brand Manager ผมเล่นก็ได้นะครับ หน้าตาเธอให้มากเลย”

ถ้าเธอยังไม่เคยบอกมาก่อนล่ะก็ เธอจะบอกโลกให้รู้ไว้อีกสักรอบ ว่าเธอเกลียด เกลียด เกลียดภควัตน์! เกลียดสุด ๆ เลย!

แต่เธอได้บอกออกไปรึก็ไม่ ด้วยความที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเธอ เรื่องอะไรจะไปหาเรื่องเจ้านายให้ซวยกว่าเดิม ต่อให้เจ้านายจะนิสัยเหลือรับก็เถอะ! หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เธอก็เดินเข้าไปสวัสดีเจ้านายอย่างตอแหลและเสแสร้งสุด ๆ ก่อนจะเอ่ยถามว่า

“ลมอะไรหอบมาถึงกองถ่ายล่ะคะ คุณภควัตน์?”

จริง ๆ ชื่อภควัตน์นี่ออกเสียงแล้วก็คล้าย ๆ พาเข้าวัดนะ คือพาไปเข้าวัดเผาเมรุไปเลย ไม่ต้องกลับออกมา!

ภควัตน์นั้นพอได้ยินการทักทายที่สุดแสนจะจริงใจของเธอ ก็ตอบแบบทองไม่รู้ร้อนว่า

“ปกติผมแวะมากองถ่ายโฆษณาทุกครั้งที่เราออกโฆษณาตัวใหม่อยู่แล้ว”

ก็ว่าสิ หมอนี่คงกะกวาดดาราไปทั้งวงการ โดยมาเก็บจากกองถ่ายโฆษณานี่เอง คิดยังไม่ทันจบ ยัยดีน่าที่มีข่าวกับคุณเควินก็เดินปรี่เข้ามาสวัสดีเจ้านายของเธออย่างสนิทสนมทันที

ความเป็นลูกน้องที่ดีทำให้เธอรู้สึกว่าควรจะห้ามปรามไม่ให้เจ้านายเจ้าชู้จนออกนอกหน้าเพราะมันจะเสียงานเสียการบริษัท แต่ด้วยความเป็นนางอิจฉาลึก ๆ เธอเลยหวังในใจให้ภควัตน์จีบยัยดีน่างาดำนี่ให้ติด คุณเควินจะได้เป็นอิสระซะที เพราะฉะนั้นตอนโดนเจ้านายกวักมือเรียกให้เธอเข้าไปหาระหว่างที่ตัวเองกำลังถูกยัยดีน่าอ่อยเหยื่ออยู่นั้น เธอเลยรีบวิ่งเข้าไปเพื่ออำนวยความสะดวกทันที

“ผมไม่ได้เอานามบัตรมา เอานามบัตรผมให้คุณดีน่าหน่อย”

นั่นเป็นประโยคคำสั่งที่คนเรียกสั่งเธอทันทีที่มาถึง แต่ขอโทษนะยะ ใครจะไปมีนามบัตรเขากัน! หมอนี่คิดว่าเธอเป็นอะไร เป็นเลขารึไง จะได้ต้องมาเก็บนามบัตรเจ้านาย!

นามบัตรใบเดียวของภควัตน์ที่บังเอิญไปได้มา เธอก็เอาไปเขียนสาปแช่งเวลาถูกเรียกไปด่าหมดแล้ว ถ้าจะให้เอามาให้ล่ะก็ ยัยดีน่าคงจะได้นามบัตรที่เต็มไปด้วยคำด่าจนมองไม่เห็นเบอร์โทรศัพท์!

พอเธอบอกออกไปว่าไม่มี ท่านรองประธานก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่เธอทันที ก่อนจะเปลี่ยนเป็นบอกเบอร์โทรศัพท์ลำดับแรกของตัวเองให้ดีน่าไป

เบอร์โทรศัพท์ลำดับแรกคืออะไร?

เพื่อเป็นวิทยาทาน เธอจะบอกให้ว่าภควัตนั้นมีเบอร์โทรศัพท์อยู่ทั้งหมดสามระดับ (เท่าที่เธอรู้)

ลำดับแรกคือเบอร์ที่อยู่ในนามบัตร เป็นเบอร์ออฟฟิศสำหรับติดต่องาน ซึ่งภควัตน์ได้ให้ดีน่าไปเมื่อกี๊นี้

เบอร์ระดับสอง คือเบอร์มือถือส่วนตัวที่ใช้สำหรับบรรดาคนรู้จักที่ค่อนข้างสนิทกว่าเบอร์แรก

ส่วนเบอร์ลำดับสามนั้น เป็นเบอร์ที่วรีวาฏิกาเมมไว้ว่าเบอร์นรก อันตราย ไม่ควรรับสายเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นเบอร์โคตรจะส่วนตัวของเจ้านายเธอ โดยเบอร์นี้ภควัตน์จะใช้ติดต่อกับคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น และมือถือที่ใช้สำหรับเบอร์ที่สามนั้น ยังเป็นโนเกียรุ่นบุกเบิกแบบขัดกับภาพลักษณ์หนุ่มไฮโซที่เคยทำบริษัทสตาร์ทอัพมาก่อนอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย

และถ้าหากสงสัยว่าเธอไม่ใช่เพื่อนสนิทและไม่ได้เป็นคนในครอบครัว แต่ทำไมดันมีทั้งสามเบอร์ เธอขออธิบายให้เคลียร์ตรงนี้ว่าการใช้โทรศัพท์ทั้งสามเบอร์ของเจ้านายหนุ่มหล่อตรงหน้านั้นขึ้นอยู่กับระดับความโกรธ

ถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าเขาเป็นคนเย็นชา แต่เธอว่าเขามันภูเขาไฟใต้น้ำที่รอวันระเบิดชัด ๆ เพราะเธอโดนความกราดเกรี้ยวของเขาหลายครั้งหลายคราจนแทบจะชาชิน อันจะยกตัวอย่างได้จากการใช้เบอร์โทรศัพท์ในการโทรมาด่าระบายอารมณ์นี่แหละ

เบอร์ลำดับแรกส่วนใหญ่จะใช้เลขาโทรมาเพื่อเรียกเธอไปด่าแบบระบายอารมณ์ ไม่ได้ด่าจริงจังอะไรมากมาย

เบอร์ระดับสองจะเป็นความโกรธระดับกลาง คือกลั้นความอดทนในการจะด่าเธอไม่ไหว จนต้องโทรมาด่าด้วยตัวเอง

เบอร์ระดับสาม เป็นความโกรธระดับลืมตัวจนหน้ามืดตามัว คือภควัตน์จะโกรธมากจนงุ่นง่านและไม่มีสติจนคว้าเครื่องที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อโทรมาด่า ด่า ด่า และด่าแบบไม่หยุด น็อนสต๊อปแบบหนึ่งชั่วโมงยาวเหยียด

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการใช้มือถือของท่านรองประธานที่เธอถือว่าเข้าขั้นโรคจิต เก็บกด และอารมณ์รุนแรงเกินมาตรฐาน ควรได้รับการเยียวยาจากจิตแพทย์โดยด่วน

สงสารก็แต่ดีน่าที่พยายามเข้ามาเป็นผู้หญิงในสต๊อกคนสติไม่ดีนี่อีกคน นี่ถ้าหล่อนไม่มีข่าวกับคุณเควินเธอก็คงบอกสันดานธาตุแท้ของเจ้านายเธอไปแล้ว แต่นี่ถือว่าเป็นกรณีพิเศษ เธอช่วยไม่ได้จริง ๆ

พอผู้กำกับสั่งเริ่มกองต่อ วรีวาฏิกาก็รีบเข้ามาประจำที่ที่จะเห็นคุณเควินได้ชัดที่สุดเหมือนเดิมทันที และคงจะมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์ต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมง ถ้าภควัตน์จะไม่มาไล่เธอเหมือนตอนนี้

“ทำไมไม่กลับไปทำงาน มายืนเฝ้ากองถ่ายทำไมตั้งนาน? เกะกะทีมงานเค้าไม่รู้ตัวรึไง?”

นั่นปากหรืออะไร เธออยากจะถามเขานัก พอเธอแถเอาสีข้างเข้าถูว่าอยากเห็นงานออกมาเรียบร้อยอย่างที่หวัง เขาก็หาว่าเธอไม่ไว้ใจมืออาชีพอย่างผู้กำกับขึ้นมาทันที จนผู้กำกับหันขวับมามองอย่างคลางแคลงใจ นั่นทำให้คนโดนใส่ความต้องรีบแก้ตัวออกไปว่า ไว้ใจในฝีมือผู้กำกับมากจริง ๆ ก่อนจะขอลากลับตามภควัตน์ที่ตะโกนตามตัวอยู่ยิก ๆ

นี่นอกจากจะทำลายความสุขในชีวิตประจำวันของเธอแล้ว ยังจะมาทำลายช่วงเวลาหวานซึ้งที่เธอจะได้อยู่ดูคุณเควินได้ลงคอ ชาติที่แล้วเจ้านายเธอเกิดเป็นฝอยขัดหม้อรึไง ถึงได้ตามขัดชาวบ้านเค้าซะจริง!

แล้วทั้ง ๆ ที่เธออุตส่าห์เดินตามภควัตน์ออกมาตามความต้องการของเจ้านายเผด็จการแล้วนั้น พอขึ้นรถแล้วสตาร์ทเพื่อขับกลับออฟฟิศ รถเธอกลับสตาร์ทไม่ติด หญิงสาวถึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าเธอลืมปิดไฟหน้ารถ ทำให้รถแบตหมด พอเดินออกไปเพื่อจะขอความช่วยเหลือจากเจ้านายที่จอดรถอยู่ข้าง ๆ กัน เขากลับบอกว่า

“ถ้าคิดว่ารถเสียแล้วจะเนียนติดรถผมไปล่ะก็ เลิกคิดได้เลย หาทางกลับเอาเอง รถผมสำหรับคนสนิทเท่านั้น”

โห เลวมาก แล้งน้ำใจสุด ๆ

“แค่จะขอเชื่อมแบตค่ะ ไม่ได้จะขอติดรถไป”

วรีวาฏิกาพูดแก้ที่เขาเข้าใจผิด แต่น้ำใจที่หวังจะได้จากเขาน่ะเหรอ เธอคงฝันลม ๆ แล้ง ๆ เพราะภควัตน์ตอบกลับมาทันทีว่า

“โทรเรียกช่างสิ ผมมีธุระ”

ก่อนจะขับรถออกไปเฉยเลย

ไอ้คนไม่มีน้ำใจ! พอกันทีพี่พาร์ค! ต่อไปนี้เธอจะลืมความน่ารักที่เขาเคยมีไปให้หมด แล้วยกตำแหน่งศัตรูเบอร์สามในชีวิตรองจากยัยแม่เลี้ยงและพี่สาวใจร้ายให้เขาเอง!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว