เพลิงมารผลาญพิภพ-กินข้าวกันพร้อมหน้า

โดย  พันปักษา อ่านจันทรา

เพลิงมารผลาญพิภพ

กินข้าวกันพร้อมหน้า

ราตรีมาเยือน

ห้องโถงใหญ่ด้านหน้าจวนแม่ทัพให้การต้อนรับแสงจันทร์สว่างเรืองรองด้วยความอบอุ่น
ในห้องโถงกว้างแห่งนี้เวลานี้ นอกจากชุดเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้แดงขัดหยาบหลายตัวแล้ว ยังมีร่างสูงองอาจของชายอีกสองคนเป็นจุดรวมสายตา

หนึ่งนั่ง หนึ่งยืน

หนึ่งวางเฉย อีกหนึ่งเคลื่อนไหว...

ผู้อ่อนวัยกว่ากิริยาก็อ่อนประสบการณ์ตาม เขาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องโถงหลายรอบแล้ว
ดูกระวนกระวายไม่วางเฉยเหมือนอีกหนึ่งบุรุษในชุดสีเทาที่กำลังนั่งเอนกายพิงกรอบประตูอยู่นิ่งๆอย่างไว้เชิง ชายที่ดูมีส่วนสูงตระหง่านดังขุนเขาแลดูสูงโปร่งกว่าชายคนแรก ทว่าเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ดูจริงจังเฉียบคมไม่มีอาการลนลานล้อเล่นปรากฏในสายตาแม้แต่น้อย ...

ซักพักชายที่สูงโปร่งกว่ารูปร่างแข็งแรงกว่าแต่ดูชรามากกว่าก็เดินเข้ามา
แล้วทั้งสองก็รีบเข้ามารับหน้า

"ท่านพ่อ"

แล้วชายผู้นั้นก็พยักหน้าทีหนึ่ง ชายผู้นี้ก็คือเยว่เฟย บิดาของสองหนุ่มที่กำลังรออยู่ในห้องโถงนี่เอง

"สถานการณ์เป็นยังไง"

"เรียนท่านพ่อ สายรายงานมาว่าทางฝั่งเผ่าอสูรมีความเคลื่อนไหวขอรับ" เยว่หง ที่ดูกระวนกระวายรีบรายงานบิดา

"เรียนท่านพ่อ บุตรคิดว่าคงเพราะพวกมันเห็นว่าเมืองเราเวลานี้เกิดโรคระบาด คงถือโอกาศนี้ยกทัพเข้าประชิดเมืองขอรับ" เยว่หยางที่ดูสุขุมกว่าก็วิเคราะห์สถานการณ์ไว้แล้ว

"ข้าจะไปรายงานท่านหัวหน้าเผ่า พวกเจ้าไปสืบต่อ และก็ให้ทหารเตรียมความพร้อมไว้"

"ขอรับ"

แล้วทั้งสามก็แยกย้ายกันไปคนละทาง

เมืองไร้เนินเกิดโรคระบาดผู้คนล้มตายมากมาย หลายวันมานี้มีแต่ควันที่ลอยคละคลุ้งอยู่เต็มท้องฟ้า ควันเหล่านั้นก็คือควันที่เกิดจากการเผาศพ ทางฝั่งเผ่าอสูรก็จ้องสังเกตุการณ์มานานคิดว่าเวลานี้ เป็นเวลาที่เหมาะแล้วที่จะยกทัพประชิดเมือง และเข้ายึดเมืองไร้เนินแห่งนี้เป็นอาณานิคมของเผ่าอสูรหรือขยายดินแดนต่อไป

ณ กองบัญชาการ ทัพกลางอสูร เผ่าอสูร ทวีปลมปราณวารี

บนแท่นสูงสองวา ยืนไว้ด้วยแม่ทัพหนุ่มอสูรรุ่นใหม่ หวังซุ่น ใส่ชุดเกราะเกล็ดหมาป่า บนบ่าทั้งสองข้างมีหนามแหลม บนชุดเกราะถักลายคล้ายเกล็ดมังกร เกราะบนหน้าอกหล่อเป็นรูปหัวเสือ ถือไว้ด้วยดาบใหญ่มีความยาว 3 ใน 4 ของความสูงผู้ถือ กำลังร้องตะโกนปลุกอารมณ์ทหารอสูรที่ยืนตั้งแถวอยู่เบื้องล่าง

"เหล่าบรรพชนของพวกเรา ถูกพวกมนุษย์กดขี่มานานนับพันนับหมื่นปี ถูกล่าและฆ่าอย่างป่าเถื่อน"

"พ่อแม่พี่น้องพลัดพราก ลูกพลัดพ่อแม่ ภรรยาพลัดสามี "

"การยกทัพครั้งนี้พวกเราจะแก้แค้นให้กับพ่อแม่พี่น้องของเราที่ตายลงไป
บรรพชนของพวกเราที่ตายอย่างไม่เป็นธรรม"

"เวลานี้ เราจะฆ่ามัน กำหลาบมัน และยึดครองสิ่งที่เป็นของพวกมันมาเป็นของพวกเรา
ตอบแทนพวกมันอย่างสาสม เพื่อปลอบขวัญวิญญาณดวงวิญญาณผู้ล่วงลับเหล่านั้น ช่วงเวลาที่เหล่าอสูรอย่างพวกเราจะแก้แค้นมาถึงแล้ว!..."

แล้วเหล่าทหารอสูรที่สวมชุดเกราะดำ สวมหมวกมีเขาแหลม ที่ตั้งแถวอยู่เบื้องล่างก็ยกอาวุธชูขึ้น

"ฆ่า ฆ่า ฆ่า" ร้องด้วยเสียงอันดังกึกก้องออกมาพร้อมกัน สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน

ซักพักก็ได้ยิดเสียงเป่าหวูด "หวูดดด" เสียงยาวๆ

"เคลื่อนทัพ!"

ผู้ที่ยืนอยู่บนแท่นส่งเสียงดังหนักๆก้องกังวาล ออกคำสั่งทีหนึ่ง แล้วทั้งหมดก็กลับหลังหัน วิ่งเป็นแถวเป็นแนวออกไป

เสียงตบเท้าและฝุ่นดิน นำมาซึ่งแถวทหารอสูรรูปร่างสูงใหญ่ที่น่ายำเกรง วิ่งเป็นแถวสีดำยาวๆคล้ายแถวของมดงานตอนนี้ได้รับคำสั่งให้เริ่มทำงานแล้ว


ภายในกระโจมสั่งการทัพอสูร กองบัญชาการส่วนหน้า

"ท่านอ๋อง!" เจี่ยเวิ่นผู้เป็นกุนซือ ของหนิงอ๋อง ได้เดินเข้ามาทำความเคารพ

"สถานการณ์เป็นยังไง" คนผู้นี้ก็คือหนิงอ๋อง ได้ถูกแต่งตั้งจากบิดาผู้เป็นหัวหน้าเผ่าอสูรที่ตั้งตนเป็นราชาอสูร ให้ชื่อว่าอ๋องหนิงปราบบูรพาเป็นผู้นำทัพเข้าโจมตีเมืองไร้เนินในศึกครั้งนี้

"ทูลท่านอ๋อง เมืองไร้เนินเวลานี้โรคระบาดได้ถูกรักษาได้หมดแล้วพะยะค่ะ"

"ว่าต่อไป" หนิงอ๋อง ชำเหลืองตามองกุนซือแวบหนึ่งแล้วดูแผนที่ทางทหารบนโต๊ะต่อ

"บุตรเขยของหัวหน้าเผ่าเมฆาเหิน ได้เป็นผู้คิดค้นวิธีรักษาและรักษาชาวเมืองหายขาดจากโรคระบาดได้ทั้งหมดแล้วพะยะค่ะ"

"บุตรเขย ที่ได้ยินว่าเป็นคนไม่เอาไหน อยู่แค่ในขั้นปฐพีผู้นั้นรึ"

"พะยะค่ะ" กุนซือตอบแล้วค้อมตัวลงเล็กน้อย

"คนตาบอดย่อมมีหูดีสินะ" (เปรียบดังคนที่ด้อยอีกอย่างแต่ดีอีกอย่าง : ผู้แต่ง)

"หม่อมฉันยังสืบทราบมาว่า ภรรยาของมันหรือบุตรีของหัวหน้าเผ่าก็เดินทางมาด้วย
พร้อมทั้งอนุของมันที่เป็นบุตรีของแม่ทัพเยว่เฟยผู้บัญชากองกำลังป้องกันเมืองก็มาด้วย"

"ประเสริฐ! นับเป็นข่าวดี เจ้าจงไปคัดเลือกผู้มีฝีมือ ไปจับตัวพวกมันทั้งสามคนมา"

"ท่านอ๋องคิดจะ..."

"ข้าจะให้พวกมันเป็นตัวประกันและถือเป็นแผนสำรองในการศึกครั้งนี้" พูดเสร็จก็หันมามองที่ปรึกษาแล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย

"หม่อมฉันจะรีบดำเนินการ พะยะค่ะ"

อ๋องหนิงโบกมือวูบหนึ่ง แล้วเจี่ยเวิ่นก็ล่าถอยออกไป...

*********************************************************

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว