۞Destiny My Love۞พรหมลิขิต บันดาลรัก 25+-ตอนที่ 18 แหวนดอกไม้ Nc18+

โดย  ขุมมิเนะ

۞Destiny My Love۞พรหมลิขิต บันดาลรัก 25+

ตอนที่ 18 แหวนดอกไม้ Nc18+


สายลมเย็นในยามเช้าตรู่พัดกระทบเบา ๆ เข้ากับใบหน้าคมของเบียคุยะที่กำลังนั่งมองท้องฟ้ากว้างใหญ่ผ่านหน้าต่างในห้องนอนของตน เขาคิดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เหลือเวลาอีกไม่มากที่ลูเคียจะต้องตัดสินใจเรื่องแต่งงาน เขาควรจะทำเช่นไรดี... คิดแล้วถอนหายใจเชื่องช้า เบือนหน้าไปอีกทางก่อนจะเดินออกจากห้อง มุ่งไปยังห้องอาหารที่อยู่ไม่ไกลนัก

เบียคุยะเดินเข้าไปในห้องอาหารก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อปกติแล้วในเวลานี้ ลูเคียควรจะนั่งที่นี่อยู่ก่อนแล้ว ความรู้สึกที่กลัวว่าจะสูญเสียคนตัวเล็กไปอีกคราทำให้หัวใจของเขาร้อนรนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

ร่างสูงเดินออกไปจากห้องในทันทีก่อนที่ขาเรียวจะหยุดลงตรงหน้าห้องนอนของลูเคียที่ประตูนั้นถูกปิดสนิทอยู่ มือแกร่งยกขึ้นไปเคาะประตูสองสามทีเบา ๆ และเมื่อไร้ซึ่งเสียงตอบรับ คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันน้อย ๆ เบียคุยะเลื่อนบานประตูให้เปิดออกอย่างรวดเร็ว

ฟูกนอนที่ถูกพับเก็บอย่างเรียบร้อยรวมทั้งบรรยากาศของห้องที่เย็นชืดทำให้สายตาคมสั่นคลอนเล็กน้อย เขาเลื่อนบานประตูให้ปิดลง ทันใดนั้นเอง สาวใช้คนสนิทของร่างบางที่กำลังเดินมาทางนี้ก็ทำให้ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว และนั่นก็ทำให้หญิงสาวรีบนั่งลงบนพื้น

"ลูเคียไปไหน" ถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนเล็กน้อย หญิงคนใช้กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะเอ่ย

"คุณหนูบอกว่ามีธุระสำคัญ ก็เลยไปที่บ้านของตระกูลชิบะตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ" คำพูดนั้นทำให้หัวใจของเขาเจ็บวาบ ความขุ่นเคืองก่อตัวขึ้นมาในอกแกร่งอย่างไม่อาจควบคุม ใบหน้าคมสะบัดหนีไปทางอื่นในทันทีก่อนที่ร่างสูงจะเดินกลับไปยังห้องอาหารด้วยอารมณ์โทสะที่เริ่มก่อสุมอยู่ในอก


เวลาผ่านไปจนคล้อยบ่าย เบียคุยะที่กำลังนั่งคัดอักษรอยู่ในห้องหนังสือนั้น จู่ ๆ ความคิดถึงร่างเล็กก็ตีรั้งขึ้นมาจนทำให้เขาไม่อาจเพ่งสมาธิกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกต่อไปได้ มือแกร่งวางพู่กันที่ชุ่มหมึกสีดำลงช้า ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาวพร้อมกับหลับตาลงข่มหัวใจที่ทุกข์ทนให้คลายตัว แต่ทันใดนั้นเอง เสียงหวานที่แสนร่าเริงของคนตัวเล็กก็ดังแว่วเข้ามากระทบกับโสตประสาท

"ว่าไงนะคะ" เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเบา ๆ ตามหลัง และนั่นก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาในทันทีก่อนจะหันมองไปตามเสียงของร่างบางที่ดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง

"ทำไมล่ะคะ... ถ้าเป็นข้าคงไม่ทำเช่นนั้นแน่" เบียคุยะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องในทันทีด้วยหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เสียงหัวเราะหวานใสดังขึ้นมาอีกครั้ง

เขาเดินออกมายืนตรงบริเวณชานบ้านก่อนจะมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบใครเลยนอกจากสาวใช้สองสามคนที่กำลังเดินไปมาอยู่นอกตัวคฤหาสน์

"ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย" เสียงหวานที่ดังขึ้นอีกทำให้ร่างสูงสายตาสั่นคลอนเล็กน้อย ความคิดถึง อยากเจอคนตัวเล็กทำให้หัวใจของเขาถูกบีบลงด้วยมือที่มองไม่เห็น หญิงคนใช้สองสามคนที่เดินออกมาจากห้องนอนของลูเคียทำให้เขาก้าวเท้าตรงไปยังห้องนอนของคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว

ร่างสูงที่เดินมาด้วยสีหน้าที่จริงจังทำให้หญิงคนใช้ต่างรีบนั่งลงกับพื้น เบียคุยะเดินผ่านพวกเธอไปก่อนจะเลื่อนบานประตูห้องนอนของลูเคียให้เปิดออกจนมันเกิดเสียงดังปึง และนั่นก็ทำให้หญิงคนใช้ที่กำลังจะลุกขึ้นยืนต่างนั่งตัวแข็งทื่อ

เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นของลูเคียที่เหมือนจะเบากว่าเมื่อครู่ทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันในทันที ใบหน้าคมหันขวับไปยังคนใช้ทั้งสองก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียวเล็กน้อย

"ลูเคียอยู่ที่ไหนกัน ข้าได้ยินเสียงนางเมื่อครู่" คำถามนั้นทำให้หญิงสาวโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ

"คุณหนูอยู่ในสวนเจ้าค่ะ ท่านเบียคุยะ" คำตอบนั้นทำให้ร่างสูงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่เขาก็มองไปที่สวนหย่อมแล้วแต่กลับไม่พบผู้ใด หญิงคนใช้เมื่อเห็นว่าร่างสูงนิ่งเงียบ เธอก็เอ่ยต่อ

"คุณหนูนั่งเล่นอยู่กับท่านชิบะ ไคเอ็น ริมลำธารข้างกับโขดหินใหญ่ ไม่ทราบว่าท่านเบียคุยะ..." ไม่ทันเอ่ยจบ เบียคุยะก็สะบัดตัวไปอีกทางพร้อมกับเดินไปยังส่วนของคฤหาสน์ที่เชื่อมต่อกับสวนหย่อมในทันที

ร่างสูงที่สวมรองเท้าสานสีเข้มเดินย่ำไปบนต้นหญ้าสั้น ๆ ที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ เสียงน้ำของลำธารที่ไหลเอื่อยดังสลับกับเสียงหวานที่ดังขึ้นเบา ๆ อย่างอารมณ์ดีของคนตัวเล็กทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

"จริงสิ... คืนนี้เจ้าจะไปที่งานเลี้ยงใช่ไหม" เสียงทุ้มของไคเอ็นที่เอ่ยถามทำให้เบียคุยะนึกขึ้นได้ถึงงานเลี้ยงประจำฤดูของสิบสามหน่วยพิทักษ์ที่จะจัดขึ้นในคืนวันนี้ เสียงของลูเคียที่เงียบไปทำให้ร่างสูงรีบเดินมาหยุดอยู่ที่โขดหินใหญ่ก่อนจะเห็นว่ามือแกร่งของไคเอ็นนั้นกำลังยกขึ้นไปทัดเส้นผมหอมของคนตัวเล็กที่บัดนี้แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย

สายตาของทั้งคู่ที่มองกันนั้นทำให้หัวใจของร่างสูงเจ็บวาบรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หอกดาบแหลมคมเสียดแทงเข้ากลางอก ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน สายตาคู่นั้นที่เคยมองแต่เขา บัดนี้มันถูกเอาไปใช้มองคนอื่นแล้วใช่ไหม

..เจ็บจนหัวใจแทบจะขาดลง..

เบียคุยะที่ทนมองไม่ได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

"ทำอะไรกันอยู่มิทราบ" ทั้งคู่สะดุ้งเบา ๆ ด้วยความตกใจก่อนจะหันมามองเขาที่ยืนอยู่ในทันที ลูเคียขยับตัวออกห่างจากไคเอ็นเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามนั้นโดยที่ดวงตากลมโตไม่มองเขาเลยแม้เพียงนิด

"ข้าชวนท่านไคเอ็นมาเองค่ะท่านพี่... คืนนี้มีงานเลี้ยง ท่านไคเอ็นก็เลยอยากเข้างานพร้อมกับข้า" คำพูดที่เหมือนกับมีดแหลมคมถูกส่งไปให้ร่างสูง มันเชือดเฉือนลงที่กลางใจอย่างไม่ปราณี แล้วเขาล่ะ... เขาเองก็ต้องไปที่งานเช่นกันมิใช่หรือ...

สายตาคมสั่นคลอนเล็กน้อยกับน้ำคำที่ทำให้ช้ำใจ หัวใจเจ็บปวดรวดร้าวกับท่าทางที่เย็นชาเหลือเกินของร่างเล็ก ลูเคียหยิบขนมบนจานขึ้นมาทานโดยที่ยังคงไม่ชายตามองเขาเลยแม้เพียงนิด

..ราวกับเป็นอากาศธาตุ..ไม่มีตัวตน..

ไคเอ็นยิ้มบางเมื่อเห็นลูเคียที่กำลังทานขนมด้วยท่าทางที่ดูน่าเอ็นดู เขาหันมาหาเบียคุยะที่บัดนี้ร่างสูงกำลังยืนมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่สั่นคลอนก่อนจะเอ่ยถาม

"ได้ยินลูเคียบอกว่าหัวหน้าคุจิกิไม่ค่อยชอบงานสังสรรค์ ข้าก็เลยกลัวว่าลูเคียจะเหงา ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวข้าจะดูแลนางให้เอง" เอ่ยพร้อมกับหันไปยิ้มให้คนตัวเล็ก คำพูดนั้นทำให้หัวใจของเบียคุยะสุมขึ้นดั่งไฟเผา หน้าที่ของเขาไม่ต้องให้ใครมาช่วยทำ

"เกรงว่าคงไม่เป็นไร... เพราะคืนนี้ข้าเองก็จะไป" เอ่ยพร้อมกับสะบัดหน้าหนีพร้อมกับเดินออกไปจากที่ตรงนั้นในทันที ลูเคียที่ได้ยินดังนั้น ดวงตากลมโตก็วาบขึ้นน้อย ๆ

เบียคุยะที่เดินหันหลังจากไปราวกับไม่พอใจนักทำให้ร่างบางมองตามหลังแกร่งด้วยสายตาที่หม่นลงต่างจากเมื่อครู่อย่างลิบลับ ท่านพี่ยังคงเป็นคนที่เดาใจยากเหมือนดั่งเคย แต่ถึงกระนั้น หัวใจของเขาก็ไม่มีที่ว่างเหลือให้สำหรับเธออีกต่อไปแล้ว และนั่นก็เป็นความจริงที่เธอจะต้องยอมรับมัน...

หัวใจที่หน่วงขึ้นมาพร้อมกับเจ็บวาบด้วยความบอบช้ำทำให้เรี่ยวแรงแทบหดหาย ศีรษะเล็กค่อย ๆ ซบลงบนบ่ากว้างของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกาย มือแกร่งยกขึ้นมาลูบเส้นผมหอมอย่างแผ่วเบา พร้อมกันนั้น ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องลึกก็ค่อย ๆ หลับลงอย่างช้า ๆ


- งานเลี้ยงประจำฤดูกาล -

"งานเลี้ยง! งานเลี้ยง!" เสียงของเคียวราคุ ซุนซุย หัวหน้าของหน่วยที่แปดเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นพร้อมกับในมือที่ถือขวดเหล้าไปด้วย เขาร้องรำทำเพลงพร้อมกับคว้าคอของอิกคาคุที่หน้าแดงก่ำมากอดแล้วร้องเพลงไปด้วยกัน

บรรยากาศของงานเลี้ยงในวันนี้ดูครึกครื้นเป็นพิเศษ ลูเคียที่นั่งติดอยู่กับไคเอ็นนั้นทำให้เบียคุยะแอบชำเลืองมองทั้งคู่เป็นระยะด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองแต่ใบหน้าคมนั้นยังคงเรียบเฉยเป็นปกติ

ลูเคียที่ยิ้มพร้อมกับหัวเราะสนุกสนานทำให้ไคเอ็นรู้สึกเอ็นดูคนตัวเล็ก มือแกร่งยกขึ้นไปขยี้หัวของร่างบางและนั่นก็ทำให้ร่างเล็กหัวเราะดังขึ้น มือนุ่มตีเบา ๆ เข้าที่ไหล่กว้างราวกับเป็นการลงโทษคนชอบแกล้ง การหยอกล้อกันของคนทั้งคู่ที่มีแต่ความสดใส สร้างความขุ่นเคืองใจให้ใครบางคนที่กำลังมองอยู่มาตลอดยิ่งนัก

เสียงชวนชนแก้วดังขึ้นพร้อมกับทุกคนที่พร้อมใจกันยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วดื่มแอลกอฮอล์สีเข้มเข้าไปรวดเดียวจนหมด ความเงียบเกิดขึ้นเพียงชั่ววินาทีก่อนเสียงร้องเพลงจะดังขึ้นมาอีกครั้ง สลับกับเสียงหัวเราะสนุกสนานของเหล่ายมทูตที่ดูก็รู้แล้วว่าคืนนี้พวกเขาตั้งใจมาปลดปล่อยความเครียดกันเต็มที่

เวลาเนิ่นนานผ่านไปจนถึงช่วงกลางดึก ยังคงมียมทูตบางคนที่นั่งเสวนากันอยู่ที่เดิม ส่วนอีกหลายคนนั้นต่างนอนแผ่หราหมดสภาพบนพื้น ลูเคียที่ยังคงประคองสติได้ดียกแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ก่อนจะขำออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นยาจิรุ เด็กน้อยตำแหน่งรองหัวหน้าของหน่วยที่สิบเอ็ดกำลังขัดหัวเหม่งของอิกคาคุที่นอนแผ่หราหมดสภาพอยู่บนสนามหญ้าด้วยความเมามาย พลางปากเล็กที่เอ่ยฉายาแปลก ๆ ของเขาไปด้วย อิกคาคุที่สลึมสลือนั้นทำให้ร่างบางขำพรืด

แต่ทันใดนั้นเอง ไหล่เล็กก็โดนสะกิดเบา ๆ ใบหน้าหวานหันไปมองในทันทีก่อนจะเจอเข้ากับไคเอ็นที่ยืนยิ้มบางอยู่ด้านหลัง เขาชี้ขวดเหล้าที่ถืออยู่ในมือของตนแล้วเพยิดหน้าไปที่ต้นไม้ใหญ่บนเนินเขาที่อยู่ไม่ไกลเป็นเชิงบอกว่าให้ไปทางนู้นกัน

ลูเคียพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแล้วลุกขึ้นตามไปอย่างว่าง่าย เบียคุยะเห็นดังนั้น คิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นมาในอกแกร่งก่อนมือหนาจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพร้อมสายตาคมที่มองตามหลังคนทั้งคู่ไปด้วยหัวใจที่เจ็บหน่วง

สายลมอ่อนโยนพัดกระทบเข้ากับใบหน้าสวย ลูเคียยิ้มบางพลางดวงตากลมโตที่มองไกลไปสุดขอบฟ้าไกล ไคเอ็นรินเหล้าลงในแก้วทรงต่ำก่อนจะยกให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกัน เสียงชนแก้วดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับคนทั้งคู่ที่เงยหน้าขึ้นมองดูดวงดาวบนท้องฟ้ากว้างที่เปล่งประกายระยิบระยับ สายลมเย็นพัดผ่านมาอีกระลอก ทันใดนั้นเอง เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบงัน

"คิดถึงข้าล่ะสิ" สิ้นเสียง ลูเคียก็หันมามองด้วยแววตาที่ดูแปลกใจเล็กน้อย นัยน์ตาสีเข้มของคนตัวเล็กสบเข้ากับนัยน์ตาอ่อนโยนของร่างสูงที่จ้องตอบกลับ ไคเอ็นยิ้มบางให้กับเธอก่อนจะหันมองไปยังท้องฟ้ากว้างใหญ่แล้วเอ่ยต่อ

"หมายถึงข้าตัวจริง... คนที่อยู่บนฟ้านั่น" สิ้นเสียง หัวใจดวงน้อยก็สั่นไหว ความเจ็บช้ำกับเรื่องในอดีตทำให้ลูเคียไม่ตอบอะไร ความเงียบเกิดขึ้นไปทั่วบริเวณ ร่างบางลดสายตาต่ำลงแล้วยิ้มออกมาน้อย ๆ

"ข้าชอบตอนนี้" เอ่ยออกมาสั้น ๆ ด้วยรอยยิ้มจางบนใบหน้าสวย ไคเอ็นได้ยินดังนั้น เขาก็หัวเราะหึก่อนจะยกมือขึ้นไปขยี้หัวของคนตัวเล็กเหมือนที่เขาชอบทำ เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากร่างบางได้ไม่ยาก

เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง ไคเอ็นวางแก้วเหล้าของตนลงก่อนจะเอ่ย

"คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของข้า" เอ่ยเสร็จ เขาก็หันไปหาคนตัวเล็ก ท่าทางของลูเคียที่ดูไม่ตกใจนั้นทำให้ไคเอ็นรู้สึกเบาใจลงอย่างน่าประหลาด เขาถอนหายใจออกมาน้อย ๆ สายตาคมมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก

"ข้าดีใจที่ทำให้เจ้ามีความสุขแม้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ต่อจากนี้ไป ข้าก็หวังว่าเจ้าจะมีความสุข" สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่าน มือแกร่งยกขึ้นไปลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน

"เบียคุยะคงจะดูแลเจ้าสุดความสามารถที่มี" สิ้นเสียง ลูเคียก็ยิ้มเจื่อน ดวงตากลมโตลดลงต่ำลงไปยังพื้นหญ้าด้านหน้าที่พลิ้วไหวน้อยๆ จากแรงลมก่อนจะเอ่ยตอบพร้อมฝืนยิ้ม

"ท่านพี่เบียคุยะ... รักพี่หญิงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดในโลกใบนี้" พูดแล้วขอบตาสวยก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม ไคเอ็นมองคนตัวเล็กด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะหันมายิ้มให้กับเขาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูมีความสุขขึ้นเล็กน้อย

"อีกไม่นานข้าจะแต่งงาน ท่านไคเอ็นไม่ต้องเป็นห่วง... ข้าจะมีความสุข" เอ่ยออกมาทั้งๆ ที่แววตานั้นเต็มไปด้วยความทุกข์ทน ไคเอ็นที่มองคนตัวเล็กออกว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเช่นไรถอนหายใจออกมาเบาๆ

"เจ้าคิดเหรอว่าเบียคุยะจะยอมง่ายๆ อย่าว่าแต่เบียคุยะเลย... ขนาดข้าเห็นสีหน้าของเจ้าตอนนี้ยังเดาออกเลยว่าเจ้าโกหกทั้งเพ" สิ้นเสียง ลูเคียก็นิ่งเงียบ ปล่อยให้น้ำตาที่ปริ่มขึ้นมาถูกสายลมพัดเบาๆ จนจางหายไป

ดวงตาคมของไคเอ็นมองไปยังคนตัวเล็ก มือแกร่งค่อยๆ แตะลงบนบ่าอย่างแผ่วเบาและนั่นก็ทำให้ร่างบางหันไปมอง ร่างสูงยิ้มบาง เอ่ยเสียงนุ่มนวล

"ถามใจตัวเองสิว่าอยู่กับใครแล้วเจ้าจะมีความสุขไปตลอดชีวิต" เอ่ยเสร็จ อณูวิญญาณก็ค่อยๆ แตกสลายลอยออกจากร่าง ลูเคียที่เห็นดังนั้น ความเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมากลางใจในทันที ขอบตาสวยร้อนผ่าวอย่างไม่อาจควบคุม น้ำตาเม็ดโตร่วงผล็อยลงบนแก้มขาว

"ท่านไคเอ็น..." เอ่ยเรียกเสียงแหบพร่าด้วยใจที่ปวดร้าวจนแทบจะขาดลง ไคเอ็นเห็นดังนั้น เขาก็ยกมือที่ใกล้จะจางหายไปทุกขณะขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้กับคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดประโยคสุดท้ายออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจด้วยเสียงแผ่วกระซิบ

"ขอโทษที่เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้" เพียงเท่านั้น ร่างบางก็ปล่อยโฮ แววตาคมมองดูร่างบางด้วยแววตาเศร้าลึก

"ข้าขอโทษนะ" สิ้นเสียง ลูเคียที่น้ำตาไหลพรากก็โผตัวเข้ากอดร่างสูงในทันที แต่สิ่งที่คว้าเอาไว้ได้นั้นมีเพียงแต่อณูวิญญาณสีอ่อนที่ลอยฟุ้ง

ความเจ็บปวดกรีดลงที่กลางใจลึกลงต้นขั้วหัวใจที่บอบช้ำ ความสูญเสียที่ได้รับมันช่างทรมานเกินกว่าจะทัดทาน เจ็บปวดร้าวรานจนแทบจะขาดใจ ร่างบางสะอื้นไห้ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ

"แต่ท่านพี่... ไม่รักข้า..." ตอบคำถามของไคเอ็นกับตัวเองแล้วสะอื้นเบา ๆ แต่ทันใดนั้นเอง ไหล่เล็กก็อุ่นวาบขึ้นด้วยมือแกร่งที่แตะลงอย่างแผ่วเบา จากทางด้านหลัง กลิ่นกายหอมอ่อนที่คุ้นเคยทำให้เธอจดจำเขาได้ในทันที แต่ก่อนจะทันได้คิดอะไร ร่างเล็กที่กำลังสะอื้นสั่นก็จมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอเฝ้าคิดถึงเสียแล้ว



เบียคุยะที่กำลังร้อนรนปฏิเสธเหล้าที่หยิบยื่นจากเคียวราคุเป็นรอบที่ห้าของคืนนี้ เคียวราคุที่เมากรึ่มได้แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้งอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปยังอิกคาคุที่ยังคงสลบเหมือดอยู่บนพื้นก่อนจะเอ่ยเรียกเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่อาจทราบได้ เบียคุยะที่ไม่สนใจสิ่งรอบกายนั้นได้แต่นั่งอยู่ที่เดิม

ความจริงแล้วเวลานี้เขาควรจะขอตัวกลับไปแล้วด้วยซ้ำ แต่บัดนี้จิตใจที่ว้าวุ่นนั้นเอาแต่ทำให้เขามองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ยืนอยู่ต้นเดียวบนสุดเนินเขาไกลลิบโดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน เสียงของมัตสึโมโตะที่กำลังวิ่งไล่กอดหัวหน้าของเธอดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของงานเลี้ยง ยิ่งดึกก็ยิ่งวุ่นวาย ยิ่งว้าวุ่นใจ เพราะสองคนนั้นไม่ยอมกลับมาเสียที

สิ้นสุดความอดทน ร่างสูงตัดสินใจลุกขึ้นในทันทีก่อนจะเดินออกไปจากงานเลี้ยง มุ่งตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ใบของมันกำลังพลิ้วลู่สายลมเย็นยามค่ำคืน

"อีกไม่นานข้าจะแต่งงาน ท่านไคเอ็นไม่ต้องเป็นห่วง... ข้าจะมีความสุข" เสียงที่ได้ยินทำให้เบียคุยะที่เดินมาถึงด้านหลังของต้นไม้ใหญ่เจ็บวาบเข้าตรงกลางใจอย่างไม่อาจเหนี่ยวรั้ง สายตาคมลดต่ำลงในทันที ความเงียบเกิดขึ้นไปทั่วบริเวณ

"ถามใจตัวเองสิว่าอยู่กับใครแล้วเจ้าจะมีความสุขไปตลอดชีวิต" คำถามของไคเอ็นทำให้เบียคุยะพิงหลังลงกับต้นไม้อย่างอ่อนแรง ต่อให้ร่างบางต้องไล่รายชื่อชายหนุ่มทั่วทั้งเซย์เรย์เทย์ ก็คงจะไม่มีเขาปรากฏขึ้นมาในรายชื่อเหล่านั้นอย่างแน่นอน

ร่างสูงยืนเหม่อมองไปยังขอบฟ้าไกลลิบ ความจริงที่ว่าลูเคียไม่ได้รักเขาอีกต่อไปยิ่งตอกย้ำให้หัวใจเจ็บปวดจนแทบจะขาดลงตรงนั้น เสียงสะอื้นของลูเคียที่ดังแผ่วมาตามสายลมทำให้ดวงตาคมวาบขึ้นด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน ความเงียบเกิดขึ้นชั่วครู่ก่อนที่เสียงแผ่วจะดังแว่วมา

"แต่ท่านพี่... ไม่รักข้า..."

ราวกับโดนฟ้าผ่าลงมากลางใจ เบียคุยะที่ได้ยินคำพูดนั้นยืนแน่นิ่งไปราวกับถูกสะกด แต่ก่อนที่สมองจะได้คิดหาเหตุผลมากมายมาห้ามตนเองไม่ให้กระทำการผลีผลาม ร่างกายก็ถูกหัวใจสั่งให้ก้าวออกไปในทันที

มือแกร่งแตะสัมผัสลงที่บ่าเล็กของร่างบางที่กำลังสั่นเทิ้มน้อย ๆ จากแรงสะอื้นไห้ แขนแข็งแรงโอบกอดร่างบอบบางตรงหน้าให้เข้ามาในอ้อมกอดเอาไว้ดั่งใจปรารถนา หัวใจเย็นชาที่ตอนนี้มันเจ็บปวดรวดร้าวไม่แพ้กันทำให้เขาพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง
"ใครบอกเจ้าแบบนั้นกัน" เพียงแค่ได้ฟัง หัวใจดวงน้อยก็เจ็บวาบด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น ขอบตาคมร้อนผ่าว ร่างสูงซุกจมูกโด่งลงกับศีรษะของคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างหาที่สุดมิได้

"ข้าขอโทษ..." หัวใจดวงน้อยเจ็บวาบกับคำพูดนั้นแทบจะในทันที น้ำตามากมายไหลพรั่งพรูด้วยความปวดร้าวที่กรีดลึก มือเล็กกอดร่างสูงเอาไว้แน่น

"ท่านพี่ใจร้าย ข้า... เสียใจมาก.. ฮึก" สิ้นสุดคำพูด ร่างสูงก็กอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้นราวกับเป็นการบอกว่าจะไม่มีอีกแล้วที่เขาจะยอมปล่อยให้เธอเสียใจอีก ร่างบางที่สะอื้นอยู่ในอ้อมกอดทำให้ร่างสูงบรรจงจูบลงบนศีรษะเล็กก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า

"ข้าขอโทษ... วันนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าไม่อาจ... เสียเจ้าไปอีก" สิ้นเสียง ร่างเล็กก็ปล่อยโฮ ความเจ็บปวดวาบขึ้นในหัวใจจนรู้สึกเจ็บ อ้อมกอดอบอุ่นที่โหยหา บัดนี้มันทำให้หัวใจที่บอบช้ำจากรอยแผลค่อยๆ จางหาย ใบหน้าหวานซบลงกับอกแกร่งก่อนจะสะอื้นจนตัวโยน มือหนายกขึ้นไปลูบเส้นผมหอมพร้อมเสียงทุ้มที่เอ่ยด้วยความรู้สึกผิดที่ยังคงตีรั้งขึ้นมาไม่หยุด

"เรื่องของฮิซานะ ข้าช่างโง่เขลา... ปล่อยให้สิ่งที่ไม่มีจริงมาชักจูงความรู้สึก... ข้าขอโทษ" ได้ยินดังนั้น ร่างบางก็น้ำตาไหลพรากลงอีกคราอย่างเงียบ ๆ อ้อมกอดอบอุ่นที่แผ่ซ่านปลอบประโลมจิตใจให้ฟื้นคืนจากความบอบช้ำ

ร่างบางกอดร่างสูงเนิ่นนาน ใบหน้าหวานซบนิ่งพร้อมกับในหัวที่คิด ทบทวนเรื่องแต่งงานก่อนจะผละตัวออกเบา ๆ ในที่สุด ร่างเล็กเงยขึ้นไปสบสายตาของร่างสูง ความอบอุ่นและความรู้สึกผิดที่เต็มเปี่ยมอยู่ในนัยน์ตาสีเทาคู่นั้นทำให้ร่างเล็กอึกอักเล็กน้อย

"ท่านพี่คะ... เรื่องแต่งงาน ข้าคิดว่า..." ไม่ทันจะได้เอ่ยจนจบ ริมฝีปากอุ่นก็ทาบทับลงมาเสียก่อน ร่างสูงกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่น จุมพิตอ่อนโยนส่งมอบความรักและคิดถึงเสียยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลกใบนี้ให้คนตัวเล็กได้รับรู้ ริมฝีปากอุ่นที่ค่อยๆ ผละออกทำให้ดวงตากลมโตลืมขึ้นอย่างช้าๆ ลูเคียที่สายตาสั่นระริกทำให้มือแกร่งยกขึ้นไปลูบแก้มนิ่มแล้วดันปอยผมให้ขึ้นไปทัดใบหูเล็ก สายตาคมที่เว้าวอนมองคนตัวเล็กที่บัดนี้แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อน้อย ๆ

"ข้ารักเจ้า" เสียงกระซิบเอ่ยบอกอ่อนโยนให้คนที่เป็นเหมือนดั่งดวงใจฟังอีกเป็นครั้งที่สอง และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบจนรู้สึกเจ็บ จู่ๆ น้ำตาใสก็รื้นขึ้นมาคลอเบ้าอย่างไม่อาจควบคุม หัวใจดวงน้อยชื้นขึ้นมาอย่างท่วมท้นเมื่อบัดนี้ร่างสูงหันไปดึงดอกหญ้าข้างกายขึ้นมาก่อนจะม้วนก้านเรียวให้กลายเป็นแหวนวงสวย ร่างบางเห็นดังนั้นก็ขำออกมาทั้งน้ำตา

เบียคุยะที่ยิ้มบางเอื้อมมือไปสัมผัสนิ้วเรียวของร่างเล็กเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ สวมแหวนดอกไม้ให้แก่เธอ น่าแปลกเหลือเกินที่ดอกหญ้าอันแสนไม่มีค่ากลับกลายเป็นสิ่งที่มีค่าต่อจิตใจมากเสียจนหาที่เปรียบมิได้

ร่างเล็กน้ำตาร่วงผลอยลงก่อนจะโผตัวเข้ากอดร่างสูงอีกครั้งด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขจนเปี่ยมล้น คางมนถูกเชยเบาๆ ให้เงยขึ้นไปสบตาของคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ นัยน์ตาสีเทามองลึกเข้าไปยังดวงตากลมโตที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาใส ส่งมอบความรักและความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้คนตัวเล็กได้รับรู้ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยกระซิบอย่างนุ่มนวล

"แต่งงานกับข้านะ" สิ้นเสียง น้ำตาใสก็รื้นขึ้นมาคลอเบ้า หัวใจดวงน้อยหวิวขึ้นอีกคราเมื่อริมฝีปากอุ่บทาบทับสัมผัสลง

ดวงจันทร์ลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้ากว้างใหญ่ สายลมอ่อนโยนพัดกระทบเข้ากับร่างของทั้งสองคนที่กอดกันแน่น หัวใจที่บอบช้ำของคนทั้งคู่ถูกเยียวยาอีกครั้งด้วยความรักและการให้อภัย ที่ไม่ว่าหัวใจจะเคยถูกทำให้เจ็บช้ำหนักหนาสาหัสสักเพียงใดก็มิอาจแตกสลายลง



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว