۞Destiny My Love۞พรหมลิขิต บันดาลรัก 25+-ตอนที่ 7 มาเพื่ออ่อย

โดย  ขุมมิเนะ

۞Destiny My Love۞พรหมลิขิต บันดาลรัก 25+

ตอนที่ 7 มาเพื่ออ่อย


"อ๊ะ..."

ร่างบางหยุดกึกพร้อมกับดวงตากลมโตที่สั่นระริกเสียงแผ่วเบาที่แว่วเข้ามาในหูทำให้ร่างกายทั้งหมดแข็งทื่อ

"อือ..อ..ท่านเบียคุยะ"

เสียงแว่วแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ น่าแปลกใจเหลือเกินที่ร่างบางได้ยินมันอย่างชัดเจน หัวใจของคนตัวเล็กชาวาบ ร่างกายหยุดนิ่งไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เลือดในร่างเย็นเฉียบราวกับมีน้ำแข็งเข้ามาเกาะกุม ดวงตากลมโตจ้องต่ำไปยังพื้นไม้ของทางเดินอย่างนิ่ง ๆ มือเล็กที่กำปิ่นปักผมเอาไว้ค่อย ๆ สั่นเทา

"อ๊าา.."

ลูเคียหลับตาลงแน่นพร้อมกับหันหลังกลับในทันที ดวงตากลมโตว่างเปล่า ขาเรียวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังจะไปที่ไหน หัวสมองในตอนนี้รับรู้แต่เพียงว่าจะต้องเดินออกไปให้ไกลจากตรงนั้นให้มากที่สุด

ขาเรียวพาร่างกายเดินมาจนสุดทางเดินของพื้นไม้ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นดินเล็กน้อย เท้าเล็กก้าวลงเหยียบบนพื้นดินที่เย็นเฉียบพร้อมกับก้าวต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ทิศทาง

หัวสมองของร่างบางขาวโพลน ความเจ็บปวดค่อย ๆ แผ่ซ่านเข้ามาในดวงใจ ท่าทางเย็นชากับแววตาที่ไร้ซึ่งความรักของเบียคุยะทำให้มีดนับร้อยเล่มกรีดแทงลงบนแผลเก่าจนรู้สึกปวดร้าวไปทั้งดวงใจ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตาใสที่รื้นขึ้นมาในดวงตากลมโต หัวใจของคนตัวเล็กบีบแน่นขึ้นด้วยความเจ็บปวดที่แสนจะทัดทาน

เท้าเล็กที่พาร่างกายเดินมาจนถึงกลางป่าค่อย ๆ ก้าวช้าลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดลงในที่สุด น้ำตาเม็ดโตไหลรินลงบนแก้มเนียน

"ฮึก..." มือบางกำเอาปิ่นปักผมที่ถืออยู่ในมือเอาไว้แน่นจนความคมที่มีอยู่เล็กน้อยของมันทิ่มลงบนผิวมือที่อ่อนนิ่ม

'ข้า... ทนไม่ได้'

เสียงอันปวดร้าวจากก้นบึ้งของหัวใจที่บอบช้ำทำให้ร่างกายค่อย ๆ ทรุดลงบนพื้นดินที่เย็นชืด ลมหนาวพัดผ่านกระทบเข้ากับร่างอันบอบบาง ฝ่ามือเล็กกำปิ่นปักผมเอาไว้แน่นจนเกิดแผล เลือดสีสดไหลหยดลงบนพื้นดิน น้ำตามากมายไหลลงบนแก้มเนียน ลมหนาวที่เย็นยะเยือกพัดผ่านปะทะเข้ากับร่างกายที่เย็นเฉียบ คนตัวเล็กนั่งกอดเข่าก่อนจะปล่อยโฮด้วยความเจ็บปวดทรมานสาหัสจนแทบจะขาดใจ


- หน่วยที่สิบสาม-

อุคิทาเกะเดินเข้าไปในห้องทำงานของตนอย่างช้า ๆ ไม่รีบเร่ง เหมือนที่ทำเป็นประจำทุก ๆ เช้า ฤดูหนาวที่มาเยือนส่งผลให้ตอนนี้ดวงอาทิตย์ยังขึ้นไม่เต็มที่ ความเงียบสงัดในช่วงเช้าบวกกับแสงไฟอ่อน ๆ จากโคมไฟที่ยังคงส่องสว่างราวกับเป็นเวลาเช้ามืดทำให้เขารู้สึกสงบใจอย่างบอกไม่ถูก

มือแกร่งเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปอย่างช้า ๆ ดวงตาคมมองไปรอบ ๆ ก่อนจะต้องเบิกตาโพลงเมื่อมองไปเห็นหญิงสาวตัวเล็กที่สวมชุดนอนสีขาวกำลังนั่งขดตัวนิ่งอยู่ริมผนัง ปอยผมสีดำยาวปรกเข้าที่ใบหน้าหวาน เศษดินและเศษฝุ่นเกาะอยู่บนเท้าทั้งสองข้างที่เปลือยเปล่า มือเล็กกำปิ่นปักผมเอาไว้แน่น บริเวณข้อมือบางมีเลือดแห้งเกาะกรังอยู่เล็กน้อย

"ลูเคีย!?" อุคิทาเกะเอ่ยด้วยความตกใจก่อนจะปรี่เข้าไปหาร่างบางที่ยังคงนั่งก้มหน้านิ่ง

"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ เกิดอะไรขึ้น! "

"ฮึก..." เสียงสะอื้นของร่างบางทำให้ร่างสูงใจเสีย มือแกร่งลูบศีรษะของคนตรงหน้าเบา ๆ ก่อนจะเขี่ยปอยผมให้ขึ้นไปทัดบนใบหูเล็ก น้ำตาเม็ดโตร่วงผลอยลงบนแก้มเนียน ดวงตากลมโตบวมขึ้นจากการร้องไห้ที่ผ่านมาตลอดทั้งคืน

"หัวหน้าอุคิทาเกะ"

"ลูเคีย เจ้าเป็นอะไร บอกข้ามาสิ" เสียงทุ้มที่เอ่ยด้วยความเป็นห่วงทำให้หัวใจของร่างบางยิ่งรู้สึกเจ็บปวด ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาช้า ๆ มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินให้ออกไปจากแก้มนิ่มของตน

"ช่วยส่งข้า... ไปที่โลกมนุษย์ได้ไหมคะ" เสียงขอร้องที่แหบพร่าทำให้ร่างสูงมองคนตัวเล็กอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิด มือแกร่งดึงร่างบางให้ยืนขึ้นก่อนจะพาไปนั่งบนโซฟาตัวนิ่มที่วางอยู่ใกล้ ๆ กับผนังสีขาว

"เอานี่ออกก่อนเถอะ มือเป็นแผลหมดแล้ว" อุคิทาเกะกล่าวเบา ๆ มือแกร่งค่อย ๆ จับเข้าที่มือบางก่อนจะดึงปิ่นปักผมให้ออกจากฝ่ามือนิ่มอย่างช้า ๆ ร่างบางนั่งนิ่ง ความเจ็บบนฝ่ามือที่ได้รับนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดทรมานที่กำลังกรีดแทงอยู่กลางหัวใจ

"เดี๋ยวข้าไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน เจ้าหิวหรือเปล่า" ร่างบางส่ายหน้าเบา ๆ ดวงตากลมโตรื้นขึ้นอีกรอบด้วยหยาดน้ำตาใส ร่างสูงเห็นดังนั้นก็มองคนตัวเล็กด้วยความกังวลก่อนจะลุกออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

เพียงชั่วครู่ ร่างสูงก็เดินกลับมาพร้อมกับชุดยมทูตสีดำรวมทั้งโจ๊กอุ่น ๆ ที่ถืออยู่ในมือ ดวงตาคมมองไปยังคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม มือแกร่งวางสิ่งของที่ตนถือมาลงบนโซฟาช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กที่กำลังเหม่อลอย

"กินนี่ซะ" เสียงทุ้มที่เอ่ยสั่งทำให้คนตัวเล็กหลุดออกจากภวังค์ ดวงตากลมโตมองไปยังร่างสูงก่อนจะมองถ้วยโจ๊กหอมกรุ่นที่อยู่ในมือของคนตรงหน้า น้ำตาใสไหลรินลงบนแก้มเนียนอีกครั้ง ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ มือแกร่งวางถ้วยโจ๊กลงข้างกายก่อนจะโอบเอาคนตัวเล็กให้เข้ามาในอ้อมกอด

เพียงเท่านั้น ร่างบางก็ปล่อยโฮ มือแกร่งลูบเบา ๆ ที่เส้นผมนิ่มเพื่อปลอบประโลม เสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กทำให้หัวใจของเขารู้สึกร้อนรน น้ำตาใสไหลรินหยดลงบนเนื้อผ้าจนเป็นดวง

"อย่าร้องไห้เลย ลูเคีย" เสียงทุ้มที่ปลอบประโลมทำให้คนตัวเล็กพยักหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่อาจที่จะห้ามน้ำตามากมายให้หยุดไหลลงได้ ร่างสูงลูบหลังของคนตัวเล็กไปมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย

"เดี๋ยวข้าจะทำตามคำขอของเจ้าเอง ดังนั้นหยุดร้องไห้ซะเถอะ" ร่างบางได้ยินดังนั้นก็สะอื้นเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ผละตัวออกจากอ้อมกอดของร่างสูง ใบหน้าหวานก้มต่ำ มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาของตนเบา ๆ ร่างสูงเห็นดังนั้น มือแกร่งก็คว้าถ้วยโจ๊กอุ่นที่วางอยู่ข้างกายให้ไปวางไว้บนตักของร่างบาง

"กินซะ เดี๋ยวข้ามา" กล่าวเสร็จ ร่างสูงก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปข้างนอกอีกครั้ง ร่างบางมองตามหลังกว้างก่อนจะกะพริบตาปริบ ๆ แล้วหันมามองยังโจ๊กอุ่นที่วางอยู่บนตักของตน กลิ่นหอมกรุ่นของมันลอยเข้ามากระทบกับโสตประสาท มือเล็กค่อย ๆ หยิบช้อนก่อนจะตักโจ๊กอุ่นเข้าไปในปากอย่างช้า ๆ รสชาติอร่อยที่คละคลุ้งอยู่ในปากทำให้น้ำตาใสรื้นขึ้นมาในดวงตากลมโตอีกรอบ ทันใดนั้นเอง ร่างสูงก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับกล่องพยาบาลที่ถืออยู่ในมือ

อุคิทาเกะนั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็กก่อนจะดึงมือนิ่มที่มีรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่ไปวางไว้บนหน้าตักของตน ร่างเล็กหดมือกลับในทันที

"หัวหน้า... ไม่ต้องก็ได้ค่ะ เดี๋ยวข้าทำเอง"

"เจ้านี่... ยังจะดื้ออีก" เสียงทุ้มที่กล่าวตำหนิทำให้ร่างบางนิ่งเงียบ ภาพของร่างสูงที่บรรจงเช็ดคราบเลือดแห้งที่ติดอยู่บนฝ่ามือของตนทำให้น้ำตาใสรื้นขึ้นมาคลอเบ้าอีกครั้ง

"หัวหน้า..." เสียงหวานที่แหบพร่าทำให้ใบหน้าคมเงยขึ้นมามองคนตัวเล็กในทันที น้ำตาเม็ดโตที่ไหลลงบนแก้มเนียนทำให้มือแกร่งยื่นเข้าไปลูบหัวของร่างบางเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงพร้อมกับทำแผลต่อ

"อ่ะ เสร็จแล้ว" ร่างสูงยิ้มกับผลงานตรงหน้า ดวงตาคมมองไปยังถ้วยโจ๊กที่ว่างเปล่า ร่างบางยิ้มขึ้นน้อย ๆ อย่างรู้สึกขอบคุณ
"อิ่มไหม"

"ค่ะ" เธอตอบเบา ๆ มือเล็กค่อย ๆ วางถ้วยเปล่าเอาไว้ข้างกาย อุคิทาเกะลุกขึ้นในทันทีก่อนจะเอ่ย

"เปลี่ยนชุดซะ เสร็จแล้วค่อยเรียกข้า" กล่าวเสร็จเขาก็เดินออกไปจากห้องในทันที ร่างบางกะพริบตาปริบ ๆ ดวงตากลมโตมองไปยังชุดยมทูตสีดำที่ถูกวางไว้บนโซฟาตัวนิ่ม ความอบอุ่นและความห่วงใยของร่างสูงที่สัมผัสได้ทำให้น้ำตาใสเริ่มรื้นขึ้นมาในดวงตากลมโตอีกรอบ มือเล็กค่อย ๆ ปลดชุดนอนที่เปรอะเปื้อนเศษดินออกก่อนจะเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างช้า ๆ


"หัวหน้าคะ" เสียงหวานเอ่ยเรียกร่างสูงที่ยืนหันหลังอยู่หน้าห้องอย่างแผ่วเบา ใบหน้าคมหันมาตามเสียง เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้งก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประจำของตน ร่างบางยืนนิ่ง ดวงตากลมโตที่บวมเล็กน้อยมองต่ำไปยังพื้นห้องที่เย็นชืด

"สองเดือนพอไหม" เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงในทันที ใบหน้าคมมองเอกสารที่ถือไว้ตรงหน้าอย่างนิ่ง ๆ ดวงตากลมโตรื้นขึ้นด้วยหยาดน้ำใสอีกรอบก่อนจะตอบด้วยเสียงที่สั่นพร่า

"ค่ะ" น้ำตาเม็ดโตร่วงผลอยลงบนแก้มเนียน มือบางรีบยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างสูงถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะมองไปยังคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้า สภาพของร่างบางเมื่อเช้ารวมถึงสถานการณ์ตรงหน้าทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนั้นมาจากคนในตระกูลคุจิกิ

"จะไปครั้งนี้ ให้ข้าบอกคนที่บ้านไหม" คำถามที่ทำให้หัวใจกระตุกวาบ ร่างบางหลับตาแน่นก่อนจะเค้นเสียงที่แหบพร่าของตนให้เอ่ยตอบ

"ไม่ค่ะ... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้โปรด... อย่าบอก" เสียงหวานสั่นเครือในช่วงท้ายประโยคทำให้ร่างสูงพยักหน้าเบา ๆ
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วครู่

"ไปสิ" เสียงทุ้มที่เอ่ยสั่งทำให้น้ำตาใสไหลหยดลงบนแก้มเนียนอีกครา ร่างบางโค้งตัวลงด้วยความซาบซึ้งที่แผ่ซ่านไปทั้งดวงใจก่อนจะค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องอย่างช้า ๆ


ดวงตากลมโตมองไปยังประตูผ่านโลกที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ร่างบางหันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้ง

'พี่หญิง... ข้าขอโทษ' น้ำตาใสรื้นขึ้นมาในดวงตาคู่สวย ลมหนาวที่เย็นยะเยือกพัดผ่านกระทบเข้ากับร่างอันบอบบาง ลูเคียหันหน้าไปยังประตูขนาดใหญ่อีกครั้งก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวแผ่ซ่านไปทั้งดวงใจ

'ลาก่อนค่ะ... ท่านพี่'


- คฤหาสน์คุจิกิ –

ดวงตากลมโตของฮิซานะค่อย ๆ ลืมขึ้น แสงอาทิตย์อ่อนยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนขนาดกว้างทำให้เธอกะพริบตาถี่ ความอ่อนเพลียที่หน่วงไปทั่วทั้งร่างกายทำให้ร่างบางครางออกมาเบา ๆ อย่างอ่อนล้า ร่างสูงที่นอนอยู่ข้าง ๆ พลิกตัวเข้ามากอดคนตัวเล็ก ใบหน้าคมซุกลงบนผมหอม

ร่างกายขาวนวลที่เปลือยเปล่าค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นมาจากเตียงช้า ๆ ความเย็นจากอากาศที่อยู่ด้านนอกผ้าห่มกระทบเข้ากับผิวกายที่ร้อนผ่าว

"ฮิซานะ"

ร่างสูงครางเรียกคนตัวเล็ก มือแกร่งคว้าเข้าที่เอวคอดก่อนจะดึงคนตัวเล็กเบา ๆ ให้นอนลงดังเดิม ฟูกนุ่มอ่อนยวบลงอีกครั้งกับน้ำหนักที่เททับลงมา ศีรษะเล็กซบลงกับหมอนใบโต ริมฝีปากอุ่นจูบลงบนแก้มขาวเนียนก่อนจะเอ่ยกระซิบ


-------------------------------------ตัด NC -------------------------------------


เช้าวันนี้ไร้ซึ่งเงาของลูเคียที่ปกติแล้วเธอควรจะเดินเข้ามาในห้องอาหารเมื่อราว ๆ สิบนาทีก่อน ฮิซานะที่คิดว่าลูเคียมีงานด่วนนั้นไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าใดนัก ต่างจากร่างสูงที่จู่ ๆ ความรู้สึกแปลก ๆ ก็ประดังเข้ามาในอกแกร่ง เขามองไปยังอีกด้านหนึ่งของตัวคฤหาสน์ที่มองเห็นได้ไม่ชัดนัก ประตูห้องนอนของร่างเล็กที่ยังคงปิดสนิทไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออกทำให้หัวใจของเขารู้สึกหน่วงลงเล็กน้อย ฮิซานะที่ใช้ตะเกียบคีบอาหารมาวางบนจานให้กับเขาทำให้สายตาคมหันมามองคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มขึ้นบาง ๆ แล้วทานข้าวต่ออย่างเงียบ ๆ



- เมืองคาราคุระ –

ลูเคียยืนนิ่งอยู่บนหลังคาบ้านของเพื่อนสนิท ดวงตากลมโตมองเข้าไปยังหน้าต่างห้องนอนที่ถูกแง้มเปิดเอาไว้เล็กน้อย ภาพของอิจิโกะที่ยังคงนอนหายใจอย่างสม่ำเสมออยู่บนเตียงนิ่มทำให้มือเล็กยื่นไปจับหน้าต่างบานใสเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนมันให้เปิดออกกว้าง

ลูเคียก้าวเท้าเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ สายลมเย็นของฤดูหนาวที่พัดผ่านปะทะกับใบหน้าคมเข้าอย่างจัง และนั่นก็ทำให้อิจิโกะขมวดคิ้วขึ้นน้อย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพตรงหน้าทำให้เขาเบิกตาโพลง

"ลูเคีย!?" เสียงทุ้มเผลอตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ลูเคียที่กำลังยกเท้าขึ้นหันมามองคนที่เพิ่งตื่น ก่อนจะก้าวข้ามร่างของอิจิโกะที่นอนอยู่อย่างไม่สนใจอะไร ร่างสูงเห็นดังนั้นก็กะพริบตาปริบๆ

"นี่เธอ... มาประจำที่โลกมนุษย์อีกแล้วเหรอ" ลูเคียทำหูทวนลม มือเล็กเลื่อนบานประตูของตู้เก็บที่นอนให้เปิดออกก่อนจะกระโดดตัวขึ้นไปบนชั้นวางที่ยกสูง เธอคลานเข้าไปในช่องแคบ ๆ พร้อมกับปิดประตูลงโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ อิจิโกะเห็นดังนั้นก็ก้าวเท้าลงจากเตียงในทันที

"นี่! ตอบฉันบ้างเส้ ยัยบ้านี่" มือแกร่งจับบานประตูให้เลื่อนเปิดออกอีกครั้ง แววตาที่เหนื่อยล้าของลูเคียที่มองมายังตนทำให้ร่างสูงหยุดกึก

"ขอข้านอนสักพักได้ไหม" เสียงหวานเอ่ยเบา ๆ ก่อนดวงตาจะหลับลง ร่างสูงเห็นดังนั้นก็ยืนนิ่ง สภาพของคนตัวเล็กทำให้ความเป็นห่วงประดังเข้ามาภายในอกแกร่ง แต่ถึงกระนั้น ในตอนนี้เขาก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ อิจิโกะถอนหายใจก่อนจะค่อย ๆ ปิดบานประตูลงดังเดิม



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว