บางทีการรักใครสักคน มันมักจะไม่เลือกช่วงเวลา
ชอบเข้ามาโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเสมอ
ความรักนี่ความจริงแล้วมันเป็นตัวอะไรกันแน่
ทำไมมันถึงได้ขี้โกงกับคนอ่อนแอเหลือเกิน...
“หัวโผล่แล้วเจ้าค่ะ!” ใคร?
“ออกแรงอีกนิดเจ้าค่ะ ฮูหยิน!” เสียงใครกัน
ทำไมทุกอย่างถึงมืดไปหมด แต่อีกสักพักก็เห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาด้วยความสงสาร สลับภาพกันไปมาอยู่อย่างนี้ เสียงไซเรนดังเข้าหูไม่ขาดสายและแสงของมันทำเอาแสบตาเหลือเกิน เสียงร่ำไห้ดังถี่อยู่รอบตัว แต่นั่น...ไม่ใช่สำหรับเธอละมั้ง
ร่างบางของเธอที่นอนไม่ขยับมองไปยังร่างชายหนุ่มตรงข้ามที่นอนไม่มีแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้วเหมือนกัน ดวงตาที่มองมานั้นสงสารเธอมากแค่ไหน เธอนั้นดูออกทุกอย่าง หญิงสาวทอดสายตามองเขาตรงๆ มองเช่นเดียวกับที่เขามองเธอ ด้วยความสงสารไม่แพ้กัน ร่างสูงตรงหน้านอนอาบไปด้วยเลือด เธอไม่รู้ว่าร่างของเธอก็เป็นแบบนี้ไหม ไม่มีแม้แต่แรงขยับเขยื้อน ไม่อยากคิดแม้แต่จะก้มมองดูร่างตัวเอง
แค่คิดก็เจ็บจนทรมาน...
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะมาถึงที่ประเทศจีนและเข้าไปเช็คอินห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งโดยมีเธอกับเพื่อนๆ ของเธออีกสามคน พวกเธอเป็นคนไทยสามคนแต่ก็พอได้เรียนรู้ภาษาจีนมาบ้าง ส่วนเพื่อนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันมานั้นก็ทำให้เกิดมิตรภาพดีๆ ต่อกัน จากนั้นจึงได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน พอครบกำหนดที่เรียนเสร็จก็ต้องกลับประเทศ พวกเธอทั้งสามจึงรับปากกับเพื่อนชาวจีนว่าจะมาส่งและถือโอกาสนี้เที่ยวเล่นไปด้วยอีกหลายวัน
เมื่อมาถึงพวกเธอว่าจะนอนพักกันสักงีบใหญ่ๆ ก่อน แล้วพูดคุยกันว่าพอตื่นขึ้นมาค่อยไปหาอะไรกิน บ้านของเพื่อนชาวจีนนั้นอยู่ไกลจากเมืองหลวงเลยว่าจะเล่นอยู่ในเมืองสักสองสามวันค่อยนั่งรถเข้าไปส่ง คุยกันไปมาทุกคนก็เผลอหลับกันไปทั้งที่คุยกันยังไม่จบ อาจเพราะเหนื่อยกับการเดินทางครั้งนี้มากเกินไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าค่ำแล้ว จากนั้นจึงได้พากันออกจากโรงแรมไปหาของกินใส่ท้อง
ระหว่างเดินหาของกินอยู่นั้น ‘ชาลิสา’ มองเห็นร้านไอศกรีมเคลื่อนที่อยู่ไม่ไกลเธอเลยขอแยกตัวออกไปซื้อ เพราะเพื่อนคนอื่นรออาหารจากร้านแห่งหนึ่งอยู่ ระหว่างที่เธอสั่งและรอไอศกรีมของเธอนั้น ได้เผอิญไปสบตากับ ‘เขา’ พอดี ชายที่จะประสบเหตุเคราะห์ร้ายกับเธอ เขาน่าจะสั่งก่อนหน้าเธอหนึ่งคิวและที่พ่อค้ากำลังทำอยู่น่าจะเป็นของเขา ชายหนุ่มปิดผ้าปิดปากสีดำ ดวงตาสีเมล็ดกาแฟที่มองมาด้วยความร่าเริง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงดวงตาที่เป็นมิตรเช่นนี้จะกลายเป็นเศร้าสลดไป รอบกายเขาเริ่มเต็มไปด้วยหญิงสาวมากมายภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่แน่เขาอาจเป็นหนุ่มฮอตของเมืองจีนที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ก็ได้
ชั่วขณะนั้น เธออยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง อยากย้อนเวลาเหลือเกิน...
โครม!
รถบรรทุกคันใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าเสียหลักมาจากที่ไหนเซถลาเข้ามาทางเธอ รถคันใหญ่เสียการควบคุมวิ่งขึ้นมาทางฟุตบาทชนข้าวของระหว่างทางกระจาดกระจาย เธอตกใจจนไม่มีสติว่าควรหลบไปทางไหน รถมันพุ่งมาเร็วมากจนเธอขาดสติในวินาทีนั้นเธอควรหลบไปทางซ้ายหรือทางขวาก็ไม่สามารถบังคับร่างกายนี้ได้ หญิงสาวหยุดนิ่งอยู่กับที่ลืมแม้แต่จะกรีดร้องออกมาให้ใครช่วย แต่เธอก็ไม่ทันได้เห็นว่าชายข้างๆ เธอเองก็มีอาการเช่นเดียวกัน
และตอนนั้นเอง เธอจึงได้รู้สึกเหมือนว่าโลกใกล้จะแตกเข้ามาทุกที ทุกคนที่เธอรู้จักเริ่มหายไปจากความทรงจำ เธอไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอห้าขวบ ชาลิสาอาศัยอยู่กับป้าคนเดียวของเธอ แต่ว่าป้าของเธอก็มีลูกชายอีกสองคน ชาลิสาทำงานพิเศษค่อนข้างหนัก กว่าจะเก็บเงินมาประเทศจีนได้ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เงินแต่ละบาทใช้เวลาเก็บอยู่นานพอควร ป้าของเธอก็ใช่ว่าจะตามใจทุกอย่าง วินาทีนั้นเกิดมีคำถามขึ้นมาในหัว....
เธอจะตายไหม?
ถ้าหากเธอตาย ป้าและน้องๆ จะร้องไห้ไหม?
เพื่อนๆ ที่รอกินข้าวล่ะ จะโกรธเธอไหม?
เธอรู้สึกเหมือนร่างกายจะปริแตกออกจากกัน ความรู้สึกนี้ใกล้เข้ามาทุกที จนเมื่อทุกอย่างใกล้จะเลือนหายไป เธอได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ยังไม่อยากตาย อยากจะมีชีวิตอยู่ เธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่ารักอย่างแท้จริงเลย ทุกวันนี้แค่รักจากมิตรภาพไม่เพียงพอสำหรับเธอ ไม่พอเลยสักนิด เธออยากสัมผัสกับความอบอุ่นเหลือเกิน...
เข้าใจแล้ว...ว่าความทรมานมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
จากนั้นทุกๆ อย่างก็เหมือนค่อยๆ ดับไป...
“ปลอดภัยดีทั้งคุณหนูและฮูหยินเจ้าค่ะ!” เสียงสตรีคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ซิงซิง! ไปเรียนท่านแม่ทัพว่าฮูหยินคลอดคุณหนูใหญ่อย่างปลอดภัย” จากนั้นก็ตามมาด้วยสตรีอีกคนที่อยู่ข้างๆ กัน
“คุณหนูใหญ่รึเจ้าคะ ได้เจ้าค่ะน้าจิ้ง” หญิงตัวน้อยวัยประมาณห้าขวบพอได้ยินว่าเป็นคุณหนูใหญ่ก็ยิ้มรับตาหยีพร้อมวิ่งหายลับออกไปนอกประตู
“ทีนี้ข้าก็จะไม่ต้องทนเล่นกับอาเหว่ยกับอาเหล่ยแล้ว!”
เสียงดีใจของซิงซิงตัวน้อยๆ ผ่านลอดประตูห้องโถงเข้ามา ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงแม่ทัพเสวี่ยโห่ร้องดีใจออกมาไม่ต่างอะไรกับซิงซิง เวลานี้ทั่วเมืองหมานของอาณาจักรแคว้นฝูหยวนก็ได้รับรู้พร้อมกันว่า
เหมันตฤดูนี้ แม่ทัพเสวี่ยได้บุตรสาวคนแรก คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพ