เราสองคนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเพลิดเพลิน โดยการให้คะแนนหนุ่ม ๆ ที่ยืนแวดล้อมเราอยู่
และบังเอิญว่าในที่นั้น มีเขานั่นแหละที่ได้คะแนนนำกว่าคนอื่น ๆ ขนาดเห็นกันแค่ข้างหลัง ก็เทคะแนนให้เกือบจะสิบเต็มสิบอยู่แล้ว
ก็แหม... ผมดำ หัวทุย ไหล่กว้าง ทั้งเอว เอิว สะพ่ง สะโพก ขาเขอ แหม มันได้สัดส่วนยิ่งกว่าดาราซีรี่ย์ดัง ๆ บางคนเสียอีก ขาดอย่างเดียวคือใบหน้าที่เราไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะเขายืนเข้าคิวอยู่ก่อนหน้าเรา จึงเห็นแต่ด้านหลังเพียงอย่างเดียว เราสองคนปรารภกันด้วยเสียงที่กระซิบก็จริง แต่คนที่อยู่ข้างหน้าเราก็น่าจะได้ยิน เพียงแต่ไม่รู้เรื่องเท่านั้น เพราะเราพูดกัน
“อยากจะเห็นหน้าจริงจริ๊ง ช่วยหันมาให้ดูหน้าเป็นขวัญตาหน่อยเถอะ พ่อคู๊น อยากจะรู้ว่าหล่อเหลาซักแค่ไหน” ปาหนันยังคงกระซิบต่อด้วยความนอนใจอย่างยิ่ง ว่าคงไม่มีใครฟังรู้เรื่อง
แล้วก็เหมือนกับปาฏิหาริย์ หรือไม่ก็บังเอิญ หรือไม่ก็สัญชาตญาณของคนที่กำลังถูกนินทาอยู่ หรือไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม ซึ่งในเวลานั้นเราสองคนไม่อาจจะรู้ได้ รู้อย่างเดียวว่า หัวใจแทบวายตาย เมื่ออยู่ ๆ เขาก็หันหน้ามาให้เราดูจริง ๆ เสียด้วย
ไม่ใช่วายเพราะเขารูปหล่อเสียเหลือเกินหรอก เพราะถ้าแค่รูปหล่ออย่างเดียวเราคงจะยอมแค่หัวใจวาย แต่ไม่ยอมตายเด็ดขาด
แต่ที่อยากจะตายในเวลานั้น ก็เพราะรูปหน้าของเขามองเผิน ๆ แล้วเหมือนคนไทยอย่างกับอะไรนั่นซีคะ ที่ทำให้หัวใจของทั้งฉันและปาหนันหล่นวูบลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม
ก็จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อถ้าเขาเป็นคนไทยจริง ๆ ก็หมายความว่าเขาคงได้ยินเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ที่ฉันกับปาหนันสนทนากันตั้งแต่ต้นจนจบ มิหนำซ้ำ ยังมีข้อความบางส่วนพาดพิงไปถึงเขาอีกต่างหาก
“โคะ คนไทย” ฉันกระซิบ
ในขณะที่ปาหนันดูจะเก็บงำสติได้ดีกว่าฉัน เพราะได้ยินเสียงของเจ้าหล่อนเอ่ยทักทายเขาเสียเป็นดิบดีว่า
“สวัสดีค่ะ”
ตอนนั้น ฉันอดสรรเสริญปาหนันในใจไม่ได้ว่า ช่างมีสติสตังดีอะไรอย่างนั้นที่ยังอุตส่าห์ทักทายเขาได้ไพเราะเพราะพริ้ง ในขณะที่ฉันแทบจะอ้าปากไม่ออกอยู่แล้ว
หากในช่วงหลังที่เรารื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกันอีก ปาหนันก็สารภาพว่าไม่ใช่เพราะสติสตังดีหรอก แต่เพราะมันช็อกต่างหาก ถึงได้หลุดคำพูดทักทายที่ดูตลก ๆ อย่างนั้นออกมา
นั่นน่ะซี เวลานึกย้อนหลังแล้วถึงได้รู้สึกว่า มันตลกชอบกลที่ทักทายเขาอย่างนั้น
แต่เวลานั้น ฉันไม่รู้สึกเลยว่ามันตลกมิหนำซ้ำยังใจเต้มตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ ขณะรอฟังว่าเขาจะทักตอบกลับมาว่า
“สวัสดีครับ”
ก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดทักทายกลับมาอย่างนั้นเข้าจริง ๆ ฉันจะหัวใจวายไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่า
แต่ที่ยังมีชีวิตรอดมาอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ก็คงจะเพราะคำตอบของเขาที่ทักทายกลับมาว่า
“ไฮ” นั่นเอง
คำเดียวสั้น ๆ พูดห้วน ๆ เหมือนเสียไม่ได้ เพราะสังเกตเห็นว่าริมฝีปากสวย ๆ ของเขาเผยอออกจากกันนิดเดียว แล้วหน้าตาก็เฉยเมยเหมือนใส่หน้ากากก่อนจะหันกลับไปอย่างไม่ยินดียินร้าย
“เฮ้อ หัวใจแทบวาย”