วันนี้เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เหล่าสาวกนิยายรักชื่อดังเรื่อง ย่ำรัก ร้อยใจ นัดกันออกมาเตรียมทำพิธีสวดภาวนาอ้อนวอนต่อเทพเจ้าทั่วใต้หล้าขอให้บทสรุปของนิยายเรื่องดังจบลงด้วยดี พวกเธอวางแผนอธิษฐานของพรให้ได้มีโอกาสบุกเข้าไปช่วยพระเอกนิยายของเรื่องให้เขาอยู่รอดปลอดภัย ไม่ต้องถูกทำร้ายซ้ำๆให้คนอ่านของพวกเธอต้องช้ำใจแบบนี้อีก พิธีกรรมล่วงเลยไปถึง ตี3 ทุกคนจึงตัดสินใจบอกลากันและจะนัดกันส่งจดหมายร้องเรียนไปถึงนักเขียนชื่อดังให้เขียนนิยายจบแบบที่พวกเธอต้องการในวันต่อไป
พาดหัวข่าว!! เหล่าสาวกนิยายเรื่องดัง ย่ำรัก ร้อยใจ นัดกันส่งจดมายร้องเรียนไปยังนักเขียนนิยายเจ้าของเรื่องดังกล่าวให้เขียนตอนจบให้ดี ไม่งั้นจะหยุดสนับสนุนต่อทันที สำนักข่าวรายงานต่อว่า เหล่าสาวกนิยายได้นัดพบกันเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อสวดมนต์อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้มีคนไปช่วยเหลือพระเอกนิยายในเรื่องเสียที
“ฮาฮ่าฮ่า ตลกชะมัด พวกเธอดูสิ ข่าวบ้าบออะไรกันเนี่ย ขำไม่ไหวแล้ว นิยายเขาดังระเบิดระเบ้อขนาดนี้ยังมีพวกคนร้องเรียนด้วยเหตุผลเหลือเชื่อ”
“เหลียนฮวา ขำเสียงดังจนเพื่อน2คนในห้องหันมามองเธอ และรีบเดินมาดูข่าวด้วยกัน หัวเราะพร้อมกันดังกว่าเดิมไปอีก”
“ฉันว่านี่คือความรักต่อพระเอกของเรื่ิอง บทพระเอกก็น่าสงสารเสียจริงชีวิตรันทนมาก”
เหมยหลิงพูดไประบายยิ้มไป เซี่ยหนิงรีบเสริมทันที
“แล้วจะสวดมนต์อ้อนวอนส่งใครไปช่วยพระเอกในนิยายก่อน ให้พวกเธอสวดอ้อนวอนให้นักเขียน เขียนถึงพระเอกดีๆหน่อยดีกว่าไหม ฮาฮ่าฮ่า”
พูดจบทั้ง3ก็หัวเราะขำต่ออีกพักใหญ่ จนสุดท้าย เหลียนฮวา ยกมือขึ้นละบอกเพื่อนว่า
“ได้ๆ ฉันจะไปช่วยพระเอกนิยายเรื่องนี้เอง ฉันจะเขียนนิยายต่อจากเรื่องนี้ละส่งไปให้สาวกนิยายอ่านดีไหม จะได้สมหวังกันทุกฝ่าย”
“พระเอกของเรื่องคงไม่ต้องการให้เธอช่วยหลอก เหลียนฮวา ชื่อเธอน่ะดันเหมือนกับ ตัวร้ายที่คอยกลั่นแกล้งพระเอกอีกคนยังไงเล่า ฮาฮ่าฮ่า”
เซี่ยหนิงพูดไปก็อดขำต่อไม่ได้
“ชื่อฉันดันไปเป็นตัวร้ายในนิยายของเรื่องนี้ ฉันยังไม่เคยสวดอ้อนวอนเทพให้ฉันกลายเป็นนางเอกเลยนะ พูดไปก็เศร้า ชื่ออื่นมีตั้งเยอะดันเอาชื่อฉันไปเป็นตัวร้าย ขอความเห็นใจหน่อยท่านเทพ ฮาฮ่าฮ่า”
“เธอก็คิดมากไป คิดซะว่าเป็นนิยายเรื่องนึงก็พอ แต่บทเธอร้ายใช่เล่นเลยนะ เหลียนฮวา เจ้าแม่จอมวีนใส่พระเอก ฮาฮ่าฮ่า”
“เหมยหลิงเหมือนจะปลอบใจฉันนะ แต่ทำไมไม่ปลอบให้สุดทางกัน ”
“โอเคๆๆ พอแล้วๆ พวกเราไปกินข้าวละไปเรียนวิชาเคมีกันต่อ เดี๋ยวคนจะเต็มโรงอาหาร อาจารย์วิชานี้สอนไวมาก กลัวจะติด F จริงๆ”
“งั้นไปกันเถอะ ”
ทั้ง 3 สาว ออกจากหอพักไปกันหมด แต่โน๊ตบุ๊คที่เปิดข่าวเมื่อสักครู่ดันมีเสียงสวดมนต์อ้อนวอนของเหล่าสาวกนิยาย ย่ำรัก ร้อยใจ ดังขึ้นอีกครั้ง จนจิ้งจกในห้องร้องทักเหมือนตอบรับเสียงสวดเหล่านั้นก็มิปาน
เวลา 14.00 น.
“พวกเธอ อาจารย์ลี่สั่งทำรายงานครบ 10 ฉบับหรือยัง เข้าเรียนแทบทุกคลาส สั่งงานจนฉันสงสัยว่าฉันถูกลงโทษหรือเปล่า”
เหลียนฮวาบ่นพลางยกหนังสือวิชาอาจารย์ลี่ขึ้นมาดู
“เธอก็รู้ว่าอาจารย์ลี่ชื่อเสียงด้านการสั่งรายงานมาเป็นอันดับ1 ของเอกเรา จะทำอะไรได้ ทำต่อไป”
“จริงอย่างเหมยหลิงว่า ปี3 อย่างพวกเราหนีไม่พ้นคลาสอาจารย์ลี่อยู่แล้ว เฮ้อ ง่วงนอนอะ”
“เซี่ยหนิงพวกเราพึ่งมาถึงห้องสมุดเองนะ เธอรีบง่วงไปไหนกัน”
“ก็ฉันง่วงนอน เมื่อคืนยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย มัวแต่อ่านนิยาย ย่ำรัก ร้อยใจ ตอนล่าสุด ”
“เธออ่านแล้วหรอเนี้ย ไวมากเซี่ยหนิง ฉันจะไปอ่านบ้าง ”
“เดี๋ยวๆ พวกเธอ อย่าลืมสิว่าเรามาทำอะไรกันที่ห้องสมุด เหลียนฮวา เธอค่อยกลับห้องไปอ่าน เซี่ยหนิงเธอค่อยนอนนะ พวกเราทำรายงานให้เสร็จกันก่อน”
“โอเค”
สองสาวรีบตอบรับเพื่อนทันที และทั้ง 3 ก็ลงมือทำรายงานวิชาเคมีของอาจารย์ลี่
เวลา 18.00 น.
“พวกเธอแม่ฉันส่งข้อความมาบอกว่าให้ฉันกลับบ้านด่วนบอกว่า ป้าที่มาจากต่างเมืองมาเยี่ยม นี่ก็เย็นมากแล้วพวกเรากลับกันเลยไหม ยังไงเนื้อหาในรายงานก็หาครบแล้ว”
เซี่ยหนิงพูดพลางกวาดของเก็บลงใส่กระเป๋าในคราเดียว
“ฉันก็มีนัดกับแฟนเหมือนกันเขาบอกว่าจะมารับตอนฉันทำรายงานเสร็จ แต่ส่งข้อความว่ามาถึงที่นี่แล้ว”
“งั้นพวกเธอทั้ง 2 รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะกลับห้องไปอ่านนิยาย”
“วันนี้ฉันคงไม่ได้กลับห้องนะ”
เหมยหลิงบอก เหลียนฮวา
“ฉันก็คงไม่ได้กลับห้อง วันนี้เธอนอนคนเดียวนะ เหลียนฮวา ฝากเธอเอารายงานไปเก็บที่ห้องด้วย เซี่ยหนิงพูดพลางส่งรายงานให้เหลียนฮวา”
“งั้นพรุ่งนี้เราค่อยเจอกัน คืนนี้ฉันจะอ่านนิยาย ย่ำรัก ร้อยใจ ตอนล่าสุดที่เธออ่านเซี่ยหนิง ฮาฮ่าฮ่า”
ทั้ง 3 ออกจากหอสมุด แยกย้ายกันไปคนล่ะทาง ระหว่างทางเหลียนฮวาแวะทานอาหารข้างทาง กว่าจะกลับถึงห้องก็เป็น เวลา 2 ทุ่มกว่า
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็เห็นว่า โน๊ตบุ๊คที่เปิดเมื่อกลางวันมันยังเปิดอยู่ ทั้งยังอยู่หน้านิยาย ตอนล่าสุดของย่ำรัก ร้อยใจอีกด้วย
เหลียนฮวามองเห็นเช่นนั้นก็เดินไปอ่านตอนล่าสุดจนจบและกล่าวว่าตัวร้ายอย่างเหลียนฮวาในนิยาย ทำไมถึงต้องทำร้ายจิตใจพระเอกขนาดนี้ จิตใจเธอทำด้วยอะไร เธอมันไม่น่าจะมีชื่อเดียวกับฉัน ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไม่ทำร้ายคนอื่นแบบเธอแน่ๆ ยัยคนสารเลว ด่าเสร็จก็ไปอ่านความเห็นชาวเน็ตนิยาย ทุกเสียงเป็นไปทางเดียวกัน มีแต่คนว่ายัยตัวร้ายเหลียนฮวา
เมื่อสงบสติอารมณ์ได้พอสมควรแล้ว เหลียนฮวาก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอน แต่พอออกจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงบทสวดมนต์อ้อนวอนเมื่อเช้าของเหล่าสาวกนิยาย ย่ำรัก ร้อยใจ คลอเบาๆในห้อง
เหลียนฮวาไม่ได้มีอาการตกใจใดๆ คิดว่าคลิปอาจจะเล่นเองบวกกับอาการหนักอึ้งที่ตัวเลยไม่สนใจจะปิดโน๊ตบุ๊คแต่พอฟังไปฟังมาบทสวดก็ชวนเคลิ้มให้ง่วงนอน เธอเดินไปนอนเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียง ไม่นาน สติที่เคยแจ่มแจ้งก็เริ่มจะเบาบาง เปลือกตาที่เปิดครึ่งดวงของตาทั้งสอง เหมือนจะเห็นหมอกจางๆอยู่รอบตัว ร่างกายรู้สึกเหมือนอ่อนแรงหรืออาจจะเป็นความง่วงที่คืบคลานเข้ามาจนเธอจมสู่ห้วงนิทรา
ภายในห้องของเหลียนฮวาปรากฎเสียงสวดมนต์อ้อนวอนที่ดังขึ้นเรื่อยๆจนกระหึ่มห้อง ท่ามกลางหมอกจางๆ ปรากฎดวงจิตสูงส่งคล้ายเทพเซียนก็มิปาน กำลังจ้องมองใบหน้าของเหลียนฮวา
“ข้ามิใช่ เทพเซียน และมิใช่ปีศาจ ข้ามาเพียงเพื่อทำตามความปราถนาอันแรงกล้าของผู้สวดมนต์อ้อนวอนแก่ข้า เจ้าเป็นผู้ที่มีดวงจิตเชื่อมโยงกับโลกในตัวหนังสือนั้น เจ้าจงไปแก้ไขนิสัยความชั่วร้ายของตัวเจ้าในนิยายเสีย”
เหลียนฮวาคล้ายได้ยินเสียงของ ผู้ชายอายุราว 40 ปี ทุ้มๆอยู่ในหู ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกอกตกใจ เหงื่อที่ไหลอยู่ทั่วทั้งร่างของเหลียนฮวา ทำให้รับรู้ว่าอุณหภูมิในร่างกายร้อนระอุเพียงใด