“เรื่องงานแต่งเหรอ?”
“เอ่อ...” มัทรีอ้ำอึ้ง หล่อนไม่แน่ใจนักว่าจะใช่หรือเปล่า
“คือว่า...เรื่องหย่าน่ะ” มัทรีโพล่งออกมาในที่สุด หนุ่มลูกครึ่งหน้าเข้มถึงกับพรวดกาแฟออกจากปากอย่างยั้งไม่อยู่ มัทรีมองพฤติกรรมแปลกๆ ของเขาอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก
“ว่าไงคะ”
“ผมไม่เข้าใจ เรายังไม่แต่งงานกันเลยนะ”
“เรื่องแต่งไม่สำคัญเท่าเรื่องหย่าค่ะ”
“งั้นพูดมาครับ ผมรอฟังอยู่”
“คือเรามาตกลงกันแบบนี้ดีกว่าค่ะ ไหนๆ ก็หนีคำสัญญาสาบานอะไรนั่นไปไหนไม่ได้แล้ว ก็ขอให้มันจบๆ ไป แต่เราแต่งแล้วเราก็หย่ากันก็แล้วนะคะ ภายในสามเดือนเลย เข้าใจไหมคะ!” มัทรีบอกเขาเสียงจริงจัง บ่งบอกว่ากติกามันต้องเป็นแบบนี้แหละ แต่กลับทำเอาหนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้วเข้มอย่างครุ่นคิด
“แล้ว...คุณไม่คิดจะมีลูกกับผมเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่ถามกลับ มัทรีแทบกรี๊ดใส่หน้าเขาให้ได้ และคำถามของเขาก็ช่างนำความน่าปวดหัวมาให้กับมัทรีมากขึ้นไปอีก
“คุณจะบ้าเหรอ แค่แต่งงานด้วยฉันก็ว่ามันก็แย่อยู่แล้วนะ ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงเล่า!” มัทรีสวนคืนอย่างเหลืออด เขายักไหล่เหมือนไม่ยี่หระกับอาการเริ่มเหวี่ยงของมัทรีเพราะไม่ได้ดั่งใจ
“ก็นึกว่าอยากมีลูกด้วยกัน ผมไม่มีปัญหานะ” เขายังคงพูดต่อ มัทรีหน้าแดงด้วยความโมโห
“เราจะมีลูกด้วยกันไม่ได้! เราจะหย่ากันแทนภายในสามเดือน คำสาปนั่นก็หมดไป แล้วเราก็ทางใครทางมัน ถ้าหากคุณไม่มีปัญหาอะไรก็ทำตามที่ฉันพูดนี่แหละ” มัทรีออกคำสั่งอย่างไม่ต้องให้อีกฝ่ายได้ขัดแย้งอะไรขึ้นมาได้ เขาได้แต่ยิ้มที่มุมปาก และอดคิดไปไม่ได้ว่าในวันนี้กับวันที่พบกันวันแรก มัทรีเหมือนคนละคน ยกเว้นก็แต่ดวงตาเจ้าเล่ห์แสนกลที่หล่อนมีนั้นยังคงเหมือนเดิม
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว