มาลัยแก้ว เวฬุฬี มาตาวดี
ผู้ติดตาม
1
ผู้ติดตาม
1
รายการนิยาย
วิวาห์เทพธิดา
วิวาห์เทพธิดา
เม่ยหยาจื่อ
  • รักโรแมนติก
ดอกไม้งามไม่หอม ดอกไม้หอมย่อมไม่งาม เปรียบได้ดั่งหมอหญิงผู้เย็นชาแห่งลั่วเหยา เพราะแม้จะรู้ว่าเฉียนเทียนเป็นอ๋อง แต่นางก็หาได้สมัครใจยอมรักษาคนป่วยเจียนตายเพราะอาการช้ำรักเช่นเขาไม่ หรูเฉวียหน้าแดงหนักขึ้น นึกโกรธตัวเองที่ปล่อยให้สาวรับใช้ปั่นหัวจนต้องเดินมาเหยียบหลุมพรางของเขาเข้าจนได้ ยามนี้ผู้ที่ตกทุกข์ก็คือนาง ผู้ที่รอดพ้นความลำบากก็คืออี้ฉิน เช่นนี้แล้วต้องเรียกว่าบัณฑิตแบกหญ้าให้ลากินย่อมมิผิด “ถ้าท่านยอมให้ข้าออกไปจากห้อง โดยที่ท่านสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้แล้วล่ะก็ ข้าหรูเฉวียสาบานว่าจะไม่เอาเรื่องท่าน” “เห็นทีท่าจะยาก เพราะตอนที่ข้านำเจ้าเข้ามาในห้องนี้ คนทั้งหอนางโลมก็ล้วนแต่คิดว่าข้าเสพสมกับชายหนุ่ม ดังนั้นหากข้าจะยอมปล่อยให้เจ้าเดินออกไปจากห้องโดยที่ปล่อยให้ตนเองรับกรรมเพียงลำพัง ข้าว่ามันไม่ถูก เพราะอย่างน้อยข้าไม่ได้เป็นฝ่ายรบเร้าให้เจ้ามาหา” “ท่าน ท่านยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่” “ข้าย่อมเป็นลูกผู้ชายแน่นอน เมื่อคืนเจ้าเองก็เป็นผู้พิสูจน์แล้วมิใช่หรือ ว่าข้านั้นเป็นชายหนุ่มเต็มตัวและเลือดร้อนเพียงใด” “ท่าน ช่างไร้ยางอายนัก รังแกสตรีอ่อนแอเช่นข้าแล้วยังกล้าตีฝีปากกับข้าอย่างไม่ละอายอีก” เฉียนเทียนพรายยิ้มยั่ว “เรื่องตบตีกับอิสตรีข้าไม่ถนัด แต่ถ้าหากเป็นเรื่องบดจูบริมฝีปากสตรีผู้อ่อนแอเช่นเจ้าล่ะก็ข้าถนัดยิ่งนัก ว่าอย่างไรเล่าอยากให้ข้าช่วยทบทวนกลอนวสันต์เมื่อคืนอีกสักรอบหรือไม่เล่าภรรยา” หรูเฉวียจำต้องนิ่งสงบปากเพราะริมฝีปากของชายหนุ่มทำทียั่วเย้าจะโน้มลงมาหา “ท่าน ไม่ละอายข้าเลยรึ” “จะให้สามีอายภรรยา เช่นนั้นแล้วจะมีทายาทสืบสกุลได้อย่างไรกัน จริงหรือไม่”
บรรณาการรัชทายาท
บรรณาการรัชทายาท
เม่ยหยาจื่อ
  • Romance Lover
พิธีวิวาห์ของนางคือหน้าตาของคนตระกูลหยาง แต่ด้วยเคราะห์เข็ยและน้ำมือของชายลึกลับ กลับพลิกชะตาให้อิงหลงต้องกลายเป็นสตรีแปดเปื้อน คนทั้งเมืองดูถูกเหยียดหยาม ส่วนนางต้องถูกชายแปลกหน้าย่ำยี ด้วยความผิดที่ตนมิได้ก่อ อิงหลงกรีดร้องเสียงหลงเมื่อถูกเยว่เทียนคว้าร่างไว้ได้ ร่างเล็กถูกพลิกกายหันกลับมาเผชิญหน้ากับใบหน้าคมคายในระยะใกล้เพียงฝ่ามือกั้น ประหนึ่งดุจถูกมนตราเซียนเทพบุตรร่ายใส่ อิงหลงแม้จะหดคอเข้าหาตัวทั้งยังหลับตาแน่นไม่กล้าสบตา หากแต่กลับรับรู้ได้ว่าร่างสูงใหญ่ได้ใช้แขนทั้งสองสร้างกรงขังนางไว้เสียแล้ว ใบหน้างดงามหมดจดไร้ไฝฝ้า ดวงตาคู่โศกกลับซ่อนเร้นอยู่หลังเปลือกตาไม่ยอมลืมมามองเขา “หยางอิงหลง ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะชดใช้ในสิ่งที่ตระกูลเจ้าติดค้างข้าไว้ได้อย่างไรจึงจะสาสม” ได้ยินเช่นนั้นแล้วหัวใจของอิงหลงเต้นรัวเร็วเผลอลืมตาขึ้นมาด้วยความอยากรู้ “พระองค์อย่าได้ทรงกล่าวหาครอบครัวของหม่อมฉันนะเพคะ ตระกูลหยางทำคุณงามความดีให้แก่เมืองถังและราชวงศ์ของพระองค์มาหลายรุ่น จะมีเรื่องใดเสื่อมเสียสร้างความขุ่นเคืองให้แก่พระองค์ได้อย่างไรกัน” ประกายตาของเยว่เทียนคมกริบแวบแรกคล้ายมองเห็นความขุ่นแค้นใจ อีกพักเดียวก็ดูคล้ายแววตาของเด็กเล็กที่ชอบเล่นสนุกอย่างไม่สนใจคำห้ามปรามของพ่อแม่ “อีกไม่นานไว้ข้าได้สมบัติของข้าคืนเป็นที่เรียบร้อย วันนั้นเจ้าค่อยรู้ความจริงก็แล้วกัน” มือกร้านกำยำสอดเข้ามาจากทางด้านหลังร่างของอิงหลง บีบประคองท้ายทอยของนางให้แหงนขึ้น ริมฝีปากกระจับกระด้างบดขยี้ลงมายังกลีบปากงดงามเนียนละมุน บดขยี้เคล้าคลึงรุนแรงอย่างเอาแต่ใจ แรกสัมผัสเล้าโลมหัวใจของอิงหลงถึงกับสะดุ้งขวัญหนี มือเล็กทั้งสองข้างทั้งทุบตีบนแผงอกกว้างเขากลับไม่แยแส ริมฝีปากรุนแรงเอาแต่ใจไม่ต่างจากอารมณ์ของชายหนุ่ม แม้จะออกแรงทุบตีสักเท่าไหร่แรงบดเคล้าก็หาได้เบาบางลง แขนทั้งสองข้างโอบกระชับร่างบอบบางแนบเข้าหากาย ริมฝีปากกลับมิยอมปลดปล่อยรสจูบเร่าร้อนดุจลมบูรพา ยามนี้แม้นจิตใจของนางจะแข็งแกร่งปานหลอมจากเหล็กไหล กลับอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงแข็งขืน หลงเหลือเพียงมือน้อยทั้งสองข้างกุมขยำอกเสื้อของรัชทายาทไว้แน่น ราวกับเป็นปราการสุดท้ายขวางกั้นมิให้ชายหนุ่มได้ใจมากไปกว่าเดิม ร้อนรสจุมพิตใดไหนจะเทียบเท่า เยว่เทียนเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสอันอ่อนละมุนบนริมฝีปากอ่อนนุ่มจนหมดหัวใจ นางแข็งกร้าวกับเขาห้าส่วนเขาก็จะรังแกนางให้หนักกลับไปเป็นสิบส่วน ครั้งแรกรังแกร่างกายไม่ว่าจะเป็นซักผ้า ผ่าฟืนหรือแม้แต่ยืนในห้องเครื่องนางกลับทนได้ทุกสิ่ง หากเป็นการข่มเหงทางจิตใจแม้จะหลอมดวงใจมาจากเหล็กไหลชายหนุ่มก็แน่ใจว่านางจะต้องหมดแรงขัดขืน