Hawthorn
ผู้ติดตาม
119
ผู้ติดตาม
119
รายการนิยาย
สะใภ้คนนี้ (พ่อ)สามีหวงที่สุด
สะใภ้คนนี้ (พ่อ)สามีหวงที่สุด
Hawthorn
  • วรรณกรรมผู้ใหญ่
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองชื่อเรือน 'ฮุ่ยหวง' พลางแอบลอบคิดในใจ ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตั้งชื่อเรือนนี้กัน ความหมายถึงช่างแตกต่างกับนิสัยเจ้าของเรือนนัก หากคนอย่างใต้เท้าโม่มีรัศมีแห่งความเมตตา ในใต้หล้าคงไร้คนอาฆาตพยาบาทแล้ว "ฮูหยินน้อยเชิญเจ้าค่ะ" "ท่านพ่อเรียกหาด้วยเรื่องใด เจ้ารู้หรือไม่" "ฮูหยินน้อยจะถามบ่าวได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านน่าจะรู้ดีมากกว่าบ่าว ว่านายท่านเรียกหาฮูหยินน้อยด้วยเรื่องใด" เสียงปิดประตูเรือนดังพร้อมสิ้นเสียงซื่อซิ่นสาวใช้ข้างกายเจ้าของเรือน ดวงตาของอีกฝ่ายที่มองมายังนาง ฉายแววไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด ทว่าหนี่ซวงย่อมเข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ทั้งหมดเป็นความผิดของนางเมื่อใด ในเมื่อผู้ที่กำหนดมิใช่นาง "มาฝนหมึก" เสียงทุ้มต่ำจากด้านในเรียกสติหญิงสาวให้กลับมาอยู่กับตัว จำต้องเดินเข้าไปยังมุมโต๊ะทำงานที่เจ้าของเสียงเรียกนั่งอยู่ ก่อนมือเรียวจะหยิบแท่งหมึกที่ฝนค้างไว้ขึ้นมาทำหน้าที่ประจำ "ได้ดูรายชื่อแล้วหรือยัง" "ยังไม่ได้ดูเจ้าค่ะ ช่วงสายซวงเอ๋อร์นอนพักผ่อน ตื่นมาก็พอดีกับเถ้าแก่เนี้ยอวิ๋นมาวัดตัว พอเสร็จท่านพ่อก็เรียกมาที่นี้ แต่ถึงไม่ได้ดูอย่างไรซวงเอ๋อร์เชื่อว่าท่านพ่อต้องจัดการทุกอย่างได้ดีอยู่แล้วเจ้าค่ะ" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่เขียนอยู่ เพื่อมองเจ้าของคำพูด ทั้งที่ใบหน้าสวยกำลังคลี่รอยยิ้มหวานอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความจริงใจในคำพูดของนางสักเพียงนิด "ก็ดี" เสียงเย็นที่ตอบรับทำให้หนี่ซวงไม่กล้าต่อความยาวกับอีกฝ่ายอีก ทั้งเขาก็ไม่เอ่ยปากพูดสิ่งใดกับนางอีกเช่นกัน ทำให้ภายในห้องกว้างมีเพียงเสียงแท่งหมึกฝนกับฐานเท่านั้น พาให้หญิงสาวรู้สึกเย็นยะเยือกไม่ต่างจากยืนตากหิมะอยู่ด้านนอกห้อง และเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมพูดหรือสั่งอันใดต่อ ทำให้ร่างบางต้องยืนจนปวดขาปวดน่องไปหมด กว่าเขาจะเลิกเขียนเอกสารบนโต๊ะ แล้วหันกลับมาสนใจนางที่แทบจะเก็บสีหน้าไม่พอใจไว้ไม่อยู่ "ทำไม ยืนแค่นี้หมดแรงแล้ว" "ไม่เจ้าค่ะ ยืนทั้งคืนซวงเอ๋อร์ก็ยังไหว" "ดี คืนนี้เจ้าจะได้ยืนสมใจ" มุมปากหยักปรากฏรอยยิ้มมีเลศนัย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จนศีรษะมนหญิงสาวอยู่แค่เพียงหน้าอกเขาเท่านั้น หลังสิ้นเสียงของชายหนุ่ม หนี่ซวงรู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบกายเหมือนจะยิ่งเย็นยะเยือกมากขึ้น ทำให้นางยืนตัวแข็งก้าวเท้าเดินตามร่างหนาไม่ออก หญิงสาวรู้สึกเหมือนพูดบางอย่างผิดไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นตรงไหนกัน
ฮูหยินอย่างข้า ไหนว่าไม่รัก
ฮูหยินอย่างข้า ไหนว่าไม่รัก
Hawthorn
  • รักโรแมนติก
ป๋อเหวินรู้สึกตัวตื่นหลังจากร่างเล็กในอ้อมกอดพยายามดิ้นขลุกขลักให้หลุดพ้น เขาที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำสีหน้าอย่างไร เมื่อเผลอนอนกอดหญิงสาวไว้ตลอดทั้งคืน จึงแกล้งทำเป็นหลับต่อและกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าสตรีในห้องหออย่างนาง จะกล้ากัดยอดอกเขาอย่างแรงเช่นนี้ "นี่เจ้า คิดจะทำอันใด" "สามี เป็นท่านที่นอนกอดข้าไว้ไม่ปล่อย จะโทษข้าได้อย่างไร" ลู่เสียนนั่งเผชิญหน้ากับร่างหนาที่กำลังชี้หน้าคาดโทษนางอย่างไม่เกรงกลัว ความผิดนางเสียเมื่อใดกัน ผู้ใดให้มากอดนางไว้เช่นนั้น นางไม่กัดให้หลุดขาดก็ดีเท่าใดแล้ว "ปากยังเรียกข้าว่าสามี เจ้าก็ความรู้ว่าสามีภรรยาจะนอนกอดกันหาใช่เรื่องผิดอันใด" "ก็ใช่ที่ท่านเป็นสามีข้า แต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์มากอดข้าเช่นนี้" "ไม่มีสิทธ์ได้อย่างไร เมื่อวานเจ้ายังรับปากกับท่านย่าอยู่เลยมิใช่หรือ ว่าจะรีบมีเหลนให้ท่าน" "ไม่ ปล่อยข้านะ" ลู่เสียนถอยหลังจนติดผนังด้านในไร้ทางหนี จึงถูกมือใหญ่จับนางรวมข้อมือนางยกขึ้นสูงค้างไว้ พร้อมใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามาแบบชิด จนนางรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนยามเขาเอ่ยพูด เมื่อวานนางเพียงแสร้งตอบรับฮูหยินผู้เฒ่าไปส่ง ๆ เพื่อความสบายใจของผู้ได้ยินเท่านั้น ไม่คาดคิดว่าเขาที่นั่งอยู่อีกมุมของห้อง จะได้ยินสิ่งที่พวกนางสนทนากัน "มิอยากมีเหลนให้ท่านย่าแล้วหรือ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าทำอย่างไร ในนี้ถึงมีเหลนให้ท่านย่าข้าได้" ใบหน้าสวยสะบัดหนีนิ้วยาวที่ไล้ลูบตามกรอบหน้า ขนอ่อนลุกตั้งชันรู้สึกเสียววูบไปทั้งกายกับท่าทีจู่โจมของชายหนุ่ม เมื่อครู่เขายังมีสีหน้าแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดจากการที่โดนนางกัด ยามนี้กลับผลัดเปลี่ยนเป็นยกยิ้มมุกปากเจ้าเล่ห์ จนนางคาดไม่ถึงว่าบุรุษที่มีท่าทีเย็นชามาตลอด จะกลับกลายเป็นเช่นนี้ได้ ป๋อเหวินจากเพียงหยอกล้อเอาคืนที่หญิงสาวกัดเขาเพียงเท่านั้น แต่กลิ่นกายหอมผนวกกับเรือนร่างนุ่มนิ่มเย้ายวนของนาง ทำให้เขายากจะยับยั้งฝ่ามือร้อนไม่ให้ลูบไล้ลงหาปทุมถันอวบอิ่มตรงหน้าได้ "อืออ" ริมฝีปากบางกัดเม้มเข้าหากัน หลังเผลอครางเสียงน่าอายออกมา เมื่อถูกชายหนุ่มลุกล้ำบีบเคล้นหน้าอกนางแรงขึ้น ด้วยเวลานอนลู่เสียนไม่ชอบใส่เอี้ยมตัวในให้รำคาญ เมื่อคืนนางคิดว่าเขาจะไม่กลับเข้ามา จึงแต่งกายเข้านอนเหมือนเช่นทุกครั้งกับตอนอยู่ที่เรือนตน ทำให้นิ้วยาวสัมผัสลูบผ่านยอดถันนางโดยมีเพียงผ้าบางกันเท่านั้น ป๋อเหวินฝั่งจมูกลงยังซอกคอขาว พิสูจน์อีกครั้งว่ากลิ่นหอมนั้นมาจากผิวกายหญิงสาวอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ กลิ่นกายนางหอมเป็นเอกลักษณ์จนเขายากจะหยุดสูดดม ยากชนิดที่ว่าเขาไม่สามารถจะยับยั้งใจตน ไม่ให้ส่งเรียวลิ้นเลียสัมผัสผิวขาวเนียนตรงหน้าได้อีกต่อไป "โม่ป๋อเหวิน ท่านรักข้าหรือไม่"
ลั่วหนิงลี่ แม่สื่อแสนเสน่ห์
ลั่วหนิงลี่ แม่สื่อแสนเสน่ห์
Hawthorn
  • แรงชัดจัดเต็ม
'ไปอยู่กับข้าไหม' คำถามของนาง เขายังจำได้ขึ้นใจ เขาในตอนนั้น ไม่รีรอที่จะยื่นมือตอบรับนางในทันที คิดเพียงจะให้เขาเป็นทาสรับใช้ก็ยินดี ขอเพียงชีวิตนี้ได้หลุดพ้นจากที่เป็นอยู่ก็พอ ทว่าทุกอย่างกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคาดคิดไว้ หนิงลี่แบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงขั้นรับเขาเป็นน้องชายบุญธรรม แม้จะเพิ่งเคยได้พบหน้ากันก็ตาม นางไร้บิดามารดา ไร้ครอบครัว ไม่ต่างจากเขา ในขณะนั้น เขาจึงกลายเป็นครอบครัวคนเดียวที่นางมีในทันที หนิงลี่มีเรือนหลังใหญ่โตที่บิดาสร้างไว้ให้ มีเงินทองที่มารดาเก็บซ้อนไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะจากไป จึงทำให้ชีวิตในแต่ละวันของนาง เป็นอยู่อย่างสุขสบาย แต่กระนั้น นางก็ยังคงทำงาน ทั้งยังหาเงินทองได้เพิ่มเป็นกอบเป็นกำจากงานที่ทำ แม่สื่อ เป็นอาชีพในการหาเงินของนาง
เฟินเจียว แม่เลี้ยงในนาม
เฟินเจียว แม่เลี้ยงในนาม
Hawthorn
  • วรรณกรรมผู้ใหญ่
นางสงสารกลัวเด็กชายอยู่เพียงผู้เดียวจะยิ่งคิดถึงบิดาที่จากไป ถึงแม้ยามมีชีวิตอยู่ผู้เป็นบิดาจะพูดคุยกับเขานับคำได้ก็ตาม ยามกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่เงียบเหงาน่าเป็นห่วงที่สุด นางจึงให้เขามานอนกับนาง ทั้งที่ตอนนั้นเขาอายุสิบสองปีแล้วก็ตาม เด็กชายที่เริ่มไร้แววเป็นเด็กชาย ก็มิได้อิดออดตีหน้าเศร้านอนให้นางกกกอดจนหลับอยู่ทุกค่ำคืน หากคิดดูแล้วเรื่องมันคงจะผิดพลาดเกินแก้ไขมาตั้งแต่ตอนนั้น จวบตอนนี้ให้หลังมาแปดปีเต็มแล้ว เขาก็ยังมิยอมกลับเรือนตนไป คราแรกเขาบอกนางว่าอย่างไรนะ หากจำมิผิด เขาว่ามารดาจากไปแต่ยังเล็ก เขามิเคยได้มีโอกาสดูดนมจากเต้ามารดาสักครั้ง เขาจึงขอดูดนม 'ท่านแม่' จะได้หรือไม่ ผ่านมาถึงหกปีแล้ว จนเขาได้แต่งตั้งเป็นท่านโหว กินตำแหน่งใหญ่ในราชสำนัก เหตุใดเขายังดูดนมท่านแม่อย่างนางอยู่อีกเล่า