KASIBSHOL COMBAT มาเฟียร้ายกระหายรัก

Chapter 1


เช้าสายของวันหนึ่ง ณ สนามบินที่รายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายซึ่งกำลังรอเที่ยวบินของแต่ละคนเพื่อที่จะรอไปยังจุดปลายทางของตนอยู่นั้น มีครอบครัวหนึ่งกำลังร่ำลากัน โดยมีภาพของพ่อแม่ลูกสวมกอดกันมาส่งลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาและมักจะเรียกเธอติดปากว่าลินหรืออลินดาไปเรียนต่อป.เอก อลินดาสาวสวยหน้าหวานมีรูปร่างไม่อ้วนไม่ผอมสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ทำหน้าตาทั้งดีใจและเศร้าใจในคราวเดียวกันเพราะที่เธอดีใจนั้นเธอจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากต่างประเทศและประสบการณ์การชีวิตที่ต้องเผชิญยามอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ส่วนที่เธอนั้นเศร้าใจก็เพราะเธอคงต้องอยู่ไกลจากครอบครัวของเธอ หลังจากที่เธอสวมกอดร่ำลาพ่อแม่ของเธอจนพอใจแล้วเธอก็ได้พูดติดตลกเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเศร้าไปนัก

“พ่อคะแม่คะดูแลตัวเองด้วยนะคะ ดาไม่อยู่แล้วอย่ามัวแต่ทะเลาะกันนะไม่มีคนห้ามมวยนะคะ” อลินดาเอ่ยขึ้นกับบิดามารดาตนอย่างหยอกเย้า

“นี่ยัยลูกคนนี้ดูสิจะไปอยู่แล้วยังพูดแบบนี้อีก” มารดาต่อว่าให้เธออย่างไม่จริงจังนัก

“เสียดายนะคะที่พี่อลันไม่ว่างมาส่งหนูด้วย”อลินดาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าเธออยากให้พี่ชายเธอมาส่งเธอจัง แต่พี่ชายของเธอติดงานประชุมต่างจังหวัดกลับมาไม่ทันส่งเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกลูก เดี๋ยวถ้าพี่เขาว่างก็ไปเยี่ยมหนูที่นู้นเลยดีไหม” มารดาพูดปลอบใจลูกสาวสุดที่รัก

“หนูเข้าใจค่ะก็คุยกับพี่อลันแล้วแค่มีความรู้สึกว่าอยากให้มาส่งพร้อมหน้าพร้อมตากันกับคุณพ่อคุณแม่น่ะค่ะ” อลินดาตอบมารดา

เมื่อคนเป็นเห็นสีหน้าไม่ลูกสาวคนเล็กไม่ค่อยดียามพูดเรื่องนี้จึงพูดตัดบทสนทนาระหว่างแม่ลูก

“ดาลูกพ่อดูแลตัวเองดี ๆ นะลูกตั้งใจเรียนและหาประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดนะลูกพ่อเอาใจช่วย”

“ขอบคุณค่ะพ่อ”

อลินดาไหว้ขอบคุณบิดามารดาของตน ก่อนจะเดินไปขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไกล โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าการเดินทางมาเรียนต่อครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

ณ รัฐฟอริดา สหรัฐอเมริกา ห้องพักขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับสาวไทยที่พอมีฐานะอย่างเธอก็พอจะให้เธอไม่ลำบากมากนัก เมื่อมาถึงอลินดาจึงจัดแจงข้าวของต่าง ๆ ที่เธอขนมา จากนั้นเธอจึงเข้านอนพักผ่อนเพราะเธอเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาเป็นเวลานาน เมื่อหัวถึงหมอนเธอก็หลับไปทันที

เช้าสดใสของวันใหม่อลินดาลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวและทานข้าวเช้าที่ห้องพักจากการทำอาหารง่าย ๆ ของเธอ จากนั้นเธอก็วางแผนในใจว่าจะไปสำรวจดูสถานที่เรียนและสถานที่ต่าง ๆ บริเวณที่ใกล้ ๆ กับที่เธอพักและเธอก็คิดไปถึงเรื่องการหางานทำ

ถึงแม้ว่าทางบ้านของเธอจะมีฐานะบ้างพอสมควรแต่เธอก็ไม่อาจจะนิ่งดูดายเธอจึงตัดสินใจที่จะหางานทำเพื่อที่จะได้หาประสบการณ์และหารายได้ไปด้วยเพื่อสร้างฐานะให้กับตนเองด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองช่างน่าภูมิใจกว่าขอทางบ้าน หลังจากทึ่วางแผนเสร็จแล้วอลินดาก็อิ่มจากการทานข้าวเช้าพอดีและเธอออกจากห้องพักเพื่อไปสำรวจดูสถานที่ต่างๆตามที่เธอได้วางแผนในใจไว้ก่อนหน้านี้

ระหว่างที่เธอกำลังสำรวจอยู่นั้นและคิดว่าจะหางานทำเพื่อจะได้หารายได้พิเศษให้แก่ตนเองอยู่นั้น จู่ ๆ เธอก็ไปเดินชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจังทำให้เธอล้มลง คนที่ชนเธอก็รีบเข้ามาช่วยด้วยความตกใจ พร้อมกับถามคนที่เค้าเดินชนด้วยความเป็นห่วงว่า

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” เมื่ออลินดาได้ยินเสียงก็ตอบรับว่า

“ไม่เป็นไรค่ะ” พร้อมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บตามมา

“โอ๊ยยย เจ็บ”

ทำให้ใครอีกคนส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“เจ็บมากหรือเปล่าครับ”

คราวนี้ทำให้เธอสงสัยเสียงนี้รู้สึกคุ้นๆหูอย่างไรชอบกลเธอจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาดูหน้าของคนทึ่เดินชนเธอเมื่อสักครู่นี้และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเธอก็เบิกตากว้างด้วยความดีใจที่ได้เจอเพื่อนสนิทตอนที่เรียนมหาลัยด้วยกัน แม้ว่าจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตามแต่เธอก็จำเพื่อนของเธอคนนี้ได้ไม่ผิดแน่นอน เธอจึงรีบถามชายตรงหน้าที่เดินชนเธอทันที

“วัฒน์ นั่นวัฒน์ใช่ไหม๊”