บทที่1 l ใกล้ตัว 1/2
“ยะ…ยะ….ยัยซิน ยัยโม มาดูนี่เร็วเข้า!”
ซันนี่ หรือ คมสัน ผู้ชายตัวอ้วนดำสูงใหญ่ที่มีใจเป็นหญิงตะโกนเรียกเพื่อนสนิทสาวทั้งสองคนให้มาร่วมดูหน้าจอโทรศัพท์ที่เขาเปิดข่าวฆาตกรรมหน้าโรงเรียน Davislo คาเอาไว้ เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่นทำให้หนึ่งในเพื่อนสาวหันขวับมามอง
“อะไรกันเชียวนังสันนี่ เอะอะโวยวายเสียงดัง”
‘โม’ หรือ ‘โมนิค’ ช่างแต่งหน้าสาวสุดสวยประจำกองถ่ายวางแปรงแต่งหน้าลงในกล่องก่อนจะเปลี่ยนชื่อให้เพื่อนชายใจหญิงเสียจนดูพิลึก
“ฉันชื่อซันนี่ย่ะ ไม่ใช่สันนี่” คมสันยกแขนเท้าสะเอวที่ไม่ค่อยจะมีแล้วโต้กลับอย่างเคืองๆ แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ปรับสีหน้าจากที่ค้อนเพื่อนสนิทสาวกลายมาเป็นหวาดกลัวกับข่าวที่เกิดขึ้น “รีบมาดูนี่เร็วเข้ายัยโม….แกด้วยยัยซิน”
ท้ายประโยคคมสันเบนสายตาไปหา ‘ซิน’ หรือ ‘สลัญลักษณ์’ นักแสดงและนางแบบสาวสวยซึ่งกำลังนั่งจิ้มโทรศัพท์ระหว่างรอช่างทำผม แต่เหมือนสลัญลักษณ์จะไม่สนใจเสียงเรียกของเขา เจ้าหล่อนเอาแต่ดูมือถือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนสาวน้อยหัดมีความรัก
“ไหน…จะมีอะไรนักหนากันเชียว” โมนิคหมุนเก้าอี้ไปหาคมสันที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“ก็นี่ไงแก ไอ้โรคจิตไร้หน้ามันก่อเหตุอีกแล้ว” คมสันยื่นโทรศัพท์ให้ โมนิค หญิงสาวรับมาดูอย่างร้อนรนโมนิคกวาดสายตาอ่านรายละเอียดแล้วต้องเบ้หน้าหนีด้วยความรู้สึกโหวงเหวงเมื่อเห็นชื่อของเหยื่อ
“พระเจ้า! นี่มัน……เอมิเลีย”
ใบหน้าของโมนิคซีดเผือดราวกับคนไม่มีเลือด เธอช็อกมากเมื่อรู้ว่าเหยื่อรายนี้เป็นคนใกล้ตัว ‘เอมิเลีย’ ก็คือนางแบบอีกคนที่ดังคู่ๆกับสลัญลักษณ์ เอมิเลียเป็นนางแบบแนวปลุกใจเสือป่า แต่สลัญลักษณ์เป็นนักแสดงและนางแบบโฆษณาทั่วไป
ปกติ สลัญลักษณ์ โมนิค และคมสัน ไม่ได้อาศัยอยู่เมืองนี้แบบถาวรหรอกพวกเขาเช่าบ้านหลังเล็กๆคนละหลังเอาไว้แต่บ้านจริงๆของนั้นอยู่ในตัวเมืองไกลออกไป ที่ต้องมาชนบทเล็กๆแบบนี้มีสองเหตุผล
หนึ่ง พวกเธอกำลังศึกษามหาวิทยาลัยที่เมืองนี้ ในตอนแรกทั้งสามเป็นเด็กที่ลำบากไม่มีเงินจะเรียนมหาวิทยาลัยค่าเทอมแพงๆในเมืองจึงต้องมาเรียนในเมืองเล็กๆแทน แต่ด้วยความสวยของสลัญลักษณ์บวกกับความสามารถของคมสันและโมนิคทำให้เวลาพวกเธอกลับบ้านในตัวเมืองมีแมวมองมาทาบทามให้ทำงานในวงการนางแบบและนักแสดง
และเหตุผลข้อที่สองคือพวกเธอทุกคนกำลังถ่ายทำฉากจบของซีรีย์ที่เมืองนี้โดยที่พวกเธอก็ไม่เข้าใจผู้กำกับเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากได้ฉากจบในเมืองแสนน่ากลัวอย่างที่นี่ด้วย
“ฉันว่ามันน่ากลัวแล้วนะเว้ยยัยโม….เหมือนฆาตกรกำลังเข้าใกล้เราเรื่อยๆแล้วอะ ฉันกลัว”
“ไม่มั๊งแก…แกคิดมากไป” โมนิคปลอบเพื่อน
“ฉันก็ไม่รู้นะเว้ย แต่ศพก่อนหน้าก็เป็นนักศึกษาในมหา’ลัยเดียวกับพวกเรา แล้วนี่ก็เอมิเลียนางแบบที่พวกเราทำงานด้วยอีกอะแก”
คมสันกอดแขนเพื่อนสาวอย่างหวาดกลัวจนโมนิคที่พยายามไม่คิดอะไรเริ่มกลัวขึ้นมาจับใจ
“แล้วนี่นะเหมือนฆาตกรมันเล็งแต่เหยื่อสวยๆหุ่นดีๆด้วยนะแก….ฉันกลัวที่สุดเลย”
“โอ๊ยยย จะกลัวไปทำไมยะ แกมันห่างไกลจากคำว่าสวยหุ่นดีตั้งหลายโยชน์ไหมล่ะซันนี่….และที่สำคัญแกไม่ใช่ผู้หญิง” สลัญลักษณ์ที่นั่งเงียบมาตลอดหันมาแซวคมสัน
“นี่นังซิน ปากดีไปเหอะ แกเจอเข้าสักวันจะร้องไม่ออก”
“โอ๊ยยย ฉันไม่กลัวหรอกจ้ะไอ้ฆาตกรไร้หน้าอะไรนั่นน่ะ เพราะฉันคนนี้เรียนศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กๆ ฮัดช่า!” สลัญลักษณ์ไม่พูดเปล่ายังออกหมัดประกอบอีกด้วย
“แกก็เป็นซะแบบนี้แหละซินเอ๊ย ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะแก ผู้หญิงเราน่ะเวลาคับขันมันจะตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนะเว้ย” โมนิคปรามเพื่อนสาวที่มั่นใจเกินเหตุ จนสลัญลักษณ์ต้องเก็บมือนั่งหน้าหงอย
“รู้แล้วน่า…ฉันจะระวังตัว” นางเอกสาวบอกก่อนจะก้มลงไปยิ้มกับโทรศัพท์ต่อ คมสันกับโมนิคหันมองหน้ากันหมั่นไส้กับแม่นางแบบคนสวยที่พักหลังนี่ติดโทรศัพท์เหลือเกิน
“แล้วนั่นดูอะไรนักหนา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” คมสันแซว
สลัญลักษณ์ละสายตาจากจอมือถือแล้วสบตาเพื่อนสนิทสองคน ดวงตากลมโตสดใสเป็นประกายก่อนจะยื่นมือถือโชว์เพื่อนทั้งสอง
“ก็วันนี้จะมีดารารับเชิญมาถ่ายตอนจบกับพวกเราด้วยไง” สลัญลักษณ์พูดอย่างตื่นเต้นสุดชีวิต
“ดารารับเชิญ ใครกัน” โมนิคถาม
“ก็คุณมาร์คอะ คิกๆ”
สลัญลักษณ์เอามือถือที่เปิดอินสตาแกรมของ ‘มาร์ค แอนดิสัน’ ค้างไว้มากอดแนบอก ส่วนคมสันกับโมนิคเมื่อได้ยินชื่อของดาราหนุ่มสุดฮอตจากฮอลลีวู้ดแล้วถึงกับมองหน้ากันกระพริบตาปริบๆอ้าปากค้าง
*************************************************************************************************
ช่วงแรกๆมาสั้นๆก่อนนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะเดี๋ยวลงให้อีกจ้า