รชตและแม่ของเขากลับมาพักฟื้นที่บ้านต่อ ธีราทรและคมคุณยังต้องไปๆมาๆ ระหว่างบ้านของแม่และบ้านตัว ทั้งสองดูโทรมกว่าเมื่อก่อนด้วยภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง ทั้งงาน ครอบครัวตัวเอง ดูแลแม่ ดูแลน้องชายและลูก ช่วงนี้เป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสของชีวิต
“นานเท่าไหร่ ” ชายหนุ่มพูดเมื่อหญิงสาวที่คุ้นเคยตามมาดูแลเขาถึงที่บ้าน เธอจะมาหลังเลิกเรียนแล้วรีบกลับหอ เพราะบ้านเขากับหอเธอห่างกันสิบกว่าโล
“อะไรเหรอ” หญิงสาวไม่เข้าใจกับการพูดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของชายหนุ่ม
“อะไรก็ได้ที่คุณจะทำให้ผม นานเท่าไหร่” รชตขยายความ เขานั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน ภายในห้องสีโทนเข้มอย่างผู้ชาย บรรยากาศดูอ้างว้าง
“ก็จนกว่านายจะพอใจหรือจนกว่านายจะหายโกรธลงได้บ้าง” หญิงสาวบอก
“มันจะไม่มีวันนั้น” เขาบอกอย่างขึงขัง มารดาของรชตเดินเข้ามาหาลูกชายอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะมีหญิงสาวไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วย เธอหันไปมองจิกนักศึกษาหญิงแรง
“เขาบอกจะมาดูแลผมน่ะครับแม่ แม่จะว่าอะไรไหมถ้าสุดสัปดาห์จะให้เขาค้างที่นี่” ชายหนุ่มพูดเองเออเองไม่ปรึกษาใคร กุลนารีมึนงงกับการกระทำของเขา
“แม่ดูแลแทนได้ ไม่ต้องให้’คนอื่น’มายุ่งก็ได้นะลูก” มารดาเขาบอก เธอไม่ชอบหน้าเด็กคนนี้ แต่พอเห็นสีหน้าลูกชายไม่พอใจกับคำตอบของเธอ จึงเอ่อออและตามใจลูกชายไปก่อนออกไปทำกับข้าวเย็น
“ได้ยินแล้วนะ ทำได้ไหม” ชายหนุ่มถาม
“ได้สิ” กุลนารีตอบเขาอย่างไม่นึกกังวล รชตมองเธออีกครั้งก่อนดำดิ่งสู่แผนการที่เขาวางไว้ในหัว
“เป็นไงวะ ไอ้เพื่อนยาก” เสียงเพื่อนสนิทชายหนุ่มดังมาแต่ไกล
“อย่างที่เห็น กูก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไรหรอกวะเวฟ” รชตบอก
“อ้าว มิ้งค์มาเหมือนกันเหรอ” เวฟเอ่ยถามหญิงสาวอย่างเป็นมิตร
“เขาจะมาดูแลกู”ชายหนุ่มเอ่ยบอก จ้องตากับเพื่อนชายคนสนิท เวฟทำหน้าไม่เชื่อ คนอย่างมึงเหรอ จะให้เขามาดูแล มึงมีแผนชั่วอะไรวะ ก่อนหน้านี้แค้นจะเป็นจะตาย ไม่มีทางจะมายอมรับไมตรีจากหญิงสาวง่ายขนาดนี้ เวฟทำท่าทางส่งสัญญาณ เขาได้รับแต่เพียงรอยยิ้มเย็นยะเยือกจากชายหนุ่ม
“เรากลับก่อนนะเวฟ ไปนะนาย” กุลนารีเอ่ยบอกชายทั้งสองคน ก่อนจะเดินเข้าครัวไปลาหญิงเลยวัยกลางคนที่ไม่รับคำลาจากเธอสักที
“มึงจะทำเหี้ยไร” เวฟเปิดประเด็น
“กูไม่ได้ทำเหี้ยไรนี่หว่า” ชายหนุ่มบอกอย่างเบิกบานใจ
“ไม่มีทางอ่ะ มึงเกลียดมิ้งค์จะตาย ฆ่าเขาได้มึงฆ่าไปแล้ว ไหนมาวันนี้จะให้เขามาดูแล กูไม่เชื่อ ไอ่แทน มึงบอกกูมา” เวฟคาดคั้นจะเอาคำตอบ
“เล่นสนุกอะไรนิดหน่อยวะ ก็เสนอมาก็ต้องมีคนสนองใช่ป่าววะ ฮ่าๆ” ชายหนุ่มบอกอย่างขำๆ
“สนุกเหี้ยไร มึงจะทำอะไร” เวฟเริ่มกังวล
“สอนให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จักความเจ็บปวด ความสูญเสียเหมือนกูดิวะ” รชตบอกเค้นเขี้ยว “กูจะคูณร้อยคูณล้าน เอาให้สาสมเลยมึง ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” ชายหนุ่มระเบิดหัวเราะดังลั่น
“บ้า มึงมันบ้า อย่าทำอะไรนะมึง ” เวฟเริ่มเครียด เพื่อนเขามันบ้าดีเดือดมาตั้งแต่เด็ก ถ้าบอกว่าจะทำมันต้องทำให้ได้
“กูจะบอกเขา” เวฟบอก
“ก็เอาดิวะ บอกแล้ว ไม่ต้องมาคุยกัน มึงไม่ใช่เพื่อนกู” รชตจ้องหน้าเพื่อนตาเขม็ง เสียงหัวเราะและบอกเล่าแผนการของชายหนุ่ม ไม่ได้มีเวฟคนเดียวที่ได้ยิน คนที่มุมประตูข้างนอกก็ได้ยินด้วย
“ครูมิ้งค์ ข้าวปั้นคิดถึงครูมิ้งจัง” กุลนารีออกจากบ้านของชายหนุ่ม มุ่งตรงมายังบ้านของพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขา วันนี้เธอมาสอนพิเศษข้าวปั้น หลังจากหยุดสอนไปนาน
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง มิ้งค์” คมคุณเอ่ยถามเมื่อออกมาจากห้องครัว
“ก็ปกติค่ะ พี่คุณ” เธอพูดพรางสอนข้าวปั้นเขียนตัวคันจิในสมุดหัดคัดของเด็กประถม
“พี่ธียังไม่กลับเหรอคะ” กุลนารีเอ่ยถามถึงเจ้าของบ้านชายใจดี
“น่าจะไปบ้านคุณแม่ค่ะ คืนนี้คงค้างที่นั่นเลย” คมคุณบอกพลางยิ้มผลไม้ส่งให้ข้าวปั้นชวนหญิงสาวตรงหน้าให้กินด้วยกัน
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่