ปลุกตำนานเทพยุทธ์-บทที่ 50 พื้นที่เก็บของ! อย่าเครียดจนเกินไป

โดย  Enjoybook

ปลุกตำนานเทพยุทธ์

บทที่ 50 พื้นที่เก็บของ! อย่าเครียดจนเกินไป

บทที่ 23 การตัดสินใจของผมคือ...


"อะไรนะ?!"


"มหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน?!"


ทันใดนั้น


ผู้คนที่ถูกทำให้ตกตะลึงจนชาก็อดไม่ได้ที่จะมีปฏิกิริยาอีกครั้ง


ไม่ต้องพูดถึงนักเรียนธรรมดาทั่วไป แม้แต่ผู้คนระดับหัวหน้าก็ยังรู้สึกตกใจ


นี่คือมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของภูมิภาคฉู่หนาน และติดอันดับสิบของประเทศ!


ในปัจจุบัน ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคฉู่หนาน เทียนหมู่เหยี่ยก็จบมาจากมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน!


สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ผู้คนในภูมิภาคฉู่หนานคุ้นหูดี!


อาจกล่าวได้ว่าหากเป็นคนในภูมิภาคฉู่หนาน ย่อมต้องเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานมาไม่น้อย


แม้แต่ทั่วประเทศ คาดว่ามากกว่าร้อยละเก้าสิบเก้าของผู้คน ต่างเคยได้ยินชื่อมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน!


นี่คือมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานนะ!


จางเชียนสวิ่นยิ้มพลางพยักหน้า "สหายหลี่มู่ ฉันขอเชิญนายเข้าร่วมมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานด้วยความจริงใจ"


ในขณะเดียวกัน ดวงตาของชางมู่ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง


เขาถอยหลังไปหลายก้าวอย่างโซเซ


การประลองด้านแรงกดข่มนั้น เขาพ่ายแพ้แล้ว!


แรงกดข่มอันดุดันและเต็มไปด้วยจิตสังหารของเขา ถูกแรงกดข่มอันกว้างใหญ่ดุจห้วงลึกนั้นสลายไปโดยตรง


จางเชียนสวิ่นก็ไม่ได้รุกไล่อีกต่อไป เขาเก็บแรงกดข่มกลับไปทันที


ในชั่วพริบตา เขาราวกับกลายเป็นคนธรรมดาที่สุภาพเรียบร้อย


แต่ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขาแม้แต่น้อย!


อีกฝ่ายสามารถกดดันชางมู่ด้วยแรงกดข่มได้


แสดงว่าเขาต้องเป็นราชาแห่งนักรบระดับเจ็ดอย่างแน่นอน!


หรือไม่ก็เป็นแม่ทัพระดับหก! และบางทีอาจห่างจากการเป็นราชาแห่งนักรบไม่ไกลแล้ว!


ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบแรงกดข่มของจางเชียนสวิ่น ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นมากนัก!


สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการควบคุมแรงกดข่มของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก!


และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ สถานะของจางเชียนสวิ่น


การเชิญเข้าเรียนโดยตรงจากหัวหน้าภาควิชาการต่อสู้ของมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน


‘บนโลกนี้คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้เลยละมั้ง!’


ทุกคนต่างเปล่งเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจ


สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลี่มู่โดยไม่รู้ตัว


พร้อมรอคอยให้เขาตัดสินใจ


"มีเงื่อนไขเพิ่มเติมไหมครับ?"


หลี่มู่กลับมาสู่ความสงบแล้ว


แม้มหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานจะดีแค่ไหนก็ตาม


ทว่าหลี่มู่ให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่เป็นรูปธรรมมากกว่า


"เงื่อนไข?"


จางเชียนสวิ่นดันแว่นตาขึ้น


เขามองไปทางโจวป๋อด้วยสายตาที่ค่อนข้างสงสัย


ความจริงเขามาถึงที่นี่สักพักแล้ว


เพียงแต่ระหว่างทางได้ไปสกัดกั้นคนที่มหาวิทยาลัยอื่นส่งมา


นักรบระดับสามที่อายุสิบแปดปี


ข่าวนี้เปรียบเสมือนเลือดในทะเล


และมหาวิทยาลัยนักรบเหล่านั้น ก็เปรียบเสมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด


ข่าวแบบนี้ไม่สามารถปิดบังได้อยู่แล้ว


มหาวิทยาลัยนักรบที่มีอันดับดีถึงระดับหนึ่ง จะมีสิทธิ์ในการตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของนักรบจากสมาคมนักรบ


ในขณะที่มหาวิทยาลัยนักรบที่ดีหลายแห่ง มักจะมีแผนกคอยสังเกตการณ์และบันทึกข้อมูล ของสมาคมนักรบในพื้นที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ


มหาวิทยาลัยนักรบแต่ละแห่งต่างเคลื่อนไหวตามกระแสข่าว


หลังจากเวลาผ่านไปเพียงระยะเวลาสั้น ๆ


อย่างน้อยก็มีคนจากมหาวิทยาลัยหลายสิบแห่งกำลังมุ่งหน้ามายังเมืองเอส


มหาวิทยาลัยจากต่างถิ่นที่กล้ามา อย่างไรก็ต้องมีอันดับสูงกว่ามหาวิทยาลัยเทียนอู่ และมหาวิทยาลัยนักรบเฉียนเริ่นอย่างน้อยหลายร้อยอันดับ


และในจำนวนนั้น มีไม่น้อยที่อยู่ในอันดับราว ๆ หนึ่งร้อยถึงสองร้อย


แม้แต่มหาวิทยาลัยที่ติดร้อยอันดับแรกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น


อย่างไรก็ตาม เมื่อคนส่วนใหญ่จากมหาวิทยาลัยเหล่าเห็นจางเชียนสวิ่น ก็จะรู้จักกาลเทศะและถอยไป


ล้อเล่นอะไรกัน ภายในภูมิภาคฉู่หนาน หากไม่รู้จักมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน แล้วจะมาวุ่นวายอะไรที่นี่?


และเพื่อขับไล่ ‘ฉลาม’ ที่มาตามกระแสข่าวนั้น


จางเชียนสวิ่นใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะมาถึงที่นี่


"เอ่อ… เรื่องราวเป็นแบบนี้ครับ..."


เฮ่อฉางเจียงเริ่มพูดประโยคแรกของตนเองซ้ำ


เจ็ดเท่า


เขาเน้นย้ำว่า "พวกเราจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดของมหาวิทยาลัย เพื่อบ่มเพาะสหายหลี่มู่!"


แม้แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน เฮ่อฉางเจียงก็ยังไม่ยอมละทิ้งหลี่มู่


นั่นคือความหวังในการก้าวขึ้นมา ของมหาวิทยาลัยนักรบเฉียนเริ่นพวกเขา!


ความจริงแล้วประเด็นสำคัญคือ จางเชียนสวิ่นดูเหมือนจะสื่อสารด้วยง่ายกว่าชางมู่มาก


"นอกจากสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป การสอนของราชาแห่งนักรบกับการฝึกฝนด้วยเลือดและต่อสู้อย่างแท้จริง ฉันยังสามารถให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติมกับนายอีกหนึ่งล้าน"


ชางมู่ที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน


จางเชียนสวิ่นหรี่ตาลง ดวงตาหลังแว่นสว่างวาบขึ้นด้วยประกายแห่งความเฉลียวฉลาด เขามองไปทางชางมู่


ชางมู่ไม่ยอมแพ้และจ้องกลับไปอย่างดุดัน


ความพ่ายแพ้ในการประลองพลังก่อนหน้า ทำให้ชางมู่รู้สึกไม่พอใจ


บรรยากาศยิ่งตึงเครียดขึ้น พลังของทั้งสองคนปะทะกันอีกครั้ง


ในขณะที่การต่อสู้ครั้งใหญ่อาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ


หลี่มู่ก็กล่าวอย่างสงบว่า "ตอนนี้สิทธิ์ในการเลือกยังอยู่ในมือของผมหรือเปล่าครับ?"


ชางมู่ตอบเสียงทุ้มว่า "แน่นอน สิทธิ์ในการเลือกยังอยู่ในมือของนายเสมอ ไม่มีใครสามารถบังคับนายได้"


จางเชียนสวิ่นก็พยักหน้าเบา ๆ "จริงอย่างที่เขาพูด แต่ฉันก็ยังแนะนำให้นายเลือกมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน"


"ส่วนเงื่อนไขนั้น" จางเชียนสวิ่นดันแว่นตา


"ภายในมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานของพวกเราไม่ได้ใช้เงินตราเป็นสื่อกลาง แต่เนื่องจากยังไม่เปิดเทอม และนายต้องใช้เงิน ฉันสามารถให้ทุนการศึกษาสูงสุดจำนวนหนึ่งล้านแก่นายก่อนได้"


"มันอาจจะดูไม่มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับข้อเสนอของพวกเขา แต่..."


"มหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานเป็นเวทีที่กว้างใหญ่ และตราบใดที่นายมีความสามารถเพียงพอ นายก็จะได้รับทุกสิ่งที่ตัวเองต้องการ"


"และ..."


"โควตาหนึ่งครั้งในการเข้าสู่พื้นที่ลับ"


ดวงตาหลังแว่นของจางเชียนสวิ่นอดไม่ได้ที่จะแสดงแววหนักอึ้งออกมา


"พื้นที่ลับ?!"


ทันใดนั้นหลี่มู่ก็รู้สึกว่าม่านตาของตนหดเล็กลง


นี่เป็นคำพูดที่คุ้นเคย แต่ก็ดูแปลกหู!


ในโลกที่พัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ข้อมูลมากมายถูกแบ่งปันกัน


แต่ภายในนั้นก็มีสิ่งต่าง ๆ ที่เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของผู้คน ไม่มีโอกาสได้เห็นในชีวิตจริง!


และพื้นที่ลับก็เป็นหนึ่งในนั้น!


พื้นที่ลับไม่มีอยู่ในโลกนี้!


แต่กลับเชื่อมต่อกับโลกนี้


กล่าวง่าย ๆ ก็คือมิติพิเศษนั่นเอง!


พื้นที่ลับคือมิติพิเศษ แต่มิติพิเศษไม่ใช่พื้นที่ลับทั้งหมด


มิติพิเศษมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก หากขนาดใหญ่เท่าโลกเรียกว่าโลกต่างมิติ


มีคำกล่าวว่าสัตว์อสูรในโลกนี้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตพิเศษต่าง ๆ ล้วนมาจากโลกต่างมิติ!


ส่วนมิติพิเศษที่เรียกกันทั่วไปว่าพื้นที่ลับ ล้วนเป็นมิติพิเศษที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์


บางพื้นที่ลับมีสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์และโลกงอกเงยอยู่มากมาย


บางพื้นที่ลับมีปราณฟ้าดินอุดมสมบูรณ์มาก ซึ่งเหมาะสำหรับการฝึกฝนของนักรบเป็นอย่างยิ่ง


อีกทั้งยังมีบางพื้นที่ลับที่มีสัตว์อสูรอาศัยอยู่ มันสามารถใช้สำหรับฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้จริง


และบางพื้นที่ลับยังมีของพิเศษอย่างยิ่ง เช่นการสืบทอด หรือความสามารถพิเศษบางอย่าง ที่เกิดขึ้นในสวรรค์และพื้นพิภพ


ภายในประเทศหลง ส่วนใหญ่พื้นที่ลับถูกควบคุมโดยทางการ


นอกจากทางการแล้ว ก็มีเพียงกลุ่มอิทธิพลระดับสูงสุดและมหาวิทยาลัยระดับยอดเยี่ยมเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติในการควบคุม!


เห็นได้ชัดว่ามหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานอยู่ในรายชื่อนี้


นี่เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่มหาวิทยาลัยนักรบทั่วไปยากจะเอื้อมถึง!


"พื้นที่ลับที่คุณพูดถึงเป็นพื้นที่ลับอะไร?" หลี่มู่อดถามไม่ได้


จางเชียนสวิ่นยิ้มและกล่าวว่า "รายละเอียดต้องดูการจัดการ แต่นายวางใจได้ ฉันรับรองว่าผลลัพธ์ของมันจะไม่น้อยอย่างแน่นอน"


"ดังนั้นสหายหลี่มู่ การเลือกของนายคืออะไร?"


"ผม..." หลี่มู่เงยหน้าขึ้น



พวกเขาได้จากไปแล้ว


มหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานเปิดเทอมในวันที่หนึ่งเดือนเก้าเช่นกัน


เกี่ยวกับเรื่องการลงทะเบียนการศึกษา จางเชียนสวิ่นและโจวป๋อจะจัดการให้ หลี่มู่ไม่จำเป็นต้องกังวลใจเรื่องใด


ส่วนเรื่องทุนการศึกษาหนึ่งล้านเหรียญมังกรนั้น ตามที่จางเชียนสวิ่นกล่าว มันจำเป็นต้องมีขั้นตอนบางอย่าง แต่ก็คงไม่นานเกินไป


การเลือกมหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนาน ไม่ใช่เพราะเงื่อนไขของจางเชียนสวิ่นเท่านั้น


หลี่มู่เองก็รู้สึกว่า บางทีเขาอาจควรออกไปเห็นโลกกว้างบ้าง


อย่างเช่นในสูตรยาของตำราแปดเสาค้ำสวรรค์ มีสมุนไพรหลายชนิดที่จำเป็นต้องใช้


หากต้องการรวบรวมให้ครบ


ภายในเมืองเอสซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ คงไม่ใช่เรื่องง่าย


แต่มหาวิทยาลัยนักรบฉู่หนานนั้นแตกต่างออกไป ที่นั่นเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของทั้งภูมิภาคฉู่หนาน




รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว