บทที่ 25 ละครกำลังจะเริ่มขึ้น
โชคดีที่เธอไม่ได้ทำอะไรให้คุณอาฟู่ไม่พอใจ นับว่าโชคดีมาก!
เตียงคิงไซส์ในห้องสวีทนุ่มสบาย เหมาะสำหรับการนอนพักผ่อนสุด ๆ คืนนี้หลีเกอนอนหลับสบายมาก พอตื่นมาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงอึกทึกครึกโครมดังมาจากข้างนอก
ละครกำลังจะเริ่มแล้วเหรอ?
หลีเกอยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ได้รีบร้อนกลับค่อย ๆ เดินไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้า หลังจากสวมแหวนที่ฟู่อวิ๋นจือให้เธอก่อนหน้านี้แล้วจึงค่อยเปิดประตูห้อง
บนทางเดินมีกลุ่มนักข่าวยืนอยู่มากมาย และฟู่อวิ๋นจือที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักข่าว
ฟู่อวิ๋นจือไม่ได้สังเกตว่าหลีเกอออกมาจากห้องทางด้านหลัง แต่กลับพูดกับนักข่าวด้วยสีหน้าเศร้าโศกและโกรธแค้น “ทุกคน ผมรู้ว่าไม่ควรนำเรื่องในครอบครัวมาเปิดเผย แต่ภรรยาของผมทำกับผมเกินไปจริง ๆ”
“ผมต้องทำงานหนักอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงิน แต่เธอกลับไม่เห็นใจความยากลำบากของผมเลย ซ้ำยังทำเรื่องแบบนี้อีก ตอนนี้ผมสงสัยแล้วว่าเด็กในท้องของเธอจะใช่ลูกของผมหรือเปล่า”
ฟู่อวิ๋นจือสร้างภาพให้ตัวเองดูน่าสงสาร เป็นสามีที่ถูกภรรยานอกใจ นักข่าวรอบข้างต่างพูดแทนเขา หลีเกอก็มองดูอย่างสบายอารมณ์
ฝีมือการแสดงของฟู่อวิ๋นจือนี่ ถ้าไม่ได้รางวัลออสการ์ก็น่าเสียดายแย่
ภายใต้การชักชวนของนักข่าว ฟู่อวิ๋นจือปฏิเสธไปสองครั้ง จากนั้นก็เริ่มเตะประตู มีนักข่าวช่วยด้วยเพียงไม่กี่ครั้งประตูที่ถูกเตะก็เปิดออก ผู้คนทั้งกลุ่มแห่กันเข้าไป
ฟู่อวิ๋นจือเข้าไปในห้องนอนมองผ้าห่มที่นูนขึ้นมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่เก็บไว้ไม่อยู่
หลีเกอเธอจบแล้ว!
“หลีเกอ เธอทำอะไรน่ะ!” ฟู่อวิ๋นจือตะโกนเสียงดัง พลางรีบดึงผ้าห่มออกทันที ร่างกายเปลือยเปล่าทั้งสองร่างโผล่ออกมา แต่อีกไม่นานเขาก็ถึงกับต้องตกตะลึง
ผู้หญิงบนเตียงไม่ใช่หลีเกอ แต่เป็นเจียวม่านหนิง!
เสียงชัตเตอร์ของนักข่าวที่รายล้อมดังขึ้นปลุกให้ฟู่อวิ๋นจือตื่น เขาคิดว่าถูกหักหลัง จึงคว้าผมของเจียวม่านหนิงอย่างรุนแรงและตบหน้าเธอไปหนึ่งฉาด
‘เพี๊ยะ!’
เสียงตบดังสนั่นทำให้เจียวม่านหนิงถึงกับตื่นขึ้นมาทันที
เจียวม่านหนิงสะลึมสะลืออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีคนอยู่รอบตัวเป็นจำนวนมาก รวมถึงฟู่อวิ๋นจือที่มีสีหน้าโกรธเคือง และที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกับฉินรุ่ยนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงด้วยกัน
“อ๊าย!” เจียวม่านหนิงกรีดร้องรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเอง “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ? ฉันมานอนกับเขาได้ยังไง ไม่ควรจะเป็นฉันสิ!”
“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร? คิดว่าพวกเราตาบอดกันหมดหรือไง?”
ฟู่อวิ๋นจือพูดเสียงเย็นชา “ดีนักนะเจียวม่านหนิง เมื่อคืนบอกว่ามีธุระที่บ้าน ให้ฉันรออยู่ที่โรงแรม ที่แท้ก็แอบมานอนกับผู้ชายเนี่ยนะ?”
เจียวม่านหนิงตกใจจนหน้าซีด “ฉันพูดแบบนั้นตอนไหนกัน? คุณเองนั่นแหละที่ส่งข้อความให้ฉันมาหาคุณที่โรงแรม ฉันก็คิดว่าเป็นคุณ…”
“ผมไม่ได้ส่งข้อความอะไรทั้งนั้น!”
ทั้งสองโต้เถียงกันไปมาเจียวม่านหนิงถึงเพิ่งจะเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ จึงหยิกแขนฉินรุ่ยแรง ๆ เพื่อปลุกเขาให้ตื่น “เมื่อคืนคุณไม่ได้อุ้มนังนั่นมาที่โรงแรมหรือไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“ผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน!” ฉินรุ่ยรู้ว่าตื่นมาต้องโดนถ่ายรูป แต่ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ เขาเข้าห้องมากับหลีเกอจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นเจียวม่านหนิงไปได้
พวกนักข่าวเห็นเรื่องราวยิ่งวุ่นวายก็ยิ่งถ่ายรูปกันใหญ่
มีนักข่าวคนหนึ่งถามคำถามตรงไปตรงมาว่า “คุณฟู่อวิ๋นจือ 'เธอ' ที่พวกคุณพูดถึงคือใครกันแน่? แล้วก็ดูคุณฟู่เหมือนจะโมโหมากที่เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ที่นี่ หรือว่าคุณมีความสัมพันธ์อะไรกับเธอกันแน่?”
เจียวม่านหนิงเพิ่งทะเลาะกับฟู่อวิ๋นจือเลยไม่ได้สนใจนักข่าวที่อยู่รอบตัว นักข่าวคงได้ยินสิ่งที่เธอพูดไปแล้วแน่ ๆ หน้าเธอซีดลงแล้วซีดลงอีก
“ทุกคนคะ ฉันกับคุณฟู่เราเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้นค่ะ” เจียวม่านหนิง กัดฟันแน่นก่อนจะผลักฉินรุ่ยออกไป “ฉันถูกเพื่อนร่วมงานคนนี้ข่มขืน ก็เลยจะมาช่วยฉันเท่านั้นค่ะ”
สายตาของพวกนักข่าวดูประหลาดใจ
เพราะเมื่อครู่ฟู่อวิ๋นจือเพิ่งด่าเจียวม่านหนิงไปว่าเธอนอกใจเขา ทั้งสองคนทะเลาะกันด้วย
เจียวม่านหนิงกลับคำให้ตัวเองดูดี!
แต่นักข่าวส่วนใหญ่ก็ได้รับเงินจากฟู่อวิ๋นจือแล้ว เลยไม่กล้าพูดอะไรออกมา แค่รอดูว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
เจียวม่านหนิงส่งสายตาให้ฟู่อวิ๋นจือ เขาจึงรู้ว่ามีคนวางแผนซ้อนแผนพวกเขาอีกที เขาจึงพูดตามที่เจียวม่านหนิงพูด “ใช่แล้ว ผมมาช่วยคุณเจียวน่ะ”
มีเพียงฉินรุ่ยเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
เขาชี้ไปที่เจียวม่านหนิงพูดจาติดขัดไปหมด “คุณเจียว นี่คุณหลอกผมงั้นเหรอ?”
“คุณพาผมมาที่โรงแรมจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แล้วยังมาทำเป็นไม่รู้เรื่องอีก” เจียวม่านหนิงตบหน้าเขาฉาดหนึ่ง “ถ้าคุณไม่พอใจฉันเรื่องที่บริษัท ก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้ ทำไมต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้ด้วย?”
พูดจบเธอก็ร้องไห้โฮ ดูแล้วน่าสงสารมากจริง ๆ เลยนะ
“นังสารเลว! ก็เธอนั่นแหละที่มาขอให้ฉันช่วย!” ฉินรุ่ยกระชากผมของเจียวม่านหนิงด้วยความโกรธ “ขอให้ช่วยแล้วยังมีหน้ามาใส่ร้ายฉันอีก แบบนี้มันหมายความว่ายังไง!”
ฉินรุ่ยผลักเจียวม่านหนิงไปสองที ฟู่อวิ๋นจือก็ชกหมัดใส่เขาทันทีจนเขาล้มลงบนเตียง
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตอนนี้การปกป้องเจียวม่านหนิงเป็นเรื่องสำคัญ
“อวิ๋นจือ พอเถอะ” เจียวม่านหนิงจับมือฟู่อวิ๋นจือไว้แล้วแกล้งทำเป็นใจกว้างต่อหน้านักข่าว “ยังไงเขาก็ถือว่าเป็นลูกน้องของฉัน ไม่ต้องแจ้งตำรวจหรอก ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่”
ฟู่อวิ๋นจือพูดว่า “ไอ้เวรนี่ทำกับคุณแบบนี้ คุณยังใจดีปล่อยมันไปอีก”
“...”
หลีเกอที่ยืนอยู่ด้านหลังนักข่าว มองพวกเขาที่กำลังร่วมมือกันแสดงละครต่อไป เจียวม่านหนิงยังยิ้มและพูดกับนักข่าวว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ขอให้พวกเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและอย่าเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ที่ไหน ฝีมือการแสดงนี้เทียบเท่าระดับนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
เหอะ!
เธอจะปล่อยให้คู่ชายหญิงสารเลวคู่นี้ลอยนวลไปง่าย ๆ ได้ยังไง?
ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเปิดกล้องวิดีโอขนาดเล็กในเสื้อของเขา และทำสัญญาณมือไปที่หลีเกอ
หลีเกอรู้ว่าถึงเวลาที่เธอต้องออกโรงแล้ว เธอวางมือบนขอบประตู แสร้งทำเป็นว่าเพิ่งมาถึง พูดเสียงไม่ดังมากแต่ให้ทุกคนได้ยิน “ที่รัก คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”
ผู้สื่อข่าวทุกคนหันกลับมามองตามเสียงและเห็นหลีเกอยืนอยู่ที่หน้าประตู ฟู่อวิ๋นจือและเจียวม่านหนิงก็มองตามด้วย ดวงตาของเจียวม่านหนิงเหมือนจะพ่นไฟออกมา เธออยากเผาหลีเกอให้ตายไปเลย
เธอรู้ว่าทั้งหมดนี้ต้องเป็นแผนของหลีเกอแน่นอน!
“คุณเป็นภรรยาของคุณฟู่อวิ๋นจือใช่ไหมครับ?” ชายหนุ่มที่หลีเกอ ติดค่อไว้วิ่งเข้ามาถามเสียงดัง “เขาบอกพวกเราว่าคุณไปมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับผู้ชายคนอื่นที่โรงแรม พวกเราตามเขาเข้ามาในห้องกลับไม่เห็นคุณอยู่กับผู้ชายคนอื่นเลย แล้วคุณมาจากที่ไหนครับ?”
“ความสัมพันธ์ลับ ๆ?” หลีเกอทำท่าตกใจก่อนจะรีบพูดว่า “ไม่มีแน่นอน เมื่อคืนเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งใจดีพาฉันมาที่โรงแรม แต่เขาเมามากกว่าฉันอีก ฉันเลยจัดการหาห้องให้เขาหลังจากนั้นก็ออกมาเปิดห้องใหม่อีกห้องค่ะ”
“ที่ฉันมาอยู่ที่นี่ เพราะมีคนส่งข้อความมาบอกว่าสามีของฉันกับ…” หลีเกอไม่ได้พูดต่อ เพียงแต่เห็นฟู่อวิ๋นจืออยู่ในชุดที่สมบูรณ์ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
จากนั้นก็ทำเหมือนเพิ่งเห็นเจียวม่านหนิง ที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มและฉินรุ่ย ที่นอนอยู่บนเตียง “ที่แท้ผู้จัดการเจียวก็มาด้วยเหรอคะ ไม่แปลกใจเลยที่ดูคึกคักขนาดนี้”
“ใช่ ใช่แล้ว” เจียวม่านหนิง โกรธมากเธอกำมือแน่นจนเล็บแทบหัก ในเมื่อมีนักข่าวอยู่เยอะขนาดนี้ เธอจะทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองเสียหายไม่ได้จึงส่งสายตาให้ฟู่อวิ๋นจือ
ฟู่อวิ๋นจือเข้าใจทันที เขาเดินไปทางหลีเกอ “ที่จริงแล้วเรื่องนี้แค่เรื่องฉินรุ่ยคิดไม่ซื่อต่อผู้จัดการเจียวน่ะ พอแล้วเรากลับกันเถอะ ไม่มีอะไรน่าดูแล้ว พวกนักข่าวก็กลับไปเถอะ”
เขาดึงหลีเกอแรงมากจนเธอเซถลา
หลีเกอทำทีเป็นยกมือขึ้น นักข่าวหนุ่มคนนั้นเห็นแล้วก็พูดอย่างสงสัยว่า “แหวนวงนี้ดูเหมือนกับสร้อยคอของคุณเจียวเลยนะ”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว