Love and Pain เจ็บ-เพราะ-รัก

ตอนที่ 2

เมื่อฮงชิงได้ยิน ใบหน้าก็ปรากฏความอับอายออกมา แต่ในเวลาต่อมาก็กลับมาเป็นปกติแล้วพูดกับฮงเหมยด้วยความนอบน้อมและจริงใจ

“ตอนแรกฉันทำไม่ถูก ฉันรู้ นี่ไม่ใช่ว่าฉันมาชดใช้เหรอ? นี่คือนายน้อยของคุณชายฉัน โตมาบนกองเงินกองทอง ใครเห็นใครก็รัก ไม่มีตรงไหนที่ไม่ดีเลย โสดพอดี ไม่มีอะไรเหมาะเจาะไปมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้ทั้งสองคนก็พบกันแล้ว ”

หลังจากพูดจบ ก็กุลีกุจอนั่งลงตรงข้ามกับฮงเหมย เรียกนายน้อยแล้วผายมือให้เขานั่งลง ไม่สนใจซ่งลุ่ยแม้แต่น้อย มองข้ามซ่งลุ่ยไปเลย!

นายน้อยมองเห็นเหตุการณ์นี้ ในใจก็เห็นชั่งนำหนักความสำคัญจนอดไม่ได้ที่จะตำหนิฮงชิง ตำหนิที่เขาไม่พูดเรื่องนี้กับตนเองให้ชัดเจน ถ้าหากเขารู้ว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้เขาคงไม่มาด้วยแน่ๆ!

แต่ฮงชิงทำให้เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว ตนเองก็ไม่สามารถจะจากไปได้ทันที ตอนนี้ก็เลยรู้สึกเหมือนขี่บนหลังเสือแล้วยากที่จะลง! ตนเองก็ไม่ได้กลัวเรื่องราวแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงนั่งลงข้างๆฮงเหมยตามเสียงเชื้อเชิญของฮงชิง ใบหน้าก็ส่งยิ้มที่คิดว่าดูอบอุ่นที่สุดให้กับฮงเหมย

ซ่งลุ่ยนั่งอยู่ตรงนั้นดีดี กลับถูกฮงชิงเบียดออก ในใจก็รู้สึกโกรธขึ้นมา จากนั้นก็มองไปยังชายขี้เหล้าที่นั่งอยู่ข้างๆฮงเหมย ในใจไม่รู้ทำไมถึงมีแต่ความโกรธทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น!

ในทันใด เขาก็ถกแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปทางฮงชิงด้วยความโกรธ อยากจะสั่งสอนเขาให้เป็นบทเรียนสักหน่อย ฮงเหมยที่นั่งอยู่ตรงข้ามฮงชิงก็เห็นท่าทางของซ่งลุ่ยแบบนั้นเช่นกัน เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่ซ่งลุ่ยพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธ ถึงแม้ว่าในใจจะโกรธเกลียดชังฮงชิงมากแค่ไหน ท้ายที่สุดแล้วนั่นก็คือพี่ชายของตนเอง ดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนแล้วหยุดซ่งลุ่ย ก่อนจะพูดว่า

“ไปกันเถอะซ่งลุ่ย ฉันไม่อยากกินที่นี่แล้ว เราเปลี่ยนร้านกันเถอะ”

พูดจบก็ลากซ่งลุ่ยไปที่ประตู

ซ่งลุ่ยมองฮงเหมยที่กำลังลากตนเองและไม่ได้พูดอะไร ในเมื่อฮงเหมยไม่พูดอะไรเลย เขาก็ไม่ควรจะถามอะไรให้มากเรื่องมากความ!

ดังนั้นจึงปล่อยให้ฮงเหมยลากเขาออกไป ยังไม่ทันจะเดินออกไปพ้นประตูในตอนนั้น นายน้อยคนนั้นก็ตบโต๊ะอย่างดัง

“หยุด ฉันให้พวกเธอสองคนไปแล้วเหรอ?”

คำพูดของนายน้อยที่สั่งให้พวกเขาหยุดได้ดังออกไป ลูกสมุนหลายคนก็กระจายไปคนละทิศ ขวางทางเดินของซ่งลุ่ย! อีกทั้งยังล้อมพวกเขาทั้งสองคนไว้ด้วย!

ในเวลานี้ ฮงชิงเข้ามาใกล้กับด้านข้างของฮงเหมยและดึงตัวเธอออกไป เหลือเพียงซ่งลุ่ยที่ยังอยู่ในวงล้อม อันที่จริงแล้วซ่งลุ่ยก็ตั้งใจจะให้ฮงเหมยออกไปจากวงล้อมนี่อยู่แล้ว พอดีกับที่ฮงชิงมาดึงตัวเธอออกไปพอดี ดังนั้นซ่งลุ่ยจึงปล่อยมือที่จับฮงเหมยไว้อยู่และให้ฮงชิงเอาตัวออกไป

ในเวลานี้คนที่ถูกเรียกว่านายน้อย ค่อยๆเดินมาข้างหน้าอย่างช้าๆ แล้วพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“พรรคพวก ฉันตระกูลต้วน ใครๆก็เรียกฉันว่านายน้อยต้วน พ่อของฉันคือท่านชายต้วน! ฉันไม่รู้ว่านายและฮงเหมยมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ฮงชิงนายรู้จักใช่ไหม คนที่เพิ่งจะดึงตัวฮงเหมย ออกมา เขาเป็นพี่ชายของฮงเหมย หรือว่าฉันทำให้นายกลัวนายถึงยังมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่อีก ฉันละนับถือความห้าวหาญนายเลย นายรีบไปซะตอนนี้ยังทัน ถึงอย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ฉันก็ยังเป็นลูกผู้ชายพอ แต่ว่าถ้าหากนายยังไม่ยอมไปอีก ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน!”

หลังจากซ่งลุ่ยฟังคนคนนี้พูดจบแล้ว ใบหน้าเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเหยียดหยามออกมา แล้วพูดกับนายน้อยต้วนว่า

“ฉันไม่สนว่านายจะใหญ่ จะโตมาจากไหน ถ้าอยากให้ฉันไป ก็ส่งฮงเหมยคืนมาแล้วพวกเราจะไปด้วยกัน แต่ฉันก็เชื่อว่านายคงจะไม่ยอมง่ายๆแน่ ดังนั้นมันก็เป็นคำพูดที่ไร้ประโยชน์อะไร ”

เมื่อนายน้อยต้วนฟังจบ ในหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธเคือง สักประโยคก็ไม่พูดออกมา โบกมือไปที่ซ่งลุ่ยทันที ส่วนลูกน้องที่ล้อมซ่งลุ่ยเอาไว้ก็มองไปที่นายน้อยต้วนเพื่อรอคำสั่ง ก็ไม่พูดพล่ำทำเพลงปล่อยกำปั้นไปที่ซ่งลุ่ย!

ฝั่งซ่งลุ่ยที่พูดอยู่เขาก็ระมัดระวังการเคลื่อนไหวของคนที่ล้อมเขาอยู่ มองเห็นพวกเขากำลังพุ่งเข้ามา ตนเองเองก็พุ่งเข้าไปหาพวกเขาเช่นกัน!

เมื่อครู่นี้ ในใจของซ่งลุ่ยนึกไปถึงกลอุบายดีๆ ในเมื่อเขามีสายตาพันลี้ที่มีทักษะในการทำให้ผู้คนสับสน ถ้างั้นเขาจะใช้ทักษะกับคนพวกนี้ก็ได้แล้ว โดยจะเปิดใช้งานในแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่ให้ฝ่ายตรงข้ามสับสนก็พอแล้ว หลังจากนั้นตนเองก็โจมตีฝ่ายตรงข้ามและช่วงชิงฮงเหมยคืนมา แบบนี้ก็ลดปัญหาให้ตนเองเยอะเลย!

เมื่อตัดสินใจกับความคิดนี้ได้ ซ่งลุ่ยก็เดินเข้าไปหาหนึ่งในนั้น ตอนที่เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เปิดทักษะสายตาพันลี้ ก็ทำให้การกระทำของฝ่ายตรงข้ามหยุดลงทันทีทันใด! ในแววตาของชายผู้นั้นเปลี่ยนเป็นสับสนขึ้นมา

ซ่งลุ่ยมองเห็นโอกาส ก็หยิบขวดเหล้าที่อยู่ข้างๆคนนั้นและตีลงไปที่เป้ากางเกง เหตุการณ์นี้ทุกคนก็เห็น คนนั้นก็รู้สึกว่าหว่างขาชาๆ ในใจก็รู้สึกช็อค อดที่จะรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออกกับซ่งลุ่ย คิดไม่ถึงว่ามือของเขาจะว่องไวขนาดนั้น

แต่ในเวลาต่อมาก็พบว่ามีบางอย่างแปลกๆ กับการกระทำของซ่งลุ่ย ตนเองรู้สึกว่าสะโพกของเขาชาๆ แต่ทำไมคนอื่นถึงไม่แสดงอาการอะไรเลย? แม้แต่ปฏิกิริยาอะไรก็ไม่มี! เขามองไปรอบๆอย่างสับสน ดูเหมือนทุกคนกำลังมึนงง เมื่อซ่งลุ่ยปิดการใช้ทักษะของเขา สายตาของคนตรงข้ามที่ดูสับสบก็กลับมาชัดเจนเป็นปกติ

เขามองไปที่ซ่งลุ่ย กำลังเตรียมที่จะปล่อยหมัดใส่ซ่งลุ่ย ก็รู้สึกว่าช่วงล่างของตัวเองเจ็บปวดอย่างมาก ร่างกายสั่นไปทั้งตัว เรี่ยวแรงก็พลันหายไป! จึงล้มลงไป และกุมไปที่เป้ากางเกง พลิกตัวไปพลิกตัวมาพร้อมส่งเสียงตะโกนร้องออกมา เสียงที่ร้องออกมาดูเจ็บปวดอย่างรุนแรง!

ผู้คนที่อยู่รอบตัวของซ่งลุ่ยรู้สึกช็อคกับการกระทำของเขา มองอย่างตกตะลึงไปที่ซ่งลุ่ย แต่ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้า ในตอนนี้นายน้อยต้วนที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันอยู่ด้านข้าง

“ตอนนี้เขาไม่มีไข่แล้ว แต่ยังคงมีชีวิต พวกนายก็รู้ถ้าฝ่าฝืนคำสั่งจะเป็นอย่างไร พวกนายก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นคนอย่างไร ดังนั้นอยากมีชีวิตหรืออยากมีไข่พวกนายก็เลือกเอาก็แล้วกัน!”

พูดจบก็ไม่พูดอะไรต่อ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้คนฟังรู้สึกหนาวสะท้านอย่างไม่ต้องสงสัย!

ผู้คนรอบ ๆ ได้ยินนายน้อยต้วนพูดแบบนี้ ความลังเลบนใบหน้าก็มลายหายไปจนหมด เหลือแค่เพียงรอยยิ้มที่น่าขยะแขยง แล้วพุ่งเข้าไปหาซ่งลุ่ย เมื่อซ่งลุ่ยเห็นคนมากมายขนาดนั้นพุ่งเข้ามา เขาก็สบถออกมา ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สามารถเอาชนะทุกคนได้ อดคิดไม่ได้หรือว่าเขาจะต้องพ่ายแพ้ในครั้งนี้!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว