แล้วการประลองของวันที่ 2 ก็จบลง ตอนนี้เหลือเพียง 3 คนที่ยังคงชนะต่อเนื่อง ได้แก่ หลินอี้หาน หลินหลาน และหลินเฟิง
“เจ้าทำได้ดีมากเลยนะ ข้าเองก็ประหลาดใจเช่นกัน” หลินเฟิงเดินเข้ามาหาหลินหลานพร้อมกับกล่าวชมนางที่นางสามารถเอาชนะหลินฮุยมาได้
“ฮิฮิ ต่อให้เป็นเจ้า ข้าจะไม่ออมมือให้แน่นอน” นางพูดหยอกล้อกับหลินเฟิงอย่างชอบใจ
“ เฮ้!! เจ้าสูงกว่าข้าตั้ง 2 ขั้นเลยนะ แม้เจ้าจะออมมือ ข้ายังไม่รู้เลยว่าจะชนะเจ้าได้อย่างไร” หลินเฟิงพูดอย่างใสซื่อ
“หึ เจ้ามันไม่น่าเชื่อถือเป็นที่สุด” หลินหลานพูดอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงทำหน้าใสซื่อเช่นนั้น
“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งอย่างแท้จริง”
ขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงชายชราคนหนึ่งดังขึ้น แน่นอนว่าเป็นเสียงของเซี่ยคง ส่วนข้างหลังเซี่ยคงนั้นก็ย่อมเป็นหลินหยาง หลินเทียน และเซี่ยหลั่ว
“คาราวะ ท่านประมุขทั้งสอง” หลินหลานที่หันไปเห็นเช่นนั้นจึงรีบกล่าวทำความเคารพทันที จากนั้นนางจึงหันไปทำความเคารพหลินเทียนและเซี่ยหลั่ว
“คาราวะท่านปุ่และท่านตา” หลินเฟิงทำความเคารพหลินหยางและเซี่ยคง
“วันนี้พวกเจ้าแสดงผลงานได้ยอดเยี่ยมมาก”หลินหยางกล่าวชมทั้งสอง
“ท่านก็กล่าวชมข้าเกินไป”หลินหลานตอบกลับอย่างนอบน้อม ส่วนหลินเฟิงก็ไม่ได้ตอบอันใด ทำเพียงแค่ยิ้มให้กับคำชมของหลินหยางเท่านั้น
“ปู่ของเจ้ายังไม่ออกจากการเก็บตัวอีกรึ?” หลินหยางถาม เมื่อไม่เห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดมาชมการประลองของหลานตน
“เจ้าค่ะ ปู่บอกว่าอีกสองสามวัน ถึงจะเสร็จจากการฝึกฝน” หลินหลานกล่าวตอบ
หลังจากคุยกันอีกสักพัก ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านพักของตน
“เฟิงเอ๋อร์ ลูกไปพักเถิด เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เซี่ยหลั่วกล่าวกับหลินเฟิงเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“ขอรับ ท่านแม่ งั้นลูกขอตัว” หลินเฟิงก็ไปอย่างว่านอนสอนง่ายโดยไม่รู้เลยว่าภายในบ้านของเขานั้น จะเกิดพายุลูกใหญ่ขึ้นมา
“ที่รัก จะไปไหน”เซี่ยหลั่วที่เห็นว่าหลินเฟิงไปแล้วก็ได้เรียกหลินเทียนที่กำลังจะหนีกลับเข้าห้องด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก ทำให้หลินเทียนนั้นขนหัวลุก
“เอ่อ…??”หลินเทียนไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี
และแล้วการเวลาก็ผ่านไป เช้าวันรุ้งขึ้น
ที่โต๊ะอาหาร หลินเทียน เซี่ยหลั่ว และหลินเฟิงนั่งกินข้าวกันอยู่
“ท่านพ่อ หน้าท่านไปโดนอะไรมา เหมือนถูกใครทำร้ายมาเลย” หลินเฟิงถามอย่างสงสัย เพราะเมื่อวานก่อนมันจะเข้าห้องไปนอน บิดาของมันยังไม่เป็นอันใดเลย
“แค่หกล้มเท่านั้น เจ้าไม่ต้องไปสนใจหรอก” ก่อนที่หลินเทียนจะกล่าวตอบ ก็ได้หันไปมองเซี่ยหลั่วที่ยิ้มมาให้กับเขาอย่างอ่อนโยน คนภายนอกย่อมไม่รู้ว่าลึกๆแล้วเซี่ยหลั่วที่เวลาโมโหนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน และครั้งนี้เขาโชคดีที่เซี่ยหลั่วนั้นไม่ได้ทำกับเขารุนแรงมากกว่าคราวก่อน แต่แน่นอนว่าหากเขายังทำผิดอีก เขาจะเจ็บตัวและทรมานมากกว่านี้แน่นอน
เมื่อกินข้าวเสร็จหลินเฟิงก็ได้เดินไปสนามประลองพร้อมๆกับหลินเทียนและเซี่ยหลั่ว ตลอดทางที่เดินนั้น มีผู้คนมากมายมองหลินเฟิงด้วยความหวาดหวั่น เพราะหลินเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งๆที่อยู่แค่ระดับพื้นฐานขั้น 4 แล้วหากว่าอยู่ขั้นเดียวกันไม่ต่างกันร่างฟ้ากับเหวหรอกรึ
ส่วนผู้คนที่เคยดูถูก พูดจาถากถางหลินเฟิงไว้นั้นก็ได้แต่ก้มหน้า ไม่กล้ามองหลินเฟิงด้วยซ้ำ บางคนนั้นถึงกับวิ่งหนีไปเลยก็มี แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นกลัวหลินเฟิงจะมาแก้แค้นที่พวกเขาพูดไม่ดีใส่หรือดูถูกหลินเฟิงไว้นั่นเอง
“กาประลองวันที่ 3 เริ่มได้”
เมื่อเห็นผู้คนมากันครบแล้ว ผู้จัดการงานประลองก็ได้ประกาศเริ่มงานทันที และเริ่มขานเรียดคู่ทีจะมาประลองกันออกมาที่ละคู่
“หลินมัว กับ หลินเยา”
…
ผ่านไปหลายคู่จนในที่สุด
“หลินตันหยง กับหลินเฟิง”
หลินเฟิงก็ได้ประลองกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐานขั้น 6 อีกครั้ง
หลินตันหยงนั้นมีฝีมือสูสีกับหลินเฉา แต่เป็นคู่ปรับกับหลินเฉาเสมอมา และพอเห็นว่าหลินเฉาแพ้หลินเฟิงด้วยกระบวนท่าเดียวนั้น เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาก็หาข้อแก้ตัวได้ว่า หลินเฉาเพียงประมาทและอ่อนด้วยกว่าเขา
“อย่าคิดว่าข้าจะประมาทเจ้าเช่นเดียวกับหลินเฉา และอย่าคิดว่าจะบังเอิญชนะข้าได้เหมือนกับหลินเฉา” หลินตันหยงกล่าวกับหลินเฟิงที่ขึ้นมาบนลานประลองแล้วโดยไม่ค่อยสบอารมณืมากนัก
“ข้าจะบังเอิญหรือไม่นั้น เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้” หลินเฟิงนั้นกล่าวแบบไม่สนใจ
“หึทำปากเก่งให้ได้แบบนี้ตลอดแล้วกัน” หลินตันหยงกล่าวเสร็จก็พุ่งเข้าหาหลินเฟิงด้วยวรยุทธ์ท่าร่างทันที จากนั้นก็ใช้วรยุทธ์ท่าโจมตีด้วยดาบฟาดฟันใส่หลินเฟิงอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าความเร็วของหลินตันหยงมากกว่าของหลินเฉาอยู่ส่วนหนึ่ง
แต่เพียงเท่านี้หรือจะทำอะไรหลินเฟิงได้ หลินเฟิงนั้นพุ่งเข้าใส่หลินตันหยงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโจมตีด้วย [ ทลายภูผา ] สวนกลับด้วยความเร็วที่มากกว่า
หลินตันหยงนั้นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะกับความเร็วของหลินเฟิง เขาไม่คิดเลยว่าหลินเฟิงยังเร็วได้มากกว่าตอนประลองกับหลินเฉา ตอนนี้เขาเริ่มเสียใจแล้วที่ดูถูกหลินเฟิงไปตอนต้น แม้ว่ามันจะยากที่จะยอมรับ และเขาก็ต้องยอมรับจริงๆว่าเขาแพ้
ขณะที่หลินตันหยงกำลังเสียใจกับตัวเองนั้น ร่างกายของเขาก็ถูกหลินเฟิงโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปนิอกสนามประลอง และสภาพของเขาก็เหมือนกับหลินเฉาไม่มีผิด
“หลินเฟิงไม่แข็งแกร่งเกินไปหรือ ชนะด้วยกระบวนท่าเดียวอีกแล้ว”
“นั่นสิ เด็กคนนี้มีอนาคตที่สดใจมากแน่”
“อย่าได้คิดเป็นศัตรูกับหลินเฟิงเลยดีกว่า เพราะเขาถูกกำหนดให้เหนือพวกเราในสักวัน”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว