“ท่านพี่...” ปี่อั้นฮวาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นสามีโผล่เข้ามาในครัว
“กลับบ้านเรา” กู้เฝิงซีพูดสั้นๆ แล้วคว้าข้อมือเล็กบางก่อนจะกึ่งจูงกึ่งลากออกจากครัวโดยไม่สนใจถาดอาหารในมือปี่อั้นฮวาแม้แต่น้อย
แต่ปี่อั้นฮวาบิดข้อมือออกจนหลุด แล้วพูดเสียงจริงจังกับเขาว่า
“ไม่ได้เจ้าค่ะ ท่านพี่ยังไม่หายดี ให้ท่านแม่ดูแลท่านพี่ก่อนจะดีกว่าเจ้าค่ะ” สิ้นคำ นางก็หมุนตัวเดินตรงไปยังโถงรับรองพร้อมถาดอาหาร กู้เฝิงซีทำหน้าไม่ได้ดั่งใจขณะเดินตามหลังนางไปอย่างช้าๆ พลางพูดกรอกหูนางว่า
“ข้าหายดีแล้ว”
ปี่อั้นฮวา “...”
“ข้าหายดีแล้ว”
แต่ปี่อั้นฮวาก็ยังเมินเฉยใส่เขา จนกู้เฝิงซีต้องคำรามในลำคอ แล้วรวบคว้าเอวบางเข้ามาแนบชิดแผงอกอย่างรวดเร็ว ทำให้ถาดอาหารตกหล่นลงกับพื้นดังเครง
ก่อนเขาจะสะกิดปลายเท้าเพียงเล็กน้อย ก็พาปี่อั้นฮวาเหินทะยานออกจากกระท่อมหลังงาม ลอยผ่านทุ่งดอกไม้งดงามละลานตา ข้ามทะเลสาบพื้นกว้าง เข้าสู่ป่าใหญ่ที่หนาทึบ โดยที่ตลอดเวลาปี่อั้นฮวาเกาะบ่าของเขาแน่นด้วยกลัวว่าจะตกลงสู่พื้น
ใครจะไปคิด...กู้เฝิงซีจะมีวิชาเหาะเหินเดินอากาศได้ ราวกับมีเมฆมารองใต้ฝ่าเท้าเขาเอาไว้แล้วพาเขาเหินทะยานไปตามใจปรารถนา
“ข้ายังไม่ทันได้กล่าวคำอำลาท่านแม่เลย” ปี่อั้นฮวาตัดพ้อต่อว่า ขณะเดินตามหลังกู้เฝิงซีที่เดินมือไพล่หลังอย่างเชื่องช้าราวกับเดินทอดน่องชมสินค้าในตลาดอยู่ภายในป่าทึบที่แทบจะไม่มีแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องลงมาถึงพื้นดิน
“ข้าก็ไม่ได้กล่าวคำอำลาท่านแม่ ยังไม่คิดมากเท่าเจ้าเลย” กู้เฝิงซีตอบกลับมาด้วยวาจาที่ทำเอาปี่อั้นฮวาอยากจะทึ้งขนเขายิ่งนักหากว่าเขากลายร่างเป็นสิงโตเผือกอีกครั้ง
แล้วความเงียบก็โรยตัวลงมาราวกับหมอกบางๆ ที่กั้นกลางคนทั้งสองออกจากกันราวกับอยู่คนละโลก ตอนนั้นเองที่ปี่อั้นฮวาได้ยินเสียงท้องของกู้เฝิงซีร้องดังจ๊อก นางหลุดเสียงหัวเราะขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“คนซื่อบื้อ ข้าอุตส่าห์ทำมื้อเช้าให้ท่านกินสุดฝีมือ ท่านกลับไม่กินแต่ชิงหนีหน้าท่านแม่ของท่าน สมน้ำหน้า เชิญหิวไปจนกว่าจะหาทางออกจากป่าแห่งนี้ได้เถอะ”
“เจ้ากับลูกเองก็ต้องหิวเหมือนกัน หากพวกเราหลงทางอยู่ในป่าแห่งนี้!” กู้เฝิงซีหันมาพูดกับนางแล้วยิ้มเยาะที่มุมปาก
รอยยิ้มเช่นนี้ทำให้ปี่อั้นฮวานึกอยากดึงหนวดเจ้าสิงโตเผือกให้ขาดสักสองสามเส้นจริงๆ
เมื่อถูกอีกฝ่ายพูดตีรวนกลับมาบ่อยครั้ง ปี่อั้นฮวาก็รู้สึกงอนขึ้นมาจนต้องทำแก้มพอง ก่อนนางจะตัดสินใจนั่งลงบนหินก้อนใหญ่ที่พื้นผิวถูกตัดจนเรียบราวกับมีใครนำหินก้อนนี้มาวางไว้ตรงจุดนี้ก็ไม่ปาน ทำให้นางนั่งได้สบาย
“ข้าเมื่อยขาแล้ว คนท้องเดินมากๆ ไม่ดี ขาจะเป็นตะคริวเอาได้” นางแสร้งพูดจาคร่ำครวญ อยากดูปฏิกิริยาสามีที่ต้องอาศัยเลือดของนางเพื่อคืนสู่ร่างเดิม
กู้เฝิงซีหยุดเดินแล้วเหลียวหลังมามองนางด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ แล้วเขาก็เดินเข้าไปหาปี่อั้นฮวา หันหลังคุกเข่าลงเบื้องหน้านาง พลางพูดว่า
“ขี่หลังข้า ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน!”
ปี่อั้นฮวานิ่งอึ้งไป คิดไม่ถึงว่ากู้เฝิงซีจะยอมลดตัวเพื่อนางถึงเพียงนี้ แต่ปี่อั้นฮวายังแสร้งทำเป็นแง่งอน พูดออกมาเพื่อจับปฏิกิริยาของเขาอีกครั้ง
“ข้าไม่มีบ้าน ข้ามีเพียงกระท่อมเก่าๆ ใกล้ผุพังที่มีคนแบ่งปันให้อยู่ตามมีตามเกิดเท่านั้น”
ปี่อั้นฮวาเห็นชัดกับตาว่ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนดวงหน้าหล่อเหลาหมดจด แม้แต่ในดวงตาคู่คมเรียวยาวเหมือนนัยน์ตามังกรก็ยังมีรอยยิ้มเมื่อเขาเอี้ยวหน้ามามองนาง
“ที่ไหนมีข้า ที่นั่นคือบ้านของเจ้า”
ปี่อั้นฮวาได้ทีจึงกางแขนออกกว้างแล้วพูดทีเล่นทีจริง “เช่นนั้นก็ดี...ตอนนี้ข้ากับท่านพี่อยู่ในป่า ป่าแห่งนี้ก็คือบ้านของเรา ฟ้าสวรรค์คือหลังคาบ้าน ว่าแต่ที่นอนกับผ้าห่มกันหนาวล่ะเจ้าคะ อยู่ที่ไหน?” นางเอียงคอถาม ใช้ดวงตากลมโตสดใสมองเขาอย่างน่ารัก จนกู้เฝิงซีอดไม่ได้ที่จะต้องอมยิ้ม แล้วเขกมะเหงกลงบนหัวนางเบาๆ
“รีบขี่หลังข้า ข้าจะพาเจ้ากลับหมู่บ้านกระดูกขาว”
ปี่อั้นฮวากระพริบตามองเขาปริบๆ ถามกลับในสิ่งที่นางสงสัยว่า “ท่านพี่ไม่ดีใจที่ได้พบท่านแม่อีกครั้งหรือเจ้าคะ?”
สีหน้าของกู้เฝิงซีอึมครึมขึ้นมาทันที “เจ้าต้องการจะพูดอะไร?”
“ข้าไม่รู้ว่าท่านพี่กับท่านแม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ข้าดูออกว่าท่านแม่เป็นห่วงท่านพี่มาก ข้าอยากให้ท่านพี่อยู่กับท่านแม่ต่อไปอีกสักสามสี่วัน ได้ไหมเจ้าคะ?”
“ถ้าข้าตอบว่าไม่ล่ะ?” กู้เฝิงซีเริ่มมองนางตาดุขึ้ง
“เช่นนั้นข้าจะไปขอใช้ชีวิตกับท่านแม่ตามลำพังเจ้าค่ะ” สิ้นคำ ปี่อั้นฮวาก็ตั้งท่าหมุนตัวเดินย้อนกลับไปยังเส้นทางที่นางเห็นกู้เฝิงซีพานางเหาะเหินผ่านเข้ามาในป่า
“เจ้า!” กู้เฝิงซีมองนางอย่างยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อนจะโคลงศีรษะ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“สามสี่วันเท่านั้นนะ ข้าไม่สามารถทิ้งคนในหมู่บ้านกระดูกขาวนานๆ ได้ เพราะถ้าพวกเขาไม่เห็นข้ากลับไปตามเวลาที่ข้าแจ้งไว้ พวกเขาจะระส่ำระส่ายเที่ยวออกตามหาข้า ถึงตอนนั้นหมู่บ้านกระดูกขาวจะเป็นที่เปิดเผยต่อใต้หล้า ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยของคนในพรรคกระดูกขาวอีก!”
คำอธิบายของกู้เฝิงซีมีเหตุมีผล จนทำให้คนที่อยากสมานความสัมพันธ์แม่ลูกให้กลับคืนต้องหนักใจ
“เช่นนั้นอยู่พักสองคืนก็พอเจ้าค่ะ” ปี่อั้นฮวาหันมาบอกอุบอิบ มองเขาด้วยสายตาผิดหวังอยู่บ้าง
กู้เฝิงซียิ้มเผยเขี้ยวขาวด้วยความชอบอกชอบใจเพราะรู้ว่าตนเอาชนะความคิดอีกฝ่ายในที่สุด
“อืม”
****************************************************************
พี่กู้เริ่มโดนน้องเอาแต่ใจใส่บ้างแล้ว...
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว