หลินหร่วน : สาวน้อยพลังซอมบี้-ตอนที่ 18 เมื่อพลังจะหมด

โดย  Novel Room

หลินหร่วน : สาวน้อยพลังซอมบี้

ตอนที่ 18 เมื่อพลังจะหมด

เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องนภาเริ่มทอแสง หลินหร่วนหยิบซาลาเปาสองลูกใส่ลงไปในถุงผ้าสะอาดก่อนจะโยนลงไปในตะกร้าที่ซื้อมาใหม่ พร้อมกับกริชอันใหม่ที่เหน็บอยู่ข้างเอว นางกำลังเตรียมจะขึ้นภูเขา


ทว่าเพิ่งจะเดินออกไปได้เพียงสองก้าว หลินหานก็ตามออกมา “พี่สาว ข้าไปด้วย”


“เจ้าจะไปทำอันใด ? ”


สีหน้าของหลินหานดูกังวลมิน้อย “ภูเขาเฉินวูเต็มไปด้วยอันตราย ท่านเป็นสตรีตัวคนเดียว ข้ามิวางใจ ดังนั้นข้าจะตามไปด้วย เยี่ยงไรก็ยังมีคนคอยดูแล อีกอย่างข้าเป็นบุรุษคนเดียวในบ้าน ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้สตรีออกไปทำงานนอกบ้านคนเดียว”


หลินหร่วนปฏิเสธโดยที่มิต้องคิด


“แขนขาเล็กเยี่ยงเจ้า คงได้เดินขาลากกลับมาเป็นแน่”


หลินหานถูกตอกกลับ


หลินหร่วนยกยิ้มพลางลูบผมของเขา “เพียงเจ้ามีใจจะช่วย แค่นี้ข้าก็ดีใจมากแล้ว เจ้าอยู่บ้านดูแลหลินซิ่วเถิด นี่มิเพียงทำให้ข้าเบาใจลงเท่านั้น ทว่าเจ้ายังได้ดูแลครอบครัวของเราไปด้วย รอให้เจ้าโตกว่านี้อีกสักหน่อย ข้าจะพาเจ้าขึ้นเขาไปด้วยกัน”


เมื่อหลินหานเห็นว่านางมิเห็นด้วยกับคำขอของเขาจึงทำหน้าบึ้งตึงทันที


หลินหร่วนมิได้สนใจเขาอีกต่อไป นางหยิบตะกร้าแล้วเดินขึ้นไปทางภูเขา


วันนี้นางออกมาแต่เช้า ทั้งยังได้พบเจอผู้คนหลายกลุ่มระหว่างทาง แม้ว่าภูเขาฝูหนิวจะมิมีสัตว์ให้ล่า แต่กลับมีผักผลไม้ป่าขึ้นมากโข โดยเฉพาะตอนนี้ที่เป็นฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลของเห็ด ทำให้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเขาเพื่อค้นหามันในทุก ๆ วัน


“อาหร่วน เจ้าก็ขึ้นเขาเช่นกันหรือ”


คนที่ทักทายนางล้วนเป็นคนหมู่บ้านตระกูลหลินทั้งสิ้น นางจึงยกยิ้มแล้วพยักหน้าเบา ๆ เป็นการให้คำตอบ


มีสตรีวัยยี่สิบกว่า ๆ เข้ามากระซิบข้างหูนางเสียงเบา “อาหร่วน เจ้าทราบหรือไม่ว่า...ว่าหวังซื่อกลับบ้านของนางอีกแล้ว”


หลินหร่วนส่ายศีรษะ นางมิสนใจหวังซื่อรวมถึงคนตระกูลหลินทั้งหมด


แม่นางผู้นี้เป็นสะใภ้ของตระกูลหลิน สามีนางก็คือหลินซื่อ นางเป็นที่รู้จักในนามหลินหลิวซื่อ ในหมู่บ้านมีเรื่องซุบซิบมากมาย ในช่วงมิกี่วันก่อนนางได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลหลิน เมื่อได้พบกับหลินหร่วนแล้ว จึงอยากจะดึงนางมาสนทนาให้หมดเปลือก


ในภาพความทรงจำของหลินหร่วน หลินหลิวซื่อผู้นี้คือคนขี้ขลาดกลัว ระหว่างที่กำลังสนทนาตามมารยาทอยู่นั้น สายตาของหลินหลิวซื่อพลันเหลือบไปเห็นกริชข้างเอวกับตะกร้าใบใหม่ ดวงตานางจึงลุกวาวขึ้นมาทันใด


“อาหร่วน ตอนที่พวกเจ้าแยกบ้านออกมา บิดาของเจ้าคงให้เงินมาเยอะสิท่า เจ้ามิเพียงมีตะกร้าเท่านั้น ทว่ายังมีกริชนี่อีก คาดว่าคงมีราคาราวสองร้อยอีแปะเลยทีเดียว อ่า...ในห่อผ้านี่ใส่อันใดไว้กัน ? ขอข้าดูหน่อยสิ” หลินหลิวซื่อเอื้อมมือออกไปหมายจะเปิดห่อผ้า


หลินหร่วนขยับตะกร้าไปด้านข้าง ทำให้หลินหลิวซื่อคว้าได้เพียงความว่างเปล่า ทว่านางยังมิยอมแพ้ นางยังพยายามเอื้อมมือไปหยิบห่อผ้าด้วยความมุ่งมั่น


อยู่ ๆ ก็ได้กลิ่นหอมของซาลาเปาที่ทำมาจากแป้งสาลี หลินหร่วนยากจนถึงเพียงนั้น เหตุใดถึงสามารถกินซาลาเปาที่ทำมาจากแป้งสาลีได้กัน ถ้าวันนี้นางมิได้เห็นของด้านในห่อผ้ากับตาตนเองคงรู้สึกกินมิได้นอนมิหลับเป็นแน่


หลินหร่วนรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก หางตาของนางเหลือบไปเห็นพงหญ้า ทันใดนั้นก็เกิดรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาทันใด


หลินหลิวซื่อที่กำลังนึกสนุก อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่ามีอันใดขยับอยู่ที่เท้า พอก้มหน้ามองดู วิญญาณของนางก็แทบจะหลุดออกจากร่าง ดังนั้นนางจึงกรีดร้องออกมาทันใด


“ไอหยา งู งู ช่วยข้าด้วย”


ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ รีบเข้ามามุงดู เป็นงูดอกไม้ขนาดใหญ่เท่าข้อมือกำลังเลื้อยอยู่บนหลังเท้าของหลินหลิวซื่อ


เมื่อหลินหร่วนเห็นหลินหลิวซื่อตื่นตกใจจนจะเป็นลมล้มพับ นางจึงตัดสินใจดึงกริชออกมาแล้วฟันออกไป ทำให้ลำตัวและหัวของงูขาดออกจากกัน งูหัวขาดแล้ว ทว่าลำตัวของมันยังคงบิดไปมา เลือดของมันสาดกระเด็นไปโดนชายกระโปรงของหลินหลิวซื่อ


หลินหลิวซื่อทนมิไหวอีกต่อไป นางกลอกตาไปมาแล้วหมดสติลงทันใด หลินหร่วนรับร่างของนางเอาไว้ จากนั้นก็ตะโกนไปทางชาวบ้านที่เข้ามามุงดูว่า “รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า หลินหลิวซื่อเป็นลมแล้ว”


หลังจากนั้นมินาน ก็มีเงาร่างสูงใหญ่วิ่งมาทางนี้ คนผู้นั้นก็คือสามีของหลินหลิวซื่อหรือก็คือหลินเซิงจิน


หลินหร่วนมอบหลินหลิวซื่อให้หลินเซิงจิน ก่อนจะจับงูที่ยังคงดิ้นอยู่ขึ้นมา จากนั้นก็โยนมันลงไปในตะกร้าแล้วก้าวเท้าขึ้นภูเขาทันใด


เมื่อหลินเซิงจินเห็นการกระทำที่ป่าเถื่อนของหลินหร่วน หัวใจเขาก็เต้นแรงขึ้นมาทันใดเพราะตื่นตกใจ


หลินหร่วนกลายเป็นคนน่ากลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อใด งูตัวใหญ่เพียงนั้น ต่อให้เป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำมาเห็นก็คงตื่นตกใจมากอยู่ดี ทว่านางกลับฟันมันขาดเป็นสองท่อนโดยมิแสดงสีหน้าอันใดเลย


เมื่อนึกถึงเรื่องมิกี่วันก่อนที่หลินหร่วนจัดการเจ้าหวังไฉอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ทั้งยังเรื่องที่จับหลินหู่โยนฟาดลงพื้นด้วยมือเปล่า ผู้คนจึงเริ่มหวาดกลัวในใจขึ้นมาบ้างแล้ว


หลินหร่วนผู้นี้ดุร้ายป่าเถื่อนมากจริง ๆ อย่าว่าแต่จะรังแกนางได้ง่าย ๆ เลย หากกล้าทำเกรงว่าคงมิอาจรักษาชีวิตน้อย ๆ ของตนเองไว้ได้ เกรงว่าตนจะเป็นดั่งงูตัวนี้ที่ร่างขาดเป็นสองท่อน!


หลินหร่วนมิได้สนใจว่าผู้ใดจะคิดเยี่ยงไร หากนางทราบว่าการฟันงูเพียงคราเดียวทำให้ผู้คนแตกตื่นเพียงนี้ นางคงจะมีความสุขมิน้อย


หลังจากเข้าไปในภูเขา หลินหร่วนก็ได้เลือกใช้ทางอ้อมเพื่อหลีกหนีผู้คน เพียงมินานนางก็เดินมาถึงเชิงเขาเฉินวู


ครานี้นางมิได้รีบไปยังต้นองุ่น แต่กลับเดินไปเรื่อย ๆ ในภูเขา


ป่าทึบถูกปกคลุมไปด้วยร่มไม้ แสงในป่าบนภูเขาดูอึมครึมเล็กน้อย อุณหภูมิลดต่ำลงทันใด ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าใดอากาศก็ยิ่งเย็นมากเท่านั้น


หลินหร่วนมิได้เดินเข้าไปไกลมากนัก อยู่ ๆ นางก็พบเห็ดกอใหญ่ ดังนั้นนางจึงหยุดเดิน แล้วหลับตาลงเพื่อใช้พลังวิเศษ พอลืมตาขึ้นมาอีกครา บนพื้นดินก็เต็มไปด้วยเห็ด


นางมิสามารถแยกแยะเห็ดได้ ทว่าเจ้าของร่างเดิมสามารถทำได้ นางเก็บเห็ดที่สามารถกินได้ใส่ตะกร้าด้วยความระมัดระวัง เมื่อเก็บเห็ดจนพอใจแล้ว นางจึงเดินกลับไปยังต้นองุ่น นางทำให้องุ่นสุกขึ้นมาเต็มต้นอีกครา หลังจากใช้พลังเสร็จแล้ว หลินหร่วนรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาทันใด


อาการแบบนี้คล้ายกับชาติที่แล้ว ตอนที่พลังกำลังจะหมด


เพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์นี้ หลินหร่วนจึงลองใช้พลังทำให้ต้นหญ้าเติบโต ต้นหญ้าสั่นเพียงมิกี่ครา ทว่ามิมีอันใดเปลี่ยนแปลง แต่นางกลับรู้สึกปวดศีรษะยิ่งกว่าเดิม


ดูเหมือนว่า...พลังของนางจะหมดแล้วจริง ๆ


หลินหร่วนมิได้รีบร้อนไปเก็บองุ่น นางเพียงหาต้นไม้พิง จากนั้นก็หลับตาพักผ่อน


นี่มิใช่วันสิ้นโลก มิมีคริสตัลนิวเคลียสที่สามารถเพิ่มพลังให้นางได้ ดังนั้นความเร็วในการฟื้นตัวจึงช้าเป็นอย่างมาก นางใช้เวลาเกือบครึ่งวัน


รอจนหายปวดศีรษะแล้ว หลินหร่วนจึงหยิบเอาซาลาเปาออกมาจากห่อผ้า แม้ว่าซาลาเปาจะเย็นลงแล้ว ทว่ามันยังคงส่งกลิ่นหอมจาง ๆ


นี่เป็นซาลาเปาที่นางมาจากในเมืองเมื่อวาน แม้ว่านางจะมิใช่คนเลือกกิน แต่ถ้ามีให้เลือก นางก็ขอให้ตนเองได้รับอันใดดี ๆ บ้าง


นางมิได้ขาดแคลนเนื้อ บนภูเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่า หากต้องการฆ่าสักตัวก็มิใช่เรื่องยากอันใด แต่นางขาดแคลนอาหารประเภทแป้ง บัดนี้เมื่อมีเงินแล้ว นางจำต้องกลับไปซื้อแป้งสักยี่สิบชั่ง


เมื่อนึกถึงท่าทางดีใจจนเนื้อเต้นของหลินหานตอนที่เห็นซาลาเปา หลินหร่วนก็อดที่จะหัวเราะออกมามิได้


เด็กน้อยผู้นั้นเคยใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ในหนึ่งปีได้กินซาลาเปามิถึงสองลูกเลยด้วยซ้ำ


ถ้าหากถามว่าหาเงินไปเพื่ออันใด ขอตอบเลยว่าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมน่ะสิ ท้ายที่สุดก็มิมีผู้ใดทราบว่าวันพรุ่งนี้ต้องประสบพบเจอกับอันใดบ้าง หรือว่าอาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ถึงเยี่ยงนั้นนางมิมีวันทำผิดต่อตนเองเป็นแน่


เมื่อนางกินซาลาเปาเรียบร้อยแล้ว นางจึงลงมือเก็บองุ่นทั้งหมดในทันใด


นางหยิบตะกร้ามาเพียงใบเดียว ทว่าบัดนี้ตะกร้าเต็มไปด้วยเห็ด ดังนั้นหลินหร่วนจึงใช้พลังสร้างตะกร้าจากเถาวัลย์ขึ้นมาอีกหนึ่งใบ


มิทราบว่านางคิดไปเองหรือไม่ นางรู้สึกว่าพลังที่ฟื้นฟูขึ้นมาแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มิน้อย


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว