“เกรงใจอะไรกัน ทุกอย่างที่อาทำก็เพราะรักเรานั่นแหละ”
หญิงสาวชะงัก หัวใจเต้นโครมคราม เธอหันไปมองสบตาเขาที่ดูเหมือนจะชะงักไปเหมือนกัน สองสายตาประสานกันอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนที่จะเป็นเขาที่หัวเราะออกมาทำลายความเงียบงันระหว่างกัน
“มีหลานน่ารักเรียนเก่งแบบนี้ ไม่รักได้ยังไงใช่ไหม”
แม้จะคิดไว้แล้วว่าผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างเขาคงไม่มาสนใจผู้หญิงที่มีประวัติด่างพร้อยอย่างเธอ แต่พอได้ยินจากปากว่าเขารักเธอเหมือนลูกเหมือนหลาน ก็อดห่อเหี่ยวหัวใจไม่ได้
“แล้วนี่มีแผนยังไงล่ะ จะกลับไปช่วยสิงห์หรือจะหางานทำที่กรุงเทพฯ”
“อืม...หนูว่าจะหางานทำที่กรุงเทพฯ ก่อนค่ะ เอาไว้เก่งแล้วค่อยกลับไปช่วยป๊า”
“งั้นไปทำที่บริษัทอาไหม ตอนนี้มีโครงการใหญ่หลายโครงการ ก็เลยจะรับวิศวกรใหม่อยู่พอดี”
“จริงหรือคะ” เธอย้อนถามด้วยหัวใจพองโต เพราะนอกจากจะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาเหมือนเดิมในบ้านหลังนี้ เธอยังจะได้ทำงานที่เดียวกับเขาอีกต่างหาก
“จริงสิ” เขาพยักหน้า “แต่คงต้องผ่านขั้นตอนตามปรกตินะ อาไม่อยากให้ใครมาว่าเราได้ว่าใช้เส้นสาย”
“ได้เลยค่ะ”
นิชกานต์รับคำด้วยความมั่นใจ และเธอก็ไม่ทำให้ศาสตราผิดหวัง เพราะสัมภาษณ์ผ่านเกณฑ์ของบริษัทด้วยคะแนนสูง ทั้งด้านวิชาการและทัศนคติ เธอจึงได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานบริษัททันที
“อย่างนี้ต้องฉลอง”
กฤติยาโพล่งขึ้นทันทีที่รู้จากปากนิชกานต์ว่าเธอได้งานทำในบริษัทเดียวกับศาสตราแล้ว หลังจากฝ่ายบุคคลของบริษัทโทร.มาบอกตอนที่ทั้งคู่กำลังเดินชอปปิงด้วยกันในห้างสรรพสินค้า
“วันนี้ไปกินหมูกระทะกัน ฉันเลี้ยงเอง” เพื่อนสาวเสนอ
“แค่ทดลองงานสามเดือนน่ะ เอาไว้ผ่านงานได้เป็นพนักงานประจำค่อยฉลองไม่ดีกว่าเหรอ”
“ผ่านทดลองงานก็ฉลองอีกรอบไง”
นิชกานต์ส่ายหน้า “เรื่องปาร์ตี้นี่พลาดไม่ได้เลยนะยะ”
“ก็อยู่แล้ว” กฤติยาทำลอยหน้า
“แต่วันนี้วันเกิดคุณอาน่ะสิ ฉันคงต้องกลับบ้าน เอาไว้ค่อยฉลองวันหลังละกัน”
“ว้า...” กฤติยาทำหน้าเซ็ง “งั้นวันนี้ฉันก็ต้องเหี่ยวอยู่บ้านคนเดียวสิเนี่ย”
“พ่อกับแม่เธอไปไหนล่ะ”
“ไปฮ่องกง”
นิชกานต์มองใบหน้าผิดหวังของเพื่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ “งั้น...เธอมาฉลองวันเกิดให้คุณอาด้วยกันไหมล่ะ”
“จริงเหรอ”
“อือ” เธอพยักหน้า “คุณอาคงไม่ว่าอะไรหรอก”
“ไปๆๆ”
นิชกานต์ยิ้มเจื่อน เพราะตอนแรกคิดว่าจะฉลองกับคุณอาสุดหล่อสองคน แต่กลับต้องยอมใจอ่อนกับเพื่อน
ตอนแรกที่ศาสตราเห็นกฤติยากลับมากับเธอ เขาก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อย แต่เมื่อเธอบอกว่าเพื่อนจะมาร่วมฉลองด้วย เขาก็ยินดีต้อนรับ ก่อนจะจัดอาหารเพิ่มอีกหนึ่งที่
“อืม...สเต๊กคุณอานี่อร่อยเหาะเลยค่ะ” กฤติยายกนิ้วโป้งชมเป็นยกใหญ่
“อร่อยก็กินเยอะๆ นะ”
“ค่ะ...แต่ถ้ามีไวน์แดงแกล้มด้วยก็คงจะดี”
“ดื่มด้วยหรือเราน่ะ”
“ก็พอเป็นกระสายค่ะ” กฤติยาแลบลิ้นทะเล้น
“งั้นรอเดี๋ยวนะ อาไปหยิบให้”
“อุ้ย...ลาภปาก” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว