[จบ] ทะลุมิติพลิกชะตากับครอบครัวคลั่งรักยุค 70-บทที่ 41 ต่อไปห้ามขึ้นเขาอีก (รีไรท์)

โดย  OfficeOnlybook

[จบ] ทะลุมิติพลิกชะตากับครอบครัวคลั่งรักยุค 70

บทที่ 41 ต่อไปห้ามขึ้นเขาอีก (รีไรท์)

ตอนที่ 137 เจตจำนงของอดีตชาติ

คมดาบทั้งสองปะทะอย่างดุเดือดอย่างต่อเนื่อง เสียงเหล็กยิ่งกระทบกันดังกังวานจนผู้คนต่างออกมาดู เบ็นพยายามพยุงคนที่บ้านเจ็บจากบ้านเขาออกมาจากจุดที่มีการต่อสู้ขึ้น คาเร็นน่าเห็นชายที่เธอรู้จักกำลังต่อสู้กับพี่ชายก็เป็นกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะพุ่งตัวไปอย่างสายไฟแลบจนกระทั่งถึงระยะประชิดจนเขาตวัดดาบขึ้นสูง ดีแลนที่เห็นแบบนั้นก็ถอยหลังหนีออกไป เดวิคหอบหายใจอย่างรุนแรงเขาเกือบไม่ได้หายใจตลอดการต่อสู้นั้นทำให้เกือบขาดอากาศเล็กน้อย


“ลูกไม่เป็นไรนะ!”

“ไม่ครับ...ผม...สบายดี...แฮ่ก..แฮ่ก...” เดวิคหอบหายใจอย่างแผ่วเบา เพื่อให้การหายใจกลับเป็นปกติ

ฟีนีอุสเห็นก็รู้สึกไม่ดีก่อนจะหันไปหาลูกสาวอีกคน “คาเร็นน่าพาพี่ของลูกออกไปจากตรงนี้เร็ว!!”

“ค่ะ!?”

“พ่อ...” เดวิคเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่สั่งให้เขาหลบไป

“การต่อสู้นี้ปล่อยเป็นหน้าที่พ่อต่อเอง!!”


ฟีนีอุสจ้องมองฝ่ายตรงข้ามที่อยู่อีกทาง ผิวสีขาวซีดกับผมสีขาวซีดเหมือนปีศาจอีกฝ่ายคงยอมตกเป็นทาสของเทพไปหมดแล้วถึงอยู่ในสภาพนี้ เขาสงสัยแฟนสาวของเขาที่ต้องเสียเพื่อนคนนี้จริง ๆ แต่ว่าอีกฝ่ายมาโจมตีพวกเขาก็อย่าหาว่าเขาไม่เตือน แต่ว่าอีกฝ่ายก็เริ่มขยับตัวชูบางอย่างขึ้นเหนือหัวมันเป็นแท่งเหล็กหน้าตาแปลก ๆ ก่อนที่จะมีลำแสงสว่างขึ้นแล้วบาเรียปะทะกับลำแสงนั้นก็แตกออก ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องแล้ว


“ซวยแล้ว...”

“บาเรีย...พังแล้ว...” ฟีนีอุสขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ทุกคนเตรียมพร้อม!! ป้องกันการโจมตีครั้งใหญ่!!!”

คำสั่งของฟีนีอุสดังก้องไปทั้งบริเวณนั้นเหล่ามนุษย์กึ่งเทพหลายคนที่มีสติหลังจากโจมตีเมื่อกี้ก็เตรียมที่จะออกรบกัน แต่ทว่าเสียงหัวเราะก็ฝ่ายตรงข้ามก็ทำให้ฟีนีอุสสนใจขึ้นมาในทันใด

“แก!! หัวเราะทำไม!?”

“หัวเราะให้กับความโง่เง่าของพวกแกนะสิ”

“โง่เง่างั้นเหรอ?”

“พวกแกยอมอยู่นี่ไม่ได้ยอมอยู่ข้างโพรทาเลีย? เกิดยัยนั้นเป็นอะไรขึ้นมา แต่ก็โง่ยิ่งกว่าอะไร”

“ฉันว่าไม่เกิดขึ้นอะไรกับเธอ...เพราะฉันไว้ใจเธอว่าเธอจะพาจุดที่เธออยู่ไปได้!!”

“แกคิดงั้น?” ดีแลนเอ่ยถามขึ้น

“คำพูดนั้นหมายความว่าไง?”

“เพราะถ้าแกอยู่นี่...ถ้าโพรทาเลียทำภารกิจสุดท้ายของเธอจบ...แกจะไม่ได้เห็นเธออีก!!”

ฟีนีอุสฟังแบบนั้นหัวใจของเขาตกไปอยู่ตาตุ่มคำว่าไม่เห็นอีกมันเหมือนว่าเธอจะหายไปจากที่นี่

“แก!!! รู้อะไรมา!!”

“หึ!!” ดีแลนหยิบดาบของเขาขึ้นมาตวัดลีลาก่อนจะวิ่งพุ่งตรงมาทางฟีนีอุส “คำทำนาย!! ที่แกจะไม่สามารถพบโพรทาเลียได้อีกไง!!”


ฟีนีอุสไม่ชอบคำพูดอีกฝ่ายที่กล่าวแบบนั้นออกมาก่อนที่เขาจะพุ่งตรงดิ่งไปอย่างไม่สนใจอะไร เสียงดาบทั้งสองกำลังกระทบกันอย่างรุนแรงจนเกิดประกายไฟเล็ก ๆ กระจายทุกครั้งที่พวกเขาต่อสู้กัน สองแฝดที่เห็นพ่อของตนเองกำลังต่อสู้ พวกเขารอไม่ช้าก็ออกไปโจมตีพวกปีศาจมากมายพวกเขาต้องรีบจัดการพวกมันเพื่อรีบตรงดิ่งไปเขาโอลิมปัสเพื่อช่วยแม่ของพวกเขาจากชะตากรรมที่พัวพันไปถึงชีวิตที่อาจจะไม่มีทางได้กลับมาอีกครั้ง


ทางด้านเขาโอลิมปัส ณ โคลอสเซียม

โพรทาเลียวิ่งตรงไปโรงตีเล็กขนาดเล็กที่ถูกสร้างชั่วคราว พวกเธอหยุดมองมาสักระยะก่อนที่เธอจะเข้าไปแต่ต้องสะดุดเมื่อคนข้างหน้าหยุดจนเธอเข้าไปไม่ได้ น้องสาวเธอก็กำลังจะปล่อยมือนั้นเลยมีคำถามว่าทำไมถึงไม่เข้าไปด้วย โฟกัสเลยอธิบายว่าเธอไม่เหมือนพี่สาวที่พลังป้องกันความร้อน นั้นทำให้โพรทาเลียเข้าใจ ก่อนจะจับมือเธอแล้วส่งพลังของเธอให้อีกฝ่าย โฟกัสรู้สึกถึงพลังที่มีความอบอุ่น โฟกัสมองมือของเธอที่มีสัญลักษณ์ของเฮเฟตัสอยู่


“พี่!!”

“ฉันให้ยืมพลังชั่วคราว เพราะเราต้องเข้าไปพร้อมกัน เราต้องระดมความคิดสร้างอาวุธพวกนั้นกัน เข้าใจไหม!?”

“พี่...ค่ะ!!”


โฟกัสขานตอบทันใด โพรทาเลียยิ้มอย่างดีใจก่อนที่จะพาน้องสาวเข้าไปข้างในที่ทั้งร้อนและไม่ควรมีใครเข้ามาตอนนี้ ทั้งสองเดินกันเข้ามาจนพวกที่อยู่ข้างในต่างมองเล็กน้อย ทุกคนไม่เข้ามาห้ามพวกเธอเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเธอนั้นมีความสามารถที่จะเข้ามาในนี่ โพรทาเลียมองหาชายคนหนึ่งที่เธอต้องการจะเจอก่อนจะเจอคุณลีโอที่กำลังเดินมาพวกเธอ


“คุณลีโอ”

“หาพ่องั้นเหรอ? พี่สาว?” ลีโอเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างให้เกียรติเพราะเขารู้ว่าเด็กคนนี้ในอดีตเป็นพี่สาวคนหนึ่งของเขา

“ใช่...เขา...” โพรทาเลียไล่สายตามองก่อนจะเห็นคนหน้าคุ้น ๆ “อ๋อ...เจอล่ะ...”

“อ๊ะ! กำลังจะบอกเชียว...เธอเคยเจอเขา....ในรูปลักษณ์นั้นเหรอ?”

“ใช่ ตอนเด็กของฉัน เขาชอบอยู่ในรูปลักษณ์นั้น ขอบคุณที่มีน้ำใจจะบอกว่าเขาอยู่ไหน”

“แหม ๆ ผมยังไม่ได้บอกเลยนะ”

โพรทาเลียได้แต่ยกยิ้มแต่เธอก็ก้าวขาไปข้างหน้า แต่เสียงข้างนอกยังดังตลอด เธอเป็นห่วงทุกคนมาก ๆ ที่กำลังต่อสู้อยู่ เธอเดินตรงมายืนตรงหน้าของชายตรงหน้า

“ท่านเฮเฟตัส!!”

“ท่านพ่อ?” เฮเฟตัสพูดคำเรียกตนเองระหว่างตีเหล็ก

โพรทาเลียได้ยินก็ทำหน้าเหยเกอย่างไม่ชอบใจที่โดนให้เรียกแบบนั้น แต่ก็ต้องยอม ถ้าเธอจะขออะไรให้อีกฝ่ายช่วยไม่งั้นไม่ยอมช่วยเธอแน่ ๆ

“ท่านพ่อ!!”

“ว่าไง ลูกรัก” เฮเฟตัสเงยหน้าขึ้นมาแล้วหันไปมองเจ้าหญิงน้อยของเขา

“ช่วยลูกหน่อย ลูกต้องการยืมสถานที่นี้!!”

“เจ้าจะทำอะไร?”

“ลูกต้องการสร้างศาสตราวุธจัดการแซเทิร์น!!”

“จัดการแซเทิร์น? เจ้ามีแผนงั้นเหรอ?”

“ไม่เชิงเป็นแผนแต่เป็นคำพยากรณ์ยาวนาน...ลูกว่า...มันอาจจะเป็นหนทางที่ลูกจะสามารถจัดการกับชายที่พรากชีวิตที่ลูกเคยอยู่มีความสุขกับท่าน!!”

“งั้นเริ่มเลย!!” เฮเฟตัสกล่าวอนุญาต

เด็กทั้งสองก็ยิ้มแก้มปริก่อนจะมองหน้ากัน “ขอบคุณค่ะ!!”

ทั้งสองคนเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจที่พวกเธอต้องสร้างขึ้นและนับจากนี้อีกสามสิบนาทีจะได้รู้ผลของโลกใบนี้ว่าจะผ่านพ้นไปหรือพังพินาศ


สงครามบนเขาโอลิมปัสต่างไม่ต่างอะไรจากสงครามนองเลือด กลิ่นอายจากโลหิตสีแดงชาดผสมอยู่ภายในอากาศ เหล่าเทพกำลังต่อกรกับพวกปีศาจที่มาไม่หยุดหย่อน กำลังพลของมนุษย์กึ่งเทพเริ่มน้อยลงบางคนบาดเจ็บเล็กน้อยและสาหัส แต่กำลังพลก็มีมาเพิ่มจากคนรู้จักของพวกเขาที่อยู่ห่างออกไปที่นี่กำลังจะพังถ้ายังมีพวกปีศาจเข้ามา เพอร์ซีย์ที่กำลังดูสถานการณ์และต่อสู้ไปด้วยเขาห่วงภรรยาของเขาอยู่ที่อีกฝั่ง เขาจะตรวจสอบกำลังในมือตลอดว่าจะมีข้อความติดต่อมาตอนไหน ก่อนที่จะมีสีแดงขึ้นมาเขาสัมผัสลูกแก้วทันที


“แอนนี่!!”

“เพอร์ซีย์!”

“ตอนนี้ที่ค่ายเป็นไงมั้ง!!”

“สถานการณ์อย่างที่คิดมีพวกแอบแฝงจากการต่อสู้ล่าสุดแล้วพวกมันพังบาเรียจากข้างใน!!”

“บ้าชิบ!”

“ไม่ต้องห่วง ฉันกับเหล่าเด็ก ๆ จะจัดการกันเอง!!”

“ระวังตัวด้วย ทางนี้จัดการเสร็จจะไปช่วย!!”

“จะมาช่วย พวกเราต่างหากที่จะพูดแบบนั้น งั้นแค่นี้นะ!!”


สิ้นเสียงอีกฝ่ายไปนั้นเพอร์ซีย์ได้แต่ยกยิ้มและส่ายหน้าเบา ๆ เขาหลบการโจมตีของพวกปีศาจที่เข้ามา ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงบางอย่างที่พุ่งเข้ามาหาเขา สายตาของเขาเห็นแวบหนึ่งว่าสิ่งนั้นคือเคียวขนาดใหญ่ นั้นทำให้เขาหมุนตัวหลบไปอีกทางแล้วมองคนที่โจมตีใส่เขาก็เห็นชายที่อยู่ห่างออกไปที่กำลังยกยิ้มอย่างสบประมาทเขา นั้นทำให้เพอร์ซีย์รู้สึกเลือดขึ้นหน้าทันที


“แซเทิร์น!!!” เพอร์ซีย์ถึงกับกัดฟันอย่างไม่พอใจ

“หลบไวดีนี้ เจ้าหลานชาย”

“นับฉันเป็นญาติด้วยเหรอ? ไอ้สัตว์เดน!!”

“อะไรกัน!? โกรธที่ฉันลักพาตัวลูกสาวนายเหรอ!?”

“หึ!! ใครมั้งไม่โกรธที่ชายคนหนึ่งลักพาตัวลูกของเขาไปแถมยังทรมานอีก!! แกพรากทุกช่วงชีวิตของลูกสาวฉันไป!!”

“แล้วไง!?”

“!!!”


คำพูดนั้นทำเอาเพอร์ซีย์ถึงกับนิ่งไปสนิท เจสันกำลังต่อสู้กับพวกปีศาจก่อนที่เขาจะใช้สายฟ้าฟาดลงมาใส่พวกมันทั้งหมดก่อนที่หางตาของเขาจะหันไปเห็นคู่ปรับของเขากำลังยืนประจักษ์หน้าอยู่กับเทพแสนชั่วร้าย เขาเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งตรงไปช่วยอีกฝ่าย แต่ระหว่างที่กำลังวิ่งนั้นก็มีน้ำพุ่งผ่านเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาก็เห็นว่างพวกมันกำลังไปรวมตัวที่เจ้าของพลัง น้ำมากมายกำลังรวมตัวอยู่รอบตัวเพอร์ซีย์ เจ้าตัวกำลังมีอารมณ์โทสะอันรุนแรงเขาอยากปะทะกับอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เขาได้ยินประโยคนั้นก็ยิ่งโกรธเคืองมากกว่าเดิม ชายตรงหน้ากำลังยกยิ้มที่อีกฝ่ายกำลังโกรธตนเองจนกระทั่งมีมือหนึ่งมาจับไหล่ของเพอร์ซีย์ทันที


“สงบสติของตนเองให้ได้ เพอร์ซีย์!!”

เพอร์ซีย์หันไปมองอีกฝ่ายที่แตะไหล่ของเขา แต่พอเห็นอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองเขานั้นทำให้รู้สึกความสงบ “เจสัน...”

"ถ้านายโจมตีตอนนี้อาจจะพลาดท่ามันได้นะ!!"

“แต่ว่า!!”

“นายน่าจะรู้นะว่ามันชอบทำให้เราขาดสติแค่ไหน มันก็สามารถเข้ามาควบคุมและจัดการเราได้ตลอดนะ!!”

เพอร์ซีย์ได้ยินแบบนั้นเขาก็ตั้งสติน้ำที่กำลังแปรปรวนไปหมดกลับมาสงบก่อนที่มันจะหมุนรอบตัวกลายเป็นดาบ แซเทิร์นเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจที่มีคนมาขัดขวางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพอร์ซีย์เห็นสีหน้าอีกฝ่ายที่กำลังไม่พอใจที่แผนการของตนเองผิดพลาด เขายกยิ้มก่อนจะกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย

“ขอบใจที่เตือน เจสัน!!”


มือที่ตวัดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับดาบที่สร้างจากน้ำขึ้นมาพร้อมกับพุ่งตรงไปข้างหน้าโจมตีเป้าหมายที่ล็อกเป้าไว้ อีกฝ่ายเห็นการโจมตีที่พุ่งตรงมาเขาได้แต่ก้าวขาหลบการโจมตีนั้นอย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็รีบพุ่งตรงไปหาอีกฝ่ายที่เอาแต่หลบการโจมตี เขาตวัดดาบไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายก็หลบการโจมตีเขาได้อย่างง่ายดายก่อนจะใช้ขายกขึ้นแล้วเตะเขาลอยไปไกลจนตกลงไปชั้นล่างต่อจากชั้นที่พวกเพอร์ซีย์อยู่


“เพอร์ซีย์!!”


เจสันที่กำลังจะพุ่งเข้ามาช่วยก็เห็นอีกฝ่ายลอยไปแล้ว เขาก็พุ่งตรงไปหาพร้อมกับสายฟ้าที่กำลังแลบตามมือของเขาก่อนที่จะตวัดพุ่งใส่ตรงข้ามจนเกิดกระแสไฟฟ้า น้ำโดยรอบเป็นกระแสนำได้อย่างรวดเร็ว พวกปีศาจที่อยู่โดยรอบก็โดนช็อตกันไปหมด พวกมนุษย์กึ่งเทพที่อยู่โดยรอบที่เห็นเหตุการณ์ก็หาทางหลบการโจมตีพวกนั้น แต่บางคนที่ไม่ทันก็โดนช็อตซะงั้น เจสันยิ้มอย่างพอใจที่เขาจัดการอีกฝ่ายได้ แต่ทว่าอีกฝ่ายก็จับมือของเขาพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ ๆ


“พลาดแล้ว เจ้าหนู!!”

“ว่าไงนะ!!”


แซเทิร์นยกยิ้มเขาเหวี่ยงหัวตัวเองไปข้างหลังพร้อมกับใช้หน้าผากโจมตีอีกฝ่ายใส่อีกฝ่ายอย่างแรง เจสันที่เจอแบบนั้นเขาถึงเกือบสลบแต่อีกฝ่ายก็จับเขาให้ตั้งตัวขึ้นก่อนจะโจมตีด้วยหน้าผากอีกหลายรอบจนหน้าผากของเขาเลือดกำลังไหลออกมาเรื่อย ๆ ไพเพอร์กำลังต่อสู้กับพวกปีศาจก็ได้ยินเสียงคนที่กำลังร้องทุกครั้งที่โดนโจมตี เธอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นสามีของตนเองที่กำลังโดนฝ่ายตรงข้ามโจมตีใส่ไม่หยุด เห็นแบบนั้นเธอถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องก่อนจะทิ้งการต่อสู้ทุกอย่างวิ่งตรงไปหาสามีทันที เจสันเริ่มไม่ไหวเขายิ่งโดนโจมตีเขายิ่งสติเลื่อนร่างเข้าไปทุกทีก่อนที่จะมีคนพุ่งมาจับตัวแซเทิร์นไปอีกทางอย่างรวดเร็วจนมือที่จับเจสันหลุดออก เจ้าตัวถึงกับทรุดลงกับพื้นอย่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น แซเทิร์นก้มมองคนที่เข้ามาลากตัวเขาออกไปจากจุดนั้น


“สายเลือดโพไซดอน!!”

“คู่ต่อสู้ของแกคือฉันเว้ย!!”

เพอร์ซีย์ลากอีกฝ่ายออกไปไกล เจสันเห็นแบบนั้นเขาก็กำลังหงายหลังลงไปข้างหลังแต่แล้วก็มีคนมาช่วยเจสันก็ชายตามองก็เห็นภรรยาของเขา

“ไพฟ์...”

“ที่รัก! อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ!!”

เจสันมองอีกฝ่ายที่พูดแบบนั้นเขาจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไรก็ไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้หน้าผากเขามีเลือดซึมออกมาเต็มไปหมด แล้วร่างกายของเขานั้นอยู่ในสภาพที่ไม่ดีสุด ๆ ไพเพอร์ตรวจร่างกายอีกฝ่ายที่ดูไม่ดีเท่าไหร่เธอก็เตรียมพยุงอีกฝ่ายออกจากตรงนั้น

“รอก่อนนะ ฉันจะพาเธอไปรักษา!!”

ไพเพอร์ประคองแขนอีกฝ่ายไว้บนบ่าของเธอแล้วเตรียมตัวพาอีกฝ่ายกลับไปยังสถานพยาบาลชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในโคลอสเซียม พวกปีศาจพยายามขัดขวางก็โดนเธอจัดการหมดถึงจะลำบากที่แบกสามีแต่เธอก็พยายามไปให้ถึงจุดหมาย ขออย่างเดียวขอมีปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นหน่อยก็ดี


เสียงภายนอกกำลังดังกึกก้องแทรกเข้ามายังภายในโรงตีเหล็ก ข้างนอกดูจะเจอศึกจนเขาคิดว่าจะต้องออกไปจัดการเสียหน่อย เขาเรียกสายเลือดของตนเองออกไปข้างนอกเพื่อจัดการ เหล่าสายเลือดเฮเฟตัสต่างหยิบอาวุธเตรียมออกไปทำภารกิจ เฮเฟตัสจ้องมองเด็กทั้งสองที่กำลังครุ่นคิดในการสร้างอาวุธ แต่มันใช้เวลาไม่ใช่เรื่องง่ายก่อนที่เขาจะเดินออกไปแล้วปิดประตูไม่ให้ใครเข้าไปได้ พวกโพรทาเลียกำลังระดมความคิดว่าจะทำไงกับสิ่งของต่าง ๆ จากเหล่าอดีตชาติดี แต่ว่ากับรู้สึกจนมุมสุด ๆ เพราะว่าเหลือเวลาน้อยมาก ๆ ทุกเวลากำลังเดินไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีเท่านั้นแล้วเวลาการตีล่ะมั้งนานกว่านั้นสามสิบนาทีมันให้เวลาที่น้อยเกินไป


“พวกเจ้าอย่าคิดเยอะสิ!”

โพรทาเลียเงยหน้ามองก็เห็นทุกคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาจ้องมองมาที่พวกเธอสองคน

“ฮาลอน? ทุกคน...”

“เจ้าเอาแต่คิดว่าจะทำยังไงมั้งก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ลองพินิจถึงความเป็นไปได้ว่าจะสร้างอาวุธจากสิ่งใด”

“อาวุธต้องเข้ากับพวกเจ้าได้”

“แล้วสามารถทำงานเป็นกุญแจที่จะกักขังเจ้าเทพเฮงซวยนั้น!!”

“แต่ปาฏิหาริย์มันขึ้นอยู่กับพวกเจ้า”

“ปาฏิหาริย์...”


โฟกัสมองอย่างสงสัยว่าปาฏิหาริย์คืออะไรกันพวกเธอจะทำได้เหรอ เธอหันมามองพี่สาวสลับกับสิ่งของต่าง ๆ โพรทาเลียมองทุกคนเวลายิ่งนับถอยหลังไปเรื่อย ๆ แต่เธอสงสัยทำไมตอนนี้มีแต่อดีตชาติอยู่ตรงนี้แล้วยกเว้นร่างต้นที่ถือกำเนิดพวกเขาหายไปไหน แองเจิลไม่โผล่ออกมาเลย ช่วงหลังมานี่เขาไม่ติดต่อยิ่งน่าสงสัยก่อนที่เธอจะมองสิ่งของต่าง ๆ คำใบ้ของแต่ละคนทำให้เธอครุ่นคิดยกใหญ่เธอนึกย้อนทุกอย่างไปจนเธอมองน้องสาวที่กำลังมองเธอด้วยสายตาสับสนแต่ก็ครุ่นคิดเช่นกัน แต่ก็มีสิ่งสะดุดตาของเธอคือไซกาเลนทางฝั่งโฟกัสนั้นทำให้เธอก้มมองของตนเอง ตั้งแต่เริ่มต้นนี้คืออาวุธของแองเจิล อาวุธสองสิ่งที่ควรคู่กันเหมือนกับเธอสองคนจนเธอหันไปมองสิ่งของตรงหน้าจนเธอหยิบสิ่งของที่เป็นคู่ขึ้นมาทุกคนเห็นก็ตกใจสิ่งที่อีกฝ่ายหยิบขึ้นมา


“พี่...นั้นมัน...”

“ดาบสั้นของข้า!” ลักซ์จ้องมองอีกฝ่ายที่ยกดาบสั้นของตนเองขึ้นมา

“ฉันตัดสินใจแล้ว...แก่นของศาสตราวุธคือดาบสั้นของลักซ์!!”

ทุกคนต่างมองที่อาวุธที่ใหญ่กว่านั้นก็มีแต่อีกฝ่ายเล่นสิ่งที่เล็กและมีสองชิ้นนั้นทำให้ฮาลอนและบางคนยิ้มชอบใจที่อีกฝ่ายนั้นมีความคิดที่บรรเจิดยิ่งกว่าอะไร

“เราเชื่อการตัดสินใจของเจ้า ถึงเวลาแล้ว!!”

“ถึงเวลาอะไร เวลาตีมันจะ...” โพรทาเลียมองเวลาที่เหลือเพียงแค่สิบนาทีกว่าจะหลอมโลหะเสร็จอีก

ฮาลอนยกมือขึ้นมาพร้อมกับสิ่งของที่ตนให้อีกฝ่ายกำลังลอยขึ้นมันกำลังหดเหลือเพียงก้อนกลม ๆ เรือนแสงเท่านั้น

“ส่งต่อเจตจำนงของเราสู่ศาสตราวุธ!!”

“เจตจำนง?”

โพรทาเลียมองอย่างสงสัยว่าเจตจำนงของทุกคนคืออะไร หรือว่าเป็นสิ่งที่ขาดคาใจอยู่ ฮาลอนและทุกคนต่างมองพวกโพรทาเลียก่อนที่จะยกยิ้มออกมาแล้วกล่าวออกมา

"ตั้งแต่พวกเจ้าเกิดมาเจตจำนงของเราเปลี่ยนไปเจตจำนงที่จะแก้แค้นชายที่ฆ่าพวกเราเปลี่ยนเป็นต้องการให้พวกเจ้าได้ดำรงชีวิตต่อในอนาคต"

"พวกนายหมายความว่าไง? ยังไงเราก็จะจบเรื่องนี้ได้แน่ ๆ ถ้าเราทำสำเร็จ!!"

โพรทาเลียขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทุกคนรู้อะไรหรือเปล่าก่อนจะเอ่ยถาม "พวกนาย...ปิดปังอะไรกัน?"

ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าเศร้าใจก่อนจะหันมายิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนที่ทุกคนจะพูดพร้อมกัน

"พวกเจ้าจะรู้เองในไม่ช้า..."

"!?"


ก้อนเรือนแสงพุ่งตรงเข้าไปในดาบสั้นของลักซ์ทันที ตัวดาบกำลังเรือนแสงขึ้น ก่อนที่คนอื่น ๆ จะทำตามฮาลอน โพรทาเลียยกดาบสั้นแบบคู่ไว้ข้างหน้าตัวเองเพื่อรับพลังที่ทุกคนจะนำส่งเข้ามา สิ่งของที่ทุกคนให้พวกอดีตชาติต่างกลายเป็นก้อนกลมเรือนแสงพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาโพรทาเลียจนเธอเกือบทรงตัวไม่อยู่ โฟกัสรีบพุ่งเข้าไปพยุงพี่ทั้งสองคนได้รับแสงสว่างนั้นเจิดจ้ากว่าอะไรก่อนที่มันจะพุ่งขึ้นสูงสู่ท้องฟ้าจนทุกคนที่กำลังต่อสู้เห็นก็เงยหน้ามองอย่างตกตะลึงว่าเกิดอะไรขึ้น แซเทิร์นหยุดการต่อสู้เขาเงยหน้ามองไปข้างบนก็เห็นสิ่งไม่คาดคิด เขาเอาแต่เล่นกับสายเลือดโพไซดอนจนลืมไปเลยว่าเด็กคนนั้นกำลังทำอะไร ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะมีเส้นเลือดนู้นเด่นขึ้นมา


“อย่าคิดว่าเจ้าสร้างอาวุธจัดการข้าได้แล้วมันจะจบ!! โพรทาเลีย!!” แซเทิร์นพูดจบก็หยุดการต่อสู้กับชายตรงหน้าแล้วพุ่งตรงไปที่แสงสว่างนั้น

เพอร์ซีย์เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งตรงตามอีกฝ่ายไปทันที “หยุดนะ!! แซเทิร์น!!”


จบตอนที่ 137 โปรดติดตามตอนที่ 138 ต่อไป

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว