ปมรักซาตาน

7.2

3

เช้านี้ภาคภูมิตื่นนอนด้วยความสดชื่นเป็นพิเศษ มันเป็นเวลาหกโมงนิดๆ เท่านั้น อาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงมาชั้นล่าง จิบกาแฟ ดูข่าวประจำวัน วันนี้เป็นวันหยุดของเขา นโยบายบริษัทเรื่องวันหยุดของแต่ละคนไม่ตรงกันแม้แต่พนักงานแผนกบุคคลอย่างเขาเอง นโยบายนี้เริ่มใช้มาเมื่อปีใหม่จนตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ เนื่องเพราะบริษัทมีออร์เดอร์สินค้าจำนวนมาก ต้องเปิดโรงงานผลิตทุกวันแม้แต่วันอาทิตย์ พนักงานทุกคนจึงได้จัดสรรวันหยุดตามแต่ความเหมาะสม

ปกติแล้ว ถ้าเป็นวันหยุด เขาจะตื่นสายมาก บางครั้งตื่นเที่ยงหรือบ่ายก็มี แต่วันนี้ร่างกายมันกระชุ่มกระชวย ทั้งที่เมื่อวานใช้พลังงานไปมาก

ร่างสูงเดินถือแก้วกาแฟมาหน้าทีวี ตั้งใจว่าจิบกาแฟหมดแก้ว จะไปซักผ้าต่อ... หากพอนั่งลงบนโซฟาก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ตาคมเหลือบมองฝ้าเพดานตรงจุดที่เป็นห้องนอนเล็ก และสาวน้อยแสนหวานคนหนึ่งนอนอยู่ข้างบนนั่น

ภาคภูมิมองแล้วกระตุกยิ้มหยัน ความสุขเสียวเมื่อวานสาแก่ใจชะมัด แต่ทว่า... เด็กนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา ถึงเธอจะบริสุทธิ์ผุดผ่องก็จริง แต่ถึงไม่ใช่เขาเปิดซิง วันหนึ่งเธอก็โดนคนอื่นเปิดซิงอยู่ดี เขาไม่คิดจะรับผิดชอบใครเพียงเพราะได้กระชากพรหมจารีเธอหรอก มันหมดสมัยแล้ว เรื่องเมื่อวาน มันก็แค่อารมณ์วูบวาบ เธออยากเขาสนอง ต่างคนต่างได้ความสุขเสียวระบายความเปลี่ยวอารมณ์ มันแค่นั้น แค่น้ำแตกแล้วแยกทาง แม้ว่าเธอจะรีดเขาไปถึงสองน้ำก็เถอะ

เดี๋ยวนะ!

ภาคภูมิสะดุดความคิด ตาเบิกถลน รีบวางถ้วยกาแฟ คว้ากุญแจรถบิ๊กไบค์ของตนขับออกจากบ้านอย่างร้อนรน

เขาลืมตัวขนาดนั้นได้ยังไงกัน มีอะไรกับเด็กนั่นโดยที่ ‘ไม่ได้ป้องกัน’

บัดซบชะมัด!


คนอื่นๆ ยังไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนกว่าจะกลับกันมาก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่นุสบาตื่นนานแล้ว เธอได้ยินเสียงใครบางคนอาบน้ำ เดาเอาว่าน่าจะเป็นเจ้าของบ้านที่ตื่นมาอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน เธอไม่พร้อมจะเจอหน้าเขาจึงไม่ออกจากห้อง รอจนกระทั่งได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่แล่นออกจากบ้านนั่นแหละ จึงออกมาจากห้อง

หลังจัดการล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย เพื่อนๆ ก็ยังไม่ตื่น นุสบานั่งเงียบๆ ที่หน้ากระจก มองดุจดาวกับจุ๊บแจงที่นอนบนเตียง ก็คิดถึงเหตุการณ์การเมื่อวานที่เกิดบนเตียงนี้ หน้าเธอร้อนซ่าน หัวใจบีบรัดจนอึดอัด ซอกขาเหมือนจะเต้นตอดขึ้นมาตุบๆ ไม่คิดฝันว่าตัวเองต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนั้น

นุสบายังเป็นสาวน้อยช่างฝัน เธอถนอมตัวเองเพื่อหวังว่าสักวันจะเจอคนที่จะร่วมชีวิตด้วยแล้วเธอก็จะมอบความบริสุทธิ์นั้นให้เขาในคืนแต่งงาน แต่จากนี้ไม่มีอีกแล้ว คิดแล้วสะอึก ใจบีบคั้นจนไม่อาจนั่งเฉยๆ ในห้องได้ เธอจึงพาตัวเองลงมาชั้นล่าง

อย่างน้อยๆ เตรียมหุงข้าวทำกับข้าวรอเพื่อนตื่นก็ยังดี

เมื่อลงมาชั้นล่างก็ต้องแปลกใจเพราะทีวียังเปิดอยู่...

“สงสัยลืมปิด”

นึกถึงภาคภูมิ ใจก็เจ็บแปลบ เขาคงไม่คิดอะไร เรื่องที่เกิดมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบหนึ่งเท่านั้น เธอยิ้มหยัน เขาจะสนอะไร ขนาดเมื่อวานเอากับผู้หญิงไปหยกๆ ยังมาทำแบบนั้นกับเธอต่ออีก

“อย่าคิดนังนุส เลิกคิดสักที มันก็แค่ฝันตื่นหนึ่ง แค่ฝัน...แค่นั้น...” เธอก่นด่าตัวเอง รีบเดินเข้าครัว หาอะไรให้ตนเองทำ สมองจะได้ไม่ว่าง แค่วันนี้ที่เธอจะอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้เขาหยุดงาน เธอก็จะได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว

สาวน้อยบอกตัวเองให้ร่าเริงสดชื่น เพราะไม่อยากให้เพื่อนๆ รู้เรื่องที่เกิด มันน่าอายเกินไป จุ๊บแจงเป็นเพื่อนสนิทก็จริง เธอไม่กล้าบอกเรื่องนี้หรอก ภาคภูมิก็เป็นน้าของจุ๊บแจงด้วย ดีไม่ดีเรื่องจะแย่เพิ่มขึ้นอีก

นุสบาเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวเสร็จ กำลังจะเปิดตู้เย็น เสียงรถคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดในบ้านก็ทำให้ขนกายลุกกรู

ภาคภูมิกลับมาทำไม...

เธอยังไม่พร้อมเจอหน้าเขาตอนนี้ คิดแบบนั้นก็รีบก้าวเร็วๆ ออกจากครัว แต่ยังช้าเกินไป ทันทีที่เธอโผล่หน้าจากประตูหลัง ภาคภูมิก็เลื่อนประตูกระจกเปิดเข้ามาทันที ต่างคนต่างชะงัก ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามาในบ้าน นุสบาได้สติ เมินหน้าหนี ทำทีไม่สนใจเขา ก้าวเร็วๆ เพื่อจะขึ้นชั้นบน แต่ทว่าเดินมาถึงบันได กายหนาใหญ่ก็ปราดมาขวางหน้า เธอผงะถอยห่างแทบไม่ทัน

“จะรีบไปไหน”

“ปละ...เปล่า”

“งั้นก็ดี” ภาคภูมิจับจ้องมองหน้าที่เริ่มเรื่อแดงแล้วใจกระตุกแปลกๆ ไม่ชอบอาการมองเมินที่เจ้าหล่อนทำเลย เธอทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน คิดแล้วหมั่นไส้ จึงคว้าข้อมือเล็กลากให้เดินตาม

“เอ๊ะ น้าภูมิ...”

“จุ๊ๆ จะเสียงดังทำไม หรืออยากให้ใครลงมาเห็นท่าทางของเธอตอนนี้”

ภาคภูมิดุเบาๆ ลากร่างบางมาถึงตู้เย็นที่ตั้งข้างประตูที่จะออกหลังบ้าน ซึ่งเขาทำเป็นครัวเล็กๆ ตามสไตล์บ้านทาวน์โฮม เขาใช้มือข้างที่ว่างเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาตั้งบนหลังตู้เย็น ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าสาวหน้า ยื่นแผงยาเล็กให้

“กินซะตอนนี้หนึ่งเม็ด อีกเม็ดครบสิบสองชั่วโมงค่อยกิน”

นุสบานิ่วหน้ามองยาเฉย คราแรกแปลกใจ เขาเอายามาให้ทำไม ก่อนจะเข้าใจเมื่อสมองค่อยๆ เรียบเรียงความหมายจากวิธีการกินยา

เธอหน้าร้อนวาบ อับอายจนไม่กล้ามองผู้ชายตรงหน้า ดึงแผงยาไปแกะกินอย่างกล้ำกลืนความรู้สึก เขายื่นน้ำมาให้ เธอรับไปดื่มอย่างเสียไม่ได้ เก็บยาอีกเม็ดลงกระเป๋ากางเกง หมุนตัวเดินหนีจะขึ้นข้างบน เดินไม่กี่ก้าว เอวกลับถูกคว้าไว้

“เอ๊ะ!”

“จะรีบไปไหน ทำยังกับฉันเป็นไส้เดือนกิ้งกือไปได้” ท่าทางเมินๆ ทำให้เขาอยากแกล้ง ภาคภูมิก้มหน้าลงมาจนแทบจะติดแก้มใส ส่งสายตาวาววาม กระซิบเสียงพร่า “เราออกจะสนิท...แนบชิด...เนื้อแนบเนื้อ...”

“น้าภูมิ!” นุสบาเค้นเสียงกระชากเบาๆ บิดตัวออกจากการแกะเกาะ เมื่อมองเห็นประกายในดวงตาคม

เธอสะอึก เพราะรับรู้ได้ว่า เขาแค่กลั่นแกล้งเย้าหยอก ผู้ชายเจ้าชู้ แบดบอย ได้ล้อหยอกความรู้สึกของผู้หญิงเล่นแล้วสนุก

นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ เห็นนิ่งๆ พูดจาเฮฮาดี เธอมองเขาผิดพลาดจริงๆ

ภาคภูมิเลิกคิ้วยียวน ดึงร่างบางเข้าไปในห้องน้ำติดบันได จับตัวเธอดันติดผนังข้างประตูด้านติดบันได โดยที่นุสบาไม่ทันตั้งตัว

“ปล่อยนุส อย่ามายุ่งกับนุสนะ”

นุสบาแหว แต่เสียงเบา เอามือยันผนังปูนไว้ นึกเกลียดชายหนุ่มจับใจ เขาทำอะไรแบบนี้ ไม่กลัวหลานเขากับคนอื่นจะมาเห็นเข้ารึไงกัน

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ เมื่อวานยังยุ่งเหยิงกันจนน้ำกระจายเลยนี่ว่ามั้ย”

“คนน่าเกลียด”

“เกลียดหรืออยากให้ยุ่ง เอาให้แน่”

ภาคภูมิก้มลงมาถามเสียงพร่า ลมหายใจอุ่นพุ่งรดพวงแก้ม ขยับร่างกายเบียดคลึงเนื้อตัวนุ่มหอม ไถจมูกกับแก้มนุ่มอย่างยั่วหยอก นึกสนุกที่ได้แกล้งสาวน้อย

นุสบาเม้มปาก อยากผลักเขาออกก็ทำไม่ได้ จะร้องก็ไม่ได้อีก กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนจะลงมาเจอ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วถ้าเพื่อนๆ เอาไปพูด พ่อแม่รู้จะเสียใจจะอับอายอีกเท่าไหร่

“อย่านะ ปล่อยนุสเถอะ เดี๋ยวน้าภูมิไปทำงานสายนะ”

“วันนี้ฉันหยุด เรามาหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีไหม”

เขาตอบพร้อมไซ้ปากจมูกไปทั่วแก้มด้านข้างที่อยู่ใกล้ เธอพยายามมุดหนี เขาขยับตัวเข้าอีกทำให้ตัวเธอข้างซ้ายแนบติดผนังจนกระดิกไม่ได้

“ไม่... ไม่นะ” นุสบารีบท้วงเสียงสั่น ท่าทางของภาคภูมิไม่น่าไว้ใจเลย เธอเหลือบตามามองสบตาคม อ้อนวอน...

เขาคงไม่คิดจะทำบ้าๆ ทั้งๆ ที่จุ๊บแจงกับคนอื่นๆ ยังอยู่บนบ้านหรอกนะ

ภาคภูมิหัวเราะในลำคอ หรี่ตามองหน้าแดงๆ อย่างเจ้าเล่ห์ แต่แรกนั้นเขาอยากแกล้งที่นุสบาทำท่ารังเกียจ เจอหน้าเขาก็แทบกระโดดหนี ครั้นได้กอด ได้เบียดตัวคลุกเคล้าตัวเธอ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายนุ่มทำให้เขาชักมีอารมณ์ขึ้นมา

“จะเป็นไรไป ไหนๆ เราก็เคยฟิตเจอริงกันแล้ว มาเป็นกิ๊กกันดีกว่า ฉันทำให้ดีกว่าเธอช่วยตัวเองไม่ดีเหรอ”

อ๊าย! นุสบาอยากจะกรี๊ด เขาช่างพูดออกมาได้

“ไม่ ไม่ดีกว่า น้าภูมิมีสาวๆ อยู่แล้ว อีก...อีกอย่าง น้าภูมิไม่กลัวจุ๊บแจงรู้รึไง”

“ทำไมต้องกลัว”

*****************


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว