อาหารมากมายถูกยกนำวางบนโต๊ะ ทั้งที่ควรจะเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดกลับกลายเป็นมื้อที่ฝืดคอที่สุดสำหรับณัฐภัทร เพราะว่าแม่ของเขาจับเขานั่งข้างมุกวารีทางซ้ายมือส่วนทางขาวมือเป็นแม่ของเขาโดยให้ จิรภาณินท์นั่งข้างพ่อของเขา
มุกวารีผุดยิ้มด้วยความพอใจและสะใจเมื่อเธอเป็นฝ่ายที่ได้นั่งข้างชายหนุ่ม เธอพยายามปรับตัวและแสดงท่าทางลักษณะนิสัยตลอดเวลาร่วมโต๊ะอาหารให้เหมือนกับพิศชามนต์มากที่สุด
“หนูมุกไม่ชอบทานแตงกวาหรือจ๊ะ” เพ็ญรตีถามเมื่อเห็นหญิงสาวเขี่ยแตงกวาไปไว้ที่ข้างจาน
“ค่ะ” มุกวารีแสร้งตอบ ทั้งที่ปกติเธอชอบทานแตงกวาเป็นที่สุด แต่เธอรู้ดีว่าพิศชามนต์ไม่ชอบทานแตงกวาและมะละกอมากที่สุด
“จริงหรอจ๊ะ เหมือนหนูมนต์เลยจริงไหมภัทร หนูมนต์ก็ไม่ชอบทานแตงกวา” เพ็ญรตีถามลูกชาย แต่สีหน้าของณัฐภัทรยังเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา
“เหรอครับ มนต์ไม่ได้ไม่ชอบครับแต่เกลียดเลยล่ะครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมเอื้อมมือไปตักอาหารให้จิรภาณินท์ที่นั่งฝั่งตรงข้างเยื้องจากเขาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนจนมุกวารีมองด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร” หญิงสาวตอบรับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มจนเพ็ญรตีเริ่มไม่พอใจที่ลูกชายของเธอไม่มีท่าทีจะสนใจมุกวารีเลยสักนิด
“ภัทรตักอาหารให้มุกบ้างสิ” เพ็ญรตีพูดสั่งลูกชาย
มุกวารียิ้มออกมาอย่างพอใจที่แม่ของเขายังเข้าข้างเธออยู่และคิดว่าชายหนุ่มต้องทำตาม
ณัฐภัทรเอื้อมตักอาหารอาหาร มุกวารีซ่อนยิ้มเอาไว้ด้วยความดีใจ แต่เธอต้องหน้าเสียเมื่อชายหนุ่มตักเข้าปากตัวเองโดยไม่สนใจสักนิด
“ภัทรตักให้หนูมุกเดี๋ยวนี้” เพ็ญรตีกระซิบสั่งลูกชาย
“คุณมีมือไหม” ณัฐภัทรภัทรถามมุกวารีด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ภัทรคะ เล่นมุกอะไรคะ” มุกวารีหัวเราะถามแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ
“ถ้ามีมือก็ตักเองสิ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจจนเพ็ญรตีถึงกับเริ่มทนไม่ไหว
“ตาภัทร !” ณัฐภัทรถอนหายใจออกมาพร้อมวางช้อนส้อมลงก่อนลุกขึ้นยืน จนจินดารัตน์ที่นั่งทานเงียบๆ มองหลานชายยืน
“ภัทรอิ่มแล้วหรอ” จินดารัตน์ถามหลานชาย
“ผมทานไม่ลงแล้วครับคุณย่า” เขาเอ่ยขึ้น
“งั้นขอผมไปส่งณินท์ก่อนนะครับ”
“ไปเถอะ” จินดารัตน์พูดขึ้นเดาสีหน้าและอารมณ์ของหลายชายออกว่าคงจะอึดอัดที่ผู้เป็นแม่บังคับขนาดนี้
“ครับ” เขาเดินออกจากโต๊ะอาหารเดินมาหาจิรภาณินท์
มุกวารีชายตามองณัฐภัทรด้วยความเจ็บปวด ทำไมเขาถึงไม่มามองเธอล่ะ ในเมื่อเขายังรักพิศชามนต์อยู่
นี่ไง เธอคือพิศชามนต์ ! ที่จะอยู่เคียงข้างเขา
“ภัทรจะไปส่งณินท์ใช่ไหม งั้นไปส่งหนูมุกแทนเดี๋ยวให้คนขับรถที่บ้านไปส่งณินท์ก็แล้วกัน” เพ็ญรตีรีบพูดขึ้นหมายที่จะหาช่วงเวลาให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“คงจะไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเป็นคนพาณินท์มา” ณัฐภัทรพูดพร้อมส่งสายตามองมุกวารีอย่างเยือกเย็น
“ให้คนที่บ้านเราไปส่งก็ได้ ส่วนเราไปส่งหนูมุกเขาหน่อยนะ” เพ็ญรตีพูดน้ำเสียงอ้อนวอนเพราะกลัวว่าจะเสียหน้าอีกหากเธอสั่ง
“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ถ้าคุณภัทรไม่ว่าง...” มุกวารีแสร้งทำน้ำเสียงเศร้า เพื่อเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่ม
“งั้นดีเลยครับ” ณัฐภัทรตอบพร้อมยิ้มที่มุมปากให้มุกวารี ก่อนจะหันไปตอบผู้เป็นแม่
“คุณมุกบอกว่าจะกลับเอง คุณแม่คงไม่ไปห้ามเธอหรอกนะครับ” ณัฐภัทรพูดพร้อมจูงมือของจิรภาณินท์ที่อยู่ข้างเพื่อเดินออกไป แต่เพ็ญรตีกลับทักท้วงเสียงแข็ง
“แม่สั่ง ภัทรต้องทำ !”
“จะไปบังคับตาภัทรทำไม แม่เพ็ญ ปล่อยให้ไปส่งนั้นแหละ หรือถ้าเรื่องมากนักวันนี้ก็ให้หนูณินท์ค้างที่นี่และให้คนขับรถไปส่งหนูมุกล่ะกัน เพราะตาภัทรคงจะไม่ยอมไปส่ง จริงไหม ?” จินดารัตน์หันไปถามลูกชายของตนเอง ซึ่งทศวรรษมีสีหน้าลังเลตอบไม่ถูกไม่รู้จะเข้าข้างใครดีระหว่างแม่กับภรรยา
“ให้เจ้าภัทรเป็นคนตัดสินดีกว่าครับ เรื่องนี้ผมไม่ขอออกความคิดเห็น” ทศวรรษตอบก่อนลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารไป เมื่อรู้ว่าภรรยาของเขายังไม่ยอมจนกว่าลูกชายจะยอมทำตามคำสั่ง
“ตาภัทร ไปส่งหนูมุกเดี๋ยวนี้ !”
“แม่เพ็ญ หล่อนเลิก...”
“ถ้าคุณแม่ยังไม่เลิกที่จะทาบทามผู้หญิงให้ผม ผมจะไปซื้อคอนโด อยู่แทนนะครับ” ณัฐภัทรแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดจนผู้เป็นแม่ต้องยืนอึ้งด้วยความตกใจ
“ภัทร !” เพ็ญรตีตวาดเสียงดัง
มุกวารียืนมองชายหนุ่มที่เธอรัก สายตาคู่ของเธอซ่อนความรู้สึกเอาไว้ทั้งหมดรอเวลาเพื่อระบายมันออกมา แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ยังไม่ใช่ต่อหน้าเขาและทุกคน เพราะเธอต้องเล่นละครแสร้งต่อไป
“ผมไปส่งณินท์ก่อนนะครับ ส่วนแม่ก็ให้คนขับรถไปส่งคุณมุกที่บ้านแล้วกันนะครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมโอบไหล่หญิงสาวเดินออกไปต่อหน้าต่อตาเพ็ญรตีและมุกวารีที่ยืนจ้องอย่างไม่พอใจ
เป็นพริม ต้องเป็นพริมที่ภัทรจะเดินโอบไหล่ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น !
“หนูมุกคือแม่...”
“ไม่เป็นไรหรอค่ะคุณแม่ มุกเข้าใจค่ะ” มุกวารีทำหน้าเศร้าทั้งที่ใจของเธอนั้นอยากกรีดร้องออกมาเสียงดังก็ตาม
“หนูมุกนี่น่ารักที่สุดเลย” เพ็ญรตีเดินเข้าไปหามุกวารีพร้อมโอบกอดด้วยความรักและชื่นชอบอย่างออกหน้าออกตาจนจินดารัตน์ยืนมองพลางส่ายหน้า
“เอาเถอะแม่เพ็ญ สั่งให้คนของเราไปส่งแม่มุกวารีขวัญใจเธอซะสิ” จินดารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงประชด
“ค่ะ คุณแม่” เพ็ญรตีตอบรับด้วยความไม่เต็มใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ คือมุกโทรบอกให้คนที่บ้านมารับแล้วค่ะ อีกสักพักก็คงจะมาค่ะ” มุกวารีตอบพลางมองสีหน้าของจินดารัตน์ที่ส่งสายตามายังเธอ
“งั้นไปนั่งคุยกับแม่ข้างในก่อนก็ได้ แม่จะเล่าเรื่องที่มุกอย่างรู้เกี่ยวกับตาภัทรให้ฟัง” ว่าแล้วเพ็ญรตีก็พามุกวารีเดินเข้าไปนั่งที่ห้องรับแขกเพื่อรอจนกว่าคนขับรถของหญิงสาวจะมารับ
จินดารัตน์ได้แต่มองลูกสะใภ้เดินออกจากห้องอาหารไปอย่างนึกกังวลเป็นห่วงหลานชายเพราะต่อจากนี้ไม่ใช่เพียงรับศึกหนักแค่จากแม่แต่เป็นผู้หญิงร้อยมารยาคนนี้ด้วย
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว