หวง-8. นายท่านวังหลัง

โดย  Hongsamut

หวง

8. นายท่านวังหลัง

เขาเริ่มอาการหนัก

ดูได้จากลักษณะการบินที่เอียงซ้ายเอียงขวา สุดท้ายคีรันก็พาทั้งสามชีวิตถลาลงกลางป่าฝนในลักษณะที่เรียกว่า ‘ร่วงลงจากฟ้า’

นาถนลินกระเด็นออกจากอ้อมกอดของพญายักษ์ หมุนหลายตลบจนเกือบจะชนเข้ากับต้นมณฑารพ เจ้าเผือกกระโดดลงจากบ่าคีรันด้วยสีหน้างงๆ พอเธอพยุงตัวได้อีกครั้งหญิงสาวก็รีบคลานเข้าไปหาร่างสูงที่นอนคว่ำหน้าแน่นิ่งอยู่กลางป่า “นายท่าน... นายท่านยักษ์!”

คีรันอาการแย่ของจริง การที่เขาประคองสติพาทั้งสามกลับมายังป่าจำศีลได้ ก็นับว่าอัศจรรย์มากแล้ว เดิมทีตั้งแต่เขาเริ่มสองตาพร่าเลือนและเปรยว่ามองอะไรไม่ชัดเธอก็รู้สึกขนคอตั้งชัน อาการของคีรันคล้ายคลึงกับเทพองค์หนึ่งที่โดนสวรรค์ลงทัณฑ์ไปเมื่อห้าปีก่อน หมอนั่นเป็นเทพชั้นอาวุโสที่มีตบะแกร่งกล้า แต่กลับบ้าคลั่งเสียสติหลังจากถูกพิษได้เพียงครึ่งชั่วโมง

นาถนลินจำได้ขึ้นใจ เทพองค์นั้นบากบั่นเดินทางมายังพระตำหนักยา มาถึงก็ตวาดลั่น

“ท่านหมอธันวันตริ ข้าต้องการยา”

ไม่ทันที่ใครจะสนองความต้องการ เขาก็ทรุดร่างกระอักไอออกมาเป็นเลือดสีดำกองใหญ่ ก่อนจะล้มลงขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตาเธอและปู่แพทย์ที่เพิ่งวิ่งออกมาต้อนรับ

ประสบการณ์ในคราวนั้นทำให้เธอรู้ว่าพิษหะลาหละมีอานุภาพร้ายแรง ทุกครั้งที่เธอตามองค์อรชุนไปเยี่ยมชมกองทัพ เธอจะไม่แตะต้องหรือพยายามเฉียดกรายเข้าใกล้คลังอาวุธของเหล่าเทพเป็นอันขาด แต่คราวนี้เห็นจะหลีกเลี่ยงได้ยากแล้ว

เด็กสาวประคองร่างที่ชุ่มไปด้วยโลหิตพิษของคีรันเข้าไปหลบในโพรงต้นมณฑารพ ก่อนหน้านี้คีรันเคยวาดวงแหวนคุ้มภัยไว้รอบต้นไม้ที่เจ้าตัวจับจองเอาไว้เพื่อจำศีล ดังนั้นมันจึงเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดหากกองทัพสวรรค์คิดจะตามล่าจากกลิ่นเลือดของเขา

คีรันเพิ่งสังหารทวิทัช หนึ่งในสิบสี่ขุนพลคนโปรดขององค์อรชุน อีกทั้งยังเป็นเทพคนสำคัญในทัพฟ้า แรงแค้นของพี่อรชุนจะต้องมหาศาล

เจ้าเผือกกระโดดขึ้นลงอย่างตื่นตัวระหว่างที่เธอลากร่างพญายักษ์เข้าไปในโพรง เธอผิวปากเรียกให้มันมาหาแล้วบอกว่า “เด็กดี เที่ยวเล่นอยู่แถวนี้อย่าไปไหนไกลนะ ถ้ามีใครรุกล้ำเข้ามาใกล้โพรงไม้ให้รีบมาบอกพี่ด่วน เข้าใจไหมจ๊ะ”

“แม่ๆ!” ลิงน้อยรับคำอย่างว่าง่าย จากนั้นก็กระโจนไต่ไปตามกิ่งก้านต้นไม้แล้วหายไป

มันไม่ง่ายเลยที่จะลากร่างที่ใหญ่และหนากว่าตัวเองเกือบสามเท่าแต่นาถนลินก็พยายาม เด็กสาวคว้าข้อเท้าขวาของอีกฝ่ายแล้วค่อยๆ ขยับถอยหลังเข้าโพรงทีละก้าว บางจังหวะเธอต้องปล่อยมือเพื่อมาช่วยขยับศีรษะ แขน หรือขาของนายท่านยักษ์ให้พ้นรากไม้กับแนวหินบนพื้น

เธอคล้ายได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองกำลังร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในอก น้ำเสียงนั้นโศกเศร้าจนกระบอกตาแสบร้อน หญิงสาวยกมือขึ้นขยี้ตา

ในตอนนั้นเอง นาถนลินถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองรู้สึกกังวลจนน้ำตาร่วงมาตลอดทาง เด็กสาวประหลาดใจแกมตะลึงที่หัวใจของตนผูกพันกับนายท่านยักษ์ ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มหลงรักเขาได้ไม่กี่วันเท่านั้น

หลังจากต่อสู้กับการแบกหามอยู่นาน นาถนลินก็ลากคีรันเข้ามาในโพรงไม้ใต้ต้นมณฑารพได้สำเร็จ เด็กสาวรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสถานที่จำศีลที่คีรันเลือก

โพรงนี่ไม่ได้มีแค่ที่ตาเห็น ด้านในสุดยังมีช่องหลุมที่ถูกขุดลึกลงไปด้านล่าง ผนังโดยรอบของหลุมคือดินแข็งที่ถูกพยุงด้วยรากแขนงใต้ลำต้น หากชะโงกหน้ามองลงไปจะพบกับโถงถ้ำขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่โถงหนึ่ง มองเผินๆ คล้ายหลุมหลบภัยที่มีรั้วรอบขอบชิดชัดเจนแถมยังมืดมาก

“สว่าง” เธอออกคำสั่งให้ดวงแก้วรัตนฌานตรงกลางหน้าผากเปล่งแสง

มีกลีบดอกไม้เรียงซ้อนเป็นดอกตูมอยู่เหนือหว่างคิ้วของเธอ มันมาพร้อมกับแสงสว่างนุ่มนวลที่ไม่รบกวนเกินไปนัก นาถนลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจโอบกอดร่างของนายท่านยักษ์แล้วพากันลื่นไถลลงไปในหลุม ตรงดิ่งสู่โถงถ้ำ

พวกเราหยุดอยู่ตรงพื้นที่แห้งคล้ายลานเล็กๆ ขนาด ๑๕ ตารางเมตร เด็กสาวผละร่างตัวเองออกจากคีรันแล้วทำการสำรวจไปรอบถ้ำ

สะอาด... ไม่มีซากหนูตาย ใยแมงมุม หรือน้ำท่วมขัง

คีรันคงรับรู้ได้ด้วยฌานจึงเลือกเอาสถานที่แห่งนี้เป็นที่จำศีลในอีกสองเดือนข้างหน้า

เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเธอก็เริ่มงานของตนได้

เรื่องแรกที่เด็กสาวทำคือการตระเตรียมน้ำสะอาด เธอปีนขึ้นจากหลุมแล้วคลานออกจากโพรงอย่างทุลักทุเล พอวิ่งมาถึงธารน้ำเล็กๆ ที่มีหินแผ่นสีดำเรียบลื่นสะท้อนแสง เด็กสาวก็จรดปลายเท้าลงไปในผืนน้ำที่กระจ่างใสราวกับแก้ว น้ำที่นี่เย็นฉ่ำ มีรสหวานตามธรรมชาติ คาดว่าน่าจะเป็นน้ำที่ละลายจากภูเขาน้ำแข็งทางด้านบน

นาถนลินรวบรวมสมาธิ จิกปลายเท้าลงกับดินนุ่มใต้น้ำที่ฝ่าเท้าเหยียบยืนแล้วเริ่มร่ายพระคาถา

นิ้วเท้าเรียวนุ่มทั้งสิบของเด็กสาวค่อยๆ ยืดและแตกหน่อออกมามองคล้ายรากแขนง หนึ่งนิ้วแตกออกมาเป็นสามสี่ราก ชอนไชใต้ผิวดินแล้วแผ่อาณาเขตห่างจากร่างของเธอไปไกลถึง ๑๐ เมตร รากแขนงเปล่งปลั่งเหล่านั้นเมื่อขยับขยายจนได้ที่ก็เริ่มพองตัวออกแล้วค่อยๆ ดูดซับความเย็นฉ่ำของน้ำใส

ผิวกระจกของน้ำไหวกระเพื่อม น้ำในลำธารลดระดับลงทีละน้อยแต่ร่างของเด็กสาวยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยน ชี้ให้เห็นว่าลำต้นที่แท้จริงของนาถนลินคงมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มาก

เด็กสาวยืนประสานมือค้างอยู่ในท่าลัญจกรมุทรา ปางจงกรมแก้ว’* แล้วหลับตา ฝูงปลาน้อยใหญ่พากันแหวกว่ายรอบร่างของเธออย่างตื่นเต้น พวกมันบางตัวโผล่หน้าพ้นผิวน้ำเพื่อจะจับจ้องใบหน้าเทพมาลี แต่พอเห็นฝูงนกบินฉวัดเฉวียนเหนือลำธารก็ตัดสินใจผลุบหายลงสู่ก้นบ่อ

สรรพสัตว์ในป่าฝนทยอยกันเยี่ยมหน้ามาเมียงมอง ทุกตัวตกตะลึงที่จู่ๆ ก็มีไม้ประหลาดต้นหนึ่งผุดขึ้นเรืองแสงกลางลำน้ำ ลำต้นเรียบลื่นเป็นสีดำดุจนิล ก้านใบอ่อนช้อยราวกับภาพวาดปลายพู่กัน ใบสีแดงล้อแสงระยิบระยับ ดูสว่างใสราวกับจะย้อมบรรยากาศให้หวานละมุน

น้ำในลำธารลดฮวบลงเป็นหนที่สอง ยิ่งน้ำลด ต้นไม้ก็ยิ่งแผ่กลิ่นหอมชวนหลงใหล

สัตว์ป่าหลายตัวสั่นระริกราวกับต้องมนตร์ นกบางตัวที่ปีกยังไม่แข็งพอถึงกับร่วงลงมายังผิวน้ำ ไม่ว่าจะเป็นใคร เผ่าพันธุ์ไหนทำอะไรอยู่ ทุกตัวตนต่างพร้อมใจกันหยุดกิจกรรมตรงหน้าแล้ววิ่งตามกันมายืนออริมลำธารเพื่อแย่งกันสูดกลิ่นหอมตลบฟุ้งนั้นเข้าไปในปอดของตัวเอง ไม่นึกไม่ฝันกับวาสนาในครั้งนี้


ปาริชาตหอมไกลไปร้อยโยชน์

โปรยมาโปรดปวงสัตว์ให้คลายหนาว

ประโลมกลิ่นกำซาบซึ้งถึงแดนดาว

กล่อมให้ชาวหิมพานต์เบิกบานใจ

อดีตผ่านนานเนิ่นบรรลุล่วง

ไม่คิดทวงไม่พะวงไม่สงสัย

พลันย้อนกาลเกี่ยวล้ำจำขึ้นใจ

ด้วยดอกใบบุปผชาติประสาทมา


นาถนลินจบภารกิจภายในเวลายี่สิบนาที เธอคาดว่าตัวเองสูบน้ำสะอาดมาพอใช้ได้อีกหลายเดือน ระหว่างที่กำลังเดินกลับจู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งแผดก้องเข้ามาในหัว เป็นเสียงคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวดระคนโทสะ เด็กสาวถึงกับห่อตัวด้วยความพรั่นพรึง ยกสองมือปิดหูทั้งๆ ที่รู้ว่าไร้ประโยชน์ เสียงนั่นไม่ได้มาจากอากาศแต่มันมาจากการยิงกระแสจิตส่งตรงมายังเธอ

คีรันติดต่อเธอผ่านทางจิต!

เป็นไปได้ยังไง เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้นเสียหน่อย?

ก่อนอื่นเลย เธอไม่เคยปรับจูนตัวเองเข้าหาเขา เราทั้งคู่ไม่เคยร่วมงานกัน ไม่ได้มีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งถึงขนาดอยู่คนละเผ่าพันธุ์ด้วยซ้ำ เขาไม่ควรทำแบบนี้ได้

แต่เขาทำได้!

จะพูดให้ตรงก็คือ เขาที่อยู่ในสภาพสติหลุดสองตามืดบอด สามารถสื่อสารกับเธอด้วยประสาทสัมผัสพิเศษได้!

นาถนลินกดมือทั้งสองข้างแนบใบหูแล้วออกวิ่ง เสียงเรียกยิ่งนานยิ่งดังเหมือนคนที่ใกล้จะระเบิดอยู่รอมร่อ มันรุมเร้า บีบคั้น ครอบงำเธอ คีรันกำลังควานหาเธอเหมือนปีศาจจากฝันร้าย คาดว่าตอนนี้เขาคงเพิ่งฟื้นจากอาการสลบไสล หากเธอกลับไปไม่ทัน เกรงว่านายท่านเจ้าอารมณ์คนนั้นคงจะคลำทางออกจากโพรงไม้มาอาละวาดจนป่าแตกแน่

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว