ต้าวอ้วนสื่อรัก

2 ดินเนอร์ 1

"ยัง ยังเริ่มไม่ได้"บัวเเย้มที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงพื้นหันมามองหญิงสาวสวมสไบสีเเดงที่ก้าวเข้ามาด้านในเรือน ผู้กำกับช่างส่งบทเปิดตัวนางรายได้ดีจริงๆ ดีนางจะได้ต่อบทนางร้ายกว่าได้ถูก "นี่ใครกันหรือสังวาลย์ทอง" หญิงสาวแก้ตีเนียนบทนางเอก "สังวาลย์ทองคงไม่กล้าบอกเจ้าดอกนะว่าข้าคือคนรักของพลายสังวาลย์ทอง"

"คนรัก"นางมองหน้าพลายสังวาลย์ทอง พลายสังวาลย์ทองกระซิบที่หู "ข้าก็บอกเจ้าแล้วนี่" หญิงสาวกระซิบต่อ "เถิดนะให้งานแต่งงานเรามีสีสันบ้างเถอะเจ้าเล่นตามบทข้า"

"กระซิบอะไรกันออกจากคนรักข้านะ"พานทองผลักร่างของหญิงสาวออกมา บัวเเย้มตั้งใจเล่นบทนางเอกน่าสงสารต่อไป "หยุดการกระทำก้าวร้าวเดี๋ยวนี้นะแม่พานทอง วันนี้เป็นวันมงคลของสังวาลย์ทองข้าจะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนในวัยเด็กของเจ้าและสังวาลย์ทอง ลงไปจากเรือนข้าบัดเดี๋ยวนี้"

"ข้าจะไปต่อเมื่อสังวาลย์ทองไปกับข้า"หญิงสาวว่า "เช่นนั้นรึ"บัวเเย้มว่า "ใช่ ข้าจะเอาคนรักของข้ากลับบ้านไปด้วย"บัวเเย้มลุกขึ้น "เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้าได้สังวาลย์ทองกลับไปกับเจ้า เจ้าจะยอมกลับใช่หรือไม่"หญิงสาวถามซ้ำก่อนมองประกายมาศเหมือนพูดแทนใจว่าไปเอาของมา "เจ้าดูหน้าเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆไม่น่าโง่เลย"หญิงสาวว่า "มาศ เอาของมา"หล่อนว่าก่อนยื่นกล่องไม้ให้แก่พานทอง 'อะไร"

"ก็ในเมื่อเจ้าได้สังวาลย์ทองแล้ว เจ้าก็กลับไปเสียสี"หญิงสาวเปิดดูกล่องไม้พบว่าเป็นสังวาลย์ที่ทำจากทองแท้ "ไม่ต้องเกรงใจ ถือว่าเป็นของชำรวยงานแต่งงานข้ากับพลายสังวาลย์ทอง"หญิงสาวว่า

กรี๊ดดดดด

นี่คงส่งบทนางร้ายยเหวี่ยงวีนมาเเล้วสินะ "เจ้า"นางหมายจะตบอีกฝ่ายทว่า ตุ้ม

หล่อนสะดุ้งเพราะเสียงกระเทียมระเบิด "นี่เจ้าทำอะไรข้า"หญิงสาวว่า "ก็เจ้ามากรี๊ดในเรือนข้าในวันแต่งงานเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องดี ขอบน้ำใจเจ้านักที่เจ้ากรี๊ดให้ผู้คนได้รู้ว่าเจ้าคือนางร้ายและนี่คือรางวัลที่ข้าจะมอบให้นางร้าย"หญิงสาวกระซิบต่อ "เจ้า"นางชี้หน้าหญิงสาว "ยังอีกแม่พานทอง ออกไปจากเรือนข้าบัดเดี๋ยวนี้"

"ไม่ นางตีสองหน้าท่านลุงไม่เห็นหรือ"หล่อนชี้หน้าว่าหญิงสาวทว่า "ข้านะหรือตีสองหน้า ท่านต่างหากท่านมาตามหาคนรักของท่านถึงเรือนสามีข้า ข้าจึงเอาคนรักท่านใส่กล่องกลับให้ท่าน ท่านกลับกรี๊ด เหวี่ยงในงานแต่งของข้า"

"เจ้า"บัวเเย้มหันไปกระซิบต่อ "ถ้าสังวาลย์ทองเป็นคนรักเจ้าจริง เขาเคยบอกรักเจ้ากี่หน เขาเคยบอกเจ้าต่อหน้าทุกคนหรือไม่ว่าเขาอยากแต่งงานและอยากได้เจ้าเป็นแม่ของลูกต่อหน้าทุกคน"บัวเเย้มยิ้มก่อนปล่อยให้นางร้ายได้เล่นบทกรี๊ดต่อไป "พวกเอ็งมัวยืนเฉยอยู่ไย รีบพาเเม่พานทองไปส่งเรือนอย่าให้มาทำลายฤกษ์มงคลของลูกข้า"พลายสังวาลย์ทองมองคนรักที่ถูกลากออกไปด้านนอก ก่อนมองบัวเเย้มที่กลับมานั่งตามเดิม "ล่วงเกินท่านลุงเเล้ว หลานขออภัย"หญิงสาวว่า "ต่อไปข้าคงไม่ต้องกลัวเจ้าโดนแม่พานทองเล่นงาน แค่นี้นับว่าน้อยไปที่นางทำกับพวกเรา"หญิงสาวว่า "ข้าสัญญาว่าคราวหน้าจะทำให้นางลดเสียงกรี๊ดให้ได้"

"เอาให้นางไม่มาตามตอแยพวกเราอีกยิ่งดี"พลายสุริยันว่า 'แต่เจ้าต้องระวังตัวตอนนี้เจ้าหาได้ตัวคนเดียวไม่"นางบัวทองพูดในฐานะเเม่ที่ห่วงลูกในอุทรนาง "เจ้าหาต้องห่วงไม่ ข้าสัญญาว่าจะทะนุทนอมลูกจนเขาคลอดออกมา"หญิงสาวเว้นคำว่าลูกของเจ้าเพราะกลัวคนอื่นมาได้ยิน "น้องสะใภ้กล่าวเช่นนี้ข้ากับเมียก็โล่งใจ เช่นนั้นรีบทำพิธีเถิดประเดี๋ยวพระเสียฤกษ์"พลายสุริยันว่า

พลายสังวาลย์ทองมองพลายเพชรบิดาของเขาที่มาส่งเขาและเจ้าสาวถึงในเรือนหอ เกิดมาพลายสังวาลย์ทองไม่เคยคิดว่าชาตินี้เขาจะได้แต่งงาน ถึงเเม้จะแต่งงานภายในนามก็ตาม

"ข้าไปก่อนนะน้องชาย"พลายสังวาลย์ทองลาพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ตามพระราเมศวรและพระมหินธรฯไปหาช้างเผือกด้านในป่า "รักกันนานๆมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง"นางมองนางเวสิวที่ดูดีใจที่บุตรชายเป็นฝั่งเป็นฝาแม้งานแต่งงานจะเป็นเพียงในนาม "ขอบพระคุณเจ้าค่ะ/ขอรับ"

พลายสังวาลย์ทองทิ้งตัวลงนอนขณะที่มองห้องหอที่ไม่ใช่ห้องหอเพราะในห้องเต็มไปด้วยเพื่อนของเจ้าสาว หลังจากพิธีส่งตัวเขาก็ปิดประตูหน้าต่างจนสิ้นไม่นานเพื่อนเจ้าสาวก็เข้ามาในห้อง "ในฐานะท่ี่เจ้าเป็นสามีป้ายเเดง ข้าจะสอนเจ้าเล่นเกมส์"หญิงสาวว่า "อันใดคือสามีป้ายเเดง "ชายหนุ่มถามขึ้น "ป้ายเเดงหมายถึงรถยนต์ที่ได้ป้ายทะเบียนมาใหม่ๆ ดังนั้นสามีป้ายเเดงหมายถึง สามีที่เพิ่งได้ตำแหน่งมาใหม่ๆ"หญิงสาวว่า "เช่นนั้นสอนข้าเล่นเกมด้วยหากไม่ผิดกฏหมายข้าก็เล่นได้"ชายหนุ่มว่าโดยที่ไม่รู้ว่าคือเกมส์อะไร

"เสื้อที่เจ้าใส่"หญิงสาวชี้ไปที่เสื้อของอีกฝ่าย "ฟ้า"ชายหนุ่มว่า "ใช่ๆ ต่อเลย"หญิงสาวว่า ก่อนมองประกายมาศที่แกล้งตายแล้วสะดุด "ฟื้น "

"ดาบฟ้าฟื้น"ชายหนุ่มว่า "ใช่ๆ"หญิงสาวจับให้มือถือเลื่อนคำต่อไป "คนต่อไปๆ"

ไอ้พลายสุริยัน ข้าไม่มีทางยอมเเพ้

คนที่โดนทางการออกหมายจับเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาแต่อย่าเรียกว่าถูกปล่อยตัวเลยเพราะเขาถูกทางการใช้ให้ไปทำงานทดแทนความผิดด้วยการติดตามพระราเมศวรแลพระมหินธรฯตามไปช้างเผือก ช่างเถอะขอแค่ได้ออกมาจากคุกมาหาแม่บัวทองอีกก็พอ พลายบัวหยิบปิ่นปักผมที่ร่ายคาถาเปลี่ยนบัวทองให้เป็นทหารคนสนิทที่คอยรับใช้เขาส่วนตัวโชคดีที่พ่ออยู่หัวฯประทานอนุญาตแลถ้านายต้นสังกัดไม่บอกมาว่า อ้ายคดจะตามมาด้วย เขาคงไหวตัวไม่ทัน

เขตที่เขาดูแลคือเขตฝ่ายในซึ่งเป็นเขตของพระราเมศวรแลพระมหิธรฯต่างจากเขตของคชเสนทร์ที่มีหน้าที่ดูแลช้าง "ช้างตัวนี้ดีไหมพ่อคด"สายตาของคชเสนทร์มองควาญช้างที่มีหน้าที่ดูแลช้าง "ดีแต่ไม่ใช้ช้างเผือก "คชเสนทร์บอกไปส่งๆ "พ่อคดๆ"คชเสนทร์มองลูกน้องคนสนิทที่วิ่งมา "มีอะไรว่ะไอ้มิ่ง"

"ข้าได้ข่าวมาว่าพลายสุริยันก็มาที่นี้"มิ่งว่า "แล้วแม่บัวทองของข้าล่ะ"

"เห็นทหารพูดกันว่าตามมาด้วยแต่ไม่มีใครเห็นแม่บัวทองอีกเลยหลังจากวันแรกที่เข้าป่า"มิ่งว่า "อ้ายสุริยันคงกลัวข้าจะไปชิงตัวเลยส่งแม่บัวทองไปดูแลพระชายาของพระราเมศวรแลพระมหินธรฯที่ตามเสด็จมา"ชายหนุ่มว่า "แล้วเจ้าจะเอาอย่างไรต่อไป"

"ข้าก็จะไปทักทายเพ่ื่อนรักข้าหน่อยนะสิ"ชายหนุ่มว่า

พลายสุริยันถอดปิ่นปักผมออกก่อนโน้มตัวจุมพิตบัวทองให้หายคิดถึง เขาค่อยๆร่วมรักกับนางบัวทอง คิดไม่ถึงว่าบุตรสาวจอมโจรอายุเพียง 13 ปีจะทำให้เขาหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจากคู่กัดกลายเป็นคู่สามีภรรย า "เข้าไม่ได้นะ"คนที่กำลังร่วมรักกับภรรยารีบลุกขึ้นก่อนหยิบปิ่นปักผมปักให้นางบัวทองที่นอนอยู่ "เจ้าไปตักน้ำให้พี่ที่ห้องอาบน้ำ"พลายสุริยันว่าจบก็เดินมองจนนางบัวทองที่ปลอมเป็นทหารไปตักน้ำไม่นานนักเขาก็มองแขกที่ไม่ได้รับเชิญ "ไง ไอ้คดออกจากคุกมาเร็วนักนี่"

"เอ็งเอาแม่บัวทองไปซ่อนที่ใด"คชเสนทร์ที่ตรงไปฝ่ายในเพื่อหมายจะแอบมองนางบัวทองเพื่อวางแผนชิงตัวมองหน้าคนที่ตนเกลียดเเสนเกลียด "อยู่ตรงนี้"คชเสนทร์มองพลายสุริยันที่ชี้ไปที่ตำแหน่งของหัวใจ "ทำไมจะแทงหัวใจข้าหรือ แต่คงยากหน่อยนะเพราะข้านะมีหน้าทีู่แลพระราชโอรสทั้งสองหากข้าตายไป ใครจะรับใช้พระองค์ และพระองค์คงไม่ปล่อยเอ็งไปแน่เพราะศัตรูคนเดียวที่ข้ามีคือเอ็งและคงไม่ต้องบอกนะถ้าข้าตายแม่บัวทองจะถูกริบไปเป็นทาส แม่บัวทองเขาท้องลูกกูอยู่ อีกอย่างที่เรือนมีคนพร้อมดูแลแม่บัวทองกับลูกกูจากคนชั่วช้าอย่างเอ็ง"

"เอ็งมันมีเมียมากเหตุไฉนต้องมายุ่งกับเเม่บัวทองของกูด้วย"คชเสนทร์ว่า "ของใครนะข้าฟังไม่ถนัด ถ้าพูดตรงๆข้ากับแม่บัวทองรักและแต่งงานก่อนที่จะกลับมาจากเชียงใหม่เสียอีก เอ็งเจอแม่บัวทองในฐานะเมียของผู้อื่นอยู่"

"ข้าเสียเวลาไปหลายปีกว่าจะได้มีเรือนเป็นของตน ข้าทำทุกอย่างเพื่อแม่บัวทอง ข้าจะไม่ยอมเสียเเม่บัวทองไปให้ผู้ชายหลายใจอย่างเอ็ง"

"เอ็งพูดผิดไปกระมั้ง นางตะเคียนทองแม้ว่าจะเป็นเมียแห่งข้าแต่อย่าลืมนางไม่ใช่คน ดังนั้นถ้าพูดถึงเมียที่เป็นคน เมียคนเดียวของข้าคือ แม่บัวทอง ส่วนแม่ตะเคียนทองข้ารับนางเป็นเมียก็เพราะแม่บัวทองของข้า"

"ไม่จริงไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมให้สามีนอนกับคนอื่น"

"แล้วนางตะเคียนใช่คนอื่นที่ไหนนางเป็นพี่สาวของบัวทองเมียข้า ที่ยอมตายแทนนางเพื่อรักษาชีวิตนางบัวทองเอาไว้"พลายสุริยันว่า "ดังนั้นข้าขอเตือนในฐานะสามีที่มีหน้าที่ดูแล รักและปกป้องภรรยาจากคนชั่วที่คิดอยากทำร้ายชีวิตคู่ของเรา"พลายสุริยันว่าก่อนมองทหารที่บุกเข้ามา "มึงมาล้อมกูทำไม ไปจับมันนู่นแอบพาผู้หญิงเข้ามาในค่าย"

"พ่อสุริยันทูลขอพ่ออยู่หัวฯให้แม่บัวทองติดตามมาด้วยแลพ่ออยู่หัวฯมีคำสั่งห้ามเอ็งเข้าใกล้เเม่บัวทอง พลายสุริยัน และตอนนี้เอ็งกำลังขัดพระบัญชาของพระองค์อยู่"คชเสนทร์ถูกลากออกไปจากกระโจมของพลายสุริยัน พลายสุริยันเดินมาด้านในห้องน้ำ "พี่ท่านไม่น่าพูดเรื่องพี่ตะเคียนเลย"หญิงสาวว่า "ถ้าข้าไม่พูด คนชั่วอย่างไอ้คดจะเป่าหูตะเคียนได้"พลายสุริยันว่า "พี่จ๋าพี่จ๊ะพูดถูก"นางตะเคียนปรากฏตัวขึ้น "พี่ตะเคียนมาได้อย่างไร"

"ข้าเป็นห่วงน้องยาและพี่จ๋าพี่จ๋าจึงตามมา"นางตะเคียนว่า "เช่นนั้นให้พี่ตะเคียนอยู่ดูแลเจ้าเถิดข้าจะได้วางใจ"นางตะเคียนมองสามีที่ีมีศักดิ์เป็นน้องเขยมองบัวทอง ไม่แปลกที่ทั้งสองจะครองรักกันอย่างมีความสุขคงเพราะความรักที่ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่เด็กๆ

นางเคยคิดว่าบัวทองจะไม่มีใครดูแล เพราะพ่อแม้จะดูแลและปกป้องบัวทองได้หากพ่อไม่เคยมีเวลาและรักบัวทอง เพราะปมที่นางสองคนหนีออกจากซ่องโจรทำให้พ่อโกรธมาก แต่เพราะความเป็นพ่อลูกพ่อเลยจับบัวทองกลับมาหากไม่ยอมให้คาดสายตา หมื่นประจบขึ้นชื่อเรื่องหวงบุตรสาวมากไม่แปลกที่จะมีท่าทีกับคนที่เขาสั่งสอนมาดีหวังให้ครองซ่องโจรต่อไป

นางเคยไปหาพ่อครั้งหนึ่งหวังให้พ่ออภัยให้น้องสาวหากหมื่นประจบรักลูกสาวมากและพร้อมให้อภัยยิ่งคนที่ปราบพยศบุตรสาวได้คือคนที่ตนสั่งสอนมาเองกับมือ หมื่นประจบก็สบายใจปกครองซ่องโจรนานๆทีจะให้นางส่งข่าวน้องสาวให้พ่อได้รู้

แสงไฟที่ลอดมาทางหน้าต่างทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นขึ้น บัวเเย้มมองตัวเองที่นอนบนเตียงนอนพร้อมผ้าห่มนางจำได้ว่าเมื่อวานนางไม่ได้ขึ้นเตียงหรือว่า นางบัวเเย้มเปิดผ้าก่อนถอนหายใจ นางมองเพื่อนๆของนางที่นอนกันที่ฝูกทุกคนห่มผ้านอนหลับอย่างสบาย บัวเเย้มลุกขึ้นมาอาบน้ำตอนเช้าทว่า "ตื่นแล้วหรือ แม่บัวทอง"นางสร้อยจินดาที่เดินเข้ามา "อามาอาบน้ำหรือ"

"อาอะไร เรียกแม่สิเราเป็นครอบครัวเดียวกันเเล้ว"สร้อยจินดาว่า "ท่านเเม่"

"พลายสังวาลย์ทองตื่นมาสั่งให้บ่าวสร้างห้องไว้ให้เจ้าอาบน้ำโดยเฉพาะนี่คงกลัวเจ้าลำบาก"นางมองที่ครรภ์ของบัวเเย้มด้วยรู้ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของใคร "เขานะหรือ"นางไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพลายสังวาลย์ทองจะใจดีกับนางขนาดนี้ "ใช่นี่พอสร้างห้องน้ำให้เจ้าเสร็จก็ออกไปทำบุญ"หล่อนไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนทำบุญแต่เช้า แม้จะเป็นปัจจุบันก็ตาม พลายสังวาลย์ทองคงจะธัมมะธัมโมแบบที่นางคิด "ข้าอยากให้เจ้าตามสามีเจ้าไปที่วัดเพราะเกรงว่านางพานทองไม่หยุดแค่นี้เป็นแน่"

"ข้าไม่ตามไปดอก รอสามีกลับเรือนดีกว่า แล้วถึงตอนนั้นนางยังกล้าบุกมาที่เรือนข้าจะจัดการนางเอง"

และก็เป็นจริงดั่งที่นางคาดพลายสังวาลย์ทองถูกนางพานทองมัดมือชกให้พากลับเรือน นางมองพลายสังวาลย์ทองที่อุ้มหญิงสาวมา "ข้าขอยืมสามีเจ้าประเดี๋ยวข้าโดนแก้วบาดเท้าเดินไม่ได้"หญิงสาวว่า "เอ็ง"นางเลียนแบบจากละครที่เจ้านายเรียกทาส "ขอรับ"

"ไปรับแม่พานทองจากสามีข้า"หญิงสาวมองบ่าวชายที่ทำท่างงๆแต่รับพานทองจากชายหนุ่ม "เจ้าจะทำอะไรปล่อยข้า"คนที่กำลังเคลิ้มกับพลายสังวาลย์ทองพอถูกบ่าวชายอุ้มนางก็รังเกียจ บ่าวชายปล่อยให้นางยืนขึ้นนางใช้มือสลัดความสกปรกของทาสออก "เดินได้แล้วหรือ"บัวเเย้มถาม "คือ"

"หากแม่พานทองเดินได้แล้วข้าขอสามีข้าคืนเถิดเรามีอะไรต้องคุยกันตามประสาผัวเมีย"หญิงสาวว่า "เดี๋ยว"นางหันมามองพานทอง "ข้ารู้สึกเจ็บเท้าอีกแล้ว"

"เอ็ง"นางเรียก "ขอรับ"

"เอ็งชื่ออะไร"หญิงสาวถามขึ้น "ชาติขอรับ"

"ชาติเอ็งพาแม่พานทองไปเรือนหมอยาเอาที่ดีๆนะพาไปให้หมอยาตรวจว่าเศษแก้วติดอยู่ที่เท้าเเม่พานทองหรือไม่ได้เรื่องเช่นไรให้มารายงานข้า "หญิงสาวว่า "แต่ข้าไม่ต้องการหมอ ข้าต้องการ"

"สามีของข้าหาใช่หมอไม่ถึงใช้วันนี้เขาก็ไม่ตรวจให้เจ้าดอกเพราะเพลานี้มือของเขามีไว้สัมผัสข้าคนเดียวและข้าจะไม่ยอมให้เขาได้สัมผัสผู้ใดอีก"นางว่า "กรี๊ด"

"ชาติเอ็งรีบพาแม่พานทองไปเรือนหมอยาบัดเดี๋ยวนี้แค่ยืนไม่กี่นาทีสติก็ฟั่นเฟือนเสียแล้ว "หล่อนว่าก่อนมองชาติที่อ้มหญิงสาวแต่หญิงสาวสะบัดหนีเดินออกจากเรือนนาง "ขอบน้ำใจที่ช่วย"

"ถือว่าตอบแทนที่นายสร้างห้องน้ำแล้วก็ให้ฉันกับลูกของพี่นายนอนบนเตียง"นางว่าก่อนเดินขึ้นไปบนเรือนโดยมีพลายสังวาลย์ทองพยุง เมื่อขึ้นมาบนห้อง พลายสังวาลย์ทองก็ปล่อยให้หญิงสาวสวมชุดที่หล่อนเตรียมมา "เจ้าไม่ควรใส่เสื้อสั้นแบบนี้"พลายสังวาลย์ทองมองผ้าที่สั้นกว่าผ้าถุงที่ใช้อาบน้ำเสียอีก "นี่เขาเรียกว่ากระโปรง"โยเกริต์ที่เตรียมกระโปรงมาให้เพื่อนใส่ว่า "แล้วกระโปรงคลุมท้องได้รึ"

"นายไม่รู้อะไรคนอุ้มท้องใส่เสื้อออกกำลังกายสั้นแค่เนินอกยังมี"หญิงสาวว่า "เช่นนั้นก็ใส่แค่ตอนอยู่บนเรือน ถ้าจะออกไปไหนก็ใส่สไบ"พลายสังวาลย์ทองว่า

บดินทร์นั่งลงตรงบัลลังก์ทองที่เขาได้มาจากการดักปล้นพวกพ่อค้าและเศรษฐีที่มีทองจนนำมาสร้างบัลลังก์ได้บดินทร์มองลูกจระเข้ที่ถูกหมื่นพิชัยรวบรวมมาให้เขา "พวกเจ้าเป็นใคร"ชายหนุ่มถามแต่เขาคิดผิดเพราะลูกจระเข้ล้วนแย่งกันตอบจนเขาฟังไม่ได้ความ

"หยุด"บดินทร์ว่าก่อนเสกสมุดข่อยขึ้นมา "เรียงเป็นแถวหน้ากระดานถึงตาใครให้บอกหมื่นพิชัยว่าชื่ออันใด ลูกเต้าเหล่าใคร"บดินทร์มองหมื่นพิชัยที่นั่งจดรายชื่อ "เสร็จแล้วมารายงานเรา"บดินทร์เดินเข้าไปในห้อง เขาทิ้งตัวลงนอนบนแท่นบรรทมโดยไม่รู้ว่าเตียงนี้ไม่ได้มีแต่เขา ลำแสงสีเขียวสว่างขึ้นแทนที่ด้วยร่างอรชรที่ปรากฏขึ้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

พลายอนันต์พาหญิงสาวมาพบยุวันดี พี่สาวของเด็กสาวทันที่ที่เขาร่ายมนต์ไม่นานร่างของยุวันดีก็ปรากฏขึ้น "พี่"หล่อนตรงไปหายุวันดีที่ไม่ได้สติ "ข้าเฝ้านางทุกคืน หากนางไม่มีที่ท่าว่าจะตื่นเลย"

"หลวงตาบอกว่าวันนั้นนางโดนเกล็ดจระเข้ที่มีอาคมเปลี่ยนเป็นร่างจระเข้แทงเข้าไปทำให้ร่างกายที่เคยเป็นมนุสูญสิ้น ข้าเกรงว่าปานฉะนี้นางคงอยู่กับจระเข้ตัวอื่น"พรานวงกตว่า "ขอข้าจับชีพจรนาง"เกาวดีว่าก่อนจับชีพจรของหญิงสาว "เป็นอย่างไรบ้าง"

"หัวใจยังเต้นปกติ"

"เช่นนั้นเราต้องทำอย่างไรพี่ถึงจะตื่น"นางถามพรานวงกต "เราคงต้องตามหาจระเข้ที่มีร่างของยุวันดี"พรานวงกตว่า "บ้าไปแล้ว จระเข้มีมากมายหลายตัว เเถมไม่มีหน้าตาที่บ่งบอกลักษณะแบบคนทั่วไป เราจะตามหาได้จากที่ไหน"โยเกริต์ว่า 'ต่อให้พลิกแผ่นดินฉันก็จะตามพี่กลับมาให้ได้"

"งั้นเราจะไม่ทิ้งแก"ประกายมาศและเพื่อนคนอื่นๆว่า "อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าพี่หลงมาอยู่ที่ไหน"หล่อนว่า "พี่พรานท่องคาถาสดับนารายณ์ได้หรือยังค่ะ"บัวเเย้มถามขึ้น "พี่ยังจำบทท้ายสุดไม่ได้"พรานวงกตว่า "ต้องเป็นพรานวงกตเท่านั้นหรือที่ท่องคาถานี้"พลายมณีนาถถามขึ้น "จริงสิ พวกท่านท่องคาถาสดับนารยณ์ได้หรือไม่"

"ข้าควรจะถามพวกเจ้าว่าไปรู้จักคาถานี้มาได้ไงในเมื่อมันเป็นคาถาประจำตระกูลของข้า"พลายอนันต์ว่า

พลายอนันต์ทำสมาธิก่อนท่องคาถาอิติปิโสสามครั้งก่อนนำสวดคาถาประจำตระกูล สดับนารายณ์ คาถานี้ถูกใช้ครั้งแรกตอนที่พลายงามถูกลวงฆ่าเเละกุมารทองพาหนีข้ามมาหาบิดา ส่วนครั้งนี้คือครั้งที่สองที่พวกเขาจะได้ใช้

"เป็นไงบ้างพี่พราน"คนที่ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้พิธีถามพรานวงกตที่สามารถมองพิธีได้จากด้านนอก สตรีไม่ควรเข้าไปขวางเวลาทำพิธีเพราะอาจทำให้พิธีเสื่อม "ตอนนี้เปิดอุโมงค์กาลเวลาได้เเล้วเหลือแต่นำเรียกน้องๆออกมานี่พี่คิดว่าต้องร้องเพลง ออกมาเถอนะ จินีจ๋าเสียแล้ว"พรานวงกตว่า

"ฉันเพิ่งโทรไปหาเจ๊พุทธ เจ๊บอกว่าเกิดสุริยปราคาเกิดขึ้น"โยเกริต์ว่า "ถ้าเจ๊พุทธมาล่ะก็สนุกแน่นอน เจ๊พุทธเรียนสัตว์เเพทย์ ถ้ามีเจ๊อยู่เราน่าจะหาจระเข้ได้ง่ายกว่าเดิม"หญิงสาวว่า "งั้นเราต้องภาวนาให้เจ๊พุทธ ไอ้โหง นารินแล้วก็ แกแฟนไอ้โหงชื่อไรนะฉันลืม"

"เฉียงซากุระป่ะ"เกาวดีว่า "นั่นแหละหน้าตาก็ออกไทยแต่ชื่อญี่ปุ่น"หญิงสาวว่า "เอาจริงๆว่าจะถามว่านานแหละพวกแกสองคนมีปัญหาอะไรว่าทำไมถึงอันเฟรนด์กัน"บัวเเย้มว่า "เรื่องไร้สาระแกอย่าไปสนใจเลย"ประกายมาศว่าก่อนทิ้งตัวลงนั่ง "ฉันได้กลิ่นแปลกๆนะ"โยเกริต์ว่า "ฉันว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นเเน่ๆ ถ้าพี่พรานไม่เล่าว่าสองคนนี้สนิทกันมากฉันคงไม่เชื่อว่ามาศกับโหงสนิทกัน"

อีกฟากหนึ่ง

คนที่ยืนมองสุริยปราคาเกิดขึ้นบนเรือนของหมอจระเข้ที่พวกเขาย้อนเวลามาพบ สายตาของโหงนาวินทร์มองไปยังพระจันทร์เขาไม่อยากเจอ ประกายมาศ นับตั้งแต่มีเรื่องผิดใจกันพวกเขาสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกเลย หากถามว่า โหงนาวินทร์กับประกายมาศผิดใจกันเรื่องอะไร

โหงนาวินทร์คงตอบไม่รู้ไม่ได้เพราะตัวเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้หล่อนยังครองตนเป็นโสด ไม่มีชายมาตามจีบ ใช่ เขาและประกายมาศเป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครสนใจนอกจากหลวงตา พวกเขาถูกตั้งชื่อให้เป็นวรรณคดี ประกายมาศเป็นชื่อช้าง ส่วนเขาโหง เฉยๆไม่มีนาวินทร์ ชื่อของเขาเหมือนคำด่าที่ว่า ตายโหง มารดาของเขาตายเพราะโดนโจรฆ่าหลังคลอดเขาได้ 17 วัน โหงนาวินทร์ถูกคนร้ายขโมยมาคิดแล้วพล็อตเหมือนนิยายไม่มีผิด

เขาเติบโตมากับประกายมาศ เขาเคยสัญญากับหลวงตาว่าถ้าเรียนจบก็ขอประกายมาศแต่งงาน หากเป็นเขาที่ผิดกับประกายมาศเขาแค่อยากให้ประกายมาศมีชีวิตที่ดี โหงเลือกไปอยู่กับครอบครัวที่ญี่ปุ่นทิ้งประกายมาศที่ได้ทุนไปเรียนอเมริกาไว้เขาคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ไม่เลยมันเป็นโศกนาฎกรรมครั้งยิ่งใหญ่

เพราะ พ่อของเขาดันไปชื่นชอบแม่คนใหม่ของครอบครัวอุปถัมภ์ของประกายมาศจนครอบครัวอีกฝ่ายแตกแยก ประกายมาศติดตามแม่เลี้ยงคนใหม่ของเขามาที่บ้านและได้รู้ว่า คนที่ทำลายหล่อนทุกอย่าง คือ เขา เขาคนเดียว

"แค่เเม่เลี้ยงเธอแต่งกับพ่อเรามันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือ"โหงนาวินทร์ถามขึ้น "มันไม่ผิด ถ้าเกิดทุกเรื่อง ทุกหายนะที่ฉันได้รับมันมีนายเข้ามาเกี่ยวตลอด"

และวันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้พบและสนิทกับประกายมาศ หล่อนออกไปทำงานเองจนได้ทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ส่วนเขาได้แต่มองดูความสำเร็จของประกายมาศตลอดไป

ฟ้า กำเนิดมาณเมื่อไร จะดับสลาย ณ เมื่อใด ไม่มีใครรู้

แต่ฉัน มีเพียงเธอที่เฝ้ารอ ตลอดกาลไม่นานพอให้ดับความรัก

เสียงเพลง ดั่งดวงหฤทัย เพลงประกอบละคร ดั่งดวงหฤทัย ร้องโดย นักแสดงชาย เวียร์ ศกุลวัฒน์ ดังขึ้นมาในหูของประกายมาศ ตลอดหลายปีแม้ว่าเขาจะรังแก แกล้งหล่อนมากแค่ไหน แต่ประกายมาศไม่มีทางลืมรักแรกและรักสุดท้ายของหล่อนได้เลย ทุกครั้งที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น หล่อนเจ็บ เขามีแฟนมาแล้ว 17 คน นั้นหมายความว่าหล่อนเจ็บมา 17 ครั้งแต่โชคดีที่เขาไม่ค่อยจริงจังกับใคร

จนกระทั่งแฟนคนปัจจุบัน สายตาของโหงนาวินทร์บ่งบอกว่า เขารักเฉียงซากุระมาแค่ไหน เผลอๆอาจมากกว่าที่บอกรักหล่อนเสียด้วยซ้ำ

"พรุ่งนี้แกก็จะมาที่นี้แล้วสินะ"คนที่เดินออกมามองพระจันทร์มองใบหน้าของโหงนาวินทร์ที่ออกมากับพระจันทร์

อุโมงค์แห่งกาลเวลาค่อยๆเปิดขึ้น พุทธรัตน์และทุกคนที่รอข้ามเวลามองอุโมงค์ที่ค่อยเปิดพวกเขาจับมือกันก่อนวิ่งไปข้ามอุโมงค์แห่งกาลเวลา

ร่างของเด็กทั้ง 4 คนล้มลงกระจัดกระจาย ร่างของโหงนาวินทร์ชนเข้ากับเสา ร่างของเฉียงซากุระล้มร่างของพุทธรัตน์ที่ล้มทับร่างของพลายมณีนาถ ส่วนกลิ่นนารินร่างของเด็กสาวล้มแตกต่างจากคนอื่น หล่อนลืมตาก่อนมองข้อศอกของนางที่ศอกเข้าเต็มๆท้องของชายหนุ่มที่นอนอยู่ "ขอโทษ"หญิงสาวว่า "ทำไมเจ้าลงมาไม่ดูตาม้าตาเรือ"พลายอนันต์ลุกขึ้นโดยมีพลายสังวาลย์ทองพยุง "เฮ้ย คนอุตส่าห์ขอโทษแล้วนะ"กลิ่นนารินว่าดีที่พรานวงกตมาห้ามไว้ "ซากุระ"โหงนาวินทร์จับร่างหญิงสาวให้ลุกขึ้น "ซากุระไม่เป็นไรนะ"ประกายมาศลียนแบบเสียง "ซากุระไม่เป็นไรนะ"

"ไม่ค่ะรุ่นพี่ล่ะ"หล่อนมองโหงนาวินทร์ที่ลูบหัวหล่อน "เจ๊พุทธ"บัวเเย้มเดินมากอดร่างของรุ่นพี่ที่หล่อนทั้งเคารพและรัก "คิดถึงทุกคนเลย"พุทธรัตน์ไล่กอดทุกๆคนก่อนสายตามองประกายมาศแปลกๆ อันที่จริงพรานวงกตสงสัยมานานแล้วว่าทำไมทั้งสองถึงได้ไม่ชอบหน้ากัน ความลับที่เขาต้องปกปิดไปจนตาย

ก่อนวันออกเดินทางเขาน่าจะรู้ว่าเด็กสาวทั้งสองคนมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันราวกับว่าเป็นฝาแฝดกันและใช่ ความจริงทั้งสองมีพ่อเดียวกันหากคนละแม่ มารดาของพุทธรัตน์เป็นหลวง ส่วนประกายมาศเป็นน้อย และฤทธิ์เดชเมียหลวงทำให้มารดาของประกายมาศพาบุตรสาวทิ้งไว้ที่วัดจนาเจอหลวงตา

หากไม่ใช่เพราะพุทธรัตน์แอบไปรื้อข้าวของเด็กสาวคงไม่เห็นภาพครอบครัวและคงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นน้อง พุทธรัตน์ไม่ยอมพูดดีกับเด็กสาวอีกเลย คงเพราะสมัยเด็กหล่อนถูกแม่เล็กจับไปด้วยในคราวนั้นใช่ หล่อนกับประกายมาศสลับตัวกันตั้งแต่เด็ก เพิ่งมาสลับคืนก็ตอนโตแล้ว

ประกายมาศแย่งทุกอย่างไปจากหล่อนโดยเฉพาะโหงนาวินทร์

ใช่ หล่อนคือคนที่โหงนาวินทร์รักและเติบโตมาด้วยกัน ที่ตรงนั้นควรเป็นของหล่อนหากว่ามารดาไม่ได้ขอสลับตัวคืนปานฉะนี้หล่อนคงคบกับโหงนาวินทร์ไม่ต้องโกงอายุให้มากกว่าเด็กสาว ไม่ต้องเป็นหมอ และไม่ต้องเสียโหงนาวินทร์ให้แก่เด็กสาว

ที่พรานวงกตรู้เรื่องก็เพราะขากลับจากการไปเที่ยวคราวนั้นมารดาของเด็กสาวมารับหล่อนดูไม่ค่อยชอบพอประกายมาศซ้ำยังด่าประกายมาศ ความที่พี่พรานอ่านใจคนออกทำให้รู้เรื่องทุกอย่าง พุทธรัตน์ขอให้พี่พรานปิดเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้ภาพครอบครัวที่แสนอบอุ่นตกเป็นข่าวยิ่งคนรักของเด็กสาวเป็นถึงเจ้าของบริษัทขายยาระดับประเทศ

"มากันเหนื่อยๆไปพักผ่อนเถอะค่ะ"หล่อนยิ้มให้บัวเเย้มก่อนเดินตามลงไปหากสายตายังมองโหงนาวินทร์ที่ประคองแฟนสาว "เจ้ากับนางมีปัญหาอะไรหรือ"ประกายมาศมองพลายมณีนาถที่กระซิบที่หู "ไม่มีนิ"นางเดินลงตามไปคนสุดท้าย หากคนที่อ่านใจคนออกแบบพลายมณีนาถรู้ดีว่าเด็กสาวสองคนมีเรื่องขุนหม่องกันแน่นอน "เดี๋ยวเจ๊ไปล้างมือก่อนนะ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามือสกปรก"หล่อนตั้งใจพูดเสียดเด็กสาว "แกฉันไปห้องน้ำก่อนนะ"หญิงสาวว่าก่อนเดินไปดึงพุทธรัตน์ "เราจะคุยกันดีๆไม่ได้หรือ"

"คงจะดีได้แกแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ฉันไม่น่าเชื่อแกเลยที่บอกว่าจะเป็นเงาของฉันสุดท้ายเป็นแกที่พยายามแย่งฉันและทำให้ฉันกลายเป็นเงา แกแย่งโหงไปจากฉัน"พุทธรัตน์ว่า "ไม่จริงนะ น้องกับโหงคือเพื่อนกันมาตลอด คนที่โหงชอบคือเจ๊"

"ทำไมฉันต้องเเพ้ลูกเมียน้อยอย่างแกด้วยทำไม"หล่อนว่าจบก็เดินไปล้างมือทิ้งให้ประกายมาศไว้กับรอยน้ำตา โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบฟังอยู่ "นี่ถ้ามาช้ากว่านี้น้องจะคิดว่าไปตกส้วม"บัวเเย้มว่าก่อนมองประกายมาศที่มาสก์หน้า "แกกลัวผิวเสียหรือไงถึงมาสก์หน้าตั้งแต่เช้า"หล่อนมองประกายมาศที่นานๆจะลุกมาแต่งสวย " คนอย่างมาศนะหรือจะกลัวอะไร กลัวจะซ่อนความลับไว้นะสิ"โหงนาวินทร์ว่า "ใช่ โหงพูดถูกมาศนะซ่อนเล็บ"ประกายมาศจิกเล็บลงกางเกง

"มือที่สาม มือที่สามด่าฉันหัวใจด้านชาโทษฉันทำไมเมื่อเธอเห็นว่ามือของเธอมันดีม่ายยยยยยยยยยยยยพอ"เสียงเพลงมือที่สามของ ปุยฝ้ายดังขึ้นโดยคนที่ดื่มเหล้าอย่าง ประกายมาศ ไม่ประกายมาศก็โหงนาวินทร์ที่แย่งกันขึ้นเวที บัวเเย้มถูกเรียกตัวไปนอนพักตั้งแต่หัวค่ำ "แกมาช่วยกันแบกมาศหน่อย"เกาวดีว่าก่อนมองโยเกริต์ที่พยุงประกายมาศไปส่งที่ห้องซึ่งพลายอนันต์เตรียมไว้ให้

ประกายมาศถูกวางที่ฟูกก่อนที่สองสาวจะแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้ามานอนต่อ ประกายมาศลุกขึ้นจากเตียง "จะไปร้องเกะต่อ"หล่อนว่าก่อนเดินมาเปิดประตูห้องไปร้องคาราโอเกะแต่ใครจะคิดว่าหล่อนจะเดินไปผิดทาง

เด็กสาวเปิดประตูเรือนเพื่อเดินลงไปร้องคาราโอะเกะแต่เหมือนหล่อนจะเข้าผิดห้อง "เกะๆ"ชายหนุ่มที่ยังสงสัยเรื่องประกายมาศมองเสียงที่ดังมาแต่ไกล สายตาชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เขากำลังสงสัยเดินเข้ามา "เจ้า ทำไมถึงเมาเช่นนี้"เขามองหญิงสาวที่ทิ้งตัวลงนั่งหลังจากยืนไม่ไหว "ข้าจะร้องเกะๆ"หญิงสาวว่า "เจ้าเมามากแล้วไปนอนไป"ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวกลับไปห้องทว่า "ก็บอกไม่ไปไง"หญิงสาวผลักร่างชายหนุ่มออก ทว่าเขานะหรือจะยอมล้มคนเดียวพลายมณีนาถมองหญิงสาวที่ล้มลงทับร่างของเขา "มองเผินๆเจ้าก็สวยดีนะ"ชายหนุ่มว่าก่อนผลักหญิงสาว

ประกายมาศดันตัวขึ้นก่อนมองชายหนุ่ม "ทำไมแกใจร้ายกับฉันอย่างงี้นะโหง"หญิงสาวว่าพลางคิดถึงที่โหงนาวินทร์ทำร้ายหล่อน หล่อนก้มลงจุมพิตชายหนุ่ม "ข้าไม่ใช่"เขามองหญิงสาวที่จุมพิตเขา ด้วยความปรารถนาของร่างกายทำให้พลายมณีนาถจุมพิตหญิงสาวตอบก่อนอุ้มหญิงสาวหายไปในห้องนอน

_________________________________-

ติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้ค่ะ

________________-

แง้เริ่มเห็นแววพระเอกกลัวเมีย เห็นโมเม้นต์ความหวานแต่ใครจะรักใครก่อนอีกเรื่อง



เอาแผนผังมาลงทุกตอนเผื่อใครงงจะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมาว่าใครเป็นใคร

มีคนถามมาว่าช่วงนี้แต่งเรื่องไหน ช่วงนี้เน้นเรื่องนี้ให้จบเลยกับคราบญี่ปุ่น (คราบมฤตยูจะขาย 15 เมษายนนี้)

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว