ผูกรักด้ายแดง-ตอนที่ 21 จำทุกอย่างได้

โดย  mi o hb

ผูกรักด้ายแดง

ตอนที่ 21 จำทุกอย่างได้

ในห้องเรียน จางหยูมองไปที่เหล่าลูกศิษย์อย่างเงียบๆ หลังจากที่ปลุกใจพวกนี้แล้ว เขาก็ยิ้มและถามขึ้นมา "ตอนนี้ พวกเจ้ายังคิดว่ามันยากอยู่อีกรึไม่ ?"

มันยังคงยากอยู่เล็กน้อย แต่ตราบใดที่พวกเขาไม่ตาย และเดินทางไปถึงเขตมืดได้ การจะอยู่ที่นั่นสักวันสองวันก็ไม่มีปัญหา

เมื่อเห็นสีหน้าล้อเลียนของจางหยู เหล่าศิษย์ก็อดไม่ได้ที่จะพากันก้มหน้าลงเพราะความเขินอาย

ไม่ว่าพวกนั้นจะยังอายอยู่หรือไม่นั้น จางหยูก็ไม่สนใจ เขาพูดอย่างเอาแต่ใจว่า "ข้าเพิ่งบอกภารกิจแรกไป และตอนนี้ข้าจะพูดถึงภารกิจที่สอง " เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อไปว่า "ภารกิจที่สองยากกว่าภารกิจแรกเล็กน้อย นั่นก็คือ....ฆ่าสัตว์อสูร!"

"ฆ่าสัตว์อสูร?" เหล่าลูกศิษย์พากันมองหน้าจางหยูด้วยความสงสัย

ไม่ใช่ว่ามันก็แค่การฆ่าสัตว์อสูรรึไง ?

ภารกิจนี้มีอะไรยากตรงไหน ?

เมื่อเห็นสีหน้าไม่สนใจของเหล่าลูกศิษย์ จางหยูก็อดแสยะยิ้มออกมาไม่ได้ รอยยิ้มนั่นทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา "อย่าคิดว่าจะฆ่าสัตว์อสูรตัวไหนก็ได้ ข้าบอกพวกเจ้าเลยว่า หากต้องการภารกิจนี้ให้สำเร็จ พวกเจ้าจะต้องฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 รึแข็งแกร่งกว่านั้น !"

เมื่อได้ยินแบบนั้น เหล่าศิษย์ก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที

ฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 รึแข็งแกร่งกว่านั้น !

"ซืดดดด..." เหมาฉางเฟิงถึงกับสูดหายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกหนาวเยือกไปทั่วแผ่นหลัง

อู่โม่ อู่ซินซินและหลินหมิงดีกว่าเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมากกว่าสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 9 ตราบใดที่พวกเขาไม่เกียจคร้าน ก็สามารถสังหารสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่9 ได้ 1 ตัว หรือมากกว่านั้น แต่เหมาฉางเฟิงและคนอื่นๆนั้นด้อยกว่า แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างชัดเจน แต่การจะให้พวกเขาไปฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่9 ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากไม่น้อย

เมื่อเห็นคิ้วที่ขมวดมุ่นของเพื่อนๆ จางเหิงหยางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น " เจ้าสำนักคาดหวังกับพวกเรามากจริงๆ!"

ให้ลูกศิษย์หนุ่มสาวไปฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตฉีซวนขั้นที่9 ทั่วทั้งเมืองทะเลทรายแห่งนี้ คงมีแค่สำนักคังเฉียงเท่านั้นที่ทำได้

"ภารกิจนี้มันยากเล็กน้อย" จางหยูไม่ปฏิเสธว่ามันไม่ยาก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไร "ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้า ถ้าหากยังคิดว่าภารกิจนี้มันยากเกินไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมการทดสอบ เพราะมันไร้ความหมาย"

ในใจของจางหยูไม่ได้มองเหล่าลูกศิษย์เป็นเด็กน้อย ความแข็งแกร่งของพวกเขา ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของเมืองทะเลทราย

ภารกิจทั้งสองอย่างนี้ สำหรับคนอื่นแล้ว มันอาจจะเป็นภารกิจการฆ่าตัวตาย แต่สำหรับพวกเขาแล้ว มันใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!

สำหรับระดับความยากนั้น....ยิ่งระดับความยากสูงเท่าไหร่ หลังจากที่ทำภารกิจสำเร็จ พลังของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ!

อาจจะพูดได้ว่า จางหยูได้คิดมาดีแล้ว ภารกิจทั้งสองอย่างที่มอบหมายให้ เป็นประโยชน์ต่อสำนักคังเฉียงและลูกศิษย์ของตัวเองมาก

"คือว่า...." จางเหิงหยางยกมือขึ้น และถามอย่างระมัดระวังว่า "เจ้าสำนัก หากเราทำภารกิจไม่สำเร็จ จะมีบทลงโทษหรือไม่ ?"

เหมาฉางเฟิงและคนอื่นๆต่างก็มองไปที่จางหยูด้วยความกังวล ภารกิจแรกยังไม่เท่าไหร่ แต่ภารกิจที่สองนี้สิ ระดับความยากของมันต้องสูงมากแน่ๆ แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าจะทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงอยากรู้ว่าจะมีบทลงโทษรึไม่ หากพวกเขาทำภารกิจไม่สำเร็จ

จางหยูยิ้มจางๆและพูดขึ้นมา "ไม่!"

เขามองทุกคนและพูดอย่างมั่นใจว่า "ข้าบอกพวกเจ้าได้เลยว่า ถึงแม้ว่าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่พวกเจ้าก็จะไม่โดนลงโทษ!"

เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็พากันโล่งใจขึ้นมา

"แต่..." น้ำเสียงของจางหยูพลันเปลี่ยนไป เขาหัวเราะออกมาพลางพูดว่า "ถึงแม้จะไม่มีบทลงโทษ แต่มีเพียงคนที่ทำภารกิจสำเร็จเท่านั้น ถึงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล!"

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เหล่าศิษย์ก็ตาเป็นประกายและถามอย่างสงสัย " รางวัลอะไรกัน ?"

อู่เฉินก็มองไปที่จางหยูด้วยความสงสัย แม้ว่าเขาจะตัดสินใจไม่เข้าร่วมการทดสอบนี้ แต่ก็ยังสงสัยในรางวัลที่จางหยูพูดถึง

รางวัลที่เจ้าสำนักมอบให้นั้น ไม่น่าจะแย่!

จางหยูมองไปรอบๆและพูดขึ้นอย่างช้าๆ "รางวัลขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์อสูรที่พวกเจ้าฆ่าได้หลังจากจบการทดสอบ อันดับ 1 จะได้ยาว่อซวน 3 เม็ด, ยาฟื้นฟูขั้นที่ 2 สามเม็ด และยาปราณขั้นที่ 2 สามเม็ด อันดับสองและสามจะได้ยาว่อซวน, ยาฟื้นฟูขั้นที่ 2 และยาปราณขั้นที่ 2 อย่างละเม็ด อันดับที่ 5 -10 จะได้ยาว่อซวน 1 เม็ด แต่ถ้าใครทำภารกิจพวกนี้ไม่สำเร็จ ก็จะไม่ได้รางวัลเลย..."

ก่อนที่จางหยูจะพูดจบ เหล่าศิษย์ก็พากันคึกขึ้นมาทันที

ยาว่อซวน, ยาฟื้นฟูขั้นที่ 2, ยาปราณขั้นที่ 2 !

สวรรค์! พวกมันคือยาขั้นที่ 2 ที่ล้ำค่า!

ตั้งแต่ที่รู้ว่าจางหยูเป็นนักปรุงยา พวกลูกศิษย์ก็แอบหาข้อมูลเกี่ยวกับนักปรุงยามาบ้าง จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ว่ายาว่อซวน ยาฟื้นฟูขั้นที่ 2 ยาปราณขั้นที่ 2 มีค่ามากแค่ไหน!

บอกได้เลยว่า ยาขั้นที่ 2 นั้นมีค่ามากกว่ายาขั้นแรกนับสิบเท่า แม้แต่ตระกูลของพวกเขาก็ยังต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะได้ยาขั้นที่ 2 สักเม็ดมา!

และที่สำคัญก็คือ ที่ยาขั้นที่ 2 มีค่ากว่ายาขั้นที่ 1 เพราะว่ามันไม่มีราคาตลาด แม้ว่าตระกูลพวกเขาจะหาซื้อมันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อมันได้จริงๆ เพราะว่าพวกเขาไม่มีช่องทางในการซื้อยาพวกนี้....

ศิษย์ทุกคนต่างตาแดงก่ำ ลมหายใจพวกเขาเริ่มติดขัดพร้อมกับความตื่นเต้นที่ปะทุขึ้นมา

"ยาว่อซวน..." เทียบกับศิษย์คนอื่นๆแล้ว อู่เฉินดูเหมือนจะตื่นเต้นมากกว่า เขาเคยลิ้มรสมันมาแล้ว และรู้ผลของมันดีกว่าศิษย์คนอื่นๆ แค่อาทิตย์เดียว ระดับการบ่มเพาะของเขาก็กระโดดขึ้นจากขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 7 ชั้นต้นมาเป็นขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 7 ชั้นปลาย ตอนนี้การบ่มเพาะของเขาอยู่ในระดับเดียวกับอู่โม่ แต่ทว่าก็ไม่สามารถก้าวข้ามบุตรชายของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงอยากได้ยาว่อซวนมากกว่าใคร

เขากำหมัดแน่นและตะโกนในใจว่า "หากข้าได้ยาว่อซวนมาอีกเม็ด ภายในครึ่งเดือนข้าก็จะกลับไปอยู่ขอบเขตฉีซวนขั้น 9!"

ยาว่อซวนที่จางหยูให้เขาเมื่อครั้งที่แล้ว ถูกเขาใช้จนเกือบหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากได้มันเพิ่ม

ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามี ตราบใดที่เขาเข้าร่วมการทดสอบหวงหยวน อย่าว่าแต่อันดับ 2 หรืออันดับ 3 เลย แม้แต่อันดับที่ 1 เขาก็มีสิทธิ์ได้มาครอบครอง !

แม้ว่าการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้จะด้อยกว่าอู่โม่เล็กน้อย แต่ประสบการณ์ในการต่อสู้ที่มีมากมาย ยังไงซะเขาก็ได้เปรียบ !

"รางวัลอันดับที่หนึ่งคือยาว่อซวนสามเม็ด ยาฟื้นฟูขั้นที่ 2 และยาปราณขั้นที่ 2 อย่างละ 3 เม็ด..."

เมื่อคิดถึงรางวัลอันดับที่ 1 อู่เฉินก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา ราวกับว่าพลาดโอกาสหนึ่งในล้านไป

ไม่สิ ไม่ใช่ราวกับ แต่พลาดโอกาสหนึ่งในล้านไปจริงๆ!

ยาขั้นที่ 2 จำนวน 9 เม็ดนี้ มีค่ามากพอที่จะซื้อตระกูลอู่ทั้งตระกูลได้ !

ถอยกลับมาก้าวหนึ่งเพื่อกระโดดไปอีกหมื่นก้าว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อันดับที่หนึ่ง แต่ด้วยความสามารถของเขาแล้ว การเอาอันดับที่สองและสามก็ง่ายดายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก! แทบจะไม่ต้องใช้แรงเลยแม้แต่น้อย ! ต้องรู้ก่อนว่า รางวัลของอันดับสองและสามก็ไม่ได้แย่ ! แม้ว่าจะเทียบกับอันดับหนึ่งไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครกล้ามองข้าม!

ตอนนั้นเอง อู่เฉินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาภายหลัง บนโลกใบนี้มียาแก้ความรู้สึกเสียใจทีหลังบ้างไหม ถ้ามีล่ะก็ ไม่ว่าต้องจ่ายไปเท่าไหร่ ก็ยอมซื้อมัน!

" เจ้าสำนัก" อู่เฉินพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้ง จนแม้แต่ตัวเขาเองก็ตกใจ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะยิ้มแห้งๆ แล้วถามจางหยูว่า "คือ....ข้า....ข้าสามารถเข้าร่วมการทดสอบนี้ได้รึไม่?"

แม้ว่ามันจะน่าอายที่ถามออกมาแบบนี้ แต่เทียบกับรางวัลเหล่านี้แล้ว ความอายพวกนี้สามารถมองข้ามได้

ศิษย์คนอื่นๆได้ยินแบบนั้น ก็คิดขึ้นมาในใจว่า "หน้าไม่อาย!"

ตอนแรกก็ปฏิเสธหัวชนฝาว่าจะไม่เข้าร่วมการทดสอบหวงหยวน แต่พอได้ยินของรางวัล ก็หน้าด้านกลับมาขอเข้าร่วมอีกครั้ง! ใต้หล้านี้มีคนที่ไร้ยางอายและหน้าหนาเช่นนี้ด้วยหรือ

อีกอย่าง คนอายุสี่สิบกว่าปีคิดจะมาแย่งของรางวัลกับเด็กอายุยี่สิบกว่าปีเนี่ยนะ ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปหน่อยเหรอ?

อู่โม่หางตากระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็เอียงตัวหนีไปด้านข้าง แสร้งทำเป็นไม่รู้จักอู่เฉิน "ท่านพ่อ ท่านควรจะรักษาหน้าตาของตัวเองดีไหม?"

อู่ซินซินกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะหันไปมองอู่เฉินอย่างแปลกใจ

โดนศิษย์คนอื่นๆโดยเฉพาะลูกตัวเองจ้องมองมา อู่เฉินก็รู้สึกอับอายจนพูดไม่ถูก ภาพลักษณ์ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองทะเลทราย ที่เพียรพยายามสร้างมาอย่างยากลำบาก กลับต้องมาก็พังทลายในชั่วพริบตา

เมื่อได้ยินคำถามของอู่เฉิน จางหยูก็ยักคิ้วแล้วถามอย่างแปลกใจว่า "ไม่ใช่เจ้าบอกว่าไม่อยากเข้าร่วมไม่ใช่รึไง?"

จางหยูกลั้นยิ้มและพูดว่า "ข้ายืนยันกับเจ้าถึงสามรอบ ถามว่าจะเข้าร่วมการทดสอบหวงหยวนไหม ข้ามีภารกิจและของรางวัลให้เจ้า แต่สุดท้ายเจ้าก็ไม่ยอมเข้าร่วม แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้...."

อู่เฉินจะพูดอะไรได้ ?

หรือจะบอกจางหยูว่าเขาไม่รู้ว่าของรางวัลจะอู้ฟู้ขนาดนี้ เลยปฏิเสธที่จะเข้าร่วม แต่พอได้ยินของรางวัลที่จะได้ ก็เลยรู้สึกเสียดายทีหลังขึ้นมางั้นรึ ?

แม้ว่าอู่เฉินจะหน้าด้าน แต่เขาก็ไม่กล้าจะพูดแบบนั้นออกไป !

หลังจากเงียบอยู่นาน เขาก็มองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าอ้อนวอน "เจ้าสำนัก ข้าลองคิดดูแล้ว ในฐานะที่ข้าเป็นศิษย์ของสำนักคังเฉียง หากข้าไม่เข้าร่วมการทดสอบ ก็นับว่าผิดต่อสำนักคังเฉียง และทำลายความไว้ใจและความเชื่อใจที่ท่านมอบให้มาตลอด..." เมื่อเห็นรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มของจางหยู อู่เฉินก็เริ่มอายมากกว่าเดิม รวมไปถึงเสียงที่พูดออกมานั้นก็แผ่วเบาขึ้นเรื่อยๆ

คำพูดนี้ แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่เชื่อ!

"อู่เฉิน เรื่องการทดสอบหวงหยวนนะ ช่างมันเถอะ" สีหน้าของจางหยูพลันจริงจังขึ้นมา "ยังไงซะ การตัดสินใจก่อนหน้านี้ เจ้าก็เป็นคนพูดเองและไม่มีใครบังคับเจ้า ตอนนี้มันสายเกินไปที่เจ้าจะรู้สึกเสียใจในภายหลัง ถือเสียว่าให้โอกาสคนอื่นก็แล้วกัน!"

แม้จะรู้แต่แรกแล้ว ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ แต่อู่เฉินก็รู้สึกไม่ยินยอม เขาคิดอย่างเศร้าๆว่า "ข้าให้โอกาสพวกเขา แล้วใครกันจะให้โอกาสข้า ?"

น่าเสียดายที่จางหยูได้ตัดสินแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องยอมรับมัน

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว