พี่สาวใจร้าย-ตอนที่ 9 เชื่อฟังคำสั่ง2

โดย  หลี่หง

พี่สาวใจร้าย

ตอนที่ 9 เชื่อฟังคำสั่ง2

บุหงาชะเง้อชะแง้มองจากหน้าต่างรถเก๋งคันยาวที่กำลังแล่นไปตามถนนสู่บ้านหลังใหญ่ที่แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ยังเห็นชัดว่าใหญ่โตโอ่อ่า บริเวณพื้นที่กว้างขวางนับสิบไร่ ถึงจะไม่มีใครบอกชื่อคนที่จะต้องมาเต้นจำบ๊ะให้ความสำราญเป็นการส่วนตัว แต่ดูจากสถานที่ก็รู้ว่าต้องมั่งคั่งร่ำรวยไม่แพ้คนว่าจ้างซึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทยที่เคยเห็นหล่อนเต้นฟลอร์โชว์ในงานวันเกิดของนักการเมืองภูธรคนหนึ่ง

ใช่ นับจากครั้งแรกที่หล่อนตกกระไดพลอยโจน ขึ้นเวทีเต้นจ้ำบ๊ะแทนรัญจวน บัดนี้สี่ปีแล้วแต่บุหงาก็ยังเต้นอยู่ เลิกไม่ได้ทั้งที่มุ่งมั่นตั้งใจว่าจะเต้นเพียงครั้งเดียว

ใครกันนะชอบพูดชอบเขียนว่าคนเราลิขิตชีวิตของตัวเองได้ ได้ยินทีไรบุหงาอยากหัวเราะเยาะหยัน ชีวิตของคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ชีวิตของหล่อนนั้นถูกขีดเส้นเกณฑ์ชะตาด้วยความรัก รักคนรัก รักครอบครัว รักเพื่อนร่วมงาน รักและทำทุกอย่างเพื่อทุกคนยกเว้น...ตัวเอง

วันรุ่งขึ้นหลังจากขึ้นเต้นครั้งแรก หล่อนกำเงินกลับบ้าน หวังจะนำส่วนใหญ่ไปให้คนรักเป็นค่าใช้จ่ายไปเรียนต่อ แบ่งบางส่วนให้พ่อแม่ไว้ใช้จ่ายเลี้ยงดูน้องๆ แล้วตัวเองจะขอกลับไปทำงานติดตามรับใช้คณะละครเร่เพื่อหาเงินส่งเสียทุกคน แต่กลับพบเพื่อนบ้านช่วยกันหามพ่อไปส่งโรงพยาบาลในตัวอำเภอเพราะขึ้นตาลแล้วพลาดตกลงมาแขนขาหัก เงินที่ได้มาทุกบางทุกสตางค์หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล ต้องบากหน้ากลับไปขอขึ้นเวทีอีกครั้ง

ตอนแรกนายเสน่ห์กับเมียก็รีรอ เพราะตอนนั้นรัญจวนกลับขึ้นเวทีได้แล้ว แต่จะไม่รับบุหงาที่หน่วยก้านดี มีท่าว่าจะเรียกลูกค้าได้มากไม่แพ้กันก็เสียดาย ทั้งยังไม่แน่ใจว่าอาการปวดท้องรุนแรงที่เพิ่งเกิดขึ้นกับนักเต้นเจ้าประจำเป็นครั้งแรกจะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งถ้าเดือนหน้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบเดือนนี้ก็จำเป็นต้องมีคนเต้นแทน

ในที่สุดรัญจวนอีกนั่นแหละที่แนะขึ้นมาว่าให้ปรับเปลี่ยนการแสดงเป็นจ้ำบ๊ะคู่ ซึ่งน่าจะช่วยให้จัดลีลาการเต้นให้ตื่นตาเร้าใจได้มากกว่าการเต้นเดี่ยว เรียกคนดูและเก็บค่าดูได้มากขึ้นเป็นสองเท่า วันไหนที่คนใดคนหนึ่งมีระดู เจ็บไข้ไม่สบาย หรือมีธุระปะปัง ค่อยแยกเต้นเดี่ยว

ตระเวนแสดงได้ไม่นาน จ้ำบ๊ะรัญจวน-ยวนใจก็โด่งดังไปทั่วเขตภูธรทั้งเหนือใต้ออกตกและอีสาน คนดูถูกอกถูกใจ เพราะนอกจากนักเต้นจะมีเรือนร่างและลีลาปลุกใจเสือป่าแล้ว เสื้อผ้า เพลง ฉากที่หัวหน้าคณะและนักเต้นลอกเลียนแบบจากหนังฝรั่งที่สามีรัญจวนซึ่งขับรถขายยาไปกับคณะจ้ำบ๊ะนำมาฉายให้ดูก็แปลกตา มีทั้งระบำคลีโอพัตรา ฉากและชุดแบบอียิปต์โบราณ ระบำไซซี-เตียวเสี้ยนเป็นแบบจีนโบราณ ระบำแซมบ้าเลียนแบนนักเต้นงานคาร์นิวัลของบราซิล และอีกมากมายหลายหลากล้วนตื่นตาตื่นใจ ผู้ชายดูดี ผู้หญิงดูได้ บางคนยังอุ้มลูกจูงหลานมาดู เพราะถึงจะโป๊เร้าใจแต่ไม่มีการลามกอนาจารแบบเล่นกับงูหรืออุปกรณ์อย่างจ้ำบ๊ะยุคโบราณบางคณะซึ่งบัดนี้เริ่มเสื่อมความนิยม และกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ความโด่งดังของสองสาวนั้นถึงขนาดไปแสดงที่ไหนมักมีคนเหมารถข้ามอำเภอข้ามจังหวัดมาดู จนนายเสน่ห์เลิกการแสดงอย่างอื่น ยืนพื้นแต่การเต้นจ้ำบ๊ะอย่างเดียว

สองปีผ่านไปคนดูเริ่มปรบมือและร้องเรียกแต่ยวนใจ เพราะทั้งสาวสดงดงามและลีลาท่าเต้นก็เร่าร้อนกว่า รัญจวนจึงกลายเป็นหางเครื่องหรือตัวประกอบให้บุหงาไปโดยปริยาย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนแถมยังดีใจ เพราะตั้งแต่แสดงคู่ก็หาเงินได้มากมายจนเก็บเงินตั้งตัวได้แล้ว พร้อมจะออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผัวคนปัจจุบัน จึงขอแยกตัวไปทำมาหากินที่บ้านเกิดของฝ่ายชายในจังหวัดหนึ่งของภาคอีสาน นัยว่าจะลองรับช่วงซื้อสิทธิ์การฉายหนังในเขตสามจังหวัดสำคัญ

เหลือบุหงาคนเดียวที่ยังเต้นต่อไป เลิกไม่ได้แม้จะหาเงินได้มาก แต่หมดไปกับการเลี้ยงดูคนอื่น เพราะนอกจากจะปลูกบ้านให้พ่อแม่อยู่อย่างสุขสบาย ส่งน้องชายน้องสาวไปเรียนระดับมัธยมในตัวจังหวัดอย่างที่ตัวเองฝันแต่ทำไม่ได้เพราะไม่มีใครส่งเสียแล้ว หล่อนยังต้องส่งเสียคนรักและจุนเจือครอบครัวของเขา ตอนนี้จึงเท่ากับมีสองครอบครัวที่หล่อนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทุกเรื่อง ไม่ว่าค่ากินอยู่ ค่ารักษายามเจ็บไข้ ค่าเสื้อผ้า ค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ

เหนื่อยเหลือเกินแต่ก็หยุดทำงานไม่ได้ บางวันต้องวิ่งสี่ห้างาน เพราะพอจะมีเงินเก็บในบัญชีก็มักจะต้องเบิกมาจ่ายโน้นนี่ให้ภูมิตามที่เขาร้องขอ แต่หล่อนก็เต็มใจให้เป็นที่สุด เพราะพอคิดถึงวันที่เขาเป็นหมอเต็มตัว กลับไปทำงานในโรงพยาบาลประจำจังหวัดและเปิดคลินิกใกล้บ้านเกิดก็ปลื้มปริ่มใจ แม้หล่อนจะไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ แต่ก็เป็นคนส่งเสียให้คนรักเรียนจบแพทย์ อาชีพอันส่งเกียรติสูงสุด ตอนนี้เขาอาจยังเป็นนักศึกษาแพทย์ แต่อีกสองปีก็จะสำเร็จการศึกษาได้ใบประกอบโรคศิลป์ หล่อนซึ่งต่อไปจะได้เป็นภรรยาคุณหมอจึงควรอุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยให้เขาสุขสบายกายใจในทุกๆ ทาง เพื่อให้เขามีสมาธิในการเรียน อย่างปีหน้าเขาจะต้องไปฝึกภาคปฏิบัติที่โรงพยาบาลศิริราช ห่างจากบ้านหลังเล็กแต่อยู่สบายที่หล่อนซื้อให้ค่อนข้างมาก จึงคิดจะซื้อรถเก๋งให้ขับไปโรงพยาบาลตามที่เขาเกริ่นไว้หลายครั้ง

เอาเถอะ อดทนอีกหน่อย เหลือเวลาอีกแค่สองปีภูมิก็จะเรียนจบ ตอนนั้นหล่อนคงทำงานเก็บเงินได้มากพอจะสร้างคลินิกไว้ให้เขา บุหหงาบอกกับตัวเองระหว่างที่เดินตามคนรับใช้เข้าไปในบ้าน ทั้งหมดถูกพาขึ้นไปยังห้องนอนบนชั้นสอง พอแต่งตัวเสร็จก็ยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาแสดง หล่อนจึงของีบเอาแรง โดยนายเสน่ห์และนางลำดวนที่ติดตามมาเป็นพี่เลี้ยงก็ไม่ว่าอะไร แถมยังชวนกันออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงกว้างขวาง

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว