1

ณ แคว้นชิงหลาง ที่เต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลายแหล่งที่มา สัญจรมาเพื่อหาความแปลกใหม่

ในเมืองหลวง มีฮ่องเต้หวังไต้สินครองรักกับฮองเฮาหวังชิงหยางมานานนับสิบปี พวกท่านได้มีพระธิดาองค์เดียวนามว่าหวังอิงเพียว เนื่องจากในวังหลวงมิได้มีสนมใดๆ หรือแม้กระทั่งสาวใช้อุ่นเตียง รวมกระทั่งเวลาที่เหมาะสมในการเลี้ยงดูบุตรธิดาจึงทำให้พระองค์ทั้งสองเลือกที่จะมีองค์หญิงเพียงแค่พระองค์เดียว

ฮ่องเต้และฮองเฮาต้องทำภารกิจในการเยี่ยมเยือนและรักษามิตรภาพในแต่ละแคว้นที่อยู่รอบพวกท่าน ถึงทำให้ได้ตระหนักรู้ว่าการมีมิตรสหายนั้นย่อมดีกว่ามีศัตรู ซึ่งพวกท่านต้องเสียสละและแลกการใช้ชีวิตส่วนตัวไปกับการรักษาความมั่นคงของพันธมิตรทั้งหลาย พูดนั้นง่ายย่อมกว่าการกระทำ หลายปีมานี้ถึงแม้จะไม่ได้มิตรสหายที่แท้จริงทั้งหมด แต่ก็ทำให้พวกท่านเข้าใจความต้องการในแต่ละแคว้น ซึ่งนำมาสู่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และนำมาซึ่งความสงบสุข

พวกท่านจึงค่อยเริ่มมีพระธิดาหลังจากจบภารกิจเหล่านั้นแล้ว พวกท่านก็ได้ปล่อยตามบัญชาสวรรค์มิได้เร่งรัดใดๆ อย่างน้อยองค์หญิงอิงเพียวก็คือดวงใจของท่านทั้งสองอยู่แล้ว การให้ความสำคัญในการดูแลเอาใจใส่นั้นเป็นความตั้งใจที่มีมาตั้งแต่ต้น เพราะฉนั้นพวกท่านจึงอยากค่อยๆ มีบุตรธิดา

แคว้นชิงหลางได้มีความผูกพันกับหนึ่งในแว่นแคว้นที่อยู่รอบด้านเป็นพิเศษ เนื่องจากฮ่องเต้มีสหายตั้งแต่วัยเยาว์เป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นกวางโจว ผู้ซึ่งรักฮ่องเต้ไต้สินประหนึ่งพี่น้องในสายเลือด

แคว้นกวางโจวเป็นแหล่งที่รวบรวมผู้มีพลังวิเศษในการใช้ธาตุบนพื้นโลก นับว่าการจะเป็นผู้มีพลังวิเศษนั้นได้จะมีแค่สองแบบแผนเท่านั้น ซึ่งก็คือ ตกทอดจากบุพการี หรือ สวรรค์ได้กำหนดไว้

ในแบบที่สองจะมีคำทำนายได้กล่าวไว้ว่าทุก 100 ปี จะมีผู้วิเศษที่สวรรค์กำหนดไว้ได้เกิดบนโลกมนุษย์ใบนี้ ในรอบร้อยปีนี้ได้มีคำทำนายไว้ว่า ผู้วิเศษนี้จะมีพลังธาตุมากถึงสองธาตุในคนๆ เดียวกันซึ่งเป็นที่จับตามองของยุคนี้ ปกตินั้นผู้วิเศษจะมีพลังแค่ธาตุเดียวต่อคนเท่านั้น และผู้วิเศษนี้จะไปอยู่ที่แคว้นใดถือเป็นการถ่วงดุลอำนาจที่อาจล่มสลายได้

ในการจะได้พลังตกทอดจากบุพการี จะสามารถมีได้ต่อเมื่อผู้วิเศษนั้นๆ มีบุตร ส่วนบุตรผู้ได้รับพลังจะใช้ธาตุที่เหมือนหรือแตกต่างจากบุพการีนั้นแล้วแต่สวรรค์กำหนดไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่ผู้วิเศษที่เป็นบุพการีนั้นเมื่อมีบุตรแล้วจะศูนย์เสียพลังวิเศษธาตุไปตลอดกาล จะเป็นเหมือนผู้คนทั่วไปจนบางคนไม่ล่วงรู้มาก่อนว่าท่านนั้นเคยมีพลังวิเศษ

ฮ่องเต้แห่งแคว้นกวางโจวมีนามว่าซู่มานเหอ เคยได้ใช้พลังธาตุเหล็กในการปกป้องและต่อกรกับแคว้นที่ประทุษร้ายเมื่อท่านยังเป็นองค์รัชทายาท ท่านได้พบรักกับฮองเฮาซู่หยางมี่ซึ่งเมื่อก่อนนั้นท่านทั้งสองมิได้ถูกหมั้นหมายต่อกัน แต่เป็นการพบรักประหนึ่งรักแรกพบ ทั้งสองท่านนั้นโชคดีที่มิได้มีใครผูกมัดในเรื่องความรักจึงไม่พบอุปสรรคใดๆ

พวกท่านได้ให้กำเนิดองค์รัชทายาทซู่มินชิว หลังจากนั้นฮองเฮาหยางมี่ก็ได้ตั้งครรภ์แต่เนื่องจากมีพระสนมปองร้าย พระองค์จึงแท้งครรภ์นั้น และยังเป็นทารกหญิงอีกด้วยที่พวกท่านทั้งสองกำลังเฝ้ารอคอยให้มากำเนิดอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากนั้นฮ่องเต้มานเหอได้ขับไล่ทุกพระสนมออกจากวังหลวงและได้เหลือเพียงฮองเฮาเพียงพระองค์เดียว ทุกสตรีเพศที่อยู่ในวังหลวงนี้จะอยู่เพียงเพื่ออย่างเดียวคือการทำงาน มิได้อาจเอื้อมถึงความรักและเสน่ห์หาอีกต่อไป

เมื่อทั้งสองแคว้นมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อกันมาเนิ่นนาน ฮ่องเต้ทั้งสองพระองค์จึงอยากทำการขยับความสัมพันธ์นี้ให้อยู่ยงคงกระพันในรุ่นหลังๆ พวกท่านจึงได้ทำการสัญญาหมั้นหมายโดยได้รับความยินยอมจากฮองเฮาทั้งสอง เป็นการหมั้นระหว่างองค์หญิงอิงเพียวกับองค์รัชทายาทมินชิว ตั้งแต่องค์หญิงกับองค์รัชทายาทยังเป็นทารก

ทุกยุคทุกสมัยย่อมมีการเปลี่ยนแปลง แต่การที่จะนำความเปลี่ยนแปลงนี้มาทำประโยชน์ที่ดีให้กับผู้คนบนโลกนี้นั้น ต้องมีภาคีที่สมัครสมานใจกันเพียงใดความเข้าใจซึ่งกันและกันผู้คนนั้นพร้อมที่จะมีให้กันได้หรือไม่ ความพึงพอใจรวมถึงการไม่เอารัดเอาเปรียบการมีคุณธรรม จริยธรรม ขั้นพื้นฐานในใจของปวงประชาชนของเหล่าแว่นแคว้น สิ่งที่กล่าวมาเหล่านั้นจะต้องพึ่งพาเหล่าองค์หญิงและองค์ชายในตอนนี้ในการรวบรวมพละกำลังของทุกแคว้น ทุกเมือง เหล่าฮ่องเต้และฮองเฮาจึงได้แต่หาวิธีการที่เหมาะสมในการผลักดันพันธมิตรที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการก้าวผ่านลิขิตที่ไม่มีใครหลีกหนีพ้น เพราะพวกท่านกลัวว่าถ้าไม่รีบช่วยตอนนี้เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะไม่ทันการเสียแล้ว