ลำนำล่มแคว้น ลิขิตลายหงส์-บทที่ 1.3 น้องสาวออกเรือนแทนพี่สาว

โดย  Baanarun

ลำนำล่มแคว้น ลิขิตลายหงส์

บทที่ 1.3 น้องสาวออกเรือนแทนพี่สาว

บทที่ 37 บรรยากาศเปลี่ยนเป็นหวานชื่นและพร่าเลือน


จ้าวส่วงอดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าฉือฮวนไม่เข้าใจ "น้องฉือไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ ทำไมดูเหมือนไม่เข้าใจเรื่องนี้?"


ใบหน้าของฉือฮวนเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ พูดอย่างเขินอายว่า "ฉันไม่เคยทำมาก่อนเลย มันเป็นงานของสามีฉันทั้งหมดค่ะ"


จ้าวส่วงพูดติดตลกว่า "แล้วทำไมเธอถึงอยากเก่งด้านนี้ล่ะ?"


ฉือฮวนเหลือบมองสืออวี่ไป๋แล้วลดเสียงลง "ฉันไม่อยากให้เขาทำงานหนักเกินไป"


คำตอบนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของสืออวี่ไป๋ เขาถึงกับหยุดการสนทนากับซุนเจียวจั้วและลอบมองฉือฮวน


จ้าวส่วงได้ยินคำตอบนี้ก็ตีฉือฮวนเบา ๆ เป็นการแหย่


แก้มของฉือฮวนแดงเล็กน้อย เริ่มพูดคุยกับจ้าวส่วงเกี่ยวกับสไตล์ที่ต้องการ


ผู้หญิงสองคนแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ตอนเที่ยงฉือฮวนก็เลี้ยงพวกเขาที่ร้านอาหารกวางตุ้งอันมีเอกลักษณ์


หลังรับประทานอาหาร ทั้งสองครอบครัวก็เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น


แม้ว่าจ้าวส่วงจะดูเป็นมิตร แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ของเมือง ดังนั้นจึงมีเซนส์ที่เฉียบคมเกี่ยวกับกระแสความนิยม


เธอจึงนำหน้าฉือฮวนไปหนึ่งก้าวในการเปิดร้านขายเสื้อผ้า


จ้าวส่วงวิเคราะห์โอกาสได้ชัดเจนไม่น้อย


“แม้ว่าทุกคนในครอบครัวของฉันจะเป็นข้าราชการ แต่ฉันไม่มีความทะเยอทะยานและแค่อยากจะใช้ชีวิตเรื่อย ๆ”


“น้องฉือ เป็นความคิดที่ดีที่จะขายเสื้อผ้า ตอนนี้ไม่มีเงินทุนไม่สำคัญ ตราบใดที่เธอทำงานหนักและไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ไม่นานก็จะสามารถทำเงินได้"


“เมื่อน้องฉือหาเงินได้เพียงพอ พี่จะตั้งโรงงานเสื้อผ้าร่วมกับเธอ”


“หากเทียบกับการซื้อเสื้อผ้า การเปิดโรงงานเสื้อผ้าถือเป็นอนาคตที่ดีกว่า”


ฉือฮวนก็มีความคิดเช่นนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าเธอกับจ้าวส่วงจะมีความคิดตรงกัน


“พี่จ้าว งั้นรอฉันสักสองสามปี เมื่อฉันมีเงินเพียงพอ เราจะร่วมกันเปิดโรงงานเสื้อผ้า”


ความมุ่งมั่นบนใบหน้าของฉือฮวนทำให้จ้าวส่วงหัวเราะเบา ๆ


หลังมื้อเที่ยง ฉือฮวนและสืออวี่ไป๋ก็จัดการธุระโดยมีจ้าวส่วงเป็นพันธมิตรจากภายนอก


แต่ละคนถือถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ในมือ ดังนั้นฉือฮวนจึงเสนอให้กลับบ้าน


แต่สืออวี่ไป๋ปฏิเสธ


"กว่าจะออกมาข้างนอกได้ครั้งหนึ่งไม่ง่ายเลย ผมอยากเที่ยวรอบ ๆ ให้ทั่วก่อน"


“จะต้องใช้เงินสักเท่าไรกัน? เราใช้เงินซื้อเสื้อผ้าหมดแล้ว ยังไงก็ต้องประหยัดแล้วนะ”


ฉือฮวนรู้สึกเสียดายเงิน


“จะกลัวอะไร? คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินนี่?”


สืออวี่ไป๋แหย่เล่น


หูของฉือฮวนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ


หลังจากปักหลักอยู่ในโรงแรมเล็ก ๆ และเก็บเสื้อผ้าล็อกกุญแจไว้ในห้อง ฉือฮวนก็ออกมาเที่ยวเล่นกับสืออวี่ไป๋เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอเกิดใหม่


ในเวลาเพียงสองวัน พวกเขาก็ทานอาหารกวางตุ้งทุกร้านในบริเวณใกล้เคียงหมดแล้ว


ก่อนเดินทางกลับยังซื้อขนมพิเศษมากมาย


ระหว่างทางกลับ ฉือฮวนยังคงระแวงเมื่อนึกถึงการเผชิญกับพวกค้ามนุษย์ก่อนหน้านี้


“โชคดีมากที่คุณมาทัน ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะอยู่บนภูเขาตอนนี้ ถูกทุบตี เตะ และบังคับให้เป็นเมียใครสักคน”


"ไม่มีทาง"


ทันใดนั้นดวงตาของสืออวี่ไป๋ก็หม่นลง เขาจับมือเธอไว้แน่น


ฉือฮวนประหลาดใจ "หืม?"


หูของสืออวี่ไป๋เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยที่เขาไม่ได้พูดอะไร เขามองเธออย่างเคร่งขรึม "ผมจะไม่ปล่อยให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับคุณ"


ฉือฮวนมองไปที่ใบหูสีแดงของเขา และอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้า "คุณจะปกป้องฉันใช่ไหม?"


สืออวี่ไป๋มองท่าทางขี้เล่นของเธอและดีดหน้าผากอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างอดไม่ได้


เมื่อสบตากัน บรรยากาศก็หวานชื่นและพร่าเลือน


ฉือฮวนเป็นฝ่ายหยอกเย้าก่อน แต่ก็เป็นคนแรกที่ทนไม่ไหว เธอเบือนหน้าอย่างเขินอายและเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว


หลังจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อย พอถึงอำเภอก็วางสิ่งของของพวกเขาลง ก่อนฉือฮวนและสืออวี่ไป๋จะตรงไปที่หมู่บ้านเกาซาน


จากระยะไกล เธอเห็นสือเยี่ยนนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของแม่ฉือ


เมื่อแม่ฉือเห็นฉือฮวนและสืออวี่ไป๋กลับมา เธอก็รีบยื่นมือปลุกสือเยี่ยน พอเห็นฉือฮวนแล้ว ดวงตาของสือเยี่ยนก็เป็นประกาย เขาอ้าแขนป้อม ๆ เพื่อกอดเธอจากระยะไกล


“แม่กลับมาแล้ว!”


"แม่ อุ้ม!"


ขาสั้นสองข้างของสือเยี่ยนสะบัดจากอ้อมแขนของคุณยายอย่างกังวล คอยื่นชะเง้อหาแม่


ฉือฮวนรีบเข้าโอบรับตัวเด็กชายอย่างรวดเร็ว ราวกับมีไฟลุกลาม


แม่ฉือรู้สึกขบขันมาก


“ดูเจ้าตัวเล็กนี่สิ คิดถึงแม่เขามาก ในที่สุดพวกลูกก็กลับมาแล้ว”


ในขณะที่พูด สืออวี่ไป๋ก็มาอยู่ตรงหน้า


ร่างที่มีรูปร่างคล้ายภูเขากั้นอยู่ตรงหน้าเธอทำให้เกิดความรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง แม่ฉือสะดุ้ง เมื่อเห็นใบหน้าของสืออวี่ไป๋ เธอเกือบจะคิดว่าจำคนผิดแล้ว


ไม่ได้เจอกันหลายวัน ทำไมรู้สึกว่าสืออวี่ไป๋เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?


“อวี่...อวี่ไป๋ เธอกลับมาแล้ว”


แม่ฉือกล่าวทักทายอย่างตะกุกตะกัก


เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลูกสาวทำ เธอก็ไม่กล้ามองหน้าสืออวี่ไป๋


"คุณแม่"


สืออวี่ไป๋กล่าวทักทายอย่างเย็นชา


“เอ้อ! เดินทางกลับมาเหนื่อย ๆ คงจะหิวแล้ว พ่อขอให้แม่เตรียมอาหารไว้ คืนนี้จะกินข้าวที่บ้านนี้ก็ได้”


"ครับ/ค่ะ"


เสียงหลายคนพูดคุยกันทำให้พ่อฉือที่อยู่ในบ้านตกใจ พ่อของฉือฮวนชื่อฉือโหย่วจิน เขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านเกาซาน รูปลักษณ์สง่าผ่าเผย ร่างสูงใหญ่ทำให้ผู้คนรู้สึกปลอดภัยมากเมื่อเขายืนอยู่ที่นั่น


“อวี่ไป๋กลับมาแล้วเหรอ รีบเข้ามาเร็ว วันนี้เราพ่อลูกจะดื่มอะไรอร่อย ๆ กัน”


เมื่อเห็นฉือโหย่วจิน รอยยิ้มบนใบหน้าของสืออวี่ไป๋ก็จริงใจขึ้นหน่อย


"ได้ครับ"


เมื่อเข้าไปในบ้าน ฉือฮวนพบว่ายังมีพี่ชายคนรองกับพี่สะใภ้รอง พี่ชายคนรอง ฉือเฉิ่งแต่งงานกับจางเสี่ยวเชี่ยวซึ่งเป็นสาวสวยจากหมู่บ้านเดียวกัน


จางเสี่ยวเชี่ยวไม่ได้ตามจีบง่าย ๆ ฉือเฉิ่งจีบเธอมาหลายปีกว่าจะติด ดังนั้นทั้งสองจึงแต่งงานช้าและยังไม่มีลูก


เมื่ออาหารขึ้นโต๊ะ ชายทั้งสามก็ดื่มไปคุยกันไปอย่างรื่นเริง


จางเสี่ยวเชี่ยวมีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าพวกเขาไปกวางตุ้ง เธอถามฉือฮวนไม่หยุด


“แม่บอกว่าจะขายเสื้อผ้าเหรอ? ได้ยินมาว่าตลาดกลางคืนในอำเภอถูกห้าม พวกเธอไม่โดนเอี่ยวเหรอ?”


จริง ๆ แล้วจางเสี่ยวเชี่ยวพยายามสืบความอ้อม ๆ


บ้านพ่อแม่ของเธออยู่ติดกับบ้านของเฉิงจื่อเฉียน จึงได้ยินได้ฟังความเคลื่อนไหวจากที่นั่น ทำให้รู้คร่าว ๆ ว่าเฉิงจื่อเฉียนแจ้งความเรื่องนี้ แต่กลับเสียรู้ไม่ได้ความอะไร


ใบหน้าของฉือฮวนแดงก่ำ


เธอเข้าใจว่าจางเสี่ยวเชี่ยวหมายถึงอะไร ก่อนหน้านี้เธอคิดแต่เรื่องเฉิงจื่อเฉียน เธอจึงขอให้จางเสี่ยวเชี่ยวสืบเรื่องตระกูลเฉิงอยู่หลายครั้ง


แม่เฉิงคงขอให้จางเสี่ยวเชี่ยวลองสืบเรื่องจากเธอ


“ไม่เป็นไรค่ะ วันนั้นเราปิดร้านเร็ว”


แม่ฉือได้ยินดังนั้นก็ย่นหน้าแสดงความไม่พอใจ


“ตลาดกลางคืนถูกยกเลิก ทำไมลูกยังต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่กวางตุ้งอีก หัวกระแทกจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง?”


ฉือฮวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แม่ของเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเหน็บแนมจริง ๆ


“แม่ ไม่ต้องห่วง หนูมีช่องทางขายอื่นด้วย”


เธอเหลือบมองจางเสี่ยวเชี่ยวที่กำลังจะขัดแล้วพูดว่า "และเราได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจแล้ว ดังนั้นเราจึงไม่กลัวการโดนตรวจค้น"


ดวงตาของจางเสี่ยวเชี่ยวเบิกกว้างทันที


“ฮวนฮวน เธอขายเสื้อผ้าที่ไหน?”


“ฉันมีช่องทางของตัวเองค่ะ”


ฉือฮวนยิ้มเล็กน้อย จากนั้นลุกขึ้นและหยิบของขวัญสำหรับครอบครัวออกจากกระเป๋า


อย่างแรกคือ ติ่มซำกวางตุ้ง เค้กเกาลัดกะทิหนึ่งห่อ


แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับโต๊ะดื่มของผู้ชาย และอีกส่วนหนึ่งสำหรับโต๊ะของว่างของผู้หญิง


จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าที่นำมาให้จางเสี่ยวเชี่ยวและแม่ฉือออกมา


“พี่สะใภ้รอง ฉันซื้อกางเกงขาบานและกระโปรงมาให้ตามแบบที่พี่ชอบ ไม่รู้ว่าพี่จะถูกใจหรือเปล่า”


ทันทีที่ฉือฮวนหยิบของออกมา จางเสี่ยวเชี่ยวก็จ้องมองมันไม่วางตา


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว