ขอกลับมาอีกครั้ง-ตอนที่ 2 เริ่มต้นใหม่

โดย  ยักษ์โข่ง

ขอกลับมาอีกครั้ง

ตอนที่ 2 เริ่มต้นใหม่

“อือ... เสี่ยขา... อา...แรงอีกสิคะ...ซี้ด...” เสียงกระเส่าเร่าร้อนของนัทธมนดังลั่นห้องนอนใหญ่ หญิงสาวนั่งคลานสี่ขาในขณะที่ร่างกำยำของรงค์ยังคงกระแทกท่อนกายใหญ่ลงไปในร่องสวาทฉ่ำเยิ้มอย่างไม่ยั้ง สองมือหนาของชายหนุ่มบีบจับสะโพกขาวเนียนอย่างเมามัน

“ซี้ด... แน่นจริง ๆ... ตอดแรงอย่างนี้ต้องให้รางวัล... อา...” เสี่ยหนุ่มครางชมเชยแล้วชักแก่นกายออกมาจนเกือบสุดก่อนจะกระแทกลงไปเน้น ๆ อีกหลายครั้งจนนัทธมนทรุดตัวลงไปนอนราบกับเตียงนุ่ม ตัวกระตุกถี่ด้วยความสุขสม แต่เมื่อเสี่ยหนุ่มยังไม่เสร็จสมเขาจึงใช้มือหนายกสะโพกขาวลอยขึ้นมาแล้วกระแทกกระทั้นอาวุธร้ายเข้าไปอีกหลายครั้ง เอวสอบทำงานอย่างหนักจนในที่สุดลำเอ็นในช่องรักก็กระตุกตุ๊บ ๆ ก่อนที่จะพ่นน้ำคาวสีขาวขุ่นออกมาเต็มร่องสวาท ทำเอานัทธมนร้อนวาบในช่องท้อง

เมื่อเสี่ยรงค์เสร็จสมตามคู่นอนไป ก็ล้มกายลงทาบทับหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้าอยู่ นัทธมนพยายามพลิกหน้าขึ้นมาหวังจะจูบประโลมผัวรัก

“หยุด ! อย่าหันหน้าขึ้นมา ! ก้มหน้าลงไปจนกว่าฉันจะเสร็จอีกรอบ !” รงค์สั่งวาจาดุดัน ทำเอานัทธมนงุนงงการการกระทำของสามี ไม่รู้ว่าเกิดคึกอะไรจะต่อรอบสองแต่กลับไม่ยอมให้เธอมองหน้า

รงค์พลิกตัวนอนตะแคง ช้อนร่างบางของนัทธมนให้หันหลังชนกับอกแกร่ง จากนั้นใช้มือใหญ่ยกขาเรียวข้างหนึ่งของหญิงสาวขึ้นก่อนที่จะอัดแก่นกายที่ยังชูแข็งเข้าไปในร่องสวาทอีกครั้ง

ปี๊ก !

“อ๊า... เสี่ยขา... เบา ๆ หน่อยสิคะ...”

เขาเสียบแทงอาวุธร้ายเข้าไปจนมิดลำ ทำเอานัทธมนสะดุ้งตัวโยน ชายหนุ่มอยากระบายความกระสันอยากที่มีตั้งแต่พบหน้าปุษยะ ทั้งหน้าตา ทรวดทรงองค์เอว รวมถึงกิริยาถือตัวของหญิงสาวทำให้เขาเกิดความคะนึงหาและใคร่ได้อย่างประหลาด

ในขณะที่เขากำลังซอยแก่นกายเข้าออกร่องตีบแคบของนัทธมนอยู่นั้น ในหัวกลับจินตนาการว่ากำลังกระแทกบั้นเอวเข้าสู่ร่องรักของปุษยะอยู่ทำให้มีแรงกระแทกลงไปไม่ยั้งจนในที่สุดทั้งตัวเขาและร่างเล็กในอ้อมแขนก็เสร็จสมไปพร้อมกันอีกรอบ

ชายหนุ่มกอดกระหวัดร่างเล็กเข้าแนบอก พยายามไม่คิดว่าในอ้อมกอดของเขาคือนัทธมน มโนภาพเอาว่าร่างเล็กในวงแขนคือหญิงที่เขาปรารถนาในตอนนี้...ปุษยะ

“เมื่อไหร่เสี่ยจะจดทะเบียนกับนัทเสียทีคะ ? นี่ตาภูมิก็สี่ขวบเข้าไปแล้ว... เสี่ยแค่จดรับรองบุตร แต่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส เสี่ยจะให้นัทอยู่ในบ้านนี้ในฐานะอะไรกันแน่คะ ?” นัทธมนแกล้งถามด้วยน้ำเสียงแง่งอน เธอหมายใจเอาไว้ว่าจะปรนเปรอคู่รักจนสุขสมจากนั้นออดอ้อนขอเรื่องจดทะเบียนเสียหน่อย

หญิงสาวและลูกได้เข้ามาอยู่ในบ้านใหญ่ในฐานะเมียอีกคนของเสี่ยรงค์มาเป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้ว แต่นอกจากเสี่ยจะไม่ยอมจดทะเบียนกับเธอแล้ว เสี่ยก็ยังเก็บดาวเด่นเอาไว้เป็นเมียอีกคน ไม่ยอมไล่ออกจากบ้านอีกด้วย

ตอนนี้น้องภูมิ หรือภูมินทร์ ลูกชายของเธอเติบโตขึ้นทุกวัน แค่อาชีพนางแบบเกรดรอง พริตตี้ และเงินเดือนที่เสี่ยรงค์ให้เธอเหมือนจะไม่ปลอดภัยพอสำหรับอนาคตของเธอเสียแล้ว ตัวเธอเองเมื่อคลอดภูมินทร์เสร็จก็ไม่ได้กลับไปเรียนต่อทำให้วุฒิที่มีจบอยู่ที่ม. 6 หางานอื่นทำคงยาก ทางที่ดีหากเธอได้ทะเบียนสมรสมาครอบครองและอยู่ในฐานะเมียหลวง เธอก็คงไม่ต้องกลัวว่าวันข้างหน้ารงค์จะทิ้งเธอไปง่าย ๆ หรือหากเธอเบื่อเสี่ยขึ้นมา เวลาหาเรื่องหย่า อย่างน้อยเธอจะได้มีสมบัติติดตัวไปบ้าง

“นัท... ฉันบอกตั้งไม่รู้กี่หนแล้ว ฉันรักลูก รักเธอ แต่เรื่องจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับมาก หากฉันยังไม่แน่ใจ ฉันก็ไม่อยากจะจดทะเบียนสมรสกับใครทั้งนั้น” รงค์บอกหญิงสาวเสียงเรียบ เขาเคยคิดว่าหญิงสาวเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของเขา แต่ตอนนี้นัทธมนพ่วงตำแหน่งแม่ของลูกเข้าไปด้วย แถมเรื่องบนเตียงที่ร้อนแรงก็ทำให้เขายังเอ็นดูในตัวเธอมากอยู่ แต่จะให้จดทะเบียนสมรส... นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ถ้าเสี่ยยังไม่ยอมจดทะเบียน นัทจะเอาลูกไปอยู่ที่อื่นนะ อย่างไรเสียสิทธิ์ในการปกครองก็เป็นของนัทคนเดียว” หญิงสาวแสร้งทำแง่งอนแล้วอ้างจะเอาลูกหนี ทั้ง ๆ ที่ทุกวันนี้คนเลี้ยงดูภูมินทร์คือดาวเด่น เมียอีกคนของรงค์เสียมากกว่า เพราะวัน ๆ นัทธมนก็เตร็ดเตร่เที่ยวผับบาร์ ออกไปทำงานถ่ายแบบบ้าง พอให้เจอผู้คนและมีสังคมไฮโซกับเขาพอหอมปากหอมคอ

“เอาลูกไปอยู่ที่อื่นแล้วใครจะดูแลตาภูมิ ทุกวันนี้ดาวก็เป็นคนเลี้ยงจนตาภูมิติดแจมากกว่าแม่จริง ๆ เสียอีก ถ้านัทเอาตาภูมิไป นัทนั่นแหละจะลำบาก” รงค์ขู่ เขารักลูกก็จริง ยิ่งตอนภูมินทร์คลอดใหม่ ๆ ยิ่งเห่อลูกชาย แต่พอนานวัน เรื่องบนเตียงก็เหมือนยาเสพติดที่ทำให้เขาต้องหวนกลับไปติดจนหลงระเริงลืมลูกลืมเมียอีกครั้ง

ดีหน่อยที่ตรงทั้งดาวเด่นและนัทธมนรู้นิสัยเขาดี เวลารงค์แอบไปมีสาว ๆ ข้างนอกก็ไม่เคยโวยวายให้เขารำคาญใจ เขาจึงชุบเลี้ยงทั้งคู่เป็นเมียในบ้านแม้จะยังไม่ยอมปลงใจจดทะเบียนกับใครเสียที

“หรือว่าเสี่ยแอบมีอีหนูคนใหม่อีกแล้วคะ ? เลยลังเลไม่ยอมจดทะเบียนกับนัทเสียที” นัทธมนทำท่างอน ยื่นปากน้อย ๆ ออกมาเหมือนตัวเองเป็นเด็กสาววัยใส

“ถึงฉันมีสาวอื่นจริงก็ใช่ว่าฉันจะจดทะเบียนกับเขานี่...” เสี่ยหนุ่มตอบ

“ให้มันจริงเถอะคะ” นัทธมนพูดน้ำเสียงยังติดแง่งอนอยู่

...ก็อาจจะไม่จริง เพราะตอนนี้ในใจของรงค์กลับมีแต่ภาพผู้หญิงที่ชื่อปุษยะติดอยู่ในหัว เหมือนรักแรกพบ อยากจะได้เธอมาครอบครองใจแทบขาด ถึงต้องแลกกับทะเบียนสมรสก็ยอม



หน้าร้านขนมไทยเล็ก ๆ มีรถยนต์จอดเรียงรายอยู่ 2 -3 คัน รงค์เลี้ยวรถซุปเปอร์คาร์สีดำคันโก้เข้ามาจอดหน้าร้าน เขาให้ลูกน้องไปสืบประวัติปุษยะมาเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันข้ามวันเขาก็รู้ประวัติโดยคร่าวของหญิงสาวรวมถึงที่อยู่อาศัยด้วย

บิดามารดาของปุษยะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอจึงเติบโตขึ้นมากับคุณยายที่ชื่อบัว เป็นเจ้าของร้านขนมไทยเก่าแก่ ฐานะแม้ไม่ถึงกับยากจนข้นแค้น แต่ก็ไม่ได้ดีเลอเลิศ เรียกว่าแค่พอมีพอกิน ขัดสนนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับอนาถา หญิงสาวเรียนจบคณะนิเทศพร้อมกับเพื่อนรักตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างเพียงผกา ทำให้ทั้งบ้านของเพียงผกาและปุษยะสนิทสนมกันพอสมควร ตอนนี้ปุษยะอายุ 25 ห่างจากเขาถึง 10 ปี ทำงานเป็นช่างภาพ เธอเพิ่งหมดสัญญากับบริษัทต่างชาติและกลับมาถึงไทยได้แค่ไม่กี่วัน ตอนนี้อยู่ในช่วงพักผ่อน และแน่นอนว่าในช่วงแรกหญิงสาวมักคลุกอยู่กับยายที่ร้านขนมทุกวัน รงค์จึงฉวยโอกาสนี้มาทำความรู้จักกับหญิงสาวและยายของเธอที่ร้านไปด้วย

รงค์ในชุดสูทลำลองสีเทาเข้มพร้อมสร้อยทองเส้นเขื่องที่คอเดินเข้าไปในร้านขนมเล็ก ๆ ทันทีที่เข้าไปก็กวาดสายตาไปทั่วร้านจนเห็นร่างแบบบางของปุษยะยืนคีบขนมกลีบลำดวนจากถาดจัดลงไปในโหลแก้ว รงค์เดินเข้าไปใกล้ ๆ ทางด้านหลัง จนได้กลิ่นเหมือนควันอบขนมหอมละมุนโชยมาจากกายของหญิงสาว

“คุณปูนครับ !” รงค์เรียกหญิงสาวใกล้ชิดที่ใบหู ทำเอาปุษยะสะดุ้งแล้วหันมาปะทะกับอกแกร่งของรงค์ หญิงสาวตกใจอีกต่อจนผงะล้มไปทางด้านหลัง ชายหนุ่มจึงรีบเอามือประคองไปที่หลังบางแล้วโอบอุ้มมาแนบอก ออกจะเกินควรไปหน่อยสำหรับการช่วยหญิงสาวที่กำลังจะล้ม แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในลูกไม้แพรวพราวที่รงค์ใช้หลอกล่อสาวน้อยสาวใหญ่อยู่เป็นประจำ

พอปุษยะทรงตัวได้ก็รีบผละออกจากอกกว้างของชายหนุ่ม

“เออ... สวัสดีค่ะคุณรงค์ คุณรงค์มาที่นี่ได้อย่างไรกันคะ ?” ปุษยะเห็นชายหนุ่มก็ถามออกมาด้วยความสงสัย พี่พู่บอกว่ารงค์สนใจเธออยู่มากโข เห็นจะไม่ใช่เรื่องเกินจริง

“อ้อ... อืม... คือ... ผมจะต้องหาขนมไทยไปเยี่ยมลูกค้าน่ะครับ เหมือนได้ยินคุณน้ำบอกว่าคุณปูนมีร้านขนมไทย เลยแวะมาดู ร้านน่ารักดีนะครับ” ชายหนุ่มหาเรื่องมาคุยกับหญิงสาวจนได้

“อ้อ... ค่ะ อยากได้ขนมประเภทไหนละคะ ? ให้จัดเป็นกระจาดเลยไหมคะ ? ฉันจะได้ช่วยจัดให้” ปุษยะตีหน้านิ่งแล้วถามเสียงเป็นการเป็นงาน พยายามไว้ตัวมากที่สุด รงค์จะได้ไม่คิดเลยเถิดว่าเธอให้ท่า ถึงภูตลาจะมอบหมายหน้าที่ให้เธอหลอกล่อชายหนุ่มจนเขาหลงใหล แต่ให้ทำอย่างไร เธอก็ทำไม่เป็น

“ผมว่าผมสั่งอะไรมานั่งกินหน่อยแล้วคุณปูนมานั่งแนะนำผมได้ไหมครับ ? ผมจะได้ตัดสินใจถูก อีกอย่างต่อไปนี้ผมจะได้มาสั่งกระเช้าขนมของที่นี่ให้ลูกค้าประจำเลย” รงค์ยกเรื่องการซื้อขนมมาเป็นข้ออ้าง แค่นี้เขาก็หาเรื่องมาเจอปุษยะได้ทุกวันแล้ว

ปุษยะยิ้มอ่อน เดินไปสั่งขนมกับพนักงานแล้วพารงค์ออกไปนั่งโต๊ะด้านนอกในสวนน้อย รงค์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจีบหญิงหาเรื่องมาคุยกับหญิงสาวไปได้เรื่อย ๆ แม้ปุษยะจะไม่ได้ชอบพอชายหนุ่มสักเท่าไหร่ แต่เมื่อรงค์วางตัวดี ไม่รุ่มร่ามเหมือนคืนแรกที่เจอ หญิงสาวก็ไม่ได้ตั้งป้อมเกลียดชายหนุ่มนัก

“ถามจริง ๆ นะคะ... นี่คุณรงค์มาจีบฉันหรือเปล่า ?” ปุษยะไม่อยากให้มีเรื่องค้างคา และอยากรู้ว่าที่ภูตลาพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ เธอจึงตัดสินใจถามเสี่ยหนุ่มไปตรง ๆ

“เออ... ก็ใช่ครับ” รงค์จึงตอบตรง ๆ เช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นก็หยุดเถอะค่ะ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน” หญิงสาวตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หากรงค์ยังมาติดนัวพัวพันอยู่กับเธอ ภูตลาก็คงต้องมาเกลี้ยกล่อมให้เธอช่วยเขา เธอเองก็เกรงว่าจะใจอ่อนช่วยเขาจนได้ ถึงตอนนั้นนอกจากจะต้องหลอกรงค์แล้ว โอกาสเสียใจให้กับภูตลา และเสียตัวให้กับรงค์ก็มีสูงมาก

“ยิ่งคุณปูนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ผมก็ยิ่งอยากลอง อะไรที่ผมอยากได้ ผมก็ต้องได้ ถ้าไม่เชื่อคุณปูนก็คอยดู” รงค์กล่าวอย่างหมายมาดแล้วส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับหญิงสาว ทำเอาปุษยะถึงกับขนลุกเกรียว

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว