เงากลางทรวง-ตอนที่ 6 สัญญาพิศวาส

โดย  วนาลักษณ์ ลาเวีย บรรพกาล นักเขียน

เงากลางทรวง

ตอนที่ 6 สัญญาพิศวาส

ฝากลูกสาวผมด้วยนะ

“ดาโซ! ผมไม่รู้จักคนที่ชื่อนี้ ลุงมาทักคนผิดแล้วแหละ”

ผู้ชายแปลกหน้ายิ้มให้ผม เขาดูเป็นคนสุขุมมาดดี

“ถ้าคุณชื่อแจสเปอร์ ผมก็มาหาไม่ผิดคนแน่”

การพูดคุยของเราถูกขัดจังหวะจากพนักงานที่เดินเอากาแฟมาเสิร์ฟ เขาสอดมือประสานกันแล้ววางไว้บนโต๊ะ ชายคนนั้นพยักหน้าให้ผมเล็กน้อยเป็นเชิงให้ผมดื่มกาแฟที่เพิ่งวางลง

“ใช่ ผมชื่อแจสเปอร์ แต่ผมไม่รู้จักดาโซอะไรที่ลุงพูดถึงหรอกนะ”

เขากระตุกยิ้มมุมปาก

“ผมนี่ก็เสียมารยาทจังเลยนะครับต้องขอโทษจริงๆ ก่อนอื่นผมควรแนะนำตัวกับคุณก่อนถึงจะถูกชื่อของผมคือ แทฮัน” เขาดูสุภาพอ่อนน้อมมากจนเกินงามในความรู้สึกของผม แต่มีบางอย่างของผู้ชายคนนี้ซึ่งดูไม่ธรรมดาเอาเสียเลย

“ครับ”

ผมตอบสั้นๆ หลังจากวางแก้วกาแฟ และให้ความสนใจกับชายที่แนะนำตัวว่าเขาชื่อแทฮัน ชื่อนี้มันน่าจะเป็นชื่อของคนเกาหลีหรือไม่ก็คนญี่ปุ่นสินะ

“ดาโซคือชื่อที่ผมเรียกลูกสาวของผมในเกาหลีเราเรียกเธอว่าดาโซ แต่ตอนอยู่ในเมืองไทยเธอใช้ชื่อว่ามินนี่” ลูกผู้ชายต่างวัยสองคนมองสบตากัน ผมอึ้งกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

อะไรวะ! ทำไมพอได้ยินชื่อมินนี่ขึ้นมาผมรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาทันทีเหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่หน้าอก

เฮ้ย! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ตาลุงคนนี้เพิ่งบอกกับผมว่าเขาเป็นพ่อของยัยมินนี่งั้นเหรอ…

“เดี๋ยวนะลุง คือถ้าลุงจะมาตามลูกสาวก็เอาไปได้เลย ผมไม่ได้ลักพาตัวเธอมากักขังหน่วงเหนี่ยวหรือทำอะไรไม่ดีเลยนะ เธอมาขออาศัยอยู่กับผม ผมก็แค่ช่วยเธอ”

คิดจะพูดอีกอย่างแต่ด้วยความตื่นเต้นมันเสือกพูดออกไปอีกอย่าง ให้ตายเหอะ ใจเย็นหน่อยแจสเปอร์ ผู้ชายตรงหน้าของแกเค้าก็แค่เป็นพ่อของยัยมินนี่

“เอ่อ ลุงเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”

ตาลุงหน้าตาโคตรจะนิ่งจนผมไม่รู้ความรู้สึกนึกคิดว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ และนั่นยิ่งทำให้ผมหวาดระแวง ผมมองไปยังส่วนต่างๆ ตามร่างกายของแกเพื่อดูว่าแกจะพกปืนหรือว่ามีดติดตัวมาด้วยเหรอเปล่า ลำพังชกต่อยกับผู้ชายอายุขนาดนี้ผมคิดว่าคงล้มลุงได้ไม่ยากแต่หากแกพกอาวุธเป็นเครื่องทุนแรงมาด้วยความเสี่ยงของผมก็จะมากหน่อย

เฮ้ย แกเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อสูทตัวนอก ขณะที่จ้องหน้าผมตาไม่กะพริบ นี่มันแววตาของเพชฌฆาตชัดๆ อย่าบอกนะว่าจะฆ่าผมทิ้งในร้านกาแฟกลางวันแสกๆ แบบนี้ นักฆ่าในหนังเกาหลีที่ผมเคยดูส่วนมากก็จะมาดเข็มและดูสุภาพแบบตาลุงนี่แหละ

“ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณ”

เขาควักกระดาษซึ่งน่าจะเป็นซองจดหมายออกมา ผมพ่นลมออกจากปาก

“คุณช่วยนำจดหมายฉบับนี้มอบให้กับดาโซหน่อยได้ไหมครับ ได้โปรด”

ลุงแทฮันก้มหัวลงให้ผม

“แล้วทำไมลุงไม่เอาไปให้ลูกสาวเองล่ะ มินนี่น่าจะดีใจที่ได้เจอลุงนะ”

“ผมทำเรื่องผิดกับเธอครับ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะไปพบหน้าเธอ ผมเป็นพ่อที่แย่มาก”

ผมเผลอถอนหายใจออกมาแรงๆ ไอ้ความรู้สึกระหว่างพ่อกับลูกนี้มันเสมือนหนามแหลมที่ตำเนื้อผมอยู่ตลอดเวลา เพราะผมกับพ่อตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่เราก็ไม่เคยลงรอยกันเลยในทุกๆ เรื่อง

“ผมขอร้องเถอะนะครับ กรุณามอบจดหมายฉบับนี้ให้กับดาโซแทนผมด้วย”

ตาลุงแทฮันวางจดหมายลงบนโต๊ะ ผมเอื้อมมือไปวางบนซองจดหมายแล้วลากมันเข้ามาตรงหน้า

“แล้วลุงไม่คิดจะไปพบหน้าเธอเหรอ พูดกับเธอเหมือนที่ลุงบอกกับผม”

“ผมยังทำไม่ได้ในตอนนี้ครับ ดาโซเธอเป็นเด็กดี ผมเชื่อว่าเธอคงเลือกคนไม่ผิดหากเธอเลือกที่จะอยู่กับคุณก็แสดงว่าเธอเห็นว่าคุณเป็นคนดี ที่เธอสามารถจะฝากชีวิตเอาไว้ได้ ผมฝากดูแลเธอแทนผมด้วยนะครับคุณแจสเปอร์ถือซะว่าเป็นคำขอจากพ่อแย่ๆ คนหนึ่ง”

ไปกันใหญ่แล้ว… ผมไม่ใช่คนดีนะลุง ผมคุมผับคุมบาร์ ดูแลโต๊ะพนัน ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซ้อมคนเบี้ยวหนี้ และลูกสาวลุงก็ไม่เลือกอะไรผมเลยด้วยตอนนั้นเธอแค่ต้องการที่ซุกหัวนอนแค่นั้นเอง แล้วผมก็ดันอยู่ตรงนั้นพอดี

“อะไรลุง จู่ๆ จะมาฝากลูกสาวกับผมเนี่ยนะ ที่พูดถึงเนี่ยลูกสาวของลุงนะทำไมไม่ดูแลเธอเอง”

ตาลุงแทฮันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เขาขมวดคิ้วมุ่น

“คุณแจสเปอร์ครับเวลาของผมหมดแล้ว ผมเชื่อว่าคุณเป็นลูกผู้ชายที่ดีและจะดูแลดาโซได้ดีกว่าใคร ลาก่อนครับ”

“อ้าวเดี๋ยวสิครับจะไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอลุง เฮ้ย”

ตาลุงแทฮันลุกขึ้นโค้งตัวให้ผมแล้วรีบเดินออกไปจากร้านกาแฟทันที ผมมองตามเขาไปพอพ้นจากประตูร้านผมเห็นชายสองคนแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเข้มเข้ามาประกบลุงแทฮัน ขนาบซ้ายขวาพาเขาเดินไปขึ้นรถยนต์คันหนึ่งที่จอดรออยู่ แล้วรถยนต์คันนั้นก็แล่นออกไป

ผมยกมือสองข้างขึ้นกุมหัวตัวเองมองไปยังจดหมายฉบับนั้น หน้าซองมันเขียนด้วยภาษาที่ผมอ่านไม่ออก แทบไม่ต้องเดาเลยว่าถ้าผมแกะซองจดหมายออกแล้วเอามาดูข้อความด้านในก็คงเปล่าประโยชน์เช่นกัน

“มินนี่ ดาโซ”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว