เสน่ห์ร้อนเทพบุตรเถื่อน-บทที่ 7 มนตร์รักพ่ายหัวใจ 100 เปอร์เซ็นต์

โดย  นารี/รังรอง/รีณาวดี

เสน่ห์ร้อนเทพบุตรเถื่อน

บทที่ 7 มนตร์รักพ่ายหัวใจ 100 เปอร์เซ็นต์


แก่นกลาง...อักษะ ๓

...

ฉันขึงตามองดูแขนล่ำที่ยื่นมาเท้าบานประตูขวางทางไว้อย่างถือวิสาสะ ค่อยๆ กวาดสายตาที่ปรับให้แลดูว่างเปล่า บนใบหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเพียงมุมปากเท่านั้น ที่ฉันบังคับให้มันยกขึ้นน้อยๆ คล้ายกับมีรอยยิ้มแต้มอยู่เป็นนิจ ทำสีหน้าที่ทำให้เขาโกรธจนพุ่งพล่านได้ทุกครั้งที่ฉันทาบสายตาลงบนใบหน้าของเขา...ผู้ชายกักขฬะ

“ขอทางให้ฉันด้วยค่ะ” ถึงน้ำเสียงจะราบเรียบ ทิ้งคำลงท้ายสุภาพ หางเสียงนุ่มนวล แต่ฉันยังยอมไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของเขา ฉันรู้ว่าภายใต้หน้ากากน้ำแข็งเย็นเยือก เขากำลังร้อน หึ หึ รอให้ฉันใช้คำว่าได้โปรด...ตอกย้ำความถ่อมตัวจอมปลอมที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อยั่วเขาโดยเฉพาะเสียก่อนเถิด เขาจะกลายเป็นภูเขาไฟมหึมา ระเบิดลาวาพ่นพระเพลิง สำแดงความหยาบคายที่ซ่อนไว้ใต้รูปงาม

“ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะแตะต้องเธอหรอก มาเบล วันนี้ฉันนึกอยากเปลี่ยนตัวแสดงบ้าง เบื่อพวกเสเสร้งทำเป็นไม่รู้ภาษา ทั้งที่...หึหึ ผ่านมาแล้วอย่างโชกโชน”

“ถ้าอย่างนั้น คุณก็ควรจะรีบหลีกให้ฉันไปให้พ้นทางนรกของคุณกับคู่ขาคนใหม่”

ฉันไม่เคยรักษาอุณหภูมิของอารมณ์ไว้ได้เลยสักครั้งเมื่อเขาเริ่มเยาะเย้ย อาการหลุดลอยคว้างไปกับการเร้าโลมด้วยความชำนิชำนาญของเขา ฉันเริ่มต้นด้วยการปัดป้องทุกครั้งที่เขารุกราน และจบลงด้วยการโอนอ่อนและบางครั้ง...ฉันอายที่จะยอมรับว่าฉันเป็นฝ่ายเรียกร้องและเร่งเร้าให้เขาหยาบคายกับฉัน ฉันอายที่รู้สึกเหมือนมีหิ่งห้อยนับล้านส่องสว่างวิบวับเมื่อเขาตระโบมเนื้อตัวของฉันด้วยความหิว ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เพียงสายตาเยิ่มฉ่ำไปด้วยความต้องการของเขาโลมเลียไปทั่วร่างของฉัน ราวกับว่าฉันกำลังอวดโนมเนื้อเปล่าเปลือยต่อหน้าเขา ฉันตัวสั่นด้วยความรู้สึกขยะแขยงทั้ง...ซาบซ่านระคนกัน หนอนในร่างกายของฉันกำลังถูกเขาร่ายเวทให้ดิ้นพล่าน ชอนไชจนฉันคันเนื้อตัวจนต้องเกร็งไปทั้งร่างเพื่อควบคุมตัวเองให้เชิดหน้าต่อสู้กับสายตาร้ายกาจของเขา

“ผมไม่ต้องการคนแสดง แต่ขาดคนดู คุณต้องนั่งเป็นพยานการลงนรกของผมกับไลล่า” นิ้วชี้ของเขาไล้ข้างแก้มปาดลงเชยคางของฉันให้เชิดขึ้นสบสายตากับเขา

“คุณไม่มีสิทธิมาบังคับฉันนะ อักษะ” ฉันพยายามเน้นเสียงเพื่อข่มความหวั่นไหว ...เขากับไลล่า เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ หรือ มิน่าเด็กสาวเลือดฮิบรูผิวเข้มนัยน์ตาคมนางนั้นถึงได้มองเธอด้วยสายตาจงชังตลอดเวลา

“สิทธิในตัวคุณหรือในตัวใครๆ บนเกาะนี้เป็นอยู่ในกำมือของผม แต่ผมไม่บังคับคุณหรอกนะมาเบล เพราะคุณจะสมัครใจเป็นผู้ชมด้วยตัวเอง”

“ฉันไม่มีทางช่วยให้คุณถึงจุดสุดยอดแบบวิปริตด้วยการนั่งดูคุณข่มขืนผู้หญิงหรอก คนหยาบคายกักขฬะอย่างคุณมันสมควรจะตกนรกคนเดียว”

“คุณแน่ใจหรือ มาเบล ว่าไม่อยากร่วมลงนรกกับผมและไลล่า หรือว่าคุณไม่ชอบที่เธอสวยกว่า เก่งกว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะเปลี่ยนนางเอกสำหรับคืนนี้เป็นอันนาดีไหม”

“หยุดนะอักษะ อันนายังเป็นเด็กอยู่เลยนะ ห้ามแตะต้องเธอเด็ดขาด” ฉันใจหายวาบ...ผู้ชายรูปงามคนนี้จะชั่วร้ายถึงขนาดรังแกเด็กสาวแสนบริสุทธิ์อย่างอันนาได้ลงคอเชียวหรือ แต่ดูที่เขารังแกฉันสิ เพียงเพราะความแค้น เขาทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะร้ายกาจเพียงไหน

“เข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันถึงไม่บังคับให้เธอนั่งดูฉันทำรักกับผู้หญิงอื่น แต่เธอจะนั่งดูมันอย่างเต็มใจ ใช่ไหมมาเบล”

ฉันเกลียดเขา ผู้ชายใจร้าย ผู้ชายที่ทุกท่วงท่าของเขาเต็มไปด้วยความหยาบคาย แม้กระทั่งสายตาของเขาที่ระรานเมื่อช้อนร่างของฉันไว้ในวงแขน เขามองทุกส่วนสัดของฉันด้วยสายตาที่บอกความเป็นเจ้าของ เขายึดถือว่าฉันเป็นสมบัติของเขาที่เขาจะทำอย่างไรก็ได้ จะกกกอดก่ายฉันไว้ตลอดคืน จะเค้นคลึงอกอิ่มแม้ว่ามันจะทำให้ฉันเจ็บปวด และไม่สบายตัวอย่างที่สุดกับกระแสไฟฟ้าจากปลายนิ้วแกร่งของเขาที่ซ่านไปทั่วร่าง จนฉันต้องช่วยระบายความเจ็บปวดด้วยเสียงคราง เขาจะจับ จูบ โลม เลีย หลืบซอกไหนๆ ฉันก็ไม่มีสิทธิปัดป้อง สิ่งเดียวที่ฉันทำได้แต่ดูเหมือนเขากลับชอบใจเมื่อฉันต่อต้านเขาด้วยอาการเกร็งกั้นการรุกล้ำของเขา ...ฉันไม่ใช่ทาสของคุณนะอักษะ ฉันเคยกรีดร้องใส่หน้าเขาเมื่อเขายืนยันจะรักกับฉันทุกที่ทุกนาทีที่เขาต้องการ แต่ความต้องการของเขาไม่มีที่สิ้นสุด เขาเพิ่งผละจากฉันไปเพียงชั่วอึดใจ ไฟสวาทก็ถูกลมราคะกระพือให้ลุกโชนขึ้นมาอีกจนเพียงแค่ฉันเผลอปากครวญครางเมื่อเขาทำตัวเป็นนักสำรวจผู้ไม่กริ่งเกรงโขดเขินเนินไศล

...แต่คุณเป็นทาสของอักษะ... เขาแอ่นกายแสดงตัวเป็นเจ้าผู้แข็งแกร่งและเข้าครอบครองฉันอย่างองอาจ...ใช่ฉันไม่ได้เป็นทาสของเขา ทว่าฉันไม่อาจจะปฏิเสธความแกร่งกล้าของอักษะ ฉันยังไม่กล้าหาญพอจะต่อต้าน มันร้ายยิ่งกว่างูตรงที่ยังไม่พ่นพิษก็ทำให้ฉันต้องหวาดหวั่นหวีดร้องตั้งแต่ตอนแผ่แม่เบี้ย

ฉันยอมให้เขาวางฉันลงบนโซฟา แล้วรีบผลักเขาออกเมื่อเขาทำท่าเหมือนจะประทับตรายกฐานะของฉันจากผู้ชมมาเป็นนักแสดงรับเชิญในหนังรักนรกๆ ของเขากับไลล่า ฉันโชคดีที่เสียงกลองรัวขึ้นพร้อมกับสะโพกมหึมาของสาวฮิบรูย้ายยักเข้ามาในห้องก่อนที่เขาจะล่วงรู้ความลับของฉัน เขาถอนมือจากการสำรวจดินแดนที่เขาอ้างตัวเป็นเจ้าของก่อนที่จะได้พบว่ามันฉ่ำชื้นชุ่มเหมาะแก่การปักกล้าหว่านไถ

“ไลล่า” อักษะกางแขนออกรับร่างเพรียวที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติของความเป็นหญิง ไล่ล่าเพียงปรายตามองดูฉันแล้วฉีกยิ้มอย่างผู้กำชัยชนะ เมื่อร่างเต็มมือของหล่อนจมหายไปในอ้อมกอดของอักษะ ทว่าจมูกโด่งและริมฝีปากชุ่มของเขากับหายลับไประหว่างก้อนเนื้อนุ่มตึงเต่ง หลังจากที่ได้ดื่มกินเช่นทารกหิวกระหาย สะโพกกลมกลึงของไลล่ายังคงยักย้าย เสียดสีกับเรือนกายของอักษะที่อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายบนกายเขาไม่อาจปกปิดความแข็งแกร่ง

ฉันเห็นสองมือของเขาตะบบเนื้อหนั่นบั้นท้ายไลล่าเมื่อตอนที่เขาทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าเธอ แต่กลับเป็นตัวฉันที่สะดุ้งเฮือกราวกับเป็นเจ้าบั้นท้ายที่เขาขยำแล้วฝังจมูกลงบนเนินน้อยปูหญ้านุ่ม

โอ...เขาก็เหมือนกับภุมรินที่แม้จะเชยชมดอมดูดน้ำหวานจากดอกบัวตูมแล้วก็ยังไม่อิ่มหนำ ถูกบัวบานฉ่ำน้ำผลิกลีบอ้ารอคอยเย้ายวนให้เชยชมอย่างโงหัวไม่ขึ้น ฉันปวดใจที่เห็นเขาเฝ้าชมเชยไลล่าครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วฉันก็เจ็บตัวเส้นสายทั่วร่างเกร็งแน่น จิกเล็บลงบนหน้าขาตัวเองจนห้อเลือดเพื่อนสะกดกลั้นเสียงกรี๊ด เสียงที่ฉันเกรงว่าหากหลุดออกมามันจะเป็นเสียงเช่นไรกันแน่ โหยหวนด้วยความทุกข์ หรือเสียงกระเส่าด้วยความสุข


“ไลล่า...” เสียงครางของเขาชำแรกเข้ามาในโสตประสาทแม้ว่าฉันจะพยายามซุกซ่อนใบหูไว้ใต้หมอนอิงทั้งสองลูก แต่เขาทั้งสองโรมรันเร่าร้อน สะท้านสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นแม้แต่ฉันผู้เพียงแต่ทัศนาเพลิงนรกยังพลอยรุ่มร้อนชุ่มเหงื่อไปด้วย ความชิงชัง สายตาที่เขาตวัดมองฉันทุกครั้งก่อนที่จะเล้าโลมให้ไลล่ากรีดเสียงเหมือนจะสั่งสอนให้ฉันหลาบจำว่าอย่าโอหังกับเขา

ฉันเบิกตามองดูเขาตะกลามอกอิ่มของไลล่าเหมือนกับทารกหิวโหย เสียงงึมงำ...มาเบล...ของเขาทำให้ฉันใจหายวาบ น้ำตาร่วงทั้งที่ยังเบิกดูการทำรักของเขาทั้งสองอย่างไม่กะพริบตา ฉันเคยห้ามเขาไม่ให้เรียกฉันว่ามาเบลก็จริงอยู่ แต่เขาไม่มีสิทธิ์ใช้คำนี้กับคนอื่นโดยเฉพาะต่อหน้าฉัน เขาทำกับไลล่าไม่ต่างกับที่ทำให้ฉัน โอ...นี่เขาเทียบค่าความสาวของฉันแค่นางทาสคนหนึ่งแบบไลล่า แบบผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยผ่านมาจนนับครั้งไม่ถ้วนอย่างนั้นหรือ นี่ฉันไม่มีค่าอะไรเลยหรือ

ฉันหลับตาไม่อาจทนดูเขาทำรักแต่ยังต้องทนฟังเขาทั้งสองพล่ามเสียงคำรามของความรักเต็มสองหู เสียงกรี๊ด เสียงเนื้อตัวส่ายเสียดของเขากับไล่ล่าบอกให้รู้ว่าเขากำลังจะเดินเข้าสู่ประตูสวรรค์โดยมีสาวน้อยชาวฮิบรูเป็นผู้นำทาง ไลล่าส่งเสียงกรีดเบาๆ อย่างสุขสม บอกให้รู้ว่าเขาผ่านเข้าไปด้วยความนุ่มนวลและเคารพในสถานที่ ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เขาแวะมารุกรานฉัน เขาไม่เคยมีมารยาทกับฉันแม้แต่น้อย แต่กับเธอ เขากลับบรรจงจูงมือเธอไปด้วยกันกับเขา ฉันกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น กลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้หลุดรอดมารบกวนเสียงหอบหายใจของเขาทั้งสอง ฉันหลับตาแน่นไม่กล้าลืมขึ้นมากลัวเขาจะกำลังจับจ้องและเห็นน้ำตาของฉัน

ฉันรู้ว่าไลล่ากำลังจะถึงสวรรค์ ฉันจำเสียงหอบหายใจกระชั้นกับจังหวะแบบนี้ของเขาได้ดี เสียงร้องนรกๆ ของคนที่กำลังจะถึงสวรรค์ทั้งสองดังชัด ถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงคำรามผสานเสียงหวีดที่กระชากให้ฉันผวาขึ้นทั้งตัวเมื่อเขาใช้เสียงจ้วงแทงให้แผลในหัวใจของฉันเหวอะหวะด้วยการรัดร่างเปรียวโซมเหงื่อของไลล่าไว้ในวงแขนแล้วเรียกชื่อที่ควรจะหมายถึงฉันเพียงคนเดียว

“โอ...มาเบล...”


"คุณจะเขียนแบบนั้นจริงๆหรือ" นายนั่นถามหลังจากยืนอ่านนิยายของฉันบนจออย่างจริงจัง
.

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว