“ เฟินเอ๋อ เจ้ามาถึงเมื่อไหร่ ทำไมเจ้ามีสภาพเช่นนี้ อ้าว...ท่านอาจารย์ ไฉนท่านถึงมากับเฟินเอ๋อได้ล่ะเจ้าคะ?”
คุณหนูกันเย่ว์หนี่ที่เพิ่งกลับมาจากธุระข้างนอก เอ่ยทักเพื่อนรักและท่านอาจารย์ที่เพิ่งลงจากรถม้าด้วยความแปลกใจ ที่เห็นคนทั้งคู่มาด้วยกัน แถมสภาพของเพื่อนรักของตนก็ดูแทบไม่จืดเลยทีเดียว
“ พูดไปแล้วเรื่องมันยาว ว่าแต่เจ้าจะปล่อยให้แขกยืนตากแดดตากลมตรงนี้หรือหนี่เอ๋อ?”
แม่นางหลินเอ่ยแซวคุณหนูที่เป็นเจ้าบ้าน ก่อนที่กันเย่ว์หนี่จะเชิญแขกทั้งหมดเข้าไปในบ้าน ซึ่งเมื่อเข้าไปด้านในปรากฏว่าท่านเศรษฐีกันซื่อหยงและฮูหยินอยู่ในห้องรับแขกพอดี โดยที่ทั้งคู่เพิ่งจะส่งท่านเศรษฐีซ่งที่มาขอขมาเรื่องที่ลูกชายคนรองของตนขอยกเลิกการหมั้นกับแม่นางกันเย่ว์หนี่
“ ท่านพ่อท่านแม่ ท่านลองเดาสิเจ้าคะว่าลูกพาใครมา?”
คุณหนูกันเอ่ยกับพ่อแม่ของตนอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่ท่านเศรษฐีและฮูหยินมีสีหน้าดีใจอย่างมากเมื่อได้เจอกับคุณหนูหลินซึ่งเป็นบุตรีของเพื่อนรักของตนที่เป็นเศรษฐีจากต่างเมือง
“ เฟินเอ๋อ ลุงกับป้าดีใจที่เจ้ามาเยี่ยม ไม่ได้เจอกันนาน เจ้าโตเป็นสาวจนลุงกับป้าแทบจำไม่ได้ บิดาของเจ้าสบายดีหรือไม่ เอ่อ..ว่าแต่คุณชายท่านนี้....”
เศรษฐีกันที่อยู่ในชุดคหบดีใหญ่สีเขียว ดูท่าทางมีสง่าราศีและเปี่ยมไปด้วยบารมี สมกับที่เป็นมหาเศรษฐีใหญ่เจ้าของฉายากันครึ่งเมือง เอ่ยทักทายหลานสาวของตน ในขณะที่นางและสาวใช้ย่อตัวคารวะท่านลุงท่านป้าอย่างอ่อนช้อยพร้อมทั้งตอบว่าท่านพ่อของตนสบายดี ก่อนที่เศรษฐีกันจะหันไปถามบุตรีของตนว่าคุณชายที่มาด้วยนี้คือผู้ใดกัน
“ ท่านพ่อท่านแม่ คุณชายท่านนี้ก็คือคนที่พวกท่านอยากเจอมากที่สุดตอนนี้ไงเจ้าคะ ข้ายังไม่ได้ไปเชิญท่านมา แต่วันนี้ท่านกลับมาเยี่ยมเยียนพวกเราถึงที่บ้าน”
“ ลูกหมายถึง ...คุณชายท่านนี้ก็คือคุณชายเสียมหลอ ผู้ที่ช่วยเตือนสติลูกไม่ให้คิดสั้นแถมยังให้ยารักษาอาการป่วยของลูกจนดีขึ้นใช่มั้ย?”
บิดาของนางเอ่ยถามบุตรีของตนด้วยความตื่นเต้นยินดี ที่มีโอกาสได้เจอกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตลูกสาวสุดที่รักของตนไว้ ก่อนที่นางจะพยักหน้ารับ จากนั้นเจ้าบ้านจึงเชิญแขกทั้งสามคือเสียมหลอหลง คุณหนูหลินและเสี่ยวหลานนั่งลงสนทนาถามสารทุกข์สุกดิบ ในขณะที่ฮวยเซ็งเองไม่ได้เข้ามาด้วย หากแต่เขารอเจ้านายหนุ่มอยู่ที่รถม้าด้านหน้าประตู
“ ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ เป็นคุณชายเสียมหลอท่านนี้นี่แหละ ที่เป็นคนช่วยชีวิตลูก”
คุณหนูกันเอ่ยตอบคำถามของผู้เป็นบิดา ก่อนที่อาหลงจะเอ่ยถามถึงอาการป่วยของนางว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“ อาการของข้าหายจนเกือบจะเป็นปรกติแล้วเจ้าค่ะ เพราะยาเม็ดของท่านแท้ ๆ เมื่อเช้าท่านหมอที่มาตรวจถึงกับประหลาดใจที่อาการของข้าหายดี และไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกแล้วเจ้าค่ะ”
“ พวกเราตั้งใจจะไปคำนับเพื่อขอบคุณคุณชาย แต่นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะโชคดีได้เจอท่านที่นี่ พวกเราขอคำนับคุณชายผู้มีพระคุณ โปรดรับการคารวะจากพวกเราด้วย”
ฮูหยินและท่านเศรษฐีพร้อมคุณหนูกันพร้อมใจกันคุกเข่าคำนับขอบคุณชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะรีบประคองคนทั้งสามให้ลุกขึ้น พร้อมทั้งบอกว่าไม่ต้องเกรงใจไป เขาแค่ทำในสิ่งที่สมควรทำเท่านั้น
“ อ้อ..ว่าแต่ไปยังไงมายังไง หลานถึงมาพร้อมกับคุณชายเสียมหลอได้ล่ะเฟินเอ๋อ แถมเจ้ายังมีสภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเช่นนี้อีกด้วย”
ฮูหยินกันเอ่ยถามหลานสาวของตน ก่อนที่นางจะเล่าเรื่องราวที่ชายหนุ่มช่วยชีวิตตนและสาวใช้ให้พ้นจากเงื้อมมือโจรป่า พร้อมทั้งคุ้มครองพวกตนมาส่งที่บ้านหลังนี้อย่างละเอียด ด้วยแววตาที่ชื่นชมในตัวของอีกฝ่าย ระหว่างนั้นนางยังได้เล่าเรื่องที่อาหลงใช้อาวุธวิเศษจัดการพวกโจรป่าจนสะบักสะบอมหนีเข้าป่าไปแทบไม่ทันอีกด้วย เมื่อได้ยินดังนั้นท่านเศรษฐีจึงขอร้องชายหนุ่มให้ช่วยนำเจ้าสิ่งนั้นออกมาให้ทุกคนได้ชมเป็นขวัญตา เมื่อได้ฟังดังนั้นเสียมหลอหลงจึงนำปืนสั้นที่อาจารย์หญิงจากหุบเขายอดเซียนมอบให้ในคืนก่อนจะจากมา ออกมาแสดงให้ทุกคนได้ชม โดยไม่ลืมที่จะนำลูกกระสุนออกก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
“ น่ามหัศจรรย์จริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าสิ่งนี้จะมีอานุภาพร้ายกาจถึงเพียงนั้น”
คุณหนูกันเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ หลังจากที่นางได้ทราบว่าเจ้าปืนกระบอกนี้สามารถจัดการขู่ขวัญและสยบโจรป่านับสิบได้อย่างง่ายดายจนแทบไม่น่าเชื่อ
“ ไม่ทราบว่าคุณชายพอจะมีปืนเช่นนี้อีกซักกระบอกมั้ย ข้าอยากจะขอซื้อไว้ป้องกันตัวบ้าง ท่านอยากได้ราคาเท่าไหร่บอกมาได้เลย”
เศรษฐีกันเอ่ยถามชายหนุ่ม ก่อนที่เขาต้องพบกับความผิดหวัง เมื่ออีกฝ่ายบอกว่านี่เป็นสิ่งที่อาจารย์หญิงมอบให้กับเขา และมีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เอาไว้เขาจะประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่และจะนำมามอบให้ท่านเศรษฐีในภายหลัง เมื่อได้ยินเช่นนั้นทำให้เศรษฐีกันยินดีเป็นยิ่งนัก จากนั้นจึงเอ่ยปากที่จะให้ชายหนุ่มใช้สถานที่และกิจการห้างร้านของตนฟรี ๆ เพื่อเปิดกิจการใหม่ของเขา เป็นการตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตบุตรีของตน แต่กลับถูกชายหนุ่มปฏิเสธน้ำใจ โดยเขายืนยันที่จะจ่ายค่าเช่าสถานที่ในราคาที่ยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่สามารถฝืนใจอีกฝ่าย เศรษฐีกันจึงได้แต่ยอมรับเงื่อนไขตามที่ชายหนุ่มเสนอ พร้อมกับนึกชื่นชมอีกฝ่ายในใจ ที่ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ได้เหมือนคนอื่น ๆ ทั่วไป
“ ท่านอาจารย์ นี่คือเงิน 2,000 ตำลึงที่ข้ารับปากว่าจะมอบให้ท่านนำไปสร้างศาลาเอื้ออาทรและสำนักตักศิลา ท่านรับไว้สิเจ้าคะ”
คุณหนูกันนำตั๋วแลกเงินที่เตรียมไว้ออกมามอบให้กับชายหนุ่ม เมื่อเห็นเช่นนั้นบิดาและมารดาของนางจึงขอร่วมบริจาคสมทบทุนอีก 6,000 ตำลึง เพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตบุตรีของพวกตน ในขณะที่แม่นางหลินก็ไม่นิ่งเฉย หากแต่นางยังได้ร่วมสมทบทุนอีก 2,000 ตำลึง เพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตนางกับสาวใช้จากพวกโจรป่า ทำให้วันนี้อาหลงได้ทุนที่จะนำไปสร้างสาธารณประโยชน์แล้วถึงหนึ่งหมื่นตำลึงเลยทีเดียว
“ คุณชายเสียมหลอ ได้ยินมาว่าท่านได้ผลิตถุงนำโชครุ่นพิเศษ ที่ทำจากชุดที่ท่านม่อเทียนสวมใส่มามากกว่า 20 ปี เป็นจำนวน 10 ใบในราคาใบละ 1,000 ตำลึงใช่หรือไม่?”
ฮูหยินกันเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสนใจ เนื่องจากครอบครัวของนางให้ความเคารพและนับถือในตัวท่านม่อเทียนเป็นอันมาก ดังนั้นนางจึงต้องการที่จะซื้อทั้งหมด 6 ใบ สำหรับตัวนางเอง สามี บุตรีและบุตรชายของนาง รวมทั้งอีกสองใบสำหรับแม่นางหลินและบิดาของนางด้วย ซึ่งนางให้ราคาใบละ 2,500 ตำลึง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,000 ตำลึง เพราะนางไม่ต้องการไปแข่งประมูลกับคนอื่น ๆ เพราะอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้ถุงนำโชครุ่นพิเศษนี้ก็เป็นได้ เมื่อได้ยินดังนั้นอาหลงก็ใช้ความคิดสักครู่ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับฮูหยินเป็นการตกลง ซึ่งฮูหยินสั่งพ่อบ้านให้นำตั๋วแลกเงินจำนวน 15,000 ตำลึงมามอบให้เสียมหลอหลงเป็นการจองล่วงหน้า ดังนั้นถุงนำโชครุ่นพิเศษจะเหลือให้ประมูลอีกเพียงแค่ 4 ใบเท่านั้น
“ ท่านพ่อท่านแม่ หนี่เอ๋อ ข้ากลับมาแล้ว”
เป็นคุณชายกันซื่อหยาง บุตรชายเพียงคนเดียวของสกุลกันที่เพิ่งกลับมาจากดูแลกิจการร้านค้าในเมืองเอ่ยทักทายคนในครอบครัว
“ อ้าว ...นี่ใช่น้องเฟินเอ๋อหรือไม่ ไม่เจอกันนานเจ้าโตเป็นสาวแล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยทักทายอีกฝ่ายที่เป็นเพื่อนรักของน้องสาวตน ก่อนจะหันมาหยุดที่ชายหนุ่มแปลกหน้าที่หน้าตาคมขำมีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้ที่ได้พบเห็น
“ พี่ใหญ่ คุณชายท่านนี้ก็คือผู้มีพระคุณของข้า คุณชายเสียมหลอหลง”
คุณหนูกันเอ่ยแนะนำพี่ชายของนางให้รู้จักกับเสียมหลอหลง ซึ่งทั้งคู่ต่างรู้สึกถูกชะตาซึ่งกันและกัน และพูดคุยกันอย่างถูกคอ
“ คุณชายเสียมหลอ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนท่านชนะการประลองต่อคุณชายรองซ่งผาน ยอดบัณฑิตอันดับสองแห่งเทียนหยางที่หอหงส์ดรุณใช่หรือไม่?”
คุณชายใหญ่เอ่ยถามอีกฝ่าย ก่อนที่อาหลงจะตอบว่าเป็นโชคดีที่เมื่อคืนคุณชายรองออมมือให้ ตนจึงไม่ต้องอับอายผู้คน ในขณะที่คุณชายกันด่าว่าคุณชายรองอย่างสาดเสียเทเสีย เพราะอีกฝ่ายทิ้งน้องสาวตนไปหาหญิงอื่น เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายพ่ายแพ้การประลองอย่างหมดรูปจึงรู้สึกสะใจยิ่งนัก ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กก็ตาม
“ สมน้ำหน้าซ่งผานที่ต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ใครบอกให้มันทำร้ายจิตใจน้องสาวสุดที่รักของพี่”
กันซื่อหยางเอ่ยสมน้ำหน้าคนที่เคยเป็นเพื่อนรักของตนอย่างโกรธขึ้ง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนไม่ควรเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายออกมา เพราะทันทีที่น้องสาวของเขาได้ยินชื่ออดีตชายคนรัก นางมีสีหน้าที่เศร้าสร้อยแวบหนึ่งก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ
“ เจ้าก็เหลือเกิน เรื่องมันผ่านไปแล้ว เจ้าอย่ารื้อฟื้นขึ้นมาอีกได้ไหม หยางเอ๋อ”
ฮูหยินกันเอ่ยปรามบุตรชายของนาง ก่อนจะหันไปปลอบบุตรีของตนไม่ให้คิดมาก ในขณะที่คุณชายกันทำหน้าจ๋อยอย่างรู้สึกผิด
“ หนี่เอ๋อ พี่ใหญ่ขอโทษ พี่ไม่ควรเอ่ยชื่อเจ้านั่นให้เจ้าได้ระคายหู”
“ ไม่เป็นไรเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้าเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว ท่านอาจารย์เสียมหลอบอกให้ข้าพิสูจน์ตัวเองด้วยการเป็นอาจารย์หญิงคนแรกของสำนักศึกษาให้ได้ เขาจะได้รู้สึกเสียใจและเสียดายที่ทิ้งข้าไป”
“ ได้ยินเช่นนี้พี่ก็ค่อยเบาใจ ขอบคุณคุณชายเสียมหลอที่ช่วยให้น้องสาวข้าผ่านพ้นคืนวันที่ยากลำบากมาได้”
กันซื่อหยงเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายอย่างสำนึกตื้นตัน เพราะเขามีน้องสาวเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และนางก็เปรียบดังแก้วตาดวงใจของเขาและท่านพ่อท่านแม่
“ พี่ซื่อหยางไม่ต้องเกรงใจไป แต่ยังไง ๆ ข้าก็มั่นใจว่าคุณหนูกันจะต้องเป็นอาจารย์หญิงคนแรกของสถานศึกษาได้อย่างแน่นอน”
อาหลงเอ่ยให้กำลังใจอีกฝ่าย ก่อนจะสังเกตเห็นว่าคุณชายกันแอบมองไปที่แม่นางหลินบ่อย ๆ ทำให้เขาได้รู้ว่าพี่ใหญ่ของแม่นางกันคงจะมีใจให้กับเพื่อนรักของน้องสาวตนอย่างแน่นอน
“ คุณชายเสียมหลอ ถ้าไม่รังเกียจข้าอยากจะบริจาคสถานที่ที่จะจัดตั้งสำนักตักศิลา ไม่ทราบท่านเห็นเป็นเช่นไร?”
เถ้าแก่กันซื่อหยงเอ่ยกับเสียมหลอหลง เพราะเขาอยากจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมด้านการศึกษา ที่สำคัญคือสถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของตน เมื่อบุตรีของตนไปเป็นอาจารย์ฝึกสอนที่นั่นจะได้เดินทางไปมาสะดวก
“ ข้าเกรงใจพวกท่านทั้งสองจริง ๆ ลำพังพวกท่านช่วยกันบริจาคเงินหมื่นตำลึง แถมยังช่วยอุดหนุนถุงนำโชคอีกหมื่นห้าพันตำลึง แค่นี้ก็ถือว่ามากเกินไปแล้วขอรับ”
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเกรงใจ ก่อนที่เถ้าแก่กันจะบอกว่าแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย เทียบไม่ได้กับชีวิตบุตรีของตนที่ชายหนุ่มได้ช่วยเอาไว้ จากนั้นจึงสั่งให้พ่อบ้านนำโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สามารถดัดแปลงเป็นสถานศึกษาได้สบาย ๆ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์แห่งนี้ โดยสนนราคาของสถานที่แห่งนี้ไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งหมื่นตำลึง เพราะอยู่ใจกลางเมืองหลวงและมีอาณาบริเวณที่กว้างขวางพอสมควร เท่ากับว่าวันนี้เสียมหลอหลงรับเงินจากตระกูลกันมูลค่าร่วมสามหมื่นตำลึงเลยทีเดียว
“ ขอบคุณท่านเถ้าแก่กับฮูหยินมาก ๆ ขอรับที่มีเมตตาต่อผู้น้อย และถือเป็นวาสนาของผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษาอีกด้วย”
“ ท่านไม่ต้องเกรงใจไปคุณชาย เอ่อ ถ้าท่านไม่รังเกียจ เรียกพวกเราทั้งสองว่าท่านลุงกับท่านป้าก็ได้ เพราะท่านน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับบุตรชายของพวกเรา”
เถ้าแก่กันเอ่ยเสนอต่ออีกฝ่าย ในขณะที่อาหลงก็ยินดีเป็นอย่างมากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองให้ความเอ็นดูตนเองดุจลูกหลาน จึงขอให้ท่านทั้งสองเรียกตนว่าอาหลงเช่นกัน
“ ดี ๆ เช่นนั้นต่อไปเจ้าก็อย่าได้เกรงอกเกรงใจอะไรลุงกับป้าอีก อาหลง ยังไงวันนี้เจ้าอยู่ทานมื้อเย็นกับพวกเราก่อนนะ”
ท่านลุงกันเอ่ยชวนชายหนุ่มให้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน ก่อนที่อาหลงจะขออภัยทั้งคู่ที่วันนี้เขาไม่สามารถอยู่ทานมื้อเย็นด้วยได้จริง ๆ เพราะต้องกลับไปเตรียมตัวเปิดร้านที่ปรึกษาพยากรณ์หน้าโรงเตี๊ยมช่วงบ่ายนี้
“ ถ้าอย่างนั้นวันหลังเจ้าต้องอยู่ทานมื้อเย็นกับลุงและป้ารวมทั้งน้อง ๆ ให้ได้นะหลานชาย”
ท่านป้าเอ่ยกับชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะรับปากว่าจะแวะมาทานมื้อเย็นด้วยแน่นอนภายในอาทิตย์นี้ พร้อมทั้งจะนำถุงนำโชครุ่นพิเศษทั้งหมด 6 ใบมาส่งมอบให้ท่านลุงท่านป้าอีกด้วย
“ คุณชายเสียมหลอเจ้าคะ เสื้อคลุมตัวนี้ของท่าน เอาไว้คราวหน้าที่ท่านมาข้าจะซักเตรียมไว้คืนให้ท่านนะเจ้าคะ”
แม่นางหลินเอ่ยกับชายหนุ่มด้วยท่าทีที่เอียงอาย ในขณะที่อาหลงเองก็ไม่แสดงอาการใด ๆ เพียงแค่พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ เพราะเขารู้ดีว่าสาวงามที่อยู่ตรงหน้านี้กำลังเป็นที่หมายปองของคุณชายใหญ่อยู่ ดังนั้นเขาจึงพร้อมที่จะหลีกทาง พร้อมกับส่งเสริมให้ทั้งคู่ได้ลงเอยกัน เพราะถือว่าคนทั้งสองเหมาะสมกันยังกับกิ่งทองใบหยก เพราะฝ่ายหญิงก็งดงามราวกับเทพธิดาส่วนฝายชายนอกจากจะฐานะมั่งคั่งเหมือนกัน ด้านหน้าตาก็ถือว่าหล่อเหลาไม่แพ้เสียมหลอหลงเลยทีเดียว จะเป็นรองอยู่บ้างก็ตรงเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามเท่านั้นเอง
“ ท่านอาจารย์เจ้าคะ เมื่อท่านเรียกท่านพ่อท่านแม่ข้าว่าท่านลุงกับท่านป้า เช่นนั้นข้าสามารถเรียกท่านว่าพี่หลงได้มั้ยเจ้าคะ?”
กันเย่ว์หนี่เอ่ยถามอีกฝ่าย พร้อมรอคอยคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างใจจดใจจ่อ และแล้วนางก็ยิ้มแทบแก้มฉีกเมื่อชายหนุ่มพยักหน้าเป็นการตอบรับคำขอของนาง
“ ได้สิอาจารย์หญิง เอ่อ..หนี่เอ๋อ พี่ยินดีที่มีน้องสาวที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและรอบรู้เช่นเจ้า เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเป็นอาจารย์หญิงของสำนักตักศิลาก็แล้วกันนะ”
กันเย่ว์หนี่ถึงกับหน้าบานแทบจะเป็นกระด้งเมื่อได้ยินคำชมของอีกฝ่าย ก่อนที่เสียมหลอหลงจะขอตัวกลับไปที่พักของตน โดยมีทุกคนเดินมาส่งที่หน้าคฤหาสน์ จนกระทั่งเขาขึ้นรถม้าวิ่งไปไกลจนลับตา
“ ท่านพ่อท่านแม่ ท่านอาหลงกลับมาแล้วขอรับ”
....................................................................................................................................
คุยกันหลังฉาก .....มาแล้วนะครับตามคำสัญญา สำหรับตอนที่ 24 ซึ่งตอนนี้อาหลงก็ได้สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคหบดีใหญ่ เจ้าของฉายากันครึ่งเมือง รวมทั้งยังมีคุณหนูหลินจากเมืองเสียนหยินที่พร้อมจะเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเขาอีกด้วย ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร มารุ่วมลุ้นกันในตอนต่อไปได้เลยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามอ่านด้วยดีเสมอมา ตอนต่อไปจะพยายามอัพไม่เกินวันจันทร์หรืออังคารนี้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
.......................................................................................................................
สุดยอดข้อคิด พิชิตความสุขและความสำเร็จในชีวิต
“ ข้ากล้าเผชิญหน้ากับความกลัว และเรียนรู้จักพวกมันให้หมด จะได้เลิกใส่ใจ และก้าวเดินต่อไป”
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว