(กระชับ เข้าใจง่าย สนุก) Time Cheater - ผู้โกงเวลา

ชะตาที่8 ของหายาก & น้ำใจ(?)

ตอนที่ 1 (4)

“รองผู้จัดการทั่วไปคะ ผู้จัดการทั่วไปเขามีปัญหาอะไรกับผู้หญิงใช่ไหมคะ หรือว่าแค่เกลียดฉันเฉยๆ” โซเฟียเจ้าทุกข์ร่ำไห้อย่างกับดอกสาลี่ต้องสายฝน[1]

“ทำยังไงผู้จัดการทั่วไปก็ไม่พอใจ โดนด่าจนฉันอยากลาออกแล้วนะคะ! หรือว่าฉันสามารถย้ายตำแหน่งงานไปแผนกคุณได้ไหมคะ รองผู้จัดการทั่วไปดีที่สุดเลย~” แม็กกี้ไม่สนหน้าตาแล้ว ถ้าทำให้เธอสามารถอยู่ห่างจากจอมมารนี่ได้ ให้ทำอะไรก็ยอม!

“ถ้าจะย้ายตำแหน่งงานก็ต้องให้ฉันก่อน! ผู้จัดการทั่วไปไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผา[2]เลยแม้แต่นิดเดียว รองผู้จัดการทั่วไป คุณดูสิ หัวฉันล้านหมดแล้ว~” เมย์ทอดเสียงหวานออดอ้อนออเซาะ

เสียงบ่นที่ดังขึ้นไม่หยุดไม่หย่อนทำให้หลี่ฮุ่ยวั่งทั้งเคืองทั้งขำ เขาวาดยิ้มอ่อนอกอ่อนใจแล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางหัวหน้าเลขานุการ ลิซ่ายักไหล่ ห้ามไม่ให้เหล่าน้องสาวทั้งหลายบ่นต่อ จากนั้นก็ให้พวกเธอรีบกลับไปประจำตำแหน่งหน้าที่ของตน

ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบลงได้ ลิซ่าลอบมองไปทางห้องทำงานผู้จัดการทั่วไป เมื่อแน่ใจว่าคำพูดต่างๆ นานาทั้งหลายจะไม่ถูกได้ยินก็กอดอกเอนตัวพิงริมโต๊ะทำงาน ไขว้เรียวขายาวงดงาม เผยให้เห็นทรวดทรงเซ็กซี่

“รองผู้จัดการทั่วไปฮุ่ยวั่ง ช่วยพูดกับผู้จัดการทั่วไปหน่อยเถอะค่ะ ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่พวกเด็กผู้หญิงค่อนข้างหน้าบางน่ะค่ะ ฉันไม่อยากเสียเวลาโน้มน้าวพนักงานที่อยากลาออก มันเหนื่อยมากนะคะ” พอกล่าวจบเธอก็หยุดพูดไปแป๊บหนึ่ง แสดงสีหน้าเหน็ดเหนื่อยออกมา “...ถ้าแม้แต่ฉันก็ทนต่อไปไม่ไหว...”

หลี่ฮุ่ยวั่งจับความหมายมากมายที่ซ่อนเร้นอยู่ในการเว้นช่วงประโยคนี้ อดหัวเราะเสียงขมขื่นไม่ได้

“ลงมือกับทางผู้จัดการทั่วไปไม่ได้ก็เลยมาหาผมเหรอครับ” น้ำเสียงเขาเจือรอยยิ้ม โน้มกายมาข้างหน้า อยู่ใกล้กับดวงหน้างดงามของลิซ่าเป็นอย่างมาก ลมหายใจคลุมเครือที่รินรดออกมาแทบจะไล้ผ่านใบหน้ากันและกัน “นี่เป็นการข่มขู่อย่างหนึ่งหรือเปล่าครับ”

ทว่าลิซ่าหาได้ครั่นคร้าม แค่คลี่ยิ้มบาง

“ดิฉันจะกล้าได้ยังไงละคะ ฉันแค่กำลังขอร้อง”

น้ำเสียงของลิซ่านุ่มนวลคำศัพท์ที่ใช้ก็สุภาพถ่อมตน แต่แววตาและสีหน้ากลับแข็งกร้าวเป็นอย่างยิ่ง แฝงไว้ด้วยท่วงท่าแบบราชินี หัวใจของหลี่ฮุ่ยวั่งเต้นกระตุกไปหนึ่งจังหวะแต่ก็ยังฝืนทำตัวสงบนิ่ง ส่ายหน้าพลางหัวเราะขมขื่น

เขาชำเลืองมองประตูห้องทำงานผู้จัดการทั่วไป เอียงศีรษะครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ยว่า “รับสมัครเลขาฯ ชายเข้ามาเถอะครับ เด็กผู้ชายน่ะหนังหยาบเนื้อหนา เลือกพวกที่เชื่อฟังแล้วก็ทนด่าสู้งานเป็นไง”

ลิซ่าครุ่นคิด รู้สึกว่าเป็นไอเดียดียอมรับได้เหมือนกัน

“ได้เหรอคะ ท่านประธานกำหนดไว้ว่าแผนกเลขาฯ ให้รับเฉพาะผู้หญิงไม่ใช่เหรอ แถมยังต้องให้เธอสัมภาษณ์ด้วยตัวเองอีกนี่นา” เธอกวาดตามองเหล่าแม่นกน้อยที่ร้องจิ๊บๆ รอบกาย หัวเราะขมขื่นจนปัญญา “...ทำซะอย่างกับว่าที่นี่เป็นห้องสะสมวังหลังของผู้จัดการทั่วไปอย่างนั้นละ”

หลี่ฮุ่ยวั่งหลุดหัวเราะพรืด เลิกคิ้วเจ้าเล่ห์ “เป็นห้องสะสมหรือว่าเป็นคลังเก็บสมบัติกันแน่”

ไม่มีงาช้างงอกออกมาจากปากสุนัข[3]จริงๆ!

ลิซ่าโมโหจนทุบเขาไปหนึ่งหมัด อดไม่ได้ต้องหวนนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองเข้าทำงานมาพร้อมกันและต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ สนิทชิดเชื้อกันทุกเช้าค่ำ แม้ทั้งสองจะเจตนาดีมาก แต่พอลิซ่านึกถึงสายตาเฉียบคมของท่านประธานก็เป็นกังวลขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เอาจริงๆ นะ จะหลบพ้นสายตาท่านประธานได้ยังไง ถ้าถูกเปิดโปงจะทำยังไงดีคะ”

หลี่ฮุ่ยวั่งย่อมคิดถึงจุดนี้ เขาคลี่ยิ้ม “คุณมาขอให้ผมช่วย ก็ต้องช่วยคุณให้สำเร็จอยู่แล้วสิ”

เห็นหลี่ฮุ่ยวั่งมีแผนการในใจ ลิซ่าก็ดีใจออกนอกหน้า ปัญหาที่ตามพัวพันมานานในที่สุดก็คลี่คลายได้สักที เธอที่วางท่าสง่างามอยู่ตลอดเผยสีหน้าท่าทางแบบเด็กๆ เช่นนี้น้อยครั้ง ชูมือคำนับอย่างซุกซนให้หลี่ฮุ่ยวั่ง ก่อนจะเอากล่องขนมที่อยู่ในลิ้นชักมาแบ่งให้หลี่ฮุ่ยวั่ง

“ผมจะรับสมัครคนในนามผู้ช่วยเลขานุการของแผนกเลขาฯ นะ ถ้าท่านประธานถามคุณก็บอกไปว่าผมเป็นคนรับสมัครเอง แบบนี้คงดูน่าเชื่อถือมากพอแล้วละ” ปากรองผู้จัดการทั่วไปหลี่เคี้ยวกรอบแกรบๆ ท่าทางเอร็ดอร่อย

ลิซ่าย่อมเห็นด้วย ยิ้มกว้างดั่งดอกไม้ผลิบาน ส่งขนมคุกกี้อีกห่อที่เธอตัดใจกินไม่ลงไปบรรณาการอีกฝ่าย

สองวันก่อนหน้าที่เหยาซุ่นอวี่จะมารายงานตัว แผนกเลขานุการ

ลิซ่าถือปากกาเขียนกากบาทลงไปวันแล้ววันเล่า สายตาหยุดอยู่บนสัญลักษณ์หนูตัวเล็กๆ ด้านบนวันที่ยี่สิบเก้า เดือนสอง เผยรอยยิ้มที่มีเธอเข้าใจคนเดียวออกมา

ตอนนั้นเองเธอได้ยินเสียงฝีเท้า พอเงยหน้ามองก็เห็นหลี่ฮุ่ยวั่งถือเครื่องดื่มแก้วหนึ่งมาวางลงบนโต๊ะทำงานของเธอ

“เหลือคุณคนเดียวอีกแล้วเหรอ”

ลิซ่ามองรอบกายที่ร้างไร้ผู้คน บิดขี้เกียจทีหนึ่ง “ผู้จัดการทั่วไปเพิ่งไป ฉันจะเก็บของอีกหน่อย” สิ้นเสียงก็อ้าปากกว้างหาวหวอดเหมือนฮิปโปโดยไม่แคร์ภาพลักษณ์บุปผาบนยอดเขาสูงในยามปกติเลยสักนิด

เฮ้ๆ คุณไม่ต้องการภาพลักษณ์แล้วหรือไง!

หลี่ฮุ่ยวั่งคิดแบบอ่อนอกอ่อนใจ แต่เขาไม่ได้เห็นลิซ่าเป็นแบบนี้มาพักใหญ่แล้ว บนใบหน้าผุดรอยยิ้มขึ้นมาอัตโนมัติ ถือโอกาสหยิบปฏิทินขึ้นมา ปลายนิ้วเรียวยาวจิ้มเบาๆ ลงบนคำว่า ‘วันที่หนูตัวน้อยมารับตำแหน่ง’

เชิงอรรถ

^ เปรียบเปรยถึงผู้หญิงที่งดงามแม้แต่ตอนร้องไห้

^ หมายถึงอ่อนโยนต่อผู้หญิง

^ หมายถึงคนนิสัยไม่ดีย่อมไม่อาจพูดจาดีๆ ออกมาได้

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว