โซ่ตรวนสวาท (จบ)

ตอนที่ 3 (4)



'ไทเกอร์' เป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี พ่อของเขาเป็นชาวอิตาลีส่วนแม่เป็นสาวไทย ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งสไตล์ชาวยุโรปแต่ผิวสีน้ำผึ้งเหมือนผู้เป็นแม่ ดวงตาคมสีฟ้าน้ำทะเลเข้ากันดีกับจมูกโด่งคมสันต์ได้รูป พ่อของเขาย้ายรกรากมาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองไทยกับแม่ตั้งแต่แต่งงานกันใหม่ๆ จนกระทั่งมีเขา เท่าที่จำได้เขาก็เห็นพวกท่านทั้งสองรักกันมากพวกท่านมีเขาเป็นพยานรักแค่คนเดียว


จนกระทั่งไทเกอร์อายุราวๆสิบขวบกว่าก็ได้รับข่าวร้ายว่าผู้เป็นแม่ป่วยและจากไปด้วยโรคมะเร็งในสมอง หลังจากนั้น 'โทนี่' พ่อของเขาก็ทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อดูแลเขามาอย่างดีเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เขาและเป็นให้ทุกอย่างจนกระทั่งเขาอายุย่างเข้าสิบแปดกำลังเข้ามหาวิทยาลัย


"ไทเกอร์ไหว้น้าอรก่อนสิลูกนี่คุณน้าอรพิมจะเข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่ในฐานะภรรยาของพ่อ อรครับนี่ไทเกอร์ลูกชายผมเอง" โทนี่แนะนำสมาชิกใหม่ให้พวกเขาได้รู้จักกัน


"สวัสดีครับ" ไทเกอร์ยกมือไหว้ผู้หญิงหน้าตาสะสวยหุ่นสวยสง่าท่าทางดีที่เข้ามาพร้อมกับเด็กผู้หญิงคนนึง


"สวัสดีจ้ะไทเกอร์ อิ๊งสวัสดีพี่เค้าก่อนสิลูก" อรพิมหันไปบอกเด็กสาวคนนั้นเบาๆ ส่วนเจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมายกมือไหว้โทนี่ก่อนแล้วยกมือไหว้ไทเกอร์อีกครั้งด้วยสีหน้าเอียงอาย


"น้าฝากไทเกอร์ช่วยเอ็นดูน้องด้วยนะลูกมีอะไรไม่ชอบอะไรก็บอกกันได้นะลูก" อรพิมบอกฝากฝังลูกสาวให้พี่ชายคนใหม่ช่วยดูแล


"ครับน้าอร"


แม้จะยังงงในการตัดสินใจกระทันหันของผู้เป็นพ่อแต่ไทเกอร์ก็ยินยอมไม่ขัดเพราะที่ผ่านมาพ่อก็ดูแลเขามาอย่างดีตลอด หากวันนี้ที่ท่านจะมีความสุขบ้างลูกอย่างเขาก็ไม่ควรขัด


ในบ้านหลังใหญ่ที่มีสมาชิกมาเพิ่มอีกสองคนก็ช่วยให้บรรยากาศมันดูรื่นเริงและมีสีสันดี อรพิมเองก็เป็นแม่เลี้ยงที่ดีช่วยดูแลบ้านทำกับข้าวให้ทุกคนกินด้วยรสมือที่เด็ดอย่าบอกใครเล่นเอาทั้งพ่อทั้งลูกติดใจกับข้าวที่บ้านจนไม่อยากออกไปกินที่อื่นกันเลย


บ้านหลังใหญ่สองชั้นมีหลายห้องนอนปกติแล้วไทเกอร์จะนอนชั้นล่างด้วยความขี้เกียจเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆในขณะที่พ่อของเขากับแม่เลี้ยงนอนชั้นบนและอิงธาราเองก็นอนชั้นบนเหมือนกัน ส่วนแม่บ้านพวกเขาจะจ้างเป็นรายอาทิตย์ให้มาทำอาทิตย์ละสามวันแบบมาเช้าเย็นกลับเพราะชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนที่เหลืออรพิมจะเป็นคนคอยดูแลเองทุกอย่าง


ไทเกอร์กับอิงธาราเองก็เข้ากันได้ดีทำให้ทั้งโทนี่และอรพิมก็วางใจว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น ช่วงหลังเองที่ไทเกอร์เข้ามหาวิทยาลัยแล้วบางทีชายหนุ่มก็ไปค้างที่คอนโดตัวเองที่พ่อของเขาซื้อไว้ให้ บางทีก็ไปนอนค้างที่ห้องของเพื่อนสนิทอย่างปีย์วราที่ีแบ่งห้องนอนให้เพื่อนแต่ละคนไว้อย่างเสร็จสรรพสมฐานะลูกเศรษฐีจริงๆ


เกือบสามปีที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่แบบเป็นครอบครัวด้วยกันมาโดยมีไทเกอร์ที่ไปๆมาๆนอนบ้านบ้างนอนคอนโดบ้างแล้วแต่วันปีนี้ไทเกอร์กำลังจะเรียนจบปีสุดท้ายแล้วในขณะที่อิงธารากำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง


"ไอ้ไทเก้ออออเพื่อนรักกก" เสียงกสิราหรือไอ้กี้เพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มกำลังขยุ้มหัวของเขาปากก็พร่ำรำพันบอกรักคนนั้นทีรักคนนี้ที


'มึงไม่ต้องรักกูมากขนาดนี้ก็ได้ไอ้กี้ผมกูจะขาดหมดหัวอยู่แล้ว' ชายหนุ่มนึกในใจสายตาก็สอดส่ายให้เพื่อนอีกสองคนมาช่วยเอาคนเมาออกไปจากหนังหัวเขาสักที


"ไอ้พวกเชี้ยนี่!มาช่วยกูสักทีสิวะไอ้กี้มันจะขยุ้มหนังหัวกูขาดหมดแล้วมั้ง" ชายหนุ่มร้องโวยวายสีหน้าเข็ดขยาดเวลากสิราเมาทีไรอาการหนักแบบนี้ทุกที


"กี้..กี้!เมาแล้วนะมึงอ่ะไปกลับบ้านเดี๋ยวกูไปส่ง" เสียงปีย์วราบอกพยายามแกะมือเธอออกจากผมไทเกอร์ไปด้วย


"มึงเอามันไปค้างที่คอนโดมึงเลยจะได้ไม่ต้องขับย้อนไปย้อนมา" ธีสิตพูดขึ้นพลางเรียกเช็คบิลรอมื้อนี้มีเจ้ามือเลี้ยงเว้ย!


"เออๆงั้นกูไปก่อนนะพวกมึงก็ขับรถดีๆล่ะไม่เมาใช่ไหมมึง"


"เออๆไปเหอะกูอ่ะไม่เมามึงอ่ะไอ้ธี" ไทเกอร์โบกไม้โบกมือไล่หลังก่อนจะหันมาถามธีสิตบ้าง


"สบาย" ธีสิตตอบแล้วโบกมือเดินไปก่อนส่วนไทเกอร์ยังนั่งอยู่ที่เดิม


คืนนี้ไทเกอร์ว่าจะกลับไปนอนที่คอนโดเขาชายหนุ่มลุกขึ้นเดินตั้งใจว่าจะเดินไปเข้าห้องน้ำเสียก่อนระหว่างที่เดินผ่านโซนที่มีสายปาร์ตี้ทั้งหลายกำลังยืนโยกย้ายร่างกายกันอย่างเมามัน สายตาคมปลาบก็พลันไปเห็นร่างเล็กคุ้นตากำลังยืนส่ายสะโพกโยกตัวอย่างเย้ายวนอยู่ตรงกลางด้านหน้าเวที แค่มองข้างหลังเขาก็จำได้ทันทีว่าร่างเล็กนี้เป็นใคร


สองขาเรียวยาวก็เปลี่ยนเส้นทางเดินจ้ำอ้าวไปยังเป้าหมายที่ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเปิดเผยเรือนร่างจนหน้าใจหาย รอบข้างมีบรรดาผู้ชายมายืนรอตอมกันให้ควั่กเลยทีเดียว


"อะ..อิ๊ง!" เขาเห็นแล้วว่าเพื่อนๆของน้องสาวนอกไส้ต่างพากันสะกิดเจ้าตัวให้รู้ แต่ดูท่าน้องสาวเขากำลังสนุกจนไม่ได้สงสัยอะไร


ชายหนุ่มเดินเข้ามาถึงที่โต๊ะแล้วหยุดยืนอยู่ด้านหลังอิงธาราในขณะที่ยกมือขึ้นจุ๊ปากส่งสัญญานให้ทุกคนเงียบๆ


"น้องสาวคนสวยมาเที่ยวแบบนี้ที่บ้านไม่ว่าหรอครับ" ไทเกอร์ก้มลงกระซิบถามชิดใบหูขาวท่ามกลางแสงไฟสลัว


"ไม่ว่าหรอกค่ะ" เจ้าหล่อนตอบแล้วโยกตัวต่อโดยไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด


"แหมน้องนี่โชคดีจังเลยนะครับพ่อแม่ไม่หวงด้วย" ชายหนุ่มยังพูดต่อ


"เปล่าหรอกค่ะพวกท่านไม่ได้หวง แค่พวกท่านไม่รู้เฉยๆเท่านั้นเอง"


"อ้าวแล้วอย่างนี้ถ้ากลับไปบ้านจะโดนว่าหรอกหรอ" ไทเกอร์ยังแกล้งถามต่อโดยที่เจ้าหล่อนไม่ได้รู้ตัวเลย


"ไม่ว่าหรอกค่ะพวกท่านไม่อยู่สักหน่อย"


"อ้อ..ที่แท้ก็ไม่มีใครอยู่เธอถึงแอบมาเที่ยวกลางคืนได้สินะ!" ไทเกอร์บอกเสียงฮึ่มฮั่มใส่


"พะ..พี่ไทเกอร์!" ทันทีที่หันมาเห็นว่าเป็นไทเกอร์อิงธาราที่กำลังโยกกายเต้นอย่างเมามันก็เต้นสะดุดยืนนิ่งตาเบิกโพลงหายใจไม่เป็นจังหวะเรียกชายหนุ่มเสียงตะกุกตะกักขึ้นมาทันที


"ไง..." ชายหนุ่มกวาดสายตามองคนตัวเล็กตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสีหน้าดุๆใส่


"พี่มาได้ยังไงอ่ะ" แม่น้องสาวห่อปากถามเสียงอ่อย


"พี่มาได้เพราะที่นี่ร้านประจำของพี่อยู่แล้ว แต่เราน่ะมาได้ยังไง"


"คะ..คืออิ๊งก็แค่อยากลองมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาดูบ้างจริงๆนะคะ"


"กลับไปคุยกันที่บ้าน..ไป!"


"ค่ะ...เอ่อเรากลับก่อนนะเจอกันที่มอนะ" อิงธาราหันไปคว้ากระเป๋าแล้วเอ่ยเบาๆกับพวกเพื่อนๆ


หลังจากขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วอิงธารายังคงนั่งเงียบไม่กล้าแม้จะหายใจกลัวคนตัวโตจะโมโหแล้วไปฟ้องแม่ขึ้นมามีหวังเธอโดนตีตายแน่ๆที่ริอาจแอบไปเที่ยวกลางคืนมา


"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกใช่ไหมที่แอบมาเที่ยวที่แบบนี้..ตอบมาอย่าโกหกนะ!" แค่ขึ้นต้นประโยคของไทเกอร์ก็ทำเอาอิงธาราสะดุ้งเฮือกแล้ว


"เอ่อ..ค่ะเคยมาสองสามครั้งแล้ว" อิงธารายอมรับเสียงอ่อยพลางช้อนตามองพี่ชายตัวโตเพื่อสำรวจท่าที


"...." ชายหนุ่มยังนิ่งเงียบไม่ตอบรับอะไร


"พะ..พี่ไทเกอร์อย่าบอกแม่เลยนะอิ๊งขอโทษต่อไปจะไม่แอบหนีเที่ยวอีกแล้วนะคะ..นะ" เสียงหวานออดอ้อนพลางยกมือขึ้นเกาะต้นแขนล่ำ


"หึ" ไทเกอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ คิดว่าเขาไม่รู้หรอว่ายัยเด็กนี่กำลังยกมือไขว้กันอยู่ข้างหลังน่ะ เห็นเงียบๆแบบนี้แสบจะตาย!


"แล้วนี่แม่เรากับพ่อพี่เค้าไปฮันนีมูนกันที่ไหนอีกล่ะ" ไทเกอร์ไม่ได้ตอบอะไรเขาขยับมาสตาร์ทรถขับออกไปแล้วถามถึงพวกท่านอีกครั้ง


"ไปอิตาลีค่ะ"


"อืม"


"พี่ไทเกอร์ตกลงอย่าบอกแม่อรเลยนะว่าอิ๊งหนีเที่ยวไม่งั้นแม่ตีอิ๊งตายแน่ๆ"


"ถ้ากลัวแล้วจะหนีไปเที่ยวทำไมล่ะ"


"ก็..แค่ไปฟังเพลงแล้วเต้นเฉยๆอิ๊งไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายสักหน่อยนี่คะ"


"อิ๊ง!ที่นั่นมันไม่เหมาะกับน้องหรอกเชื่อพี่ ต่อไปอย่าไปอีกมันยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่อันตรายน้องไม่รู้หรอก"


"ค่ะ" อิงธารารับคำแล้วนิ่งเงียบไป ตอนนี้ก็รับปากไปก่อน มีโอกาสเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกทีล่ะกัน...





รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว