เสี้ยวร้าย

7.

ตอนที่ 51

ร่างเล็กกำลังเดินไปตามถนนอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเธอหนีมาได้ไกลพอควรแล้ว ป่านนี้อานันคงบอกมอร์แกนแล้วว่าเธอได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรเอาไว้ เวลานี้ไม่มีรถวิ่งผ่านเลย หญิงสาวนั่งลงตรงป้ายรถเมล์ริมถนน เธอเก็บปืนใส่กระเป๋าก่อนจะนั่งทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เงียบๆ เธอทำเกินไปรึป่าวนะ ตอนนี้มอร์แกนคงโกรธเธออยู่แน่ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเป็นร้อยครั้ง คิดได้ตอนนี้ก็คงสายไปแล้ว หญิงสาวสลัดหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดทั้งหมด ก่อนจะยืนหยัดขึ้น เธอเดินไปเรื่อยๆเผื่อจะมีแท็กซี่ผ่านมาบ้างสักคัน เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ก็สมดังหมาย หญิงสาวโบกแท็กซี่ก่อนจะตรงกลับไปที่พักที่ฮ็อบส์จัดไว้ให้ อีกไม่นานเรื่องนี้จะได้จบลงสักที

รถแล่นมาได้สักพัก หญิงสาวอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น เธอยังไม่ได้นอนเลย ตอนนี้อาการเพลียเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“ขอโทษนะคะ ช่วยกลับไปอีกทางได้ไหมคะ ฉันอยากกลับบ้าน”

“ครับ” คนขับทำตามที่เธอบอก ตอนนี้เธอยังไม่อยากให้ฮ็อบส์รู้ว่าเธอได้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว หากกลับไปตอนนี้ลูกน้องของฮ็อบส์คงรายงานเขาแน่นอน และตอนนี้เธอก็ไม่รู้ด้วยว่าแม่เธอเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง เวลาผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วโมง รถก็มาจอดที่หน้าบ้านของเธอ หญิงสาวหอบกระเป๋าก่อนจะเดินเข้าบ้าน ประตูแง้มเอาไว้เหมือนรู้ว่าเธอจะกลับมา เธอค่อยๆดันประตูออก ภายในบ้านรกรุงรังไม่ต่างกับรังหนู เธอส่ายหัวไปมาอย่างเบื่อหน่าย นี่เธอคิดผิดรึป่าวที่กลับมาบ้าน เธอพยายามไม่สนใจมากนัก ดวงตากลมโตมองหาผู้เป็นแม่ แต่กลับว่างเปล่า

“หรือจะไปบ่อนกันอีกแล้วนะ” เท้าเล็กรีบเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ยังโชคดีที่ไม่มีใครเข้ามายุ่มย่ามในห้องนี้ เธอล็อกกลอนประตูก่อนจะทิ้งตัวลงที่นอน

“บาดเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง แล้วหายไปไหนกันนะ” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เธอนอนมองเพดานก่อนจะปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ ความเหนื่อยล้าเข้าครอบงำ ดวงตาของเธอหนักอึ้งก่อนจะหลับลงไปในที่สุด....

..................................................................

ชายหนุ่มกำลังนั่งทานอาหารอยู่เพียงลำพังเหมือนอย่างทุกวัน ป้ารตียืนคอยรับใช้อยู่ไม่ห่าง อานันเองก็เช่นกัน

“ป้า ป้า” เสียงของวันรักดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างของเธอที่กำลังวิ่งมาหน้าตาตื่น ชายหนุ่มนั่งนิ่งก่อนจะตักอาหารเข้าปาก โดยไม่สนใจเสียงของวันรักเลยสักนิด

“มีอะไร เห็นไหมว่าคุณมอร์แกนทานข้าวอยู่” ป้ารตีดุเบาๆก่อนจะตีไปที่มือของวันรัก

“อันนาไม่อยู่ในห้องแล้วป้า เสื้อผ้าข้าวของก็ไม่อยู่”

“อะไรนะ”

“ฉันว่าจะไปปลุก แต่ว่าในห้องไม่..”

“หยุดพูดสักที” วันรักยังพูดไม่ทันจบ เสียงทุ้มเรียบๆของเขาก็ดังขึ้น วันรักมองเขาอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน

“คะ...ค่ะ” เธอตอบกลับก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ ความสงสัยมากมายเต็มไปหมด แต่ถ้าถามออกไป เธอคงได้เก็บข้าวของออกจากบ้านหลังนี้ตามอันนาไปแน่ๆ

“ช่วงสายๆคุณเหมันต์ คุณคลอเรน แล้วก็คุณไททันจะเข้ามาหาคุณมอร์แกนนะครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้ก่อนจะลุกเดินกลับขึ้นไปยังห้องทำงาน วันนี้เขาไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น เหตุการณ์เมื่อคืนที่อันนาก่อเอาไว้ ทำเอาเขาคิดหนักทั้งคืน ชายหนุ่มหลับตาลงพยายามไม่คิดมาก แต่เขาก็ห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้เลย

นาฬิกาแสดงเวลาเก้าโมงเช้า เหมันต์พร้อมคลอเรนและไททันเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา ชายหนุ่มเดินไปนั่งที่โซฟาเพื่อเริ่มการสนทนาทันที

“มีอะไรจะบอกฉันรึป่าว” เหมันต์เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นสภาพของมอร์แกนดูแฮงก์จากเหล้าเต็มที่

“อันนาแอบเอาเอกสารหุ้นส่วนบริษัทของผมไปแล้ว” เขาเอ่ยออกมาก่อนจะถอนหายใจ

“อันนาเนี่ยนะ” คลอเรนถาม เพราะมันดูไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่ ที่หญิงสาวจะกล้าทำแบบนี้

“อือ แต่เอกสารนั่นเป็นของปลอม”

“ฮ็อบส์กำลังใช้วิธีเดียวกับที่เขาใช้กับโรมัน” เหมันต์ว่า

“มันเกิดอะไรขึ้นครับ” ไททันถามขึ้นบ้าง

“ฮ็อบส์ซื้อหุ้นมาเป็นของตัวเอง เขาได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ RM Group ถือหุ้นมากกว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้ายฮ็อบส์ก็หักหลังโรมัน โดยการถอนหุ้นทั้งหมด ทำให้บริษัทของโรมันทรุดตัวลงทันที”

“...” ไม่มีเสียงคัดค้านใดๆ ทุกคนต่างตั้งใจฟังในสิ่งที่เหมันต์พูด

“โรมันพยายามประคับประคองอย่างถึงที่สุด แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เขาก็เลยตัดสินใจขายบริษัททิ้ง”

“แล้วเอกสารการโอนหุ้นระหว่างฮ็อบส์กับเมธาล่ะครับ” มอร์แกนถามขึ้น เพราะเขาเคยได้เห็นเอกสารนั้นจากคลอเรน

“คนที่มาซื้อบริษัทต่อก็คือฮ็อบส์ยังไงล่ะ ฮ็อบส์ซื้อบริษัทนั้นไว้ก่อนจะโอนหุ้นทั้งหมดให้เป็นของเมธา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าฮ็อบส์คือคนที่กว้านซื้อหุ้นทั้งหมดนั่น แม้แต่โรมันเองก็ไม่รู้ เมธากลายเป็นเจ้าของ RM Group เพียงระยะเวลาสั้นๆ และไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ฮ็อบส์รับโรมันให้กลับมาทำงานที่บริษัท โรมันนึกว่าฮ็อบส์คือคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เขาไว้ใจฮ็อบส์มากๆ และพยายามทำงานอย่างหนัก”

“...”

“โรมันพยายามตามหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องบริษัท สุดท้ายเขาก็ได้รู้ว่าฮ็อบส์คือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เขาเลยคิดจะเปิดโปงความลับนี้ แต่ฮ็อบส์ขอเอาไว้ และสัญญาว่าจะคืนบริษัทนี้ให้แก่เขา”

“และฮ็อบส์ก็คืนให้จริง” มอร์แกนพูดเสริม ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว

“ใช่ ฮ็อบส์คืนให้จริง แต่กลับไม่มีลูกค้าคนไหนมาซื้อของจากบริษัทโรมันเลย สุดท้าย RM Group ก็ล้มละลาย บริษัทถูกขายทอดตลาด และหลังจากนั้นไม่นาน โรมันก็ถูกฆ่าตาย แต่ที่แย่ที่สุดคือ ไอยรารู้เห็นทุกอย่าง”

“หมายความว่ายังไง” มอร์แกนถามขึ้น

“ไอยรารู้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องการตายของโรมันด้วย”

“ใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง ใช่ฮ็อบส์รึป่าว คนที่ฆ่าโรมัน ใช่ฮ็อบส์รึป่าว” มอร์แกนถามออกไปด้วยความร้อนรน ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีหลักฐานว่าฮ็อบส์เป็นคนทำ แต่เขาเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของเขาแน่ๆ

“ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่” เหมันต์ว่าก่อนจะแสดงสีหน้ากังวลออกมา

“แล้วทำไมพ่อถึงซื้อบริษัทนี้ไว้ล่ะ” คลอเรนเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ

“พ่อไม่อยากให้มันตกไปอยู่ในมือของคนอื่น พ่ออยากสานต่อมันด้วยตัวเอง แทนคำขอโทษที่พ่อไม่ได้ช่วยอะไรโรมันเลย”

“จากนี้เราจะเอายังไงต่อไปครับ” ไททันถามขึ้น เรื่องนี้ซับซ้อนจนดูยากที่จะแก้ปมได้

“ตอนนี้การกระทำของฮ็อบส์ประกาศชัดเจนแล้วว่าต้องการจะยึดบริษัทของมอร์แกน และมันอาจจะไม่หยุดแค่นั้น ตอนนี้เราต้องหาหลักฐานสำคัญในการหยุดฮ็อบส์” เหมันต์พูดอย่างผู้มีประสบการณ์ เขารู้ว่าจะหยุดฮ็อบส์ได้ยังไง แต่มันก็ยากมากๆ

“ตอนนี้อันนาก็ดูท่าจะช่วยพวกเราไม่ได้แล้ว การที่เธอยอมมาขโมยเอกสารสำคัญขนาดนั้น แสดงว่าฮ็อบส์ต้องข่มขู่อะไรเธอเอาไว้แน่” มอร์แกนว่าขึ้น ถึงจะโกรธหญิงสาวมากๆ แต่เขาก็ห่วงเธอมากเช่นกัน

“ถ้าฮ็อบส์รู้ว่าเอกสารนั่นเป็นของปลอม มันไม่เอาอันนาไว้แน่” คลอเรนพูดขึ้น พลางมองไปทางมอร์แกน ชายหนุ่มทำได้เพียงถอนหายใจออกมา ตอนนี้เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เลย

“แล้วเราต้องทำยังไงต่อ ผมไม่อยากให้อันนาเสี่ยงอยู่แบบนั้น” มอร์แกนว่าขึ้นอีกครั้ง

“เราต้องเร่งหาหลักฐานมามัดตัวฮ็อบส์ให้ได้ ทั้งเรื่องเอกสารเกี่ยวกับการโอนหุ้นของฮ็อบส์กับหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องใน RM Group พร้อมทั้งข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคาสิโนเถื่อน”

“แบบนั้นเราจะหาได้จากไหน” ไททันถามด้วยความสงสัย

“ตอนนี้ก็มีแค่อันนาที่จะเอามันมาให้เราได้ เพราะเธออยู่กับฮ็อบส์” คลอเรนตอบออกมา

“แล้วถ้าฮ็อบส์จับได้ก่อนล่ะ” มอร์แกนถามขึ้นอีกครั้ง

“ถึงตอนนั้นเราคงต้องเปิดสงครามกับฮ็อบส์แล้วล่ะ” เหมันต์ตอบออกมา เขารู้ว่าวิธีนี้ไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากไม่ฆ่าศัตรูก่อน ศัตรูก็ฆ่าเราอยู่ดี แต่ตอนนี้สิ่งที่มอร์แกนห่วงคือเขาจะช่วยอันนาได้ยังไง ไม่ว่าทางไหนก็ดูหญิงสาวจะเสี่ยงอันตรายไปซะหมด

“ฉันจะให้ลูกน้องของฟินน์คอยช่วยอันนาอีกแรง” คลอเรนพูดคลายกังวล ถึงตอนนี้จะไม่ได้ข่าวคราวอะไรก็ตาม

“คิดจะฆ่าฮ็อบส์ ต้องฆ่าทีเดียวให้ตาย ไม่อย่างงั้นมันกลับมาฆ่าเราแน่” เหมันต์กล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น เขารอเวลาที่จะเปิดโปงความชั่วร้ายของฮ็อบส์มานานแสนนาน และตอนนี้เขาจะไม่รออีกต่อไปแล้ว หากได้ข้อมูลตามที่เขาต้องการ เรื่องนี้จะได้จบลงซะที...

....................................................

เสียงตึงตังด้านนอกทำเอาร่างเล็กสะดุ้งตื่น เธอลุกไปเปิดประตูแง้มๆ เพื่อดูว่ามีใครอยู่ในบ้าน ร่างของผู้เป็นแม่พร้อมร่างของพ่อเลี้ยงกำลังนั่งทานอาหารอย่างมีความสุข

“กินเข้าไปเยอะๆ ตอนนี้เรามีเงิน ต้องรีบกอบโกยเอาไว้” ไอยราพูดพร้อมยัดอาหารเข้าปาก ร่างเล็กยืนนิ่งพลางฟังเสียงของทั้งสองคนไปด้วย

“ป่านนี้อันนาจะไม่ห่วงเธอแย่แล้วหรอ ตอนฉันเห็นรูปที่เธอแกล้งบาดเจ็บเพื่อที่ฮ็อบส์จะส่งให้อันนาดูนะ ฉันนึกว่าเธอโดนรถสิบล้อเหยียบซะอีก” อนันต์ว่าพลางยิ้มเยาะ

“รถเหยียบบ้าอะไร ฉันก็แค่แต่งหน้าแต่งตา เอาเลือดหมูมาราดๆตัว แค่เนี้ย เราก็ได้เงินก้อนโตมาเสวยสุขแล้ว”

“แล้วเธอคิดว่าฮ็อบส์จะยอมบอกความจริงจริงๆหรอ เกี่ยวกับเรื่องผัวเก่าเธอ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าอันนารู้ความจริงนะ คงอกแตกตายแน่ๆ”

“นี่เธอไม่รักอันนาเลยรึไง นั่นลูกสาวคนสวยของเธอเลยนะ” เมื่อไอยราได้ยินคำถามเธอก็วางอาหารลงก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน

“อันนามันรักฉันซะที่ไหน มันรักแต่พ่อมัน และถ้าไม่มีมันสักคนป่านนี้ฉันได้ไปแต่งงานกับลูกเศรษฐี นั่งกินนอนกินไปตั้งนานแล้ว”

“เธอพูดแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้รักโรมันเลยน่ะสิ”

“ฉันจะบอกอะไรให้นะ โรมันน่ะรวย แต่คนรวยกว่าโรมันมีอีกเยอะ และถ้าฉันไม่พลาดท้องกับโรมันนะ ฉันไม่ต้องมานั่งตกระกำลำบากกับแกอยู่ตอนนี้หรอก” น้ำใสๆไหลลงมาทันทีเมื่อได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ ร่างเล็กค่อยๆปิดประตู เพราะแบบนี้นี่เอง แม่เธอถึงไม่เคยรักเธอเลย เธอหักหลังมอร์แกน เพื่อมาช่วยคนที่เกลียดเธอแบบนี้งั้นหรอ ร่างเล็กรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเอาดื้อๆ แม่ไม่เคยต้องการเธอและพ่อเลย สิ่งเดียวที่แม่เธอต้องการคือเงิน ผู้หญิงคนนี้ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน

ร่างเล็กเก็บของใส่กระเป๋าก่อนจะปีนออกทางหน้าต่าง จะให้แม่เห็นเธอตอนนี้ไม่ได้ เธอลัดเลาะออกมาตามรั้วก่อนจะรีบออกจากบริเวณบ้านให้เร็วที่สุด ตอนนี้เธอรู้สึกมืดแปดด้าน ถ้าหากกลับไปหาฮ็อบส์ตอนนี้แล้วถามเรื่องพ่อ ฮ็อบส์อาจจะไม่ยอมบอกความจริงกับเธอก็เป็นได้

ปริ๊นๆ เสียงแตรรถดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวหันไปมองก่อนจะพบกับชายแปลกหน้าที่ขับรถมาจอดข้างๆเธอ

“อันนารึป่าว” ชายคนนั้นถามออกมา หญิงสาวอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบ

“ฉันชื่อแพนิค เป็นลูกน้องของฟินน์เพื่อนของคลอเรน”

“อะไรนะ”

“ขึ้นรถก่อนเร็ว” ถึงเธอจะรู้สึกงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมขึ้นรถแต่โดยดี

“คุณแต่งตัวเหมือนลูกน้องของฮ็อบส์เลย” เธอถามสิ่งที่สงสัยออกไป

“ฉันเป็นตำรวจ แต่แฝงตัวเข้ามาเป็นลูกน้องของฮ็อบส์”

“แล้วนี่รู้จักฉันได้ยังไง”

“พวกคลอเรนอยากให้ฉันมาคอยช่วยเธอ เผื่อว่าอาจจะเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้น”

“แล้ว...”

“ตอนนี้เธอคงไปขโมยเอกสารสำคัญจากมอร์แกนมาให้ฮ็อบส์ได้แล้วสินะ” หญิงสาวอึ้งเล็กน้อยที่แพนิครู้เรื่องนี้

“อือ”

“แล้วนี่เธอจะทำยังไงต่อ ตอนนี้ทุกคนรอข้อมูลที่จะเปิดโปงฮ็อบส์อยู่”

“ฉัน...ฉันไม่รู้”

“นี่เธอไม่มีแผนอะไรเลยหรอ” แพนิคถาม หญิงสาวมองหน้าเขาก็แอบเห็นว่าเขาถอนหายใจอยู่

“ตอนนี้ฉันมืดแปดด้านไปหมดเลย”

“รอช้าไม่ได้แล้วนะ ถ้าช้าไปมากกว่านี้ อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีตามมาก็ได้ ทุกคนเป็นห่วงเธอมากนะ”

“ฉันหักหลังทุกคน ฉันไม่สมควรได้รับความเป็นห่วงจากใครทั้งนั้น” หญิงสาวตัดพ้อถึงสิ่งที่ตัวเองก่อ

“ถ้าเธอไม่อยากให้พวกนั้นผิดหวัง เธอต้องร่วมมือกับฉัน เอาข้อมูลลับมาเปิดโปงฮ็อบส์ให้ได้” เธอมองหน้าชายหนุ่มข้างๆ เธอกับเขารู้จักกันไม่ถึงสิบนาที แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมาร่วมมือกับเขาเสียแล้ว

“ฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง เกิดฮ็อบส์ให้คุณมาหลอกฉันล่ะ”

“ไว้ทำงานสำเร็จ เธอค่อยไว้ใจฉันก็ได้” เขาหันมายิ้มให้ก่อนจะมุ่งหน้าขับรถต่อไป เธอคงต้องไว้ใจเขาแล้วล่ะ อย่างน้อยถ้าเธอหาข้อมูลตามที่พวกมอร์แกนต้องการได้ เธอจะได้ไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้ที่หักหลังพวกเขา

แพนิคส่งเธอที่หน้าบ้านของฮ็อบส์ก่อนจะขับรถไปจอดที่โรงรถ หญิงสาวถือเอกสารในมือเอาไว้แน่นราวกับว่ามันจะปลิวหายไป ฮ็อบส์นั่งรอเธออยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ่งเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ่งเกลียดเขา ฮ็อบส์หลอกเธอใช้เธอทุกอย่าง ใช้แม่มาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เธอยอมทำตาม แม้ในใจจะด่าฮ็อบส์มากมายเพียงใด เธอก็ทำได้แค่ส่งยิ้มให้เพียงเท่านั้น

“นั่งลงก่อนสิ” หญิงสาวนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามทันที

“หวังว่าฉันจะได้ยินข่าวดีนะ” อันนาพยายามตั้งสติ เธอยิ้มและส่งเอกสารในมือให้เขา ฮ็อบส์รับเอกสารมาไว้ในมือก่อนจะเปิดดูอย่างใจเย็น

“ว้าว ว้าว ว้าว เก่งมากสาวน้อย” ฮ็อบส์เอ่ยออกมา

“หวังว่าคุณจะทำตามสัญญานะคะ”

“แน่นอน เธออยากจะรู้ตอนนี้เลยไหมล่ะ” ฮ็อบส์ว่าก่อนจะวางเอกสารลง พร้อมกับที่แพนิคเดินเข้ามาในห้องพอดี

“คุณเคยบอกว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตอนนี้ฉันเองก็เหนื่อยมาก ฉันอยากจะพักก่อน” ฮ็อบส์พยักหน้าให้พร้อมรอยยิ้มบนหน้า

“ได้สิ ฉันให้ลูกน้องเตรียมห้องไว้ให้แล้ว เธออยู่ที่นี่ได้ตามสบาย พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกฉันก็ได้” ร่างเล็กพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามแม่บ้านไป ถ้าหากเธอรู้เรื่องพ่อ เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่บ้านหลังนี้ ดังนั้นเธอต้องถ่วงเวลาเอาไว้ก่อน หากยังหาข้อมูลลับพวกนั้นไม่ได้ เธอจะไม่ยอมออกจากบ้านนี้ตัวเปล่าแน่นอน

เมื่อร่างเล็กเดินลับไป ฮ็อบส์ก็หยิบเอกสารขึ้นดูอีกครั้ง

“เอารายชื่อพวกนี้ไปตรวจสอบดูว่าเป็นหุ้นส่วนในบริษัทของมอร์แกนจริงๆรึป่าว”

“ครับ”

“แล้วก็จับตาดูอันนาเอาไว้ให้ดี ถ้าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากลให้รายงานฉันทันที”

“ได้ครับ”

“ถ้าหากอันนาคิดจะเล่นตุกติก...ให้ฆ่าได้เลย เพราะอันนารู้เรื่องของฉันมากเกินไปแล้ว” ลูกน้องของฮ็อบส์พยักหน้ารับก่อนจะไปทำตามคำสั่ง ฮ็อบส์หยิบไวน์ขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดีก่อนจะฮัมเพลงออกมาเบาๆ แพนิคได้แต่ยืนนิ่ง ฮ็อบส์โหดร้ายมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก ชายหนุ่มกระชับเสื้อนิดๆเพื่อปิดบังกล้องที่เขาใช้บันทึกภาพเมื่อครู่นี้เอาไว้ ดูท่าเรื่องนี้จะยากกว่าที่คิดซะแล้วสิ......



รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว