บทที่ 5 ชาติก่อนเธอคือกู้ชิงเฉิง
“แค่ก ๆ…” เธอพยายามใช้มือทั้งสองข้างแกะนิ้วมือของเขาออก แต่แรงของเธอนั้นสู้เส้าอวิ่นเฉินที่เป็นทหารไม่ได้เลย “ปล่อย… ปล่อยนะ…”
เส้าอวิ่นเฉินเอ่ยลอดไรฟันออกมาด้วยความหงุดหงิด “ใครใช้ให้เธอลองดี?”
อะไรของเขา
“คุณพูดอะไร ฉัน… ฉันไม่เข้าใจ…”
“เฮอะ… ยั่วยวนฉันไม่สำเร็จ กลัวตำแหน่งคุณนายของตัวเองจะไม่ปลอดภัย เลยตั้งใจจะรวบหัวรวบหางเส้าอี้เจ๋ออย่างนั้นสิ?”
“...” เธอนิ่งค้าง แล้วก็บ่นในใจ
ไม่จริงน่า เยี่ยชิงหวน เธอทำอะไรไว้บ้างเนี่ย ทั้งยังไปยั่วยวนเส้าอวิ่นเฉินอย่างนั้นเหรอ
ถึงแม้เธอจะขี้เหงา แต่ก็ไม่ถึงกับไปยั่วยวนคนที่ขาอ่อนแรงนี่นา! หรือว่าลึก ๆ แล้วเยี่ยชิงหวนชอบเส้าอวิ่นเฉิน
“ปล่อยมือเร็วเข้า ฉันจะ… ตาย… แล้ว…” เธอรู้สึกไม่สบายตัวจริง ๆ น้ำตาแทบจะไหลออกมาแล้ว เธอโถมแรงตีแขนเขาไม่หยุดหย่อน
เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะขาดอากาศแล้วจริง ๆ เส้าอวิ่นเฉินถึงได้ปล่อยมือ
ส่วนเยี่ยชิงหวนก็แทบจะหมดสติ ร่างทั้งร่างอ่อนแรงล้มลงไปนั่งกับพื้น พลางลูบรอยนิ้วมือที่ชัดเจนบนคอของตัวเอง
“แค่ก ๆ …” พระเจ้าช่วย นี่มันอย่างกับจะฆ่าเธอให้ตายเลยนะเนี่ย
ถึงจะเคยเป็นทหารแล้วต้องหยาบคายขนาดนี้เลยเหรอ
“รีบไสหัวไปซะ!” เส้าอวิ่นเฉินเลื่อนรถเข็นออกห่าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธพร้อมกับจ้องมองเธอตาแข็งอย่างเอาเรื่อง
“แล้วก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมื่อกี้อีก เข้าใจไหม”
แต่เมื่อลูบคอของตัวเองที่เกือบจะถูกบีบจนหัก เยี่ยชิงหวนก็ไม่ส่งเสียงอะไรเพียงแค่พูดว่า ‘อืม’ แล้วก็ลุกขึ้นจากพื้นประคองร่างโซเซเดินอ้อมผ่านเขาออกไปจากห้องนอน พร้อมกับปิดประตู
ขณะที่ปิดประตูห้อง เธอก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ด้วยนิสัยเย็นชาและเก็บตัวของเส้าอวิ่นเฉิน ถึงแม้ว่าภรรยาและน้องชายของตัวเองจะนอกใจ เขาจะป่าวประกาศให้คนภายนอกรับรู้ได้อย่างไร
นี่ไม่ใช่การประจานตัวเองอย่างโจ่งแจ้งเหรอ
แต่หลังจากนั้นเธอก็นึกได้ว่า เขาไล่เธอออกมาจากห้องนอนแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอควรจะไปนอนที่ไหนดี
ช่างเป็นเรื่องน่าปวดหัวจริง ๆ
เธอมองซ้ายมองขวา ข้าง ๆ ห้องนอนของเส้าอวิ่นเฉินยังมีห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่ง
เยี่ยชิงหวนผลักประตูห้องข้าง ๆ เข้าไป พบว่าเป็นห้องที่จัดวางอย่างเรียบง่าย มีเตียงเล็ก ๆ หนึ่งหลัง ตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ และยังมีห้องน้ำอีกหนึ่งห้อง
แต่ช่างเถอะ นอนมันที่นี่แหละ ยังดีกว่าถูกเศรษฐีพิการนั่นบีบคอตาย
ยามค่ำคืน ลมเย็นพัดโชยมา เธอห่มผ้าผืนบาง ๆ ผืนหนึ่ง แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับนัก ในสมองปรากฏภาพต่าง ๆ มากมาย
รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่ซึ่งพุ่งออกมาจากมุมถนนชนเข้าอย่างจัง ในกองเพลิงที่ลุกโชนทั่วท้องฟ้า เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลได้ยกศพที่ไหม้เกรียมสองร่างออกมา
นั่นคือพ่อกับแม่ของเธอเอง
พาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ถูกเขียนไว้ว่า “เมื่อเช้าตรู่วันนี้เวลาห้านาฬิกา ที่ชานเมือง เมืองปักกิ่ง ได้เกิดอุบัติเหตุจราจรครั้งใหญ่ขึ้น นักธุรกิจชื่อดังแห่งวงการธุรกิจ กู้ข่ายสิงและภรรยาได้เสียชีวิตอย่างน่าสลดในอุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ ส่วนกู้ชิงเฉิงบุตรสาวของตระกูลกู้ได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ ยังไม่ทราบชะตากรรม... ส่วนลู่เจิ้งหลิง คู่หมั้นของเธอกำลังให้การกับตำรวจอยู่ และได้ประกาศเงินรางวัลห้าล้านหยวนเพื่อตามหาคู่หมั้นที่หายตัวไป”
ฮึ ๆ … ลู่เจิ้งหลิง...
สามคำนี้ เปรียบเสมือนมีดที่แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเธอ
กู้ชิงเฉิง คือชาติก่อนของเธอ และลู่เจิ้งหลิง คือคนรักที่เธอเคยทุ่มเททุกอย่างให้
แต่สุดท้าย สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือการทรยศหักหลังจากเขา ผู้ชายคนนั้นถึงกับหวังให้ทั้งครอบครัวของเธอตายในอุบัติเหตุรถชน
วันนั้น ชายร่างกำยำหลายคนไล่ตามหลังเธอ ตั้งใจจะเอาชีวิตเธอ จนกระทั่งวินาทีที่เธอกระโดดลงทะเล เธอจึงรู้ว่าที่แท้ทุกอย่างเป็นแผนการและคำสั่งของลู่เจิ้งหลิง
เขาคือคนที่หวังให้เธอตายมากที่สุด
ลู่เจิ้งหลิง ตอนนี้นายสบายใจแล้วใช่ไหม
เอาเงินของตระกูลกู้ไปเลี้ยงดูผู้หญิงที่นายรัก
ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ฉันจะไปหานายเพื่อชำระแค้นในไม่ช้า!
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว