ไฟปรารถนา (รีไรท์)-Chapter 8 อ้อยเข้าปากช้าง (2)

โดย  อิสรียา/กฤติณ/Chandra

ไฟปรารถนา (รีไรท์)

Chapter 8 อ้อยเข้าปากช้าง (2)

ตอนที่ 4

เสน่หามัดใจ


ชลาธารสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อทุกอย่างจบลงเพราะมารผจญมาขัดจังหวะ สายตาคู่คมจับจ้องไปยังบานประตูเมื่อกำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะเดินไปเปิดประตู แล้วหากคนข้างนอกพรวดพราดเข้ามาเห็นสภาพของจันทร์กะพ้อในตอนนี้ มีหวังจะต้องเคลียร์กันยาวแน่นอน การที่เขาชะงักไปเพราะกำลังอยู่ในช่วงละล้าละลัง ทำให้จันทร์กะพ้อได้โอกาส หญิงสาวรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักไปที่แผงอกกว้างอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซไปเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบวิ่งถลาไปเปิดประตู

“แยม!”

ปกรณ์ตกใจเล็กน้อย เมื่อน้องสาวของตนวิ่งสวนออกมาด้านนอกแล้วไปหลบอยู่ด้านหลัง ราวกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ร่องรอยหยาดน้ำตาที่ยังไม่แห้งเหือดไปจากดวงตาทั้งสองข้าง ทำให้ชายหนุ่มตวัดสายตามองชายหนุ่มที่อยู่ในห้องอย่างไม่เป็นมิตรทันที

“แยม! เกิดอะไรขึ้น”

“พี่ใหญ่…เอ่อ”

จันทร์กะพ้อกระอึกกระอัก สองจิตสองใจว่าจะบอกความจริงหรือจะโกหก กลัวว่าเหตุการณ์จะรุนแรง ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่เป็นผลดีกับพี่ชายเธอ ซ้ำยังจะอายพนักงานที่กำลังมองมาอย่างสนใจด้วย ขณะที่ชลาธารทำเป็นไม่ใส่ใจกับผู้มาใหม่ ชายหนุ่มเดินยิ้มกริ่มเฉียดผ่านหน้าสองพี่น้องไป จงใจสบตากับปกรณ์อย่างท้าทาย เมื่อเห็นท่าทีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จันทร์กะพ้อจึงตัดสินใจโพล่งออกมาด้วยความเสียใจและอัดอั้น ที่ต้องมาถูกลวนลามโดยที่อีกฝ่ายไม่คิดจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นแม้สักนิด

“พี่ใหญ่ พาแยมกลับบ้านที”

“เกิดอะไรขึ้น แล้วร้องไห้ทำไม”

“แยมอยากกลับบ้าน”

“คุณไม้เขาทำอะไร”

ปกรณ์เอ่ยถามพลางหันไปทางชลาธารที่กำลังจะเดินออกไปจากออฟฟิศ ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มรีบสาวเท้าตามไปดักหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ สายตาจับจ้องมองใบหน้าเย่อหยิ่งถือดีของลูกชายเจ้าของไร่อย่างเอาเรื่อง ชายหนุ่มคิดเอาไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาจะต้องคาดคั้นเอาความจริงให้ได้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองเข้าไปทำอะไรในห้อง น้องสาวของเขาจึงมีสภาพอย่างที่เห็น

“คุณไม้ หยุดก่อนครับ”

ชลาธารชะงักฝีเท้าเมื่อถูกขวางเอาไว้ หรี่ตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า รอยยิ้มหยันผุดขึ้นทันใดเมื่อคิดไปถึงว่า คนเป็นพี่น้องกันจะต้องรู้เห็นในพฤติกรรมกันชนิดหมดไส้หมดพุง และชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะรู้เห็นเป็นใจยุยงอยู่เบื้องหลังให้น้องสาวเอาตัวเข้าแลกเพื่อเงินก็เป็นได้ เมื่อใจเชื่อเช่นนี้ อคติจึงบังเกิดในใจ สื่อผ่านแววตาที่จ้องตอบกลับมาอย่างไม่เป็นมิตร

“คุณทำอะไรแยม เธอจึงร้องไห้ออกมาแบบนั้น”

คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ท่าทียียวนกวนประสาทและรอยยิ้มหยัน ช่างไม่ถูกชะตาปกรณ์เอาเสียเลย หากไม่ติดว่าเป็นลูกชายเจ้าของไร่ เขาคงซัดปากให้หายซ่าไปสักทีสองทีแล้ว ปกรณ์คิดขณะลมหายใจเริ่มจะร้อนผ่าว เพราะดีกรีความร้อนในใจที่พุ่งสูงจนแทบจะระเบิดออกมา

“คุณไม้ ผมถามดีๆ นะ คุณทำอะไรน้องสาวผม”

“เปล่านี่ครับ ไม่ได้ทำอะไร”

“ผมไม่เชื่อ”

“ผมไม่ได้ทำอะไร ก็แค่จูบน้องสาวคุณ”

“อะไรนะ!”

“ก็น้องสาวคุณน่า…ชะมัด ผมก็เลยอดใจไม่ไหว”

“คุณทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างมั้ย!”

“ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะมากกว่าจูบน้องสาวคุณก็เคยผ่านมันมาแล้ว แค่นี้คงไม่บุบสลายมากไปกว่าเดิมหรอกนะครับ รึจะเถียง”

“ไอ้…”

พลั่ก!

หมัดหนักๆ สวนเข้าไปที่ใบหน้าคมคร้ามอย่างแม่นยำ เมื่อถ้อยคำดูถูกรุนแรงถูกพ่นออกมาจากปาก ชลาธารถึงกับเซไปเล็กน้อยเพราะหมัดนั้นแรงใช่เล่น ความเจ็บที่แล่นปราดเข้ามาทำให้ชายหนุ่มไม่ยอมยืนนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายได้กระทำฝ่ายเดียว เขาจึงสวนกลับไปเช่นเดียวกัน ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างแลกหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความตกใจของพนักงาน ที่พากันกรูเข้ามาห้อมล้อมหวังจะห้ามทัพ ก่อนจะเจ็บตัวกันไปมากกว่านี้

“พี่ใหญ่ พอเถอะ อย่ามีเรื่องกันเลย!”

จันทร์กะพ้อเป็นคนแรกที่เสี่ยงตายปราดเข้าไปรั้งพี่ชายของตนเอาไว้ แต่ไม่อาจสู้แรงที่มีมากกว่าได้ เมื่อปกรณ์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาจึงไม่สนใจสิ่งรอบกายอีกต่อไป ชายหนุ่มสลัดพันธนาการของน้องสาวออกอย่างแรงจนหล่อนเซถลา อารมณ์ที่เดือดพล่านของทั้งสองยามนี้ยากจะดับลงได้อย่างง่ายดายเสียแล้ว

ชลาธารทำท่าจะเข้ามาซ้ำ จันทร์กะพ้อจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปรั้งร่างของเขาแทน ขณะที่ขวัญชนกได้เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง หล่อนจับปกรณ์เอาไว้ โดยมีพนักงานชายอีกคนมาขวางกลาง เพื่อแยกทั้งสองออกจากกัน

“คุณไม้ ฉันบอกให้หยุด!”

“มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผม พี่ชายคุณทำร้ายผมก่อนนะแยม!”

“แยม ไปกอดมันไว้ทำไม ออกมาให้ห่างมันเลยนะ!”

“แต่…เขาจะทำร้ายพี่ใหญ่นะคะ”

“พี่บอกให้ออกมา!”

ปกรณ์ตะคอกเสียงดังลั่น เขาโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ถูกขวัญชนกกอดเอาไว้จนแน่นจากทางด้านหลัง เพื่อไม่ให้เขาได้เขาถึงตัวชลาธาร ซ้ำยังไม่พอใจที่น้องสาวของตนโอบกอดร่างของคู่กรณีเอาไว้เพื่อรั้งให้ออกไปจากตรงนี้ ขณะที่ชลาธารเองก็พยายามแกะท่อนแขนของจันทร์กะพ้อออกจากร่างของตน

“เดี๋ยว มีอะไรกัน!”

“ว๊าย! ตาไมค์”

น้ำเสียงแสดงถึงความตกอกตกใจดังแทรกขึ้น ทำให้ทุกคนชะงักและหันไปทางต้นเสียงเป็นตาเดียวกัน จันทร์กะพ้อรีบคลายอ้อมแขนออกจากร่างชลาธารแล้วถอยห่าง คุณนายกมลพรรณถึงกับหน้าซีดเผือดราวไก่ต้มเมื่อเห็นรอยช้ำและเลือดตรงบริเวณมุมปากของลูกชายสุดที่รัก มือขาวอวบยกขึ้นทาบอกรีบปราดเข้ามาใกล้ พร้อมสายตามที่มองไปรอบๆ อย่างคาดคั้นเอาคำตอบ ว่าใครที่เป็นคนก่อเหตุในครั้งนี้

การที่จันทร์กะพ้อเอาแต่ยืนก้มหน้า และพี่ชายของหล่อนก็มีสภาพไม่ต่างกับชลาธาร ทำให้กมลพรรณคิดเอาเองว่าต้องเป็นผู้จัดการไร่คนสวยอย่างแน่นอน ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเรื่องในวันนี้ ยิ่งตอกย้ำความเกลียดชังให้เพิ่มขึ้นในใจอีกเป็นทวีคูณ เนื่องจากหล่อนไม่เคยมองผู้จัดการไร่สาวในแง่ดีอยู่แล้ว

“แยม เกิดอะไรขึ้น!”

“เอ่อ…”

การที่กมลพรรณคาดคั้นและยังมองมาด้วยสายตาไม่พอใจ ทำให้จันทร์กะพ้อได้แต่กระอึกกระอักไม่กล้าพูด หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองชลาธาร ขณะสายตาคู่คมก็บังเอิญมองมาที่เธอเช่นกัน สายตาสองคู่จึงสบประสานกันนิ่งนาน ยากจะเดาว่าภายในใจของเขาและเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“เอ่อ…แยม…”

จันทร์กะพ้อนึกโกรธตัวเอง แทนที่จะโพล่งความจริงออกมาให้ทุกคนได้รับรู้ แต่เมื่อถูกบีบคั้นกลับไม่กล้าที่จะพูดอะไร ความอับอายต่อสายตาพนักงานและเกรงใจสายตาของชนินทร์ที่จับจ้องมา ทำให้หญิงสาวเลือกที่จะเงียบ นั่นยิ่งทำให้ปกรณ์ไม่พอใจ เขาจึงเป็นฝ่ายโพล่งออกมาแทน

“ไปถามลูกชายคุณสิครับ ว่าทำไมถึงเจ็บตัว”

คนพูดที่มีสภาพใบหน้าไม่ต่างกัน ทำให้คนมาทีหลังต่างมองใบหน้าชายหนุ่มทั้งสองสลับกันไปมา ถ้อยคำของเขาทำให้เจ้าของไร่อยากรู้ที่มาที่ไปยิ่งนักว่าชลาธารก่อเหตุอะไร ทำไมจึงบู๊ใส่กันเช่นนี้

“ตาไมค์ มีเรื่องอะไรกัน”

สายตาแข็งกร้าวของชนินทร์จับจ้องมาที่ใบหน้าลูกชายตัวดีอย่างเอาเรื่อง ใจของชนินทร์เอนเอียงไปทางปกรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะรู้ดีว่าปกรณ์นั้นเป็นคนสุภาพอ่อนโยน หากไม่มีเหตุให้ต้องขุ่นเคืองอย่างรุนแรง ชายหนุ่มคงไม่เหลืออดจนถึงขั้นเจ็บตัวกันทั้งสองฝ่ายเช่นนี้ ชนินทร์เชื่อว่าลูกชายตัวดีจะต้องแหย่รังแตนเล่นแน่นอน แตนจึงได้ต่อยจนมีสภาพอย่างที่เห็น

“แยมขอตัวนะคะ”

ท่ามกลางความอึดอัด จันทร์กะพ้อรีบเดินเลี่ยงหนีไปเพื่อหลีกหนีปัญหา รู้สึกอับอายสายตาของพนักงานที่กำลังจับจ้องมายิ่งนัก เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้อยากจะหายตัวไปจากไร่แห่งนี้ไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกต่อไป และคิดไปเองว่าเจ้าของไร่อาจจะเลิกจ้างตนเพราะพี่ชายตัวเองไปทำลูกชายเขาเจ็บตัวแบบนี้

“ไปคุยกันที่บ้านพัก!”

ชนินทร์รีบตัดบทเมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่สมควรให้คนนอกอย่างพนักงานในไร่มารู้เห็น แค่นี้ก็ถูกซุบซิบนินทามากพอ เขาปรายตามองไปทางลูกชายอย่างไม่พอใจ มาเหยียบไร่ได้วันเดียวก็ก่อเหตุขึ้นมาจนต้องเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต

“ไมค์กี้ เจ็บมากมั้ยลูก”

กมลพรรณยื่นมือไปแตะเบาๆ ที่มุมปากช้ำของลูกชาย มองรอยแผลนั้นด้วยแววตาอาทร ชลาธารฝืนยิ้มออกมา นึกไม่สบายใจที่เห็นมารดาต้องมากลุ้มใจไปกับตนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มพยายามบอกตัวเองว่าที่เขากำลังทำอยู่นี่คือความถูกต้อง เขากำลังทำทุกอย่างเพื่อมารดา โดยการกีดกันผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นมือที่สามให้ออกไปจากครอบครัวของเขา ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป

+++++++++++++++

“งามหน้ามั้ยล่ะ มีอะไรจะแก้ตัวอีกมั้ยฮึ! ในเมื่อพี่ชายเขาบอกว่าแกไปลวนลามน้องสาวของเขาก่อน”

ชนินทร์จับจ้องใบหน้าคนก่อเหตุอย่างคาดโทษ ขณะชลาธารแกล้งเสมองไปทางอื่นไม่ยอมที่จะสบตากัน ซึ่งชนินทร์ทั้งเครียดและอับอายอย่างถึงที่สุด หลังจากคุยกันแล้วจึงได้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากปากของปกรณ์ ความเครียดจึงเข้ามารุมเร้าโดยพลัน เมื่อไม่รู้ว่าจะเอาหน้าที่ไหนไปมองหน้าญาติพี่น้องของจันทร์กะพ้อ ทั้งปกรณ์ยังยืนกรานว่าจะให้จันทร์กะพ้อลาออกจากเรือนลูกไม้ ไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีกต่อไป

“โธ่ ไมค์กี้ลูกแม่ แล้วไปทำอย่างนั้นทำไม”

กมลพรรณครวญออกมาเมื่อลูกชายผิดจริง จนเป็นสาเหตุให้ปกรณ์โกรธจนขาดสติ แม้จะไม่ชอบในตัวจันทร์กะพ้อ แต่ก็ไม่อยากให้ครอบครัวของตนต้องตกเป็นขี้ปากของคนงานในไร่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ป่านนี้พวกคนงานคงพากันซุบซิบนินทา นั่นคือสิ่งที่หล่อนรับไม่ได้อย่างถึงที่สุด

“เงียบทำไม ที่เงียบนี่คือยอมรับใช่มั้ย”

“ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว แต่ก็สมควรแล้ว กับผู้หญิงแบบเธอ”

“แล้วมีสิทธิ์อะไร ถึงใช้ศาลเตี้ยตัดสินคน รู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นอย่างที่แกคิด”

“คุณพ่อก็ต้องเข้าข้างเธออยู่แล้ว”

“ฉันให้แกมาเรียนงาน ไม่ใช่มาก่อเรื่อง แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหากต้องเจอเธออีก หรือไม่เธออาจจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกก็ได้”

“ก็ดีแล้วนี่ครับ หากเธอจะลาออกไปจริงๆ”

“คิดอะไรหลายๆ ด้านด้วย ผู้จัดการหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะหาได้แบบหนูแยม ก็คงจะยาก”

“คนที่ต้องการทำงานมีถมไป ไม่เห็นจะต้องคิดมากเลยครับ”

“ฉันไม่รู้จะทำยังไงกับแกดี ลูกไม่รักดี!”

หากเป็นเมื่อก่อน ชนินทร์คงบันดาลโทสะทำร้ายชลาธารไปแล้ว แต่เพราะบทเรียนที่ผ่านมา ความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไร กลับยิ่งไปเพิ่มการต่อต้านมากขึ้น ความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกจึงห่างเหินตามไปด้วย เขาเคยสัญญากับตัวเองว่าจะจัดการทุกอย่างด้วยเหตุผล ไม่ใช้กำลังอีกต่อไป

“คุณพรรณ คุยกันเองเถอะ ผมปวดหัว ขออยู่คนเดียวเงียบๆ สักพัก”

ชนินทร์ตัดสินใจเดินเลี่ยงหนีไป เมื่อคิดว่าหากอยู่ต่อคงต้องปะทะคารมกันไม่สิ้นสุด และจะต้องลงเอยด้วยการทะเลาะกัน เขาจึงเป็นฝ่ายยอมเงียบไปเสียเอง ท่ามกลางบริเวณท้ายทอยที่ปวดราวมีเข็มนับร้อยมาทิ่มแทง ระยะหลังอาการปวดศีรษะมาทักทายบ่อย จนเขาต้องพึ่งยาแก้อาการไมเกรนอยู่เป็นประจำ

++++++++++++++

บรรยากาศภายในบ้านของจันทร์กะพ้อตึงเครียด เมื่อในวงสนทนาซึ่งมีทั้งปกรณ์ น้ำอิง และก้องเกียรติซึ่งเป็นน้าเขยของจันทร์กะพ้อรวมอยู่ด้วย โดยน้าเขยของหล่อนมีรีสอร์ทเล็กๆ อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ พอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ขัดสนอะไร

ก้องเกียรติมองหน้าหลานสาวแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เขาจึงเห็นด้วยกับปกรณ์ ที่อยากให้หล่อนลาออกจากเรือนลูกไม้ เพื่อตัดปัญหาทุกอย่างให้จบลง

“หากอึดอัดใจที่จะไปทำที่นั่นต่อ ก็ลาออกมาเถอะแยม”

“แยมเกรงใจคุณชนินทร์ เขาก็ดีกับเรามาตลอด จะทิ้งมาเลยก็กระไรอยู่”

“ช่างปะไร ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะลูกชายของเขาก่อเรื่องเองนะ อยู่ต่อก็จะมีแต่เปลืองตัว พี่เชื่อว่าหากกลับไปหมอนั่นก็จะต้องหาเรื่องลวนลามกันอีกแน่ๆ นี่เราไม่เอาเรื่องก็ดีถมไปแล้วนะ”

ปกรณ์ยังคงยืนกรานที่จะให้จันทร์กะพ้อลาออก เพราะก้อง

เกียรติเองก็ได้เอ่ยปากมาแล้วว่า หากลาออกแล้วจะให้ไปช่วยงาน

รีสอร์ท เพราะต้องการคนช่วยอยู่พอดี

“จะไปเอาเรื่องเขาได้ยังไงคะ แยมไม่ใช่เด็กนะ”

จันทร์กะพ้ออุบอิบออกมา เพราะหากจะว่ากันตามกฎหมาย ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะไปเอาผิดคู่กรณีได้เลย ซ้ำจะพาอับอายไปเสียเปล่าๆ

“เฮ้อ แต่จะเหมารวมก็ไม่ถูกนะ คุณชนินทร์เขาไม่ได้ผิดอะไร”

น้ำอิงยังคงเป็นกลาง แม้จะนึกเห็นใจหลานสาวที่ต้องไปเจอเรื่องร้ายๆ มา แต่เพราะความสัมพันธ์อันดีที่ชนินทร์มีต่อครอบครัวตน ก็ทำให้ตัดไม่ขาดได้เช่นกัน

“แยม คิดให้ดีนะ”

“ยังไงก็ให้แยมเขาเป็นคนตัดสินเองก็แล้วกัน น้ารู้ว่าใหญ่รักและก็เป็นห่วงน้อง แต่บางเรื่องก็ให้เธอคิดเอาเอง จะเอาอย่างไรกับชีวิตก็อย่าไปบังคับกันให้มากนัก”

“แต่ผมไม่อยากให้แยมไปเจอกับคนแบบนั้น อะไรกัน มาเจอหน้าแค่วันแรกก็ทำนิสัยเลวๆ ออกมา คิดว่าแยมเป็นผู้หญิงเหมือนที่ตัวเองเคยหิ้วไปนอนรึยังไง ถึงได้ดูถูกกันขนาดนี้”

“แยมปวดหัว ไม่อยากคิดอะไรตอนนี้ ขอตัวนะคะ”

จันทร์กะพ้อเดินหนีทุกคนขึ้นห้อง เมื่อใจกำลังสับสนอย่างหนักว่าจะลาออกหรือกลับไปเผชิญหน้ากับชลาธารต่อ อีกใจหนึ่งก็อยากจะรู้นักว่าเขาจะทำอย่างไรอีก หากเจอกันครั้งต่อไป

เขาสิที่ต้องเป็นฝ่ายหลบหน้า ไม่ใช่เธอ หญิงสาวคิดอย่างคนมั่นใจ…

++++++++++++++++

จันทร์กะพ้อสะกิดปมผ้าขนหนูออกจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า เมื่อเข้ามาอยู่เพียงลำพังในห้องน้ำ ร่างขาวโพลนที่สะท้อนอยู่ในกระจกเงาบานใหญ่ ทำให้สายตาเผลอจับจ้องมองอย่างลืมตัว ความสมบูรณ์แบบของกายสาวคือสิ่งที่หญิงสาวภูมิใจ หล่อนหมุนกายไปมาอยู่หน้ากระจกเงาเพื่อสำรวจความผิดปรกติที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากตนเป็นคนที่ดูแลรูปร่างตัวเองอยู่ตลอดเวลา หากมีส่วนเกินจะต้องรีบหาวิธีเพื่อกำจัดมันออกไป รับไม่ได้หากสวมเสื้อผ้าแล้วไม่สวยงาม

ปลายนิ้วเรียวเผลอแตะที่ริมฝีปากอย่างลืมตัว เมื่อความทรงจำเมื่อเช้าย้อนกลับมาอีกครั้ง รสสัมผัสที่ร้อนแรงและหยาบกระด้างได้ฝากเอาไว้บนกลีบปากอิ่ม หญิงสาวหน้าแดงซ่านผสานตกใจ เมื่อเงาสะท้อนทำให้ได้เห็นรอยแดงเล็กๆ ที่บริเวณซอกคอขาวผ่อง มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหล่อนเองก็ไม่ทันรู้ตัว เพราะไม่อาจต้านทานและขัดขืนเรี่ยวแรงของเขาได้ การที่เขาได้ฝากรอยเอาไว้ราวต้องการตีตราจอง ทำให้มือรีบเปิดฝักบัวหวังใช้สายน้ำลบร่องรอยอันน่าอายนั้นออกไปจากร่างกายของตน

หญิงสาวถูริมฝีปากจนแดงเห่อและรู้สึกแสบร้อนไปทั่ว เพราะรอยยิ้มของเขายังคงตามมาหลอกหลอน รอยยิ้มหยันและสายตาดูถูกอย่างรุนแรง ทำให้ใจนั้นต่อต้านและผลักไส คิดว่าสายน้ำจะช่วยลบความทรงจำออกไปจากใจ ขณะที่หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามเอาไว้ได้ เมื่อทั้งเจ็บใจและเสียใจที่ต้องถูกเขาปล้นจูบไปอย่างหน้าตาเฉย

“คนใจร้าย ฉันเกลียดคุณ จะไม่ขอเจอหน้าอีก”

ใบหน้าที่ตามมารบกวนแทบจะทุกนาทีเป็นเสมือนเงาตามติด ทำให้หล่อนพยายามย้ำเตือนว่านั่นไม่ใช่การตกลงไปในกับดักเสน่ห์ของเขา สิ่งที่เขาทำคือความเลวร้ายที่จะต้องจดจำ เขาไม่ใช่คนที่หล่อนจะหวั่นไหวไปกับเปลือกนอกที่ห่อหุ้มความร้ายกาจเอาไว้ แต่เป็นคนที่สมควรหลีกให้ไกล เพราะเขาคือซานตานร้ายหาใช่เทพบุตรที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันถึงแต่อย่างใด

++++++++++++++++

วิสกี้ชั้นดีบรรจงรินใส่แก้วคริสตัล หลังจากชลาธารลงทุนเข้าเมืองไปหาซื้อมันมา หลังจากที่หาในไร่แล้วมีเพียงน้ำเปล่าให้เขาดื่ม จะมีก็แต่เหล้าราคาถูกของคนงาน ที่รสของมันไม่คุ้นลิ้นสักเท่าไหร่นัก คงอีกนานพอดู หากเขาคิดจะปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นี่จริงๆ

ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งเข้าไปหาบิดาในห้องนอน เมื่อท่านปวดศีรษะจนไม่สามารถออกมาทานข้าวพร้อมกับคนอื่นๆ ได้ และท่านยังโกรธเขามาก ไม่ยอมที่จะพูดคุยอะไรออกมาอีกเลย

สายลมหนาวที่พัดมากระทบกายจนรู้สึกเย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจ ทำให้ชายหนุ่มเดินย้อนกลับเข้าไปในห้อง คว้าเสื้อคลุมมาสวมทับเสื้อยืดแขนยาวอีกชั้น ก่อนพาร่างมานั่งตรงจุดเดิมเพราะเขาเห็นว่าวิวสวยดี ชายหนุ่มนั่งละเลียดวิสกี้อยู่เพียงลำพังตรงระเบียงหลังห้องด้วยหัวใจที่เปลี่ยวเหงา นานแล้วที่ใจของเขาด้านชาไปกับความรักที่ล้มเหลว คนรักล่าสุดที่เลิกรากันไปห่างมาเป็นปีแล้ว และเขาไม่เคยมอบใจให้ใครอีกเลย เมื่อพิษรักเล่นงานจนรู้สึกเข็ดขยาดกับมัน

ไม่รู้ว่าผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอยู่กันไปได้อย่างไร ชายหนุ่มคิดขณะทอดสายตามองไปโดยรอบ มีเพียงไร่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่เงียบสงบและน่าเบื่อชวนให้รู้สึกเหงาใจได้ชะงัดนัก อาจเป็นเพราะเขาไม่ชินกับบรรยากาศก็เป็นได้ มาเหยียบแค่เพียงวันแรกก็อยากกลับกรุงเทพฯใจจะขาด แต่เพราะยังไม่บรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ และต้องการเอาชนะบิดาจากถ้อยคำดูถูกที่ฝังรากลึกอยู่ในใจ ทำให้เขา

ยอมที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป แม้อะไรๆ จะยังไม่ลงตัวก็ตามที

‘ฉันไม่ไว้ใจ หากจะยกบริษัทให้นาย แค่ตัวเองยังเอาไม่รอด จะไปดูแลพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตได้ยังไง ไปเรียนงานที่ไร่ก่อนนั่นแหละดีแล้ว หนูแยมจะช่วยดูแลนายเอง’

ชายหนุ่มขบกรามแน่น เมื่อถ้อยคำดูถูกคอยวนเวียนอยู่ในหัวสมอง จนเกิดแรงผลักดันที่ทำให้เขาจะต้องทำให้บิดาเห็นว่าสามารถทำได้ และหากไม่มีจันทร์กะพ้อ ก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะลงเข้าไปดูแลไร่ได้อย่างเต็มตัว ชายหนุ่มคิดอย่างเชื่อมั่นในความสามารถของตน

แต่เมื่อคิดว่าหล่อนอาจจะลาออกใจก็กลับสับสน ไม่แน่ใจว่ายินดีหรือไม่ที่หล่อนจะออกไปจากชีวิตจริงๆ ปลายนิ้วแกร่งเผลอแตะริมฝีปากได้รูปอย่างลืมตัว เมื่อรสสัมผัสที่ได้รับยังคงตราตรึงติดอยู่ในใจ ราวอาหารรสเลิศที่ยังคงติดอยู่ปลายลิ้น ได้กินแล้วติดใจอยากที่จะกลับไปลิ้มลองอีกหลายๆ ครั้งจนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง


++++++++++++

อ่านต่อไม่อยากรอ มีให้โหลดแล้วในรูปแบบอีบุ๊คค่ะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNzk4NDc4IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNzU4NDciO30

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว